ถึงแม้ว่าฉู่เฉินอยากจะให้คำตอบที่น่าพึงพอใจกับกู้รั่วเสวี่ย แต่ว่า…แม่เอ็งเถอะ นี่มันจะเค็มเกินไปไหม?แม้แต่ปลาเค็มที่ฉู่เฉินเคยกินสมัยเด็กๆ ยังไม่ตราตรึงใจเท่ากับเนื้อปลาชิ้นนี้เลย“เป็นไงบ้าง อร่อยไหม?”กู้รั่วเสวี่ยกะพริบตาปริบๆ มองหน้าฉู่เฉินอย่างประหม่ากว่าปกติ“แค่ก…”ฉู่เฉินกระแอมเบาๆ วินาทีต่อมา เขาโอบลำคอยาวระหงของกู้รั่วเสวี่ย และประทับจูบลงไปบนปากเล็กๆ ของเธอระหว่างที่พัวพันกับลิ้นอันหอมหวาน ฉู่เฉินดันเนื้อปลาชิ้นนั้นเข้าไปในปากของกู้รั่วเสวี่ยโดยตรง“อื้อ!”พอเนื้อปลาเข้าไปในปาก กู้รั่วเสวี่ยเบิกตากว้างทันที เธอส่ายหน้าสุดชีวิต อยากจะหลุดพ้นจาก ‘กรงเล็บปีศาจ’ ของฉู่เฉิน แต่ฉู่เฉินกลับไม่เปิดโอกาสให้ขัดขืนแม้จูบนี้จะดำเนินไปเพียงสิบกว่าวินาที แต่สำหรับกู้รั่วเสวี่ย มันกลับยาวนานเหมือนชั่วชีวิต“ถุย!”พอกู้รั่วเสวี่ยดิ้นหลุดออกจากอ้อมแขนของฉู่เฉินอย่างยากลำบาก เธอคายเนื้อปลาชิ้นนั้นใส่ถังขยะทันที“ทำไมเค็มอย่างนี้ ฉัน…ฉันทำตามวีดิโอนี้แล้วแท้ๆ”กู้รั่วเสวี่ยเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าที่จริงเธออยากได้ยินคำชมจากฉู่เฉินมาก แต่ผลลัพธ์กลับต่า
=yjวขณะหนึ่ง กู้รั่วเสวี่ยเห็นแววตาเย็นชาไปถึงกระดูกจากดวงตาของฉู่เฉินเธอสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อสายลมยามกลางคืนพัดผ่านมา กู้รั่วเสวี่ยอดตัวสั่นไม่ได้ เธอขยับตัวแนบชิดกับร่างใหญ่ของฉู่เฉินกลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งลอยเข้ามาในจมูกของฉู่เฉินพร้อมกับสายลมกลางคืน กอปรกับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากเรือนร่างของกู้รั่วเสวี่ยที่แนบชิดติดกับตัวเขา ลมหายใจของฉู่เฉินเริ่มกระชั้นขึ้นมา“พวกเรา…กลับห้องกันเถอะ…”ปากเล็กๆ ของกู้รั่วเสวี่ยแนบชิดอยู่บนกลีบปากของฉู่เฉิน ก่อนจะกระซิบเสียงเบา พร้อมกับพ่นลมหายใจหอมๆ ออกมาไม่รู้ทำไม ตั้งแต่ที่เธอสัมผัสประสบการณ์ของการเป็นผู้หญิงที่น้ำพุร้อนครั้งนั้น กู้รั่วเสวี่ยรู้สึกราวกับตัวเองได้ถลำลึกจนไม่อาจถอนตัวแม้ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่วัน แต่วินาทีที่ฉู่เฉินปรากฏตัวต่อหน้าเธอ หัวใจของเธอก็ราวกับมีเปลวเพลิงแห่งรักกำลังแผดเผาอยู่“อืม”ฉู่เฉินรับคำ เขาโอบเอวของกู้รั่วเสวี่ยขึ้นมาอุ้ม จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ห้องนอนบนชั้นสองภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เสียงครวญครางดังก้องไปทั่วทั้งคฤหาสน์สาวรับใช้บางคนที่ยังไม่นอน รวมถึงเลขาสาวของกู้รั่วเสวี่ยพ
ครืน!เมื่อหลี่เต้าผิงคำรามอย่างเกรี้ยวโกรธ ถ้ำภูเขาพลันสั่นสะเทือนด้วยแรงพิฆาตในตัวเขา!ฉินหล่างกัดฟันกรอด ก่อนจะพูดกับหลี่เต้าผิงว่า “อาจารย์ครับ จากที่ผมรู้มา นักสู้ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงจง มีแค่เจ้าคนแซ่จิน ที่ชื่อจินเจิ้นหลงคนเดียว”“ถ้าจะมีใครทำอันตรายศิษย์น้องได้ ก็มีแค่คนคนนี้เท่านั้น”ที่จริงหลายปีมานี้ ซ่งหู่ยังไม่เคยเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับสำนักเฟิ่งให้ใครฟัง เพราะครอบครัวของเขาตายอย่างน่าอนาถเกินไป แม้กระทั่งก่อนที่ซ่งหู่จะกลับไปที่เมืองเจียงจง เขาก็ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ฉะนั้น แม้แต่หลี่เต้าผิงกับฉินหล่างก็รู้เพียงแค่ว่าซ่งหู่ต้องการกลับไปแก้แค้นที่เมืองเจียงจงแต่พวกเขาสองคนก็ไม่รู้ว่าศัตรูของเขาเป็นใครฉินหล่างเอง หลังจากที่เห็นคัมภีร์หยกที่เขียนฤกษ์ยามเกิดของซ่งหู่แตก ถึงได้ตรวจสอบเรื่องนักสู้ในเมืองเจียงจงคร่าวๆทั่วทั้งเมืองเจียงจง มีปรมาจารย์ยุทธ์เพียงคนเดียว นั่นก็คือจินเจิ้นหลง!อย่างไรเสียพลังของซ่งหู่ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ผู้บำเพ็ญพรตที่ฝึกกำลังภายในระดับสูงจนสำเร็จ เรียกได้ว่าในหมู่นักสู้ระดับเดียวกัน เขาคือผู้ไร้เทียมทานแล้ว!คนที่สามา
“เชี่ย นั่นมันกงล้อเพลิงใช่ไหม?”“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันเชื่อในหลักวิทยาศาสตร์!”“วิทยาศาสตร์บ้านเอ็งสิวะ ไม่เห็นเหรอว่าคนเขาบินอยู่เหนือน้ำทะเลโน่นแล้วน่ะ!”เหล่านักท่องเที่ยวและพนักงานบนเรือต่างเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเจอเทพเซียนในตำนาน พวกเขาพากันคุกเข่าและโขกหัวไปทางหลี่เต้าผิงกับฉินหล่างอย่างต่อเนื่องหลี่เต้าผิงเหลือบมองผู้คนบนเรือที่กำลังโขกหัวด้วยความเลื่อมใสอย่างสุดใจแวบหนึ่ง ก่อนจะแค่นเสียงอย่างดูแคลนถ้าหากฉู่เฉินอยู่ในฝูงชนด้วย จะต้องเปิดโปงทริคหลอกสายตาง่ายๆ นี้ของหลี่เต้าผิงแน่นอนที่จริงวิชาที่หลี่เต้าผิงกำลังใช้อยู่นี้ ก็คือ ‘วิชาเหยียบคลื่น’ ที่หายสาบสูญไปแล้วนั่นเอง!เพียงแต่ เทียบกับซ่งหู่แล้ว แต่วิทยายุทธ์ของเขานั้นลึกล้ำกว่า คลื่นที่อยู่ใต้เท้าจึงยิ่งควบคุมได้อย่างใจส่วนฉินหล่าง เขาก็แค่อาศัยยันต์เพลิงวายุ ถึงสามารถเหินอยู่เหนือน่านน้ำได้ ความจริงแค่ยิงฉี่ใส่ลูกไฟนั่น ฉินหล่างก็จะร่วงลงมาในพริบตาไม่มีเหตุผลอื่นใดเลย นอกเสียจากว่าของจำพวกยันต์ ล้วนกลัวสิ่งสกปรกแต่คาถายันต์ที่ฉู่เฉินฝึกอยู่นั้น กลับไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นยันต์ ฉะนั้นไม่ว่าสิ่งสกป
ตั้งแต่เช้า ทุกครั้งที่มีคนผ่านบ้านเก่าของตระกูลฉู่ อินซู่ซู่จะเปิดประตูรั้วดูว่าฉู่เฉินกลับมาแล้วใช่หรือเปล่าอินซู่ซู่ใช้ความคิดอย่างมากเพื่อที่จะมอบเซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นตกใจให้ฉู่เฉินเธอตั้งใจนั่งเฝ้าแพลตฟอร์มไลฟ์สดอยู่หลายวัน เจาะจงเลือกช่องไลฟ์สดของสาว ๆ ที่เต้นเซ็กซี่ยั่วยวน ตั้งแต่แต่งตัวไปจนถึงแต่งหน้า ศึกษาอย่างละเอียดมาสิบกว่าวัน หลังจากนั้นถึงค่อยรีบกลับมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม บอกตามตรง สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากสาว ๆ เหล่านั้นมีประโยชน์มากจริง ๆ เมื่อก่อนพวกผู้ชายมักจะเดินผ่านไหล่เธอไปโดยที่ไม่หันหน้ากลับมามอง คราวนี้เกรงว่าแค่เดินผ่านตัวเธอก็อดหันหน้ากลับมามองหลายครั้งไม่ได้ถึงขนาดที่ยังมีหนุ่มเดลิเวอรี่ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าเพราะว่ามองเพลินมากเกินไป จนอาหารตรงเบาะหลังรถกระจายเต็มพื้นเมื่อเห็นอัตราการหันหน้ากลับมามองของตัวเองพุ่งพรวดพราด อินซู่ซู่ก็คิดอย่างมั่นใจว่าฉู่เฉินจะต้องกระโจนเข้ามาเหมือนผึ้งเห็นดอกไม้อย่างแน่นอน ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉู่เฉินจ้องเธอไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำ แถมเวลาสองวินาทีครึ่งจากในนั้นยังทอดมองมายังลูกท้อสองลูกตรงหน้าอกของเ
ท้องทะเลรับน้ำจากสายน้ำนับร้อย ไม่ว่าพลังฝีมือของฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ทำได้เพียงถูกดูดซับพลังหยางกับพลังวิญญาณเท่านั้น ใครแม่งจะรับได้? ถึงอย่างไรฉู่เฉินก็เข้าใจเคล็ดลับของวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์เป็นอย่างดี หากยังหาวิธีการเปลี่ยนแปลงอินซู่ซู่ไม่เจอ เขาก็จะไม่มีวันเข้าไปยุ่งเป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้เอง ต่อให้อินซู่ซู่ยั่วยวนทุกวิถีทาง สำหรับฉู่เฉินแล้วแทบไม่มีผลเลย เมื่อฉู่เฉินบรรลุถึงขั้นนี้แล้ว เขาสามารถควบคุมการทำงานของวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ได้ตามใจนึก นับประสาอะไรกับฉู่เฉินในตอนนี้ เขาไม่ขาดแคลนผู้หญิงเลยโอเคไหม ไม่จำเป็นต้องลดพลังฝีมือของตัวเองจำนวนมากเพื่อลองชิมของใหม่ ถึงขนาดที่อาจเสี่ยงต่อการลดระดับขั้นด้วย “มะ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อยากให้นายท่านสนใจฉันมากขึ้น อย่างเช่น...” ระหว่างที่พูดอินซู่ซู่ก็ยกเท้าเล็ก ๆ ที่สวมรองเท้าส้นสูงขึ้นมา ขาขาวนวลที่เรียวยาวและกระชับอย่างยิ่งข้างหนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฉู่เฉินยั่วยวน! ไม่สิ น่าจะเป็นการล่อลวงมากกว่า! ถ้าเกิดสาวน้อยคนนี้ได้รับการสั่งสอนเป็นอย่างดี เธอยังทำได้ถึงขนาดได้กันนะ? ฉู่เฉินเพิ่งรู้สึกได้ถึงวิช
“นายท่าน ฉันสาบานว่าไม่ได้เป็นอย่างที่นายท่านคิดแน่นอน ฉะ...ฉันแค่กังวลว่าออกจากสำนักนานเกินไปจะถูก...จะถูกพบได้”“พอถึงตอนนั้นถ้าเกิดทำให้นายท่านเดือดร้อนขึ้นมา ก็...ก็จะเกิดปัญหาใหญ่ได้”อินซู่ซู่พยายามแสร้งทำเป็นอธิบายด้วยความสงบนิ่ง ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเฉยชาว่า “ความจริงแล้วการควบคุมบนตัวเธอไม่มีผลกระทบอะไรต่อเธอเลย นอกเสียจากว่าเธอคิดจะฆ่าฉัน ไม่อย่างนั้นก็จะไม่โดนกระตุ้นขึ้นมา” “นอกจากนี้ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการที่เธอกลับไปยังสำนักของเธอด้วย ฉันเชื่อว่าแม้แต่ปรมาจารย์ของเธอก็ไม่สามารถรับรู้ได้” เรื่องความมั่นใจในตัวเองนี้ ฉู่เฉินยังคงมีอยู่อาศัยประสบการณ์ที่รับมือกับสาว ๆ...ไม่สิ กับสำนักใหญ่ต่าง ๆ ของราชันมังกรแห่งแดนเหนือ คนอื่น ๆ จะรับรู้วิชาของเขาได้อย่างไร? ถ้าเกิดไม่ว่าใครก็สามารถรับรู้ถึงความผิดปกติได้ เช่นนั้นราชันมังกรแห่งแดนเหนือคงไม่สิ้นชีพไปนานแล้วเหรอ? “ว่าไงนะ? แม้แต่ปรมาจารย์ของฉันก็ไม่สามารถรับรู้ได้เหรอคะ?”อินซู่ซู่ได้ยินคำพูดนี้ก็อดตกใจยกใหญ่ไม่ได้ เธอไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเลยนับตั้งแต่ที่ออกจากสำนัก อินซู่ซู่ก็ตัดความสัมพันธ์กับสำนักโดยสิ้นเ
“เก้าวิญญาณสวรรค์แปรเปลี่ยน? ไม่ได้ๆ...” หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง ฉู่เฉินก็หาเจอจริง ๆ“อันนี้แหละ!”เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉู่เฉินก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “อืม เด็กมีแววสอนได้” ฉู่เฉินจิบชาหอมอีกคำถึงค่อยพูดอย่างเฉยชาว่า “ไปหยิบกระดาษกับปากกามา”อินซู่ซู่คิดไม่ถึงว่าฉู่เฉินจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้เธอจริง ๆ ในใจเธอทั้งตกใจทั้งยินดี ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าฉู่เฉินที่เธอเข้าใจผิดว่าเป็นคนหื่นกามและเป็นมารราคะมาโดยตลอดจะใจกว้างเช่นนี้ อีกทั้งยังถ่อมตน ไม่ถือสากับสิ่งที่เธอกระทำลงไปก่อนหน้านี้ แถมยังถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้เธออีกด้วยชั่วขณะหนึ่ง อินซู่ซู่รู้สึกซาบซึ้งใจต่อฉู่เฉินจนขอบตาฉ่ำรื้นเมื่อคิดดูให้ดี เธอกับฉู่เฉินเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วันเองนะ?แต่น่าเสียดายที่หลายปีมานี้ อาจารย์ของเธอไม่ได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาที่พอเข้าท่าให้เธอเลยแถมยังมองเธอจะตายแล้วไม่ยอมช่วยอีก!เมื่อคิดถึงตรงนี้ อินซู่ซู่วิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วแล้วหยิบกระดาษกับปากกามาก่อนจะเข้าไปใกล้ฉู่เฉิน เบิกตากลมโตที่เปล่งประกายสดใสจ้องมองฉู่เฉินเขียนตัวอักษรที่ยากจะเข้าใจบนกระดาษ ฉู่เฉินลอบปรายตามองอินซ