“คุณปู่ รอผมด้วยครับ!”ฮว่าเทียนอวี่จ้องแผ่นหลังของอาวุโสฮว่าที่เดินไกลออกไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบตามไปเวลานี้ ข่าวที่อาวุโสฮว่ากำลังจะไปเยี่ยมเยือนบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งรายการแล้ว“แม้แต่อาวุโสฮว่ายังยอมรับฝีมือการแพทย์ของฉู่เฉินขนาดนี้เลยเหรอ?”สวี่ถิงถิงอ่านข้อความในมือถือ ก่อนจะจมสู่ภวังค์ความคิดเช่นกันที่จริงตัวเธอเองก็มีโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายมาหลายปีแล้ว หนำซ้ำหลายปีที่ผ่านมา เธอเองก็เคยไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมาหลายคน แต่กลับไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย อาการกลับยิ่งย่ำแย่ลงด้วยซ้ำเธอลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็เดินเข้าไปหาฉู่เฉินพร้อมกับรอยยิ้ม และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “คุณฉู่ ทักษะด้านการแพทย์ของคุณน่าเลื่อมใสมาก ไม่ทราบว่าช่วยฉันดู…”ฉู่เฉินตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง ไม่คิดจะเสวนากับเธอแม้แต่น้อยสวี่ถิงถิงไม่คิดว่าฉู่เฉินจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย เธอถึงขั้นขอร้องฉู่เฉินขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น คงเป็นฝ่ายเสนอตัวมาช่วยรักษาให้เธอตั้งนานแล้วหลังจากตั้งสติ สวี่ถิงถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “คุณฉู่ ฉันชื่อสวี่ถิงถิงค่ะ เมื่อกี้ฉันได้เห็นฝีมือด้
หลายคนในหมู่พวกเขา ทันทีที่เงินเดือนออกจะรีบเข้ามาส่งของขวัญให้ซูซูในช่องไลฟ์สด แม้ว่าตัวเองต้องกลับมาซื้อมาม่ากินที่ห้องก็ตามแต่ว่า ซูซูในดวงใจของพวกเขาที่ทั้งฉลาด สวย แล้วก็ใจดี กลับทอดสะพานให้ไอ้ลูกคนรวยแซ่ฉู่นั่น?!ไม่ใช่แค่พวกแฟนคลับชายแท้พวกนั้นที่กระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง แม้แต่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังดูไลฟ์สดก็จ้องหน้าจอมือถืออย่างไม่อยากเชื่อเหมือนกันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเข้าใจดีว่าซูซูต้องการจะสื่ออะไรผ่านคำพูดนั้นปากบอกว่าต้องการขอบคุณฉู่เฉินที่ช่วยเพื่อนร่วมงานของเธอ ถึงได้เลี้ยงข้าวฉู่เฉิน แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ต่อหน้าแฟนคลับมากมาย เกรงว่านางจิ้งจอกตัวนี้คงวิ่งโผเข้าใส่ฉู่เฉินไปนานแล้วนึกได้อย่างนั้น กู้รั่วเสวี่ยอดกำหมัดไม่ได้ฉู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนหันไปมองสวี่ถิงถิง ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แค่โรคหอบหืด ร้ายแรงอย่างที่คุณพูดขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซี้ด!สวี่ถิงถิงมองฉู่เฉินอย่างตกตะลึงเธอเป็นโรคหอบหืดจริงๆ เพียงแต่เธอปิดบังไว้อย่างมิดชิด ขอแค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน ก็ไม่มีใครดูออกว่าเธอเป็นโรคนี้เพียงแต่ ปีนี้โรคหอบหืดของเธอเริ่มม
คำเตือนของฮว่าเทียนอวี่ทำให้อาวุโสฮว่าอดรู้สึกไม่ได้ว่าที่หลานชายของเขาก็พูดมีเหตุผลเหมือนกันเหมือนที่ว่ากันว่า หมอเทวดาแค่ดูสีหน้าก็รู้อาการป่วยแล้วหรือพูดอีกอย่างก็คือ มีเพียงหมอเทวดาตัวจริงเท่านั้นที่จะทำเหมือนฉู่เฉินได้ แค่มองหน้าอีกฝ่ายแวบเดียว ก็รู้อาการป่วยแม้วิชาฝังเข็มของฉู่เฉินจะยอดเยี่ยม แต่อย่างมากเขาก็แค่ได้รับการถ่ายทอดมาจากยอดฝีมืออีกทีเมื่อวงการแพทย์แผนจีนเริ่มถดถอย จากที่ฮว่าจิ่วหยางรู้มาก ทั่วทั้งประเทศจีน แทบไม่มีใครที่สามารถรู้อาการป่วยจากการดูแค่สีหน้าอย่างเดียวแล้วส่วนหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงกันอยู่ในปัจจุบัน แท้จริงแล้วห่างชั้นจากหมอเทวดาจริงๆ ตั้งไม่รู้กี่ขุมนึกมาถึงตรงนี้ ฮว่าจิ่วหยางหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์หาฟางเซิ่งเซวียน“อาวุโสฮว่า มีอะไรเหรอครับ?”น้ำเสียงนอบน้อมของฟางเซิ่งเซวียนดังมาจากปลายสายฮว่าจิ่วหยางพยักหน้าเล็กน้อย “อืม ผมแค่จะถามอะไรคุณหน่อย เมื่อกี้คนที่ขอให้ฉู่เฉินช่วยรักษาให้ เป็นแค่การแสดงที่ทางทีมงานจัดฉากขึ้นมาหรือเปล่า?”ฟางเซิ่งเซวียนรีบแก้ต่างให้ตนเองทันทีถึงเขาจะอยาก แต่เวลาอันกระชั้นชิดกลับไม่อำนวยให้เขาหลังได้ฟังคำอธิบา
ซุนเซี่ยวเหรินที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ในไลฟ์สดอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันถึงแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือด้านการแพทย์ที่โดดเด่น แต่การประกาศกร้าวต่อหน้าคนมากมายว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาทีจะไม่เป็นการอวดอ้างเกินจริงไปหน่อยเหรอ?ในเวลานี้ ในโรงพยาบาลประชาชนเจียงจงก็มีผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์หลายคนกำลังดูไลฟ์สดอยู่เหมือนกันตอนที่ฉู่เฉินประกาศว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาที ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั้งหลายต่างก็หัวเราะออกมาอย่างดูแคลน“ตาคนแซ่ฉู่คนนี้ คงอยากดังจนบ้าไปแล้วมั้ง?”“ขอแค่มีความรู้ด้านการแพทย์นิดหน่อยก็คงรู้ โรคหอบหืดเป็นโรคที่ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา แม้แต่เครื่องมือและตัวยาใหม่ที่นำเข้ามาล่าสุดยังรักษาไม่ได้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันน่ะ?”“ถ้าเขารักษาหายได้จริงๆ ฉันจะลาออกพรุ่งนี้ แล้วไปคุกเข่าคารวะเขาเป็นอาจารย์เลย!”คนแรกที่พูดอย่างนี้ คือหมอเจ้าของไข้ของสวี่ถิงถิงนั่นเอง เขารู้ดีกว่าใครอยู่แล้วว่าอาการป่วยของสวี่ถิงถิงเป็นอย่างไรตั้งแต่ที่ป่วยจนถึงตอนนี้ เป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว อีกอย่างเพราะอาชีพที่ต้องระวังเป็นพิเศษบวกกับหน้าตาที่สะสวยของสวี่ถิงถิง เธอจึงต้
ซูซูโค้งตัวเล็กน้อยให้จางเฉิงหลง เอ่ยอย่างสุภาพว่า “สวัสดีตอนเย็นค่ะ รองผู้อำนวยการจาง ฉันคือพิธีกร ซูซู” “สวัสดีตอนเย็นครับ ผมกับเพื่อนร่วมงานหลายคนของโรงพยาบาลเรากำลังดูไลฟ์สดของคุณอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เมื่อกี้คนแซ่ฉู่พูดจาอวดดีเกินไปแล้ว! ”“ผมคิดว่าผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะยังไม่ทราบว่าโรคหอบหืดนี้รักษายากแค่ไหน อันที่จริงหลัก ๆ แล้วโรคหอบหืดเกิดขึ้นจากเซลล์ของถุงลมปอดที่ตายเป็นจำนวนมาก” “พูดอีกอย่างก็คือ หากต้องการรักษาโรคหอบหืดจำเป็นจะต้องให้เซลล์ถุงลมปอดของผู้ป่วยฟื้นคืนชีพจากความตาย” เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา แม้แต่เจ้าหน้าที่ในช่องไลฟ์สดล้วนพากันสูดลมหายใจเย็นยะเยือก “เท่าที่ผมทราบมา แม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์กับยาโมเลกุลที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกก็ไม่สามารถฟื้นฟูการทำงานของ เซลล์ถุงลมปอดที่ตายไปได้ เขาเป็นแค่คุณชายเศรษฐีจะไปมีความสามารถอะไร?” เมื่อฟังเขาพูดจบ ซูซูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “พูดอีกอย่างก็คือ เมื่อเป็นโรคหอบหืดแล้ว อย่างน้อยในแง่ของการแพทย์สมัยใหม่ก็เท่ากับถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ทำได้เพียงกินยาไปตลอดชีวิต เป็นแบบนี้เหรอคะ รองผู้อำนวยการจาง?”
นี่ยังไม่จบ ในขณะที่สวี่ถิงถิงตกใจจนหน้าถอดสี ฉู่เฉินก็หยิบน้ำแร่ขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วอมน้ำคำเล็ก ๆ ไว้ในปาก จากนั้นก็ประกบปาก ค่อย ๆ ส่งน้ำแร่คำนี้ตรงเข้าไปในปากของสวี่ถิงถิงเชี่ย! ไอ้เวรนี่กำลังทำอะไรอยู่?! ซูซูที่เป็นพิธีกรสาวของช่องไลฟ์สดตกตะลึงจนตาค้างโดยสิ้นเชิง ผู้ชมสองสามล้านคนก็มองอย่างอึ้ง ๆ เช่นกัน “กลืนลงไป!”ฉู่เฉินพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ อึก! แม้ว่าสวี่ถิงถิงจะทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่เธอยังคงกลืนน้ำแร่คำนั้นลงไปในท้อง เวลานี้สมองของเธองุนงงไปหมดแล้ว! ในช่องไลฟ์สดยังมีผู้ชมสองล้านกว่าคนกำลังดูอยู่ ฉู่เฉินก็ทำตัวเหิมเกริมขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อกี้ก็ดีขึ้นมากทันทีเหมือนกัน?ส่วนในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนที่เห็นฉากนี้กลับอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ เธอเคยเห็นการรักษาแบบตบตี และก็เคยเห็นการฝังเข็มครอบแก้วเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง แต่ไม่เคยเห็นการรักษาแบบฉู่เฉินมาก่อนเลย “โคตรเชี่ย! นี่แม่งกำลังลวนลามไม่ใช่หรือไง!” “ถ้านี่รักษาโรคหอบหืดได้ งั้นยังจะมีแผนกหูตาคอจมูกปากไปอีกทำไม!” “เวรเอ๊ย ป
อย่าว่าแต่จางเฉิงหลงไม่เชื่อเลย แม้แต่ซุนเซี่ยวเหรินกับฮว่าจิ่วหยางก็รู้สึกเหมือนกำลังฝันไปพวกเขาต่างก็เป็นคนที่หมกมุ่นกับแพทย์แผนจีนมาหลายสิบปี แม้แต่พวกเขาก็ดูไม่ออกว่าฉู่เฉินใช้วิธีการรักษาแบบใดกันแน่ หลิ่วหรูเยียนยิ่งทำหน้าตะลึงงัน หรือว่าแมวตาบอดอย่างฉู่เฉินจะโชคดีเจอหนูตายอีกแล้ว? เขาแม่งโชคดีจริง ๆ! และในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วชิงเหอที่กำลังดูไลฟ์สดเช่นเดียวกันก็มีสีหน้าซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆฉู่เฉินตรงหน้านี้ยังเป็นไอ้สวะเมื่อตอนนั้นอยู่อีกหรือเปล่า? ตอนนี้เธอไม่เข้าใจฉู่เฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไลฟ์สดคืนนี้ การแสดงความสามารถที่โดดเด่นของฉู่เฉินเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มากถ้าเกิดแค่ครั้งสองครั้งอาจพูดได้ว่าฉู่เฉินเดาสุ่ม หรือไม่ก็อาศัยโชคล้วน ๆ แต่พอติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นไม่ใช่โชคแล้ว!“หรือว่าการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ของเขาจะเกี่ยวข้องกับกายาโอสถสวรรค์?” หลิ่วชิงเหอจ้องมองฉู่เฉิน จมอยู่ในห้วงความคิด..... ในช่องไลฟ์สด ผู้ชมที่ยังเยาะหยันฉู่เฉินเมื่อครู่นี้ เวลานี้พวกเขาต่างพุ่งเป้าไปที่จางเฉิงหลงกับโรงพยาบาลประชาชนแล้ว“เชี่ย โรงพ
“เพียงแต่ว่าคุณอย่าลืมเอาขี้มาด้วยละ ผมยังรอดูคุณไลฟ์สดกินขี้อยู่นะ”เมื่อได้ยินคำกล่าว จางเฉิงหลงก็อดทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธจัดไม่ได้! จนถึงตอนนี้แล้ว หมอนี่ยังปากแข็งอีก! “นายว่าไงนะ?! แน่จริงก็พูดอีกครั้งสิ!” จางเฉิงหลงหน้าเขียว โกรธจนหอบหายใจแฮก ๆ ต่อให้เขาเป็นฝ่ายแพ้จริง ๆ ก็ไม่มีทางไลฟ์สดกินขี้เด็ดขาด เขายังต้องรักษาหน้าตาอยู่โอเคไหม! การเดิมพันเมื่อกี้เป็นแค่การพูดเพราะโมโหไปชั่วขณะเท่านั้น แต่หมอนี้กลับคิดเป็นจริงเป็นจังซะอย่างนั้น? อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดฉู่เฉินเป็นฝ่ายแพ้จะต้องเอาศีรษะนี้โขกหัวขอขมา!ใครใช้ให้เขามีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชน และฉู่เฉินเป็นตัวอะไรกันล่ะ! ส่วนเรื่องความยุติธรรม?โลกนี้มีความยุติธรรมมากขนาดนั้นที่ไหนกัน! “ยังต้องให้ทวนซ้ำอีกกี่ครั้ง? หมอไร้ฝีมืออย่างพวกคุณไม่เพียงทำให้คนเสียชีวิต ขนาดความซื่อสัตย์จริงใจขั้นต่ำสุดในการเป็นมนุษย์ยังไม่มีเลยเหรอ?!” ฉู่เฉินเอ่ยเยาะหยันด้วยเสียงเย็นชา รองผู้อำนวยการบ้าอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่เฉินก็ไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขาจะต้องยื่นหน้ามาให้ฉู่เฉินตบให้ได้ ฉู่เฉินก็ขี้