เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้
“ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ”
“ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว
“นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ
“อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ”
“ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด”
“แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน
“แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์
“คุณหนูครับผมอยากถามว่า..”
“นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก
“ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู”
“ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม”
“แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ” เขาเน้นคำว่าคุณหนูให้ดังขึ้นจนเอลินอร์ชักจะโมโห
“อือ ฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะ มีงานต้องทำอีกไม่ใช่เหรอ”
“งานผมเสร็จแล้วครับ”
“อ๋อ ที่ยอมลงมากับฉันก็เพราะงานตัวเองเสร็จแล้ว ร้ายนักนะนายดิน”
“เปล่านะ คุณหนู เอ้ย! คุณแอลชวนผมลงมาเอง”
“ย่ะ ฉันชวนนายลงมาเอง” เอลินอร์พูดจบก็รีบลุกออกจากร้านทันที
ปฐพีรีบก้าวเท้าตามเข้ามาในลิฟต์เพราะขากลับต้องพาเอลินอร์ไปทำความรู้จักกับแผนกออกแบบซึ่งหญิงสาวคงต้องทำงานร่วมกับแผนกนี้บ่อยกว่าแผนกอื่นเพราะเธอถนัดเรื่องการออกแบบและเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง ผิดกับเขาที่เรียนแค่คอร์สสั้นๆ เท่านั้น
พอกลับเข้ามาในห้องเอลินอร์ก็เริ่มอ่านเอกสารต่อ ขณะที่ปฐพีก็กำลังตรวจงานที่ฝ่ายการเงินเพิ่งเอามาส่งให้ท่านประธาน เขาจะตรวจทานหนึ่งรอบก่อนที่จะส่งเอกสารทั้งหมดให้คุณเอกภพเป็นคนลงนามซึ่งเขาจะทำแบบนี้ทุกครั้ง ถ้าเจอส่วนที่ผิดก็จะได้ให้ฝ่ายที่เอามาส่งแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนส่งให้คุณเอกภพ
ระหว่างนั้นก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่จะถามเอลินอร์ตั้งแต่อยู่ในร้านกาแฟเมื่อครู่
“คุณหนูครับผมมีเรื่องจะถามหน่อยครับ”
“จะถามอะไรล่ะ ถ้าจะถามเรื่องงานก็อย่าเพิ่งถามเพราะตอนนี้ฉันกำลังมึนอยู่”
“เปล่าครับ ผมจะถามเรื่องเพื่อนคุณหนู”
“เพื่อนฉันเหรอ ทำไมนายมีปัญหาอะไรกับเพื่อนฉัน ฉันมาทำงานที่นี่กับนายก็ไม่ได้หมายความว่านายจะมายุ่งเรื่องเพื่อนของฉันได้นะ”
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ผมก็แค่จะถามว่าเขาติดต่อมาหาคุณหนูหรือเปล่าเท่านั้นเอง”
“สงสัยนายจะมีตาทิพย์นะ พวกนั้นเพิ่งจะโทรมาหาฉันเมื่อคืนหลังเขาถามถึงซองอะไรสักอย่างนี่แหละ แต่ฉันฟังไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่เพราะเขาอยู่ในผับ แต่เย็นวันศุกร์เขานัดให้ฉันออกไปเจอที่ผับ”
“คุณหนูจะไปไหมครับ”
“ไปสิ วันเสาร์ฉันหยุดเพราะฉะนั้นคืนวันศุกร์ฉันก็อยากออกไปคลายเครียดบ้าง”
“แต่ผมว่าคุณหนูอย่าไปเลยนะครับ”
“ฉันแค่ไปเที่ยว ไม่ได้ออกไปตบใครหรอกน่า ไม่ต้องห่วงไปหรอก”
“ผมไม่อยากยุ่งกับเรื่องส่วนตัวคุณหนูหรอกนะครับ แต่เพื่อนกลุ่มนี้ถ้าเลี่ยงได้ผมว่าคุณหนูเลี่ยงดีกว่า”
“ทำไมล่ะ นี่นายโกรธแทนฉันเรื่องที่เขาทิ้งฉันไว้ที่โรงพักเหรอ เรื่องนั้นฉันก็โกรธเขาเหมือนกัน ที่ไปครั้งนี้ก็คงจะเที่ยวกับเขาอีกแค่ครั้งเดียวนั่นแหละเพราะเดือนหน้าแพรวาเพื่อนรักของฉันก็จะบินกลับมาแล้ว”
“ถ้าคิดจะเลิกคบกันก็ไม่ต้องออกไปหาหรอกครับ”
“มีเหตุผลอื่นหรือเปล่าที่นายห้ามไม่ให้ฉันออกไปหาเพื่อน”
“ผมก็แค่เป็นห่วงครับ”
ปฐพีน้ำท่วมปากเพราะเขาอยากจะบอกถึงเหตุผลแต่ก็รับปากกับนทีไว้แล้วว่าเรื่องนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะผลการตรวจสารที่อยู่ในซองพบว่าเป็นยาไอซ์อย่างที่เขากับเพื่อนคิดไว้ บนซองยาก็มีลายนิ้วมือของผู้หญิงสองคนซึ่งไม่มีลายนิ้วมือขอเอลินอร์อยู่บนนั้นเลย ซึ่งก็แน่ชัดแล้วว่าเธอไม่รู้เห็นเรื่องนี้ด้วย เขาจึงไม่อยากเธอออกไปเจอกับเพื่อนอีกเพราะกลัวจะเป็นอันตราย และเพื่อนของเอลินอร์จะต้องถามถึงของที่หายไปแน่ๆ
“เอาน่า ฉันจะไม่ดื่มจนเมาจะไม่มีเรื่องกับใคร แล้วจะกลับก่อนเที่ยงคืนเหมือนเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าเลยด้วย”
“ผมไปด้วยได้ไหม”
“นายดิน มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ นายไม่ใช่พ่อฉันนะ”
“ผมก็แค่อยากไปเที่ยว ไปดื่มบ้าง ทีคุณหนูยังไปได้เลยนี่ครับทำไมผมถึงจะไปด้วยไม่ได้ล่ะ”
“นายก็ไปของนายเองสิ ส่วนฉันก็จะไปกับเพื่อนฉัน”
“ปกติคุณไปเจอเพื่อนที่ไหนล่ะ”
“นายจะตามไปหรือไง”
“เปล่า ผมก็แค่อยากรู้ไว้จะได้ไม่ไปที่เดียวกับคุณหนู”
“ก็ขอให้มันจริงเถอะ อย่าให้ฉันไปเจอนายที่นั่นก็แล้วกัน” เอลินอร์ยอมบอกชื่อผับเพราะถ้าไม่บอกก็กลัวจะไปเจอเขาที่นั่นและคิดว่าจะเที่ยวไม่สนุกอย่างแน่นอน
“คุณหนูจะไปยังไง เพื่อนมารับเหรอครับ”
“ใช่สิ”
“แล้วขากลับล่ะ”
“เขาก็มาส่งไง”
“เอางี้ไหม ไหนๆ ผมก็จะออกไปหาอะไรดื่มอยู่แล้วผมมารับคุณหนูก็ได้ เพราะผับของเพื่อนผมก็อยู่ไม่กลจากที่นั่น พอคุณหนูจะกลับก็โทรเรียกให้ผมมารับ ถ้าผมไปรับไปส่งคุณหนูที่บ้าน พ่อกับแม่คุณหนูก็คงไม่ค่อยเป็นห่วง”
“ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากจะตามคุมฉันใช่ไหม”
“เข้าใจผิดแล้วใครจะตามคุณหนูกันล่ะครับ หรือคุณหนูแอบทำอะไรผิดมาเหรอครับถึงได้กลัวว่าผมจะตาม”
“ฉันไม่ได้แอบทำอะไรผิดทั้งนั้นแหละ ก็ดีเหมือนกันนะต่อไปเวลาฉันไปเที่ยวจะได้มีคนคอยรับส่ง”
“คุณหนูบอกว่าจะไปกับพวกนี้อีกคืนเดียว”
“ถูกแล้วฉันจะไปกับเพื่อนกลุ่มนี้อีกคืนเดียวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีเพื่อนกลุ่มอื่นนี่”
“คุณหนูอายุ 24 แล้วนะครับ ผมว่าควรจะตั้งใจทำงานได้แล้ว”
“ก็ฉันกำลังตั้งใจอยู่นี่ไง นายนั่นแหละชวนคุย แล้วฉันก็จะเที่ยวแค่คืนวันเสาร์รับรองว่าไม่เสียงานหรอกน่า”
“ก็ดีครับเที่ยวแต่ยังรับผิดชอบงาน คุณหนูนั่งอ่านต่อนะครับ เลิกงานแล้วผมจะมารับกลับบ้าน”
“แล้วพ่อจะกลับพร้อมฉันไหม”
“คุณลุงออกไปธุระครับ จากนั้นก็จะกลับบ้านเลย”
“นายเป็นผู้ช่วยของพ่อทำไมไม่ไปกับท่านล่ะ”
“บางครั้งท่านก็ไม่ต้องการผู้ช่วยหรอกครับ” ปฐพีไม่กล้าบอกว่าคุณเอกภพรู้สึกไม่สบายเลยโทรศัพท์ให้ลุงสมานมารับกลับไปนอนพักที่บ้าน และตอนนี้เขาก็กำลังจะกลับไปดูว่าท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่า พอเลิกงานค่อยกลับมารับเอลินอร์อีกที
“แล้วนายจะออกไปไหน ฉันไปด้วยสิ นายบอกเองว่าฉันต้องมาเรียนรู้งานกับนายเพราะฉะนั้นนายไปไหนฉันไปด้วย”
“อย่าเลยครับลูกค้าค่อนข้างเรื่องมากและเจ้าชู้ไปหน่อย ผมว่าถ้าเจอสาวๆ สวยอย่างคุณคงจะคุยกันยาวแน่ครับ” ชายหนุ่มโกหกคำโต จะว่าไปตั้งแต่คุณหนูเอลินอร์กลับมาเมืองไทยเขาก็จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองนั้นโกหกอะไรไปบ้าง
“งั้นฉันเปลี่ยนใจแล้ว แต่นายก็อย่าคุยกับลูกค้าเพลินจนกลับมารับฉันไม่ทันนะ”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
สนามบินสุวรรณภูมิ 06.20 น. ร่างระหงของหญิงสาวผมทองคนหนึ่งกำลังเข็นรถที่มีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ทั้งหมดสี่ใบด้วยความกระฉับกระเฉง พอเห็นว่าบิดามารดามายืนรอรับก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง โดยทิ้งรถเข็นไว้ทางด้านหลังเพราะรู้ว่ายังไงลูกน้องของบิดาก็จะต้องมาช่วยเข็นอย่างแน่นอน “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่แอลคิดถึงพ่อกับแม่จังเลยค่ะ”เอลินอร์ เอกประดิษฐ์มณีหรือแอลเป็นหญิงสาววัย 24 ปี เธอไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุ 15 พอจบเกรด 12 ก็เรียนต่อปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากนั้นก็เรียนต่อการออกแบบอัญมณีอีกสองปีเพื่อจะกลับมาช่วยงานของบิดา แต่หลังจากเรียนจบก็เที่ยวกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน จนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาต้องโทรศัพท์ตามให้กลับบ้านเพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเขาก็รู้ว่าลูกสาวจะเที่ยวอีกนานแค่ไหน“เดินทางเหนื่อยไหมลูก” เสียงมารดาถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่เลยค่ะแม่ บินตรงแบบนี้แอลหลับยาวเลยค่ะ”“จะเหนื่อยก็แปลกแล้วล่ะคุณ นั่งเฟิร์สคลาสแบบนั้นแถมบังบินตรงไม่ต้องแวะที่ไหน”“ก็แอลคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่นี่คะ ก็เลยเลือกบินตรงจะได้ไม่ต้องแวะที่ไหนให้เสียเวลา” เอลินอร์รีบบอกอีกเหตุผลหนึ่งท
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้ “ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ” “ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว “นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ “อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ” “ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด” “แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน “แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์ “คุณหนูครับผมอยากถามว่า..” “นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก “ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู” “ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม” “แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ”
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง “แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ” “คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย “สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ” “นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง “มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม” “คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว “เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครั