งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน
แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว”
“ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้”
“ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น
พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นแฟนชายหนุ่มนั้นเป็นลูกสาวของเจ้านายซึ่งไม่มีทางที่คนเจียมตัวอย่างปฐพีจะคบหาด้วยเพราะขนาดบิดาของเธอไม่ได้เป็นเจ้านายของเขา ปฐพียังเคยพูดว่าเขาไม่มีอะไรเหมาะสมกับเธอเลย
“พี่ดินขา บอกเขาไปสิคะ ว่าเราเป็นแฟนกับ ถ้าพี่ดินไม่บอกคืนนี้แอลจะให้พี่ดินนอนคนเดียวนะคะ” ปากก็พูดหวานแต่หญิงสาวก็แอบใช้มือหยิบไปที่สีข้างของปฐพีอย่างแรงเพื่อบังคับให้เขาพูดออกมา
“ก็อย่างที่เอบอกล่ะครับคุณพลอย เราเป็นแฟนกัน”
“น่าเสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ พลอยรอพี่ดินได้เสมอ พี่ดินเบื่อเมื่อไหร่ก็มาหาพลอยได้ตลอดนะคะ พลอยยังพักอยู่ที่เดิม”
ปฐพีได้แต่ยิ้มรับ เขากำลังคิดว่าผู้หญิงสองคนนี้ช่างจะหาเรื่องมาเกทับกันชนิดที่เรียกได้ว่าคนอื่นมาได้ยินคงคิดกันไปไกล
“ฉันคิดว่าพี่ดินคงไม่มีทางเบื่อฉันแล้วไปหาสาวแก่อย่างเธอหรอกนะ”
“นี่เธอ มาว่าฉันแก่ได้ยังไง”
“ก็แล้วมันจริงไหมล่ะ ดูก็รู้ว่าโบท็อกมาเยอะแค่ไหน”
“จะบ้าเหรอฉันไม่เคยฉีดย่ะ”
“เดี๋ยวนี้สาวแก่เขาก็ฉีดกันทั้งนั้น ไม่ต้องอายหรอกค่ะ”
“กรี๊ดดดดด นังเด็กเมื่อวานซืนมาว่าฉันแก่ได้ยังไง”
“อ๊ะ ไหนว่าตัวเองไม่แก่แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันเป็นเด็กล่ะ สับสันนะเราน่ะ เอาเวลาไปมาตามผู้ชายไปเช็กสมองบ้างนะ”
“พอเถอะครับคุณหนู เรากลับกันเถอะนะครับ” ปฐพีก้มลงกระซิบเพราะตอนนี้เริ่มมีสายตาหลายคู่มองมาทางพวกเขาเพราะเสียงกรี๊ดของพลอยลดา
“ไปก่อนนะคะป้าพลอย” เอลินอร์ยกมือขึ้นกระดิกปลายนิ้วพร้อมกับส่งสายตายั่วโมโหไปให้
“บังอาจมากที่มาเรียกฉันว่าป้า อย่างนี้มันต้องตบสั่งสอน”
พลอยลดาพุ่งเข้าไปหาเอลินอร์พลางเงื้อมือจะตบไปบนใบของเธอด้วยความโมโห แต่ปฐพีก็ดึงเธอหลบเสียก่อนอีกฝ่ายจึงเสียหลักและหล่นลงไปในสระน้ำของทางโรงแรมท่ามกลางเสียงกรี๊ดด้วยความตกใจของพลอยลดาและแขกคนอื่นที่มาร่วมงาน
“ขอบใจจะนายดิน” เอลินอร์เองก็ตกใจที่เธอพุ่งตรงมาแบบนั้น ถ้าปฐพีไม่ดึงเธอไว้คนที่หล่อนลงไปในสระอาจจะเป็นเธอก็ได้ใครจะไปรู้
“กลับเถอะครับ”
เอลินอร์เดินตามชายหนุ่มอย่างว่าง่าย แต่ระหว่างที่จะเดินกลับออกมาจากบริเวณสระน้ำเธอก็โดนเพื่อนคนหนึ่งของพลอยลดาเดินตามและใช่ไหล่กระแทกจนหญิงสาวตกลงไปในสระโดยที่ปฐพีดึงมือไว้ไม่ทัน
หญิงสาวไม่ได้โวยวายหรือกรีดร้องอย่างที่พลอยลดาทำแต่เอลินอร์ลุกขึ้นจากสระที่มีความสูงเพียงแค่ช่วงอก แล้วร้องไห้และนั่นก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสงสารและเห็นใจที่เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำถึงสองครั้ง
“คุณหนูยื่นมือมาครับ” ปฐพีส่งมือให้เธอแล้วดึงขึ้นมาจากบันได เขาถอดสูทของตัวเองคลุมให้เธอก่อนที่พนักงานโรงแรมจะรีบวิ่งเอาผ้าเช็ดตัวมาให้
“ขอบคุณครับ” ปฐพีกล่าวขอบคุณแล้วจากนั้นเขาก็พาเธอออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
“ผมขอโทษที่ดึงคุณไว้ไม่ทัน”
“ไม่เป็นไรหรอก เล่นน้ำกลางคืนก็เย็นดีเหมือนกัน” เอลินอร์พูดไปปากก็สั่นไปเพราะชุดที่เธอสวมนั้นเป็นชุดราตรีสีครีมเนื้อผ้าบางซึ่งตอนนี้มันเปียกและแนบไปกับลำตัวจนเห็นสัดส่วนชัดเจน
“ผมว่าคลุมผ้าเช็ดตัวเพิ่มดีกว่านะ” ปฐพีส่งผ้าเช็ดตัวให้เธออีกผืนเพราะตอนนี้หญิงสาวใช้แต่สูทของเขาคลุมไหล่ไว้เท่านั้น
“ไม่เป็นไร คลุมเยอะฉันเดินไม่ถนัดเดี๋ยวก็ถึงห้องแล้ว”
เมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์ปฐพีก็อดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
“นอกจากหนาวแล้วคุณหนูเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บสิ เจ็บมากด้วย”
“คุณหนูเจ็บตรงไหน เดินไหวหรือเปล่าให้ผมอุ้มไหมครับ” เขาถามอย่างร้อนใจ
“นายเป็นห่วงฉันเหรอ”
“ครับ คุณหนูรีบบอกมาเถอะว่าเจ็บตรงไหน ถ้าไม่อยากไปหาหมอเดี๋ยวผมไปขอกล่องปฐมพยาบาลมาให้ก็ได้ครับ”
“ฉันเจ็บที่ใจน่ะ นายช่วยฉันได้ไหมล่ะ”
“เดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่านะครับผมว่าคุณหนูรีบไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีกว่านะครับ”
พอเดินมาถึงห้องพักเอลินอร์ก็เดินเข้าห้องของปฐพีแล้วก่อนจะเดินทะลุไปยังห้องของตนเองที่อยู่ติดกัน
“รีบอาบน้ำนะครับเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“นายสัญญาก่อนว่าจะไม่หนีออกจากห้องไปโอ๋แม่พลอยลดาอะไรนั้น”
“ผมจะไปโอ๋เธอทำไม่ละครับ เธอไม่ได้เป็นไรกับผมสักหน่อย”
“เธอชอบนาย และเธอบอกว่าให้นายไปหาที่ห้องเดิม มันหมายความว่ายังไง นายกับเธอเคยนอนด้วยกันเหรอ”
“ผมไม่เคยนอนกับเธอสักครั้ง ไม่รู้ว่าเธอพักที่ไหนเธอก็แค่อยากจะยั่วโมโหคุณหนูเท่านั้นเอง”
“ฉันว่าเธอต้องชอบนายมากแน่ๆ ถึงได้กล้าพูดให้ตัวเองเสียหายแบบนั้น”
“คุณหนูก็คงชอบผมมากแน่ ถึงได้พูดให้ตัวเองเสียหายแบบนั้นใช่ไหมครับ”
“อย่ามามั่วนะนายดินใครจะไปชอบนายกันล่ะ พูดไม่คิด”
“ขอโทษครับ ผมคิดแล้วถึงพูด แต่ก็เอาเถอะ ผมมันก็แค่เด็กในบ้านที่พ่อคุณหนูเลี้ยงดูมา คุณหนูจะมาชอบคนต่ำต้อยอย่างผมได้ยังไงกัน” ปฐพีพูดเสียงเบาเรียกคะแนนสงสารทั้งที่นัยน์ตาเป็นประกายเมื่อเห็นท่าทางของเอลินอร์ที่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย”
“คุณหนูจะคิดก็ไม่ผิดหรอกครับ คุณหนูจะมาชอบนายดินผู้ต่ำต้อยอย่างผมได้ยังไงกันล่ะครับ”
“นายน้อยใจเหรอ”
“ผมไม่มีสิทธิ์น้อยใจด้วยซ้ำ”
“ทำไม่นายถึงคิดมากอย่างนี้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายต่ำต้อยทุกคนก็เท่าเทียมกัน ไม่มีใครสูงหรือต่ำกว่าใคร”
“ขอบคุณนะครับ ที่พูดให้ผมสบายใจขึ้น”
“ฉันไม่ได้พูดให้นายสบายใจ แต่ฉันพูดจริงๆ”
“คุณหนูพูดจริงทุกเรื่องใช่ไหมครับ”
“ใช่สิ นายก็รู้ว่าฉันคนจริงพูดจริงทำจริง”
“แล้วที่คุณหนูบอกว่าเป็นแฟนผมล่ะ เรื่องจริงด้วยไหม”
“จะบ้าเหรอใครจะเป็นแฟนนายกัน”
“เห็นไหมล่ะ คุณหนูก็รังเกียจผมอยู่ดีนั่นแหละ”
“อย่ามาดึงดราม่านะนายดิน คนเราจู่ๆ จะมาเป็นแฟนกันได้ยังไง มันต้องค่อยๆ คบหากัน ค่อยๆ ศึกษานิสัยใจคอกัน”
“แล้วคุณหนูจะลองคบกับผมไหมล่ะ”
“ฉันหนาวขอไปอาบน้ำก่อนนะ”
เอลินอร์กลับห้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็อาบน้ำและเตรียมจะเข้านอน พรุ่งนี้เขาคิดว่าจะพาคุณหนูไปทานอาหารเช้าที่ร้านขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ตหลังจากนั้นก็จะพาเธอขับรถเที่ยวให้ทั่วเมืองเพราะหลังจากกลับไปครั้งนี้ทั้งเธอและเขาคงจะต้องช่วยกันทำงานอย่างหนัก เนื่องจากกำหนดการผ่าตัดของคุณเอกภพเลื่อนเข้ามาเร็วกว่าเดิมสองสัปดาห์ เขาล้มตัวลงนอนและกำลังจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงกรีดดังมาจากห้องของเอลินอร์ ชายหนุ่มลุกจากเตียงแล้ววิ่งตรงไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว “คุณหนูครับ เป็นอะไรหรือเปล่า คุณหนูอยู่ไหนครับ” ปฐพีถามอย่างห่วงใยเพราะตอนนี้เขามองไม่เห็นว่าเธออยู่ เนื่องจากทั้งห้องมีเพียงแสงจากจอทีวีเท่านั้น “นายดินฉันอยู่นี่ นายช่วยปิดทีวีก่อนได้ไหม” เสียงนั้นดังมาจากหน้าห้องน้ำซึ่งตอนนี้เอลินอร์นั่งอยู่บนพื้น ปฐพีปิดทีวีตามที่เธอบอกจากนั้นก็เดินไปดึงเธอให้ลุกขึ้นแล้วพากลับมานั่งบนเตียง “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่า” “ฉันแค่ตกใจน่ะ” “ก็รู้ว่าตัวเองกลัวผีแล้วจะเปิดหนังผีดูทำไมล่ะครับ” เพราะก่อนจะปิดทีวีเขาเห็นว่าเธอเปิดหนังผีไว้ “ฉั
ระหว่างที่เอลินอร์ยังคงหอบเหนื่อยเพราะความสุขที่ชายหนุ่มมอบให้ ปฐพีก็รีบจัดการตัวเองแล้วขึ้นคร่อมทับอีกครั้งอย่างรวดเร็ว“คุณหนูจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม”“นายกำลังทำให้ฉันกลัวนะ”เอลินอร์ชักไม่ค่อยมั่นใจเพราะดูท่าทางแล้วครั้งนี้ปฐพีคงไม่ยอมให้จบลงเหมือนครั้งก่อน“อยู่กับผมคุณหนูจะกลัวอะไร เชื่อใจผมนะ”คำปลอบโยนของชายหนุ่มทำให้เอลินอร์ใจชื้นในเมื่อเขาบอกว่าจะมีแค่เธอคนเดียวและเธอก็มีใจให้เขาเพราะฉะนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว“ฉันเชื่อใจนาย”ปฐพีได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะจูบลงมาอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบหลอมละลาย จูบจนพอใจก็ใช้ปากร้อนสัมผัสกับความอวบอิ่มดูดดุนอย่างกระหาย อีกมือก็บีบแรงจนขึ้นรอยแดงความต้องการของเขามากล้นจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ ทรวงอกอิ่มทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยแดงจากการดูดดุนของริมฝีปากร้อน เขาจับขาเธอให้กว้างขึ้นแล้วถูกไถความเป็นชายที่ห่อหุ้มด้วยถุงบางใสไปยังกลางกายสาว เมื่อส่วนปลายเข้าไปได้เพียงนิดเขาก็ต้องกัดกรามแน่นเพราะรู้สึกถึงความคับแน่นที่มันบีบรัดจนเขาไม่อาจจะฝ่าเข้าไปได้“ดิน แอลเจ็บ”น้ำตาไหลรินออกมาจนเขารู้สึกสงสาร แต่ก็ทำได้แต่เพียงปลอบประโลมเธ
“พี่ดิน เราต้องกลับแล้วจริงเหรอคะ” “ครับ พรุ่งนี้เราต้องกลับไปทำงานแล้ว หนูแอลยังต้องออกแบบเครื่องประดับอีกตั้งหลายชิ้นนะครับ” “เรื่องนั้นสบายมาก ตอนนี้แอลออกแบบไว้ในหัวหมดแล้วรับรองว่าพี่ดินเห็นแล้วต้องทึ่งแน่นอนค่ะ” “แล้วทำไมถึงไม่อยากกลับล่ะครับ” “แอลกลัวว่าเรื่องของเรามันจะจบเพียงแค่นี้” “ไม่หรอกครับ ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่ๆ แต่อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้หนูแอลรอได้ไหม” “ถ้าบอกพ่อแล้วจะถูกห้ามไม่ให้คบกันแอลขอไม่บอกดีกว่า” “ยังไงก็ต้องบอกครับแต่ต้องหลังจากที่หนูแอลต้องพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าคุณหนูโตแล้ว” “พิสูจน์ยังไงล่ะคะ” “คุณต้องทำให้ท่านเห็นครับว่าสามารถทำงานแทนท่านได้ และเป็นผู้ใหญ่พอจากนั้นก็ค่อยบอกเรื่องของเรา” “แต่งานมันยาก แอลไม่ค่อยเข้าใจเลย” “ที่ไม่เข้าใจก็เพราะไม่ได้ตั้งใจจริงนี่ครับ ผมว่าคนเก่งๆ อย่างหนูแอลถ้าตั้งใจขึ้นมาจริงๆ ก็ทำได้ ผมจะคอยอยู่ข้างๆ หนูแอลถ้าไม่เข้าใจก็ถามผมได้ตลอด” “สัญญาได้ไหมล่ะ ว่าจะอยู่ข้างกันตลอดช่วยแอลดูแลบริษัทแทนคุณ
“แอลครับหน้าพี่มีอะไรติดอยู่หรือเปล่า” เพราะตั้งแต่เช้ามาจนเกือบสิบโมงเอลินอร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเข้านับครั้งไม่ถ้วน “เปล่าค่ะ แอลแค่คิดว่าทำไม่แต่แต่ก่อนแอลไม่เคยเห็นความหล่อของพี่ดินเลย” “แล้วตอนนี้ล่ะครับ” ปฐพีวางเอกสารในมือแล้วเดินมายังโต๊ะทำงานของหญิงสาว เขากอดอกและพิงสะโพกกับโต๊ะอย่างผ่อนคลาย “ตอนนี้พี่ดินของแอลหล่อที่สุดเลยค่ะ” “พี่ดินของแอลคำนี้ฟังเข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ สงสัยว่าเย็นนี้คงต้องพาไปหาอะไรอร่อยๆ ทานก่อนกลับบ้านแล้วล่ะ” ปฐพีอยากพาเธอไปทานอาหารกันตามลำพังเพราะตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตเขายังไม่เคยได้อยู่กันตามลำพังกับเธอเลย แต่ช่วงนี้คุณเอกภพและคุณแอนเดรียไม่อยู่เขาคงจะได้ใกล้ชิดกับคนรักมากขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ เย็นนี้แอลให้ลุงสมานมารับแล้วค่ะ” เอลินอร์เงยหน้าขึ้นมายิ้ม “เหรอครับพี่นึกว่าแอลจะกลับพร้อมพี่” “แอลรบกวนพี่มาหลายวันแล้วค่ะ วันนี้ลุงสมานไม่ต้องรอรับคุณพ่อแอลก็เลยให้มารับแอลแทนค่ะ” เอลินอร์พูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อเหมือนไม่ได้สนใจคนตัวโตที่ยืนงงเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ หญิงสาวถึงได้ท
ปฐพีอุ้มคนรักเข้ามายังห้องนอนซึ่งไม่เคยเปิดต้อนรับใครมาก่อน เขาวงเธอลงเตียงก่อนจะคร่อมเหนือร่าง แล้วริมฝีปากหนาก็กดจูบมาที่ริมอิ่มอย่างโหยหา ลิ้นร้อนสอดเข้ามาลิ้มรสความหวานในโพรงปาก เนิ่นนานจนเอลินอร์ต้องดันแผงอกให้ถอยเพราะเธอกำลังจะขาดอากาศ ปฐพีถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง มือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างปลุกเร้าอารมณ์พิศวาสในกายเธอให้ลุกโชน“พี่ดินอย่าใจร้อน แอลไม่หนีไปไหนหรอกนะคะ”“ก็พี่คิดถึงนี่ครับ”เขาโน้มใบหน้าลงมามอบจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนจนเอลินอร์แทบหลอมละลาย ฝ่ามือร้อนลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ก่อนจะหยุดที่หน้าอกอิ่ม มือใหญ่ดึงชุดนอนของเธอออกแล้วปลดตะขอทางด้านหลังโดยที่หญิงสาวก็ให้ความร่วมมือย่างเต็มที่เธอปล่อยใจไปกับสิ่งที่เขากำลังจะมอบให้“หนูแอลของพี่สวยมาก”ปฐพีก้มลงกระซิบข้างหูเธอเบาๆ ก่อนจะก้มลงขบเม้มริมฝีปากอิ่ม ฝ่ามือร้อนเคล้นคลึงไปยังเต้างามอย่างหลงใหล“อื้อ”เอลินอร์ครางในลำคอเมื่อเขาครอบครองเม็ดทับทิมสีสวยของเธออย่างหิวกระหาย หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาริมฝีปากร้อน มือเล็กกดท้ายทอยให้ใบหน้าเขาแนบชิดไปกับสองเต้าปฏิกิริยาที่ร่างกายเธอแดงออกทำเอาชายหนุ่มแทบคลั่ง ปฐพีขบเม้มและดู
ผลการผ่าตัดของคุณเอกภพเป็นที่น่าพอใจมาก ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี หลังจากหายดีแล้วเขาก็เลยมีโอกาสได้ท่องเที่ยวกับแอนเดรียก่อนกลับและบังเอิญได้เจอกับเพื่อนเก่าซึ่งมาทำธุระที่นี่ ตอนนี้เลยพากันมานั่งดื่มชายามบ่ายที่ร้านแห่งหนึ่ง “อยู่เมืองไทยไม่เคยได้เจอกันเลยนะครับพ่อเลี้ยง” “นั้นสิครับคุณเอก เราไม่ได้เจอกันนานมาก คุณไม่ค่อยขึ้นไปเที่ยวทางเหนือเลย” “ที่ผ่านมาผมงานยุ่ง แต่ตอนนี้ก็สบายแล้วครับยกกิจการให้พวกเขาไปดูแลกันแล้ว” “ดีจังนะครับ ผมเองก็กำลังจะปล่อยให้เขามาทำอย่างเต็มตัวเหมือนกัน” “ปีนี่อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ลุงไม่ได้เจอหลายปี โตเป็นหนุ่มแล้ว นี่ถ้าไปเจอที่อื่นลุงก็คงจะจำไม่ได้” “30 แล้วครับคุณลุง” ฐากูรชายหนุ่มใบหน้าหล่อแบบชายไทยตอบเพื่อนของบิดา “แล้วนี่แต่งงานมีครอบครัวหรือยังล่ะ” “อย่าถามเลยคุณเอก เจ้าไม้มันเรื่องมากครับ เจอใครก็บอกไม่ถูกใจสักที นี่ผมก็กำลังมองหาสาวๆ ให้มันอยู่เหมือนกัน อยากให้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาเสียที แต่หาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอคนที่มันถูกใจ” “แหมก็ล
บ่ายวันอาทิตย์ปฐพีนั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่บนโซฟากลางห้อง ตอนนี้เอลินอร์ย้ายกลับไปอยู่ทีบ้านของตัวเองได้หลายวันแล้ว ช่วงเวลาที่มีความสุขมันผ่านไปเร็วจนเขาใจหาย เขาไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรักจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหนแต่เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองกับเอลินอร์ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแม้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาก็ตาม ใบหน้าหล่อยิ่งเครียดกว่าเดิมเมื่อเอลินอร์โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่าเย็นนี้เพื่อนของบิดาจะมาทานอาหารเย็นที่บ้านพร้อมกับจะแนะนำให้เธอได้รู้จักกับลูกชายของเขา “พี่ดินมาบ้านแอลได้ไหมคะ แอลว่าคงไม่ใช่แค่กินข้าวธรรมดาแน่ๆ เลยค่ะ แม่กำชับกับแอลตั้งหลายครั้งว่าให้แอลแต่งตัวสวยๆ” “แอลของพี่ใส่ชุดอะไรก็สวยครับ แต่สวยที่สุดก็ตอนที่ไม่ใส่อะไรเลย” “พี่ดินทะลึ่งใหญ่แล้วเดี๋ยวใครก็มาได้ยินหรอกค่ะ” “ไม่มีใครได้ยินหรอกครับ พี่อยู่คนเดียวแอลก็รู้นี่” “พี่ดินขา มากินข้าวบ้านแอลนะคะ แอลอยากเจอพี่ดิน” เอลินอร์อ้อนอีกรอบเธอหวังว่าเขาจะยอมใจอ่อน “มันคงไม่ดีเท่าไหร่เพราะวันนี้ที่บ้านแอลมีแขก อยู่ดีๆ พี่โผล่ไปพี่กลัวว่าคุณลุงกับ
วางสายจากคนรักแล้วก็มานั่งเครียดอย่างเดิมเพราะถ้าเป็นอย่างที่เอลินอร์พูดเขาก็คงจะตกที่นั่งลำบากเพราะเพื่อนคุณเอกภพที่เอลินอร์พูดถึงนั้นเขารู้จักดีว่าเป็นใครและมีหน้ามีตาในสังคมมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับตนเองแล้วมันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว ชายหนุ่มทบทวนตัวเองอีกครั้ง สถานะระหว่างเขากับคุณหนูช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน ที่ผ่านมาเขาเอาอารมณ์เป็นใหญ่จึงมองข้ามเรื่องนี้ไปอย่างไม่น่าให้อภัย ลำพังแค่เงินเดือนของเขาทั้งเดือนมันก็ยังซื้อกระเป๋ายี่ห้อที่คุณหนูชอบใช้ได้แค่ครึ่งใบเท่านั้น ความรักที่เขามีให้เธอมันมากก็จริงแต่ชีวิตคนเราไม่ได้หล่อเลี้ยงด้วยความรักเพียงอย่างเดียว จากที่ไม่เคยคิดจะขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นมารดาที่เพิ่งได้มีโอกาสเจอกันเมื่อครั้งที่เขาไปเรียนต่อที่อังกฤษ ปฐพีก็เริ่มลังเล ถ้าเขาไปทำงานกับมารดาที่นั่น บางทีก็อาจจะมีโอกาสเติบโตขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เขาลังเลว่าจะโทรหามารดาดีหรือเปล่าเพราะเคยปฏิเสธเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่มารดาของเขาก็โทรเข้ามาก่อน เสียงสะอื้นไห้ของเธอดังขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มกดรับสาย “แม่ครับ ร้องไห้ทำไม ใค
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย
หลังจากเข้ามาดูโรงแรมที่เกาะสมุยแล้ว ปฐพีก็ส่งรายงานทั้งหมดกลับไปให้วิลเลียมพร้อมกับหมายเหตุตอนท้ายไปด้วยว่าเขารู้สึกสนใจโรงแรมที่ส่งเขามาดู แต่ราคาไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะโรงแรมที่นี่จะรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ตลอด เพราะถ้าเป็นช่วงมรสุมเข้านักท่องเที่ยวก็จะไม่นิยมกัน ต่างจากโรงแรมที่ภูเก็ตซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีวิลเลียมเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เรื่องซื้อโรงแรมจึงชะลอไว้ก่อน แล้วค่อยกลับปรึกษากันอีกที่ว่าอาจจะเปลี่ยนเป็นการร่วมทุน หรืออาจจะเป็นแค่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพียงเท่านั้นพรุ่งนี้เขาก็จะต้องพาเอลินอร์กลับกรุงเทพแล้ว หลังจากทานอาหารค่ำแล้วปฐพีจึงพาเธอมาเดินเล่นที่ชายหาดส่วนตัวหน้าที่พักซึ่งบริเวณนี้มีแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้นทั้งสองเดินทอดน่องไปตามชายหาดปฐพีโอบเอวบางเดินไปเรื่อยๆ ลมทะเลพัดปะทะใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย“แอลยังไม่อยากกลับเลยค่ะ” เพราะรู้ว่าหลังจากเขาส่งเธอแล้วก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกนาน“พี่ก็เหมือนกันครับ อยากหยุดเวลาไว้แบบนี้จัง” ชายหนุ่มก็รู้สึกใจหายที่ครั้งนี้เขาจะจากเธอไปนานกว่าครั้งไหน“เราหนีไปกันสองคนดีไหมคะ”“ถ้าทำแบบนั้นได้ก็ดี
พอทุกคนออกไปแล้วคุณเอกภพก็ถอนหายใจก่อนจะถามปฐพีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เรื่องที่คบกัน มันเป็นเรื่องจริง หรือพูดเพื่อช่วยยัยแอลกันแน่ ดินบอกลุงมาตามตรง” “เรื่องจริงครับลุง” “คบกันมานานแค่ไหนแล้ว คิดจะคบเล่นฆ่าเวลาหรือจริงจัง ดินบอกป้ามา” คุณแอนเดรียกดดันอีกทาง เพราะนึกไม่ออกว่าทั้งสองคนจะไปชอบกันตอนไหน “ผมขอโทษนะครับคุณลุง คุณป้า ที่กินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา แต่ผมรักหนูแอลจริงๆ นะครับ” ปฐพียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างสำนึกผิด “แอลละลูก จริงจังกับพี่เขาไหม หรือตั้งใจจะแกล้งเขา” เธอหันมาถามลูกสาว “แม่คะแอลโตแล้วนะคะ แอลจะทำแบบนั้นไปทำไม เรื่องนี้แอลจริงจังมาก ถ้าไม่คิดจริงจังแอลจะสารภาพกับแม่ทำไมล่ะคะ จริงๆ จะแอบคบกันไปเรื่อยๆ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดินอยากสารภาพตั้งนานแล้วค่ะ แต่แอลห้ามไว้เองค่ะ” “เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิทั้งลูกทั้งหลาน ทำเอาคนแก่เกือบจะโดนพ่อเลี้ยงถอนหงอกแล้วไหมล่ะ แล้วมาสารภาพเอาวันนี้ด้วยเลือกวันได้ดีจริงๆ นะ” “เขาจะถนอนหงอกคุณแม่ได้ยังไงคะ ในเมื่อคุณแม่ยังไม่มีหงอกเลยสักเ
“พี่ดิน แอลกลัวค่ะ เราหนีไปด้วยกันเลยดีไหมคะ” “ไม่ต้องกลัวครับ พี่ว่าคุณลุงคุณป้าจะต้องยอมให้เราคบกันเพราะท่านรักหนูแอลมาก” “พี่สัญญาได้ไหมคะ ถ้าแม่ห้าม พี่จะไม่ยอมแพ้” “ครับพี่จะไม่ยอมเสียแอลให้กับใครทั้งนั้น” ปฐพีกับเอลินอร์มาถึงห้องอาหารกึ่งห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เขากล่าวทักทายคุณเอกภพและคุณแอนเดรีย ก่อนจะหันไปสวัสดีแขกอีกสองท่าน “ดิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “หลายวันแล้วครับคุณลุง ผมขอโทษด้วยนะครับที่กลับมาแล้วไม่รีบไปหาพอดีต้องจัดการธุระให้ลุงวิลล์น่ะครับก็” “แล้วรู้ได้ยังไงว่าเรามาเที่ยว ยัยแอลบอกเหรอ” “หนูแอลบอกครับ แล้วบังเอิญว่าผมก็ต้องทำธุระที่นี่เหมือนกัน”“เอาล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วกินข้าวด้วยกันเลย เดี๋ยวลุงจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนของลุงนะ” คุณเอกภพแนะนำให้ปฐพีได้รู้จักกับพ่อเลี้ยงมงคลและลูกชาย เขาบอกทั้งสองเหมือนกับบอกคนอื่นว่าปฐพีเป็นหลานชาย ปฐพีกล่าวทักทายทักสองคนอย่างนอบน้อม “เด็กคนนี้ที่คุณส่งเรียนจนจบใช่ไหมครับ โตขึ้นมากเลย แล้วตอนนี้ทำงานอะไร