แม้แต่แขนที่ยกก้อนอิฐก็ค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ เห็นจินเจิ้นหลงเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ดวงตาสองข้างจ้องมองจินอ้าวเทียนด้วยแววตาเย็นชา มืออีกข้างยังสั่นไม่หยุด “พะ...พ่อ? พ่อมาอยู่นี่ได้ยังไง?” จินอ้าวเทียนสะบัดมือโยนก้อนอิฐทิ้งไปทางด้านข้าง มองจินเจิ้นหลงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจ“ไอ้เด็กเวร แกจะทำให้ใครพิการ?!” จินเจิ้นหลงโกรธจนหนวดเบี้ยว มองจินอ้าวเทียนด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางทำหน้าบูดบึ้งสุดขีด“พ่อ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเป็นพ่อ ผะ...ผมมาหาคนแซ่ฉู่เพื่อคิดบัญชี พ่อดูสิ คนแซ่ฉู่ทำมือของผมหักไปข้างหนึ่ง ผมจะทำให้มันพิการให้ได้...” เพียะ!จินอ้าวเทียนยังพูดไม่จบ ใบหน้าอีกข้างก็โดนตบอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง เพียงแต่ว่าคนที่ลงมือครั้งนี้เป็นจินหลิงเอ๋อร์ สองพ่อลูกตบหน้าติดต่อกันสองที ตบจนจินอ้าวเทียนมึนงงโดยสิ้นเชิง “พะ...พี่ ทะ...ทำไมพี่ถึงตบผม?”จินอ้าวเทียนจะร้องไห้แล้ว เขายังไม่ได้ทำอะไรฉู่เฉินก็โดนตบหน้าไปก่อนสองฉาดพวกลูกศิษย์สำนักมวยที่อยู่ด้านหลังเห็นดังนั้นก็พากันหลบออกไปไกล ๆ ขอเพียงเป็นคนที่มีสายตาแหลมคม แค่มองก็รู้ว่าคราวนี้จินอ้าวเทียนเตะโดนแ
ที่จริงฉู่เฉินเพิ่งเข้าใจคำว่าคนจนเรียนหนังสือคนรวยเรียนยุทธ์จากชื่อเสียงของจินเจิ้นหลงก็คงมีเพื่อนร่วมสายอาชีพแต่ยาบำรุงปราณของเขาสำหรับนักสู้แล้ว ก็มีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ เช่นกัน ไม่เพียงแต่สามารถทำให้อายุวัฒนะ แต่ยังทำให้พลังแข็งแกร่งอีกด้วยแม้แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทำให้นักสู้ทะลวงคอขวด ส่งผลให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นสำหรับนักสู้แล้ว ยาบำรุงปราณมีความดึงดูดที่สุดแต่เห็นได้ชัดว่าจงอาหู่ไม่มีคอนเนคชั่นทางด้านนี้ ถ้าเทียบกันแล้วจินเจิ้นหลงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดแล้วนี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ฉู่เฉินตอบตกลงรักษาจินเจิ้นหลงจินเจิ้นหลงยกเท้าขึ้นมาถีบเข้าไปที่ก้นของจินอ้าวเทียน พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ยังไม่รีบขอบคุณคุณฉู่อีกเหรอ?”ต้องขอบคุณมันด้วยเหรอ?ใบหน้าจินอ้าวเทียนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจตรงดิ่งเข้าไปหาฉู่เฉินแล้วพูดว่า “ขอบคุณความมีน้ำใจและใจกว้างของคุณฉู่”“ไสหัวไปได้แล้ว!”จินเจิ้นหลงเตะจินอ้าวเทียนอีกครั้ง หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็รีบคลานหนีออกไปเมื่อจินอ้าวเทียนออกไปไกลแล้ว ใบหน้าของจินเจิ้นหลงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มพูดขึ้นมาว่า “คุณฉู่ มีเรื่องอะไรคุณพูดมาได้เลยนะคร
ฉู่เฉินครุ่นคิดก่อนแล้วจึงพูดหยั่งเชิงว่า “หากต้องการรักษาโรคของคุณหนูจิน จำเป็นต้องใช้หญ้าเทียนหลิง ต้องใช้เวลาซึ่งหาได้ยาก รอให้ผมเจอวัตถุดิบยานี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ได้ครับ”จินเจิ้นหลงก็ไม่กล้าขัด จึงทำได้แค่พยักหน้ารัวๆคุยกับฉู่เฉินอีกไม่กี่ประโยค จินเจิ้นหลงก็พาลูกสาวเขากลับไปหลังจากที่ออกจากประตูบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ จินหลิงเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนรถถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “พ่อคะ ทำไมเมื่อกี้พ่อไม่ตอบรับคุณฉู่ล่ะคะ?”“ยาลูกกลอนเป็นทรัพยากรที่หายากในวงการยุทธ์นะคะ บางทีหากตระกูลจินของเราพึ่งพาอำนาจของคุณฉู่ เราอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้นะคะ”จินเจิ้นหลงส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมาว่า “หลิงเอ๋อร์ ลูกมองปัญหาง่ายเกินไปแล้ว”“เอ๋?”จินหลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วพร้อมถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “พ่อคะ หนูไม่เข้าใจความหมายของพ่อ จากทักษะการแพทย์ของคุณฉู่ ยาลูกกลอนที่เขาให้ต้องยอดเยี่ยมแน่นอนค่ะ”จินเจิ้นหลงถอนหายใจยาวออกมา พร้อมอธิบายว่า “นั่นก็ถูก นักสู้ที่ระดับพลังยิ่งสูง ความต้องการที่มีต่อยาลูกกลอนก็ยิ่งสูง แต่ทว่าลูกเคยคิดไหม ว่าคนที่สามารถจ่ายให้กับของพวกนี้ได้เป็นใครกันบ้าง?”“หากยาลูกกลอนมีปัญหา แ
เมื่อเห็นว่าจินอ้าวเทียนและจินหลิงเอ๋อร์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จินเจิ้นหลงจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้พวกเขาฟังตามจริงเมื่อได้ยินว่าฉู่เฉินสามารถสังหารซ่งหู่ได้เพียงคราวเดียว สองพี่น้องตกใจกลัวจนเหงื่อท่วมทั้งร่างโดยเฉพาะจินอ้าวเทียน เขาแอบดีใจยิ่งกว่าที่ได้พบกับพ่อของเขาที่ประตูบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ ไม่อย่างนั้น...ซี้ดๆ!ไม่อยากจะคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาเลย!หลิ่วหรูเยียนผู้หญิงพวกนี้ นี่แม่งเป็นการส่งกูไปตายชัดๆ ไม่ใช่เหรอ?จินอ้าวเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่นด่าหลิ่วหรูเยียนในใจเป็นหลายสิบครั้ง!แม้ว่าเขาจะต้องการเรือนร่างของหลิ่วหรูเยียน แต่ผู้หญิงแค่คนหนึ่งไม่มีค่าพอที่จะให้เขาเสี่ยงชีวิตหรอกสำหรับจินหลิงเอ๋อร์ เธอก็กลัวจนเหงื่อเย็นท่วมตัวเช่นกัน!เมื่อกี้ที่เธอลงมือกับฉู่เฉิน หากไม่ใช่ว่าฝ่ายตรงข้ามออมมือให้ เธอเกรงว่าชีวิตเล็กๆ ของเธอคงจะไม่เหลือแล้วมั้ง?“ดังนั้นถึงบอกว่าฉู่เฉินคนนี้ ทำได้แค่ประจบประแจง และอย่ายั่วโมโหเขาเด็ดขาด อย่างน้อยตระกูลจินของเราไม่มีกำลังนั้น เข้าใจไหม?”จินเจิ้นหลงกล่าวอย่างจริงจังจินหลิงเอ๋อร์และจินอ้าวเทียนสองพี่น้องพยักหน้ารั
…อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งส่งคนตระกูลจินกลับไปได้ไม่นาน โจวเทียนเฟิ่งก็ส่งรูปมาให้เขารูปหนึ่งรูปนั้นเป็นรูปของโจวเทียนเฟิ่งเองเพียงแต่โจวเทียนเฟิ่งที่อยู่ในรูป แทบจะทำให้เห็นความที่สุดของคำว่ายั่วยวน ผมลอนใหญ่ม้วนยาวสง่า สวมหมวกพยาบาลแบบเฉียงๆ อีกด้วยท่อนบนสวมชุดพยาบาลซีทรู เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งครึ่งวงกลมสีขาวสองส่วนกระโปรงซีทรูปกปิดท้องน้อยที่กระชับและเรียบเนียนไว้ มองขึ้นไปตามกระโปรงซีทรู หน้าอกอวบอิ่มคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นราง ๆกระโปรงสั้นจุ๊ดจู๋ กึ่งปิดกึ่งเปิด เห็นขอบลูกไม้ด้านในได้ชัดเจน เข็มขัดถูกผูกเป็นโบสีชมพู แล้วมัดไว้ด้านข้างขาเรียวยาวสองข้างยังสวมใส่ถุงน่องตาข่ายสุดเซ็กซี่ไว้ เท้าเล็กๆ สีชมพูคู่นั้นยังสวมใส่รองเท้าแก้วไว้อีกด้วยเชี่ยเอ๊ย!เป็นชุดเครื่องแบบที่ยั่วสวาทจริงๆ !ฉู่เฉินที่ผ่านการรบติดต่อมาเป็นเวลานาน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ“เฉินเฉิน... วันนี้อยากจะมานอนบนเตียงกับฉันไหมคะ?”ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังดื่มด่ำกับวิวสวยตรงหน้า ทันใดนั้นก็มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นมา“เป็นอะไรไป ไม่ได้เจอกันแค่วันเดียวเอง คุณอยากอีกแล้วเหรอครับ?”ฉู่เฉินส่งข้อ
“ปรมาจารย์ฉู่ ผมได้นัดเจ้าใหญ่นายโตไม่กี่ท่านไว้แล้วครับ วันนี้นัดพบเจอกันที่ภัตตาคารพาราเมาท์ตอนกลางวันครับ เมื่อถึงเวลานั้นคุณมอบยาบำรุงปราณให้ผม แล้วผมจะลองนำไปให้พวกเขาดูครับ”“ผมเชื่อว่าพวกเขาก็จะเหมือนผมที่อยากจะแย่งชิงยาบำรุงปราณมา”จงอาหู่พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นแม้ว่าเขาจะกินไปแค่เม็ดเดียว แต่ว่าก็สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพลังของตนเองนั้นมีการยกระดับขึ้นก็เหมือนกับที่ฉู่เฉินพูดว่าจำเป็นต้องกินให้ถึงสิบเม็ด ถึงจะสามารถยกระดับพลังได้ ตอนนี้กินไปแค่เม็ดเดียวก็เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนแบบนี้ จงอาหู่ก็พอใจมากๆ แล้วฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกล่าวขึ้นมาว่า “อืม ก็ได้นะ เอาอย่างนั้นแหละ ฉันจะเขียนใบเสร็จให้หนึ่งใบ นายก็รีบซื้อวัตถุดิบยาตามจำนวนและชนิดที่เขียนไว้บนใบเสร็จกลับมาก็แล้วกัน”“หลังจากนั้นก็ลองไปสืบดูว่าสามารถซื้อหญ้าเทียนเซียงได้จากที่ไหนบ้าง”พูดจบฉู่เฉินก็ยกปากกาขึ้นมา เขียนวัตถุดิบและจำนวนที่ต้องใช้หลอมยาลงไปบนกระดาษ หลังจากนั้นจึงส่งมอบใบสั่งยานั้นให้จงอาหู่น้ำหนักที่ฉู่เฉินเขียนลงไป ล้วนแต่มีหน่วยเป็นร้อยชั่ง อีกทั้งเขาก็ไม่ได้เขียนอั
“หืม?”โจวเทียนเฟิ่งที่เคยสังเกตฉู่เฉินมาโดยตลอด หลังจากที่เห็นฉู่เฉินเดินขึ้นไปบนเนินเขาแล้ว ตามมาด้วยเงาเพียงแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็หายไปไม่เห็นอีกเลย ไม่เพียงแต่ตกใจจนอ้าปากค้าง เธอยังรีบสวมเสื้อคลุมแล้วรีบวิ่งไปทางเนินเขาหลังจากที่เธอมาถึงยอดเขา กลับเห็นแค่ความว่างเปล่าในบริเวณรอบๆ ไม่มีแม้แต่เงาของฉู่เฉินโจวเทียนเฟิ่งช็อกไปเลยหรือว่านี่จะเป็นข้อแตกต่างระหว่างผู้บำเพ็ญเต๋าและนักสู้เหรอ?“เฉินเฉิน? คุณอยู่ไหมคะ?”โจวเทียนเฟิ่งตะโกนถามหยั่งเชิงขึ้นมาแต่นอกจากเสียงคำรามของลมและภูเขาแล้ว ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมาเลยในขณะนั้นเอง ฉู่เฉินที่ซ่อนอยู่ในค่ายกล เขามองไปที่โจวเทียนเฟิ่งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและไม่พูดอะไร“ตู้ม!”ตามมาด้วยหมอกจางๆ ที่คลุ้งออกมา ยาลูกกลอนหม้อแรกอยู่ในมือของฉู่เฉินตามมาด้วยหม้อที่สอง หม้อที่สาม...ระยะสั้นๆ เพียงแค่ตอนเช้า ฉู่เฉินสามารถหลอมยาได้ร้อยหม้อภายในลมหายใจเดียวยาบำรุงปราณหนึ่งพันเม็ดเต็มๆ ถูกฉู่เฉินหยิบขึ้นมา หลังจากนั้นก็ใส่เข้าไปที่ถุงหนังงู“เฮ้อ!”ฉู่เฉินถอนหายใจออกมาเบาๆ ค่ายกลล่องหนรอบๆ ก็ค่อยๆ หายไป ร่างของฉู่เฉินเหมือนกับแวบขึ้นมา
ซี้ดจงอาหู่ขมวดคิ้ว ถามชายคนนั้น มองจากสีหน้าของเขา เขาไม่มีทางโกหกแน่นอนเมื่อนึกถึงส่วนนี้ เขาก็พยักหน้าพูดขึ้นมาว่า “ไป พาฉันไปดูหน่อย”ทั้งสองคนที่เพิ่งถึงบริเวณเนินเขา ห่างออกไปแสนไกล จงอาหู่ก็ได้ยินเสียงจากทางยอดเขา เสียงดังลั่น ราวกับว่าจะทำให้หูดับได้เลยนะ!แต่ว่าเสียงนั่น ทำไมไม่ว่าจะฟังอย่างไรมันก็ฟังคุ้นหูล่ะ?ซี้ด!ไม่ใช่ว่าอาเจ๊กับปรมาจารย์ฉู่กำลังทำอะไรบนเขา...แม่งเอ๊ย!อาเจ๊กับปรมาจารย์ฉู่นี่โรแมนติกจริงแม้ว่าจะนึกถึงความเป็นไปได้นี้ได้ แต่จงอาหู่ก็ยังเดินตามอยู่ข้างหลังชายคนนั้น เดินมุ่งยังไปเนินเขา“พี่หู่ พี่ได้ยินแล้วใช่ไหมครับ แต่ว่า... พวกลูกน้องก็ต่างพากันตามหารอบๆ นี้ไปแล้ว แต่กลับไม่พบใครเลยครับ นี่... นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้วนะครับ”ชุดของหัวหน้าบอดี้การ์ดเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขามองดูจงอาหู่ด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ได้การแล้ว ภูเขานี้สกปรกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาดูเสียแล้ว“ช่างมันเถอะ หาไม่เจอก็ไม่ต้องหาแล้ว ทุกคนกลับไปเถอะ”จงอาหู่ขมวดคิ้ว พร้อมโบกมือไปที่ทุกคนยิ่งเข้าใกล้เขาก็ยิ่งได้ยินชัดขึ้น ที่มันเป็นการปลดปล่อยของอาเจ๊กับป
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ