ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กดหลิ่วชิงเหอเข้าไปที่ประตู บีบไปที่คางของเธอ พูดอย่างเย็นชา “หลิ่วชิงเหอ เธอกำลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ?”ดวงตาของหลิ่วชิงเหอมืดลง และเธอพยายามดิ้นรนไปอีกสักพัก เมื่อเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ เธอจึงพูดอย่างดุเดือด “ใช่! ถ้าแกกล้าแตะหรูเยียน แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการฉู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่ฉันก็ยังจะฆ่าแก!”“งั้นเหรอ?”ฉู่เฉินแสร้งยิ้ม มือขวาค่อยๆ เลื่อนจากคางลงไป ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูท่าเธอจะไม่ยอมสินะ ยังกล้าจะมาขู่ฉันอีกเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้น เอาอีกสักรอบไหมล่ะ?”“ซี้ด...”หลิ่วชิงเหอคร่ำครวญด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเธอกัดริมฝีปากแรงๆ ดวงตาของเธอราวกับมีด เธอเหลือบมองที่ฉู่เฉิน และพูดอย่างเย็นชา “แกกล้า!”“แล้วมีอะไรให้ฉันไม่กล้าด้วยล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาล็อกเอวบางของหลิ่วชิงเหอได้ในคราเดียวหลิ่วชิงเหอหวาดกลัว!ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ มันเอาจริงแล้ว“แม่ แม่อยู่ในห้องไหมคะ?” เสียงของหลิ่วหรูเยียนดังมาจากข้างนอกประตู ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาใกล้แล้ว!เสียงยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลิ่วหรูเยียนอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว“แม่คะ ทำ
ฉู่เฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น ในใจมีแต่ไฟร้อนรุ่ม “เพียะ” เสียงนี้ เขาตบบั้นท้ายของหลิ่วชิงเหออย่างแรง“อ๊ะ...” หลิ่วชิงเหอร่างกายสั่นไปหมดตอนนี้เธอไม่เข้าใจเลยว่าฉู่เฉินลงโทษหรือตอบสนองเธอกันแน่เธอเกลียดฉู่เฉิน เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย!แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะให้ฉู่เฉินทำแบบนี้กับเธอต่อไปอีก“พอแล้ว! มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ตอนนี้ลูกกลับห้องตัวเองไปทบทวนให้ดี พรุ่งนี้เช้าแม่จะไปตรวจจดหมายทบทวนของลูก!” หลิ่วชิงเหอพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ใบหน้าแดงระเรื่อ ยั่วยวนคนเป็นอย่างมาก“แม่...”เสียงกระทืบเท้าของหลิ่วหรูเยียนดังเข้ามาจากข้างนอก ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้แม่ตัวเองถึงได้ดุแบบนี้ทั้งยังยืนกรานให้เธอกลับห้องตัวเอง“กลับไป!” หลิ่วชิงเหอตะคอกด้วยความโมโหหลิ่วหรูเยียนตกใจ รีบปล่อยมือออกจากกลอนประตู พึมพำขึ้นมาว่า “รู้แล้วค่ะ หนูจะกลับไปตอนนี้แหละค่ะ”หลังจากพูดอย่างนั้นหลิ่วหรูเยียนก็พึมพำ หันหลังและจากไป แต่หลังจากเดินไปได้สองก้าว เธอก็มองไปที่ประตูอย่างสงสัยพร้อมกับพึมพำอีกครั้งว่า “แปลก เสียงจากในห้อง มันแปลกๆ... ทำไมมันถึงเสียงเหมือนกับ...”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกตัวขึ
ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ สายตาจ้องหลิ่วหรูเยียนอย่างกำเริบเสิบสาน จ้องมอง รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอรูปร่างอวบอัดตั้งตรง ผิวพรรณขาวละเอียดสูงโปร่งหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสายตาของฉู่เฉิน ก็รู้สึกขยะแขยงราวกับโดนแมลงสาบไต่ไปทั่วทั้งตัวแต่เธอไม่เขินอายหรือตื่นเต้นเลยสักนิด ในทางกลับกันยังเดินเข้าไปหาฉู่เฉินอย่างอวดดีและกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม ไม่สนใจเสื้อคลุมอาบน้ำที่อ้าออกเลยสักนิด มือสองข้างกอดอก ยิ่งทำให้หน้าอกอันอวบอัดให้ใหญ่โตยิ่งกว่าเดิม กล่าวอย่างเหยียดหยาม“มองอะไร? สวะ!”“แกคิดว่าคืนนี้แกช่วยฉันเอาไว้ ฉันจะตอบแทนบุญคุณของแกอย่างซาบซึ้งใจอย่างนั้นเหรอ?”“ฉู่เฉิน แกคิดมากเกินไปแล้ว!”“คืนนี้ ความอัปยศที่แกทำกับฉัน ฉันจะจำเอาไว้ในหัวใจ!”“ตอนนี้ แกรีบคุกเข่าลงไป โคกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยที ฉันจะปล่อยให้แกไสหัวไป!”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะเตะขาแกให้หัก!”ในมุมมองของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เฉินหมอนี่ก็คือคนชั่วชั่วมิเสื่อมคลายจะต้องเป็นเพราะข้างนอกไม่มีที่ซุกหัวนอน ถึงได้แอบบุกเข้ามาผลรากฎว่า ถูกตนเองจับได้คาหนังคาเขา“เหอะ ๆ หลิ่วหรูเยียน เธอนี่มันอวดดีมากเลยนะ”ฉู่เฉินสองมือล้วง
“ตอนนี้ลูกน่าจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแม่ถึงได้ขวางลูกเอาไว้แล้วใช่ไหม” หลิ่วชิงเหอกล่าวเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เบะปากกล่าว “ถึงอย่างนั้นแล้วจะยังไง ต่อให้ป้าอู๋ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน พวกเราก็ยังสามารถหาคนที่เก่งกว่ามาจัดการมันได้อยู่ดีนี่คะ!”“ไอ้หมอนี่ ภายในระยะไม่กี่วัน ก็เก่งกาจขึ้นขนาดนี้ บนตัวจะต้องมีความลับอะไรแน่!”“หนูกล้ารับรองเลยว่า จะต้องเป็นเพราะกายาโอสถสวรรค์นั้นของมันแน่ ถึงสามารถทำให้มันเร่งฝึกวรยุทธ์ได้หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างคาดเดาหลิ่วชิงเหอครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าว “ไม่ว่าจะยังไง ต่อไป หากเจอฉู่เฉิน ลูกก็ต้องเลี่ยง ๆ หน่อย ไอ้หมอนี่ ร้ายกาจกว่าที่ลูกคิด...”“แม่กังวลว่า เขาจะเป็นผลเสียกับลูก”ตอนที่พูดประโยคนี้ ภายในหัวสมองของหลิ่วชิงเหอมีภาพร่วมรักกับฉู่เฉินที่ในห้องนอนเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัวอัปยศ!น่าอัปยศมาก!น่าโมโห!น่าโมโหที่สุด!น่ารังเกียจ ตนกำลังคิดอะไรอยู่?หลิ่วชิงเหอตกใจ คิดไม่ถึงว่าตนยังจะหวนคิดถึงภาพและความรู้สึกของการฟาดฟันอันน่าเร้าใจกับฉู่เฉินเมื่อครู่นี้อยู่อีก“แม่ กลัวอะไร หนูมีเพื่อนอยู่หลายคน เป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์แห่ง
“ต่อให้ต้องพลิกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสิบชั้นโลก ข้าก็จะต้องเลาะเอ็นมังกร ทำลายจิตวิญญาณของเจ้าให้ดับสูญ!”หญิงสาวเอ่ยปากพูด แรงอาฆาตพลุ่งพล่าน!ในเวลาเดียวกัน นางก็ขมวดคิ้วทันที สัมผัสกลิ่นอายบริเวณรอบ ๆ กล่าวอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามกนั่นแล้วแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้หายไปเสียได้...”“หรือว่า เขาเข้าสิงร่างงั้นเหรอ?”“ฮึ! มังกรลามก เจ้าคิดว่าเข้าสิงร่างแล้ว ข้าจะตามหาตัวเจ้าไม่เจออย่างนั้นหรือ?”หญิงสาวที่รูปโฉมราวกับนางฟ้า เย็นชาขึ้นภายในพริบตา“ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”หญิงสาวเอ่ยปากกล่าวอย่างเย็นยะเยือก เสียงปานกระดิ่งฮ่าวเทียน สั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ!นี่คือพลังจิตส่งเสียงอย่างหนึ่ง ผู้ที่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณจะไม่ได้ยินผลสุดท้าย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บริเวณรอบ ๆ ก็เงียบสงัด“หือ? ผู้บำเพ็ญเต๋าของที่แห่งนี้ ระดับต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ไม่มีแม้กระทั่งผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณเชียวหรือ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยปากกล่าวต่อไป “ผู้บำเพ็ญระดับควบแก่นแท้ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”ว่างเปล่า เงียบสงัดหญิ
“คิดไม่ถึงเลย ๆ ข้าซ่งชิงอวิ๋นบำเพ็ญมาตลอดทั้งชีวิต จะได้รับความเป็นอมตะ ในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้” ในใจของซ่งชิงอวิ๋นปลื้มปีติ กลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งประกาศปิดสำนัก ปิดสำนักทันที!ในเวลาเดียวกันสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่ลงมายังโลกมนุษย์ ได้เดินทางเข้าสู่เมืองเจียงจงแล้ว ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นไม่น้อยพวกอันธพาลสองสามคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นาง“ไอ้เหี้ย! สวยฉิบหายเลยเว้ย! นี่มันนักคอสเพลย์เทพเซียนอะไรกันวะ?”“ไอ้สัตว์! ทั้งรูปร่าง นม เอว ขา ผิวพรรณ พี่ ๆ ว่าเป็นยังไง?”เด็กหนุ่มทั้งหลายคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เข้าใจกันความหมายของกันและกันทันที ขวางสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเอาไว้“คนสวย ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ทันทีที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากพูด สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือยกมือโบก โครม ๆ ๆ เด็กหนุ่มทั้งหลายลอยกระเด็นออกไปทันที ตกลงบนพื้น อาเจียนออกมาเป็นเลือด หมดสติ“ไอ้ลามก! ตายซะ!”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือกล่าวเสียงเย็นชา สาวเท้าเดินจากไปจากนั้น ดวงตาของนางเบิกกว้าง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามก ภายในชั่วพริบตา ทันทีร่างกะพริบ ก็หายตัวไปจากถนนในเวลาเดียวกัน ฉู่เฉ
“หมอเทวดาฉู่?” ไป๋หลิงเผยอปากเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ รีบโทรศัพท์หากู้รั่วเสวี่ย “คุณหนู ฉันเจอกับหมอเทวดาฉู่ฉู่เฉินที่กรมพาณิชย์และอุตสาหกรรมด้วยค่ะ ดูท่าทาง เหมือนว่าเขาจะจดทะเบียนบริษัท”“จดทะเบียนบริษัท?”ปลายสายทางด้านนั้น สวมชุดนอนบางเบานอนอยู่บนเตียง หลังจากที่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังนอนเผยขาขาวดุจหิมะที่เรียวยาวได้ยิน ก็ลุกขึ้นนั่งทันที กล่าวถาม “เธอแน่ใจไหม?”“แน่ใจค่ะ เมื่อครู่นี้ฉันแอบมองแวบหนึ่ง ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลค่ะ” เลขาสาวตอบเมื่อกู้รั่วเสวี่ยได้ยินดังนั้น ก็กล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”“ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลใช่ไหม?”“เธอรีบเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย ขอเพียงแค่บริษัทจดทะเบียนสำเร็จ ใช้ชื่อของฉัน ลงทุนในหุ้นห้าร้อยล้าน! ไม่ ห้าพันล้าน!”“ฉันอยากจะช่วยฉู่เฉินทำให้ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลกลายเป็นบริษัททางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง!”“เข้าใจแล้วค่ะคุณหนู” เลขาสาวพยักหน้าแล้วกดวางสายกู้รั่วเสวี่ยเองก็ลุกขึ้นอย่างรีบร้อน ทันทีที่เปิดตู้เสื้อผ้า ก็เห็นเสื้อผ้าที่เรียงรายละลานตา จับคางขาวมน ครุ่นคิดว่าจะใส่ชุดไหนดี‘ชุดนี้ไม่เลว สะอาดบริสุทธิ์ ฉู่เฉ
อินซู่ซู่ตกตะลึงไปทันที กัดริมฝีปากแดง พยักหน้ากล่าวเสียงอ่อย “ได้...”“เรียกนายท่านให้ฟังหน่อยสิ” ฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มอินซู่ซู่ลังเลเล็กน้อย กัดริมฝีปาก แก้มแดงก่ำ กล่าว “นายท่าน”“อืม ไปกันเถอะ ไปที่โรงแรม” ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบเฉยอินซู่ซู่ตกตะลึง สีหน้าตื่นเต้นอะไรนะ?โรงแรม...เขาคิดจะทำอะไร?ภายใต้ความลังเลเล็กน้อย อินซู่ซู่สีหน้าทั้งเขินอายทั้งโกรธ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่เพียงกัดฟัน จำต้องเดินตามฉู่เฉินออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น เปิดห้องเช็กอิน ทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วเข้าไปในโรงแรมแล้ว อินซู่ซู่สีหน้าแดงก่ำ เหมือนกับแอปเปิลที่สุกจัด ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยสักนิด“มัวยืนอยู่ทำไม? ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน” ฉู่เฉินกล่าว หันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำอินซู่ซู่ตกตะลึง ร่างกายสั่นระริก ร่างกายเกร็งไปหมดถอดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงงั้นเหรอ?เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เขาอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธออินซู่ซู่คิดหนักเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมาเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่นม