จินเจิ้นหลงเดินข้ามประตูบ้านเข้าไปโดยจิตใต้สำนึก เขาเดินมาถึงเรือนข้างที่จินหลิงเอ่อร์อาศัยอยู่เพิ่งจะเดินเข้าไปในห้องของจินหลิงเอ่อร์ ก็ได้ยินเสียงน้ำดังซู่ซ่าจินเจิ้นหลงที่เคยผ่านโลกมาก่อน สะท้านไปทั้งตัวไม่ต้องเปิดประตูเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน…นี่มัน…จินเจิ้นหลงตะลึงค้างไปแล้ว!ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ เพราะเขาถึงขั้นเคยคิดหลายต่อหลายครั้งแล้ว ว่าจะยกลูกสาวให้ฉู่เฉิน เพื่อแลกกับอนาคตของตระกูลจินดีหรือไม่แต่ปัญหาก็คือ…พรุ่งนี้เช้า คุณชายตระกูลจ้าวจากเมืองหลวงจะเดินทางมาวางสินสอดทองหมั้นแล้วน่ะสิการหมั้นหมายครั้งนี้ จินเจิ้นหลงเพิ่งตกปากรับคำในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองด้านหนึ่งก็เพราะฉู่เฉินได้รับปากกับตระกูลจินแล้ว ว่าจะรักษาจินหลิงเอ่อร์ให้ได้ในอีกด้านหนึ่ง ตระกูลจ้าวจากเมืองหลวงเป็นทั้งตระกูลชาวยุทธ์ แถมยังมีเส้นสายในวงการธุรกิจ มีความก้าวหน้าที่ไม่เลว อีกอย่าง จ้าวคังที่เป็นลูกชายของจ้าวเทียนเต๋อยังจบการศึกษาจะมหาลัยมีชื่อด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่พอ ยังเป็นคนมีพรสวรรค์ทั้งบุ๋นและบู๊อีกหนำซ้ำในตอนที่เขาอายุสิบขวบ จ้าวคังก็ตกหลุมรักจิน
บอกตามตรง จินหลิงเอ๋อร์ตกตะลึงกับภาพตรงหน้ามากเธอจำได้ว่าตัวเองแช่น้ำยาอยู่ในอ่างอาบน้ำ ส่วนฉู่เฉินนั่งสมาธิอยู่บนเตียงนี่นา ทำไม…ทำไมถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ?ฉู่เฉินเห็นจินหลิงเอ๋อร์ตื่นสักที จึงถอนหายใจ และบอกว่า “คุณตื่นแล้วเหรอ? เมื่อกี้คุณโดนพิษของยาปลุกกำหนัด…”ขณะเอ่ย ฉู่เฉินชี้ไปที่ผงสีชมพูที่ยังหลงเหลืออยู่บนเสื้อผ้าของจินหลิงเอ๋อร์จินหลิงเอ๋อร์รีบลงจากตัวฉู่เฉิน นั่งลงข้างอ่างอาบน้ำ ยกสองมือขึ้นกุมใบหน้าน้อยๆ พยายามนึกถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่จริง จินหลิงเอ๋อร์ในเวลานั้นเพียงแค่สติเลือนราง แต่เธอยังคงจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะตอนที่เธอจำได้ว่าตัวเองฉีกทึ้งเสื้อผ้าของฉู่เฉิน สีหน้าของเธอก็ดูย่ำแย่ลงทันทีถึงแม้เธอเริ่มมีความรู้สึกพิเศษกับฉู่เฉินตั้งแต่ที่เขาฆ่าฉินหล่าง ถึงขั้นเคยจินตนาการในใจว่าระหว่างเธอกับฉู่เฉินอาจมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้แต่มันไม่ควรเป็นแบบนี้แบบนี้มันดูไม่งามเกินไปรึเปล่า?ฉู่เฉินจะไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายเหรอ?ฉู่เฉินจะไม่ต้องการเธอ เพราะเธอดูเป็นฝ่ายรุกเกินไปรึเปล่านะ?ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในสมองของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้เธ
ฉู่เฉินยิ้มเล็กน้อย “เจ้าสำนักจิน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สิทธิ์ในการซื้อขายยาบำรุงปราณในมณฑลเจียงผมให้สำนักเฟิ่งไปแล้ว ขอเพียงไม่ใช่เขตมณฑลเจียง ตระกูลจินของคุณสามารถซื้อขายยาบำรุงปราณได้อย่างอิสระ”“ก่อนวันที่สิบของทุกเดือน คุณไปเบิกของที่ผมได้ เรื่องส่วนแบ่ง เอาเป็นห้าสิบ-ห้าสิบก็ได้”พูดจบ ฉู่เฉินก็สาวเท้าเดินออกไปทันทีจินเจิ้นหลงได้ยินอย่างนั้น ก็ดีอกดีใจอย่างยิ่ง เขาเดินไปส่งฉู่เฉินถึงหน้าบ้าน ก่อนจะย้อนกลับไปที่เรือนของตัวเอง“พ่อ เป็นไงบ้าง?”จินอ้าวเทียนชะโงกหน้าออกมาถามอย่างอดใจรอไม่ไหวจินเจิ้นหลงสูดหายใจลึกๆ “สำเร็จแล้ว! แค่ซื้อขายในมณฑลเจียงไม่ได้เท่านั้น แต่ก็ไม่เป็นไร อีกไม่กี่วันฉันจะเดินทางไปมณฑลตงที่อยู่ใกล้ๆ ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมาหลายปีสักหน่อย”พูดมาถึงตรงนี้ จินเจิ้นหลงรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งแม้แต่จินอ้าวเทียนก็ดีใจจนอ้าปากค้าง ถ้ามีสิทธิ์ในการซื้อขายยาบำรุงปราณ ต่อไปไม่ว่าเขาจะไปไหน ก็สามารถเชิดหน้าชูตาได้แล้วไม่ใช่เหรอ?……ในอีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนยังคงคุยโทรศัพท์กับหลี่ฮุยจนถึงดึกดื่นบ่ายวันนี้ บริษัททางการแพทย์ในท้องถิ่นรวมถึงระด
หลิ่วหรูเยียนกัดริมฝีปาก เธอลังเลอยู่นาน ก่อนจะฝืนใจพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้เจอกันที่ภัตตาคารพาราเมาท์นะคะ”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนรีบกดวางสายโทรศัพท์แทบจะในทันทีที่จริงเธอรู้ดีว่าหลี่ฮุยต้องการอะไรแต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกไร้กำลังอย่างนี้ ทำให้หลิ่วหรูเยียนคลั่งจนแทบอยากตาย!“ไอ้บัดซบฉู่เฉิน!”หลิ่วหรูเยียนขว้างโทรศัพท์ลงบนเตียง โกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมดทั้งหมดนี้เป็นเพราะไอ้เลวฉู่เฉินคนเดียว!ถ้าวันนั้นฉู่เฉินไม่ทำให้เธอขายหน้าในไลฟ์สด ด้วยฐานะของพวกเธอสองแม่ลูกในวงการการแพทย์ของเมืองเจียงจง ฝ่ายพัฒนายาบำรุงปราณคงได้ร่วมมือกับฉู่ซื่อกรุ๊ปโดยตรง ไม่ต้องมีงานเปิดตัวอะไรทั้งนั้น พอนึกถึงฉู่เฉิน หลิ่วหรูเยียนอดนึกถึงการแข่งขันแพทย์แผนจีนขึ้นมาไม่ได้!ถ้าเธอต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอและบริษัท และเปิดโปงคำโกหกของฉู่เฉิน เธอจำเป็นต้องทำให้ฉู่เฉินขายหน้าในการแข่งขันแพทย์แผนจีนนึกมาถึงตรงนี้ หลิ่วหรูเยียนนัยน์ตาไหวระริก ก่อนจะหยิบมือถือที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา ค้นหาหมายเลขที่ถูกบันทึกไว้ในชื่อ ‘ข่งลิ่งเจี๋ย’ และโทรศัพท์ออกข่งลิ่งเจี๋ยก็เป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบหลิ่วหรูเยียน หนำซ
หลิ่วหรูเยียนหัวเราะในลำคอ “คุณแม่คงไม่คิดว่าไอ้ฉู่เฉินมีความสามารถด้านการแพทย์จริงๆ หรอกใช่ไหมคะ?”“แค่หาใครก็ได้ไปเปิดโปงเขา จะชนะได้รางวัลไหมไม่สำคัญซักนิด หนูแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นจอมลวงโลก!”“แค่แฉกลโกงของมันได้ พวกเราสองแม่ลูกก็กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”“อีกอย่าง ถึงตอนนั้นเราฉวยโอกาสเหยียบซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลของมันให้จมดิน แล้วก็ถีบบริษัทของมันออกจากเมืองเจียงจงไปเลย หรือไม่ก็ทำให้มันล้มละลายจนต้องปิดบริษัทไปซะ!”หลิ่วชิงเหอครุ่นคิดครู่หนึ่ง “หรูเยียน แม่จำเป็นต้องเตือนลูก ฉู่เฉินในตอนนี้ ต่างจากเมื่อก่อนมากจริงๆ ลูกอย่า…”“โอ๊ย คุณแม่คะ”หลิ่วชิงเหอยังพูดไม่ทันจบ หลิ่วหรูเยียนก็ตัดบทอย่างรำคาญว่า “มันจะต่างจากเมื่อก่อนได้ยังไง เมื่อก่อนมันเป็นไอ้พิการที่แขนขาเกือบหักหมด ตอนนี้ก็แค่กลับมาเดินเหินได้ปกติเท่านั้นเอง”“แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ยังเป็นแค่ไอ้สวะที่นกเขาไม่ขันไม่ใช่หรือไงคะ?”“เอาเป็นว่า เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องยุ่ง หนูจัดการเองได้ค่ะ”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็เดินกระฟัดกระเฟียดขึ้นไปชั้นบนหลิ่วชิงเหอมองแผ่นหลังของหลิ่วหรูเยียน ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึ
สัมผัสอันผ่อนคลายที่มาพร้อมกับริมฝีปากเล็กๆ ของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ฉู่เฉินดำดิ่งสู่ห้วงภวังค์ต้องยอมรับว่าไอ้แก่หลี่เต้าผิงมีความสามารถด้านการปรุงยาจริงๆขนาดผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนอย่างจินหลิงเอ๋อร์ หลังจากถูกพิษจากยาปลุกกำหนัดของเขาเข้า ยังถูกครอบงำด้วยแรงปรารถนาอันร้อนรุ่มในพริบตาถึงแม้ฉู่เฉินจะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจินหลิงเอ๋อร์ที่บ้าคลั่งอย่างนี้ เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่น้อยอย่างไรจินเจิ้นหลงกับจินอ้าวเทียนก็ไม่อยู่ ฉู่เฉินจึงดันประตูห้องออก อุ้มจินหลิงเอ๋อร์ที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวเดินไปที่ลานบ้าน กวาดสายตามองรอบๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะสะดุดที่ศาลากลางลานสวน เขาปัดเครื่องชาบนโต๊ะออก จากนั้นก็จับตัวจินหลิงเอ๋อร์ขึงไว้บนโต๊ะแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปที่ใบหน้าแดงเรื่อของจินหลิงเอ๋อร์ ทำให้ดวงหน้าที่สวยอยู่แล้วของเธอ ยิ่งดูหยาดเยิ้มขึ้นอีกหลายส่วนฉู่เฉินยกมือวาดยันต์พรางกาย จากนั้นก็ยกอาวุธออกศึกทันทีผ่านไปไม่นาน เสียงครวญครางอันกระเส่าเร่าร้อนและเสียงกระแทกเป็นจังหวะดังผสมปนเปกันอยู่ในลานสวน……ในเวลานี้เอง รถเบนซ์หรูสีดำคันหนึ่งขับเ
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวคังขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของพ่อบ้าน หลิงเอ๋อร์ไม่สบายเหรอ?จ้าวคังอาศัยจังหวะที่พ่อบ้านไม่ทันสังเกต แอบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้านหลังของห้องรับแขก เขาดันประตูออกเบาๆ และเดินมาที่เรือนหลังแต่เพิ่งจะเดินมาถึงเรือนหลัง เสียงกระแทกเป็นจังหวะแปลกๆ ก็ดังมาเข้าหูหืม?!จ้าวคังสะดุ้ง ทำไมเสียงนี้ฟังดูคุ้นหูจัง เหมือนฉากในหนังสั้นที่เขาเคยดูสมัยอยู่หอพักช่วงมหาลัยอย่างไรอย่างนึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของจ้าวคังหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม!เขาสาวเท้าเดินไปที่ประตูเรือนของจินหลิงเอ๋อร์โดยจิตใต้สำนึก ก่อนจะแนบหูเข้ากับประตูเรือน เงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านในเฮือก!ไม่ฟังยังดีซะกว่า พอได้ยินเสียงข้างใน จ้าวคังรู้สึกเหมือนเขาบนหัวงอกยาวขึ้นมาในพริบตาไฟโทสะพุ่งปรี๊ดจากเท้าขึ้นมาถึงบนหน้าผาก!พ่อลูกตระกูลจิน ทำกันเกินไปแล้ว!ถึงแม้ตระกูลจินไม่อยากดองกับตระกูลจ้าว ก็ไม่จำเป็นต้องหมิ่นเกียรติกันขนาดนี้!นึกมาถึงตรงนี้ จ้าวคังยกเท้าขึ้นถีบประตูเรือนเต็มแรง!โครม!เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับกำแพงดังขึ้น พ่อบ้านที่กำลังร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนปากหม้อร้อนๆ
“กรี๊ด!”จินหลิงเอ๋อร์เห็นหมัดของจ้าวคังเหวี่ยงมาทางเธอ นัยน์ตางามพลันหดเล็กลง ก่อนจะหลุดร้องเสียงแหลมออกมาทว่า ในพริบตาที่หมัดของจ้าวคังอยู่ห่างจากจินหลิงเอ๋อร์ไม่ถึงสองนิ้ว ฉู่เฉินยกมือข้างหนึ่งกดหัวไหล่กลมมนของจินหลิงเอ๋อร์ ในขณะที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งกดเอวอันคอดบางของจินหลิงเอ๋อร์ จากนั้นก็พลิกหมุนตัวทำให้หลบหมัดที่อันตรายถึงชีวิตของจ้าวคังไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ติ๋ง!เพราะเคลื่อนไหวแรงเกินไป ส่งผลให้เม็ดเหงื่อถูกสะบัดมาโดนแว่นตาของจ้าวคังจ้าวคังกัดฟันกรอด!ตอนนี้เขามั่นใจได้แล้วว่าจินหลิงเอ๋อร์กับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น อยู่แถวๆ นี้ไม่ผิดแน่ไม่อย่างนั้น จะอธิบายเม็ดเหงื่อที่อยู่บนแว่นตาของเขายังไง?ด้วยความเดือดดาล จ้าวคังถอดแว่นออกมาดม แล้วก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของแชมพูดังคาดแชมพูยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่จินหลิงเอ๋อร์ชอบที่สุดหนำซ้ำจ้าวคังยังเคยซื้อให้จินหลิงเอ๋อร์ด้วยตัวเองอีก“ออกมา!”ดวงตาของจ้าวคังเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาตะโกนใส่อากาศในลานสวนด้วยความเคียดแค้นแต่กลับมองไม่เห็นเงาของใครสักคนไอ้เชี่ยเอ๊ยโดนสวมเขายังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ที่น่ากลัวกว่าก็คือ มีคนสวมเข