“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง
“แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ”
“คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย
“สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ”
“นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง
“มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม”
“คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ”
“ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว
“เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครับ ก็เลยต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ลูกน้องเขาจะได้มั่นใจว่าคุณหนูมีความสามารถและรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัทจริง ไม่ใช่ได้ตำแหน่งรองประธานมาเพราะเป็นลูกสาวของคุณเอกภพ”
“แต่ฉันไม่อยากได้ตำแหน่งนั้น นายรับไปสิ พ่อรักนายจะตาย เอาไหมฉันจะบอกพ่อให้”
“ผมไม่ใช่สายเลือดของท่านครับ ที่ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านส่งให้ผมเรียนจนจบ ถ้าคุณหนูไม่ชอบบริษัทนี้ คุณหนูจะเปลี่ยนกับคุณอลันก็ได้นะครับ”
“จะบ้าเหรอเรื่องพวกนั้นไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลยสักนิด ขืนฉันไปทำงานบริษัทคุณพ่อคงได้เจ๊งกันพอดี” เพราะอลันพี่ชายของเธอนั้นดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเรื่องพวกนั้นเอลินอร์ไม่เข้าใจเลย
“ผมรู้ว่าคุณหนูชอบออกแบบและผลงานของคุณหนูที่ส่งทางมหาวิทยาลัยก็ดีทุกชิ้น เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าคุณอ่านพวกนั้นได้ครึ่งหนึ่งแล้วมาสรุปให้ผมฟัง ผมจะให้คุณพักสมองด้วยการออกแบบดีไหม”
“จริงเหรอ” หญิงสาวมีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มกว้างมาทางชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย ที่คนมองแล้วรู้สึกหัวใจวูบไหว แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้เพราะเธอคือลูกสาวของผู้มีพระคุณ
“จริงสิ เรากำลังอยากได้เครื่องประดับสำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ราคาไม่สูงมาก เอาแบบที่ทุกคนจับต้องได้ แต่จะเน้นขายเป็นจำนวนเยอะ ผมว่าคุณคงทำได้ไม่ยากจริงไหมครับ”
“แน่นอน เอาล่ะนายอย่ากวนฉันนะ ฉันจะตั้งใจอ่าน”
“ตามสบายเลยครับ” ปฐพีถึงกับโล่งใจที่เธอยอมอ่านเอกสารพวกนั้น
ตลอดทั้งช่วงเช้าเอลินอร์ให้ความสนใจกับการศึกษาข้อมูลของบริษัทมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวถามข้อมูลที่ไม่เข้าใจกับเขาเป็นระยะซึ่งเขาก็ตอบคำถามของเธอด้วยความเต็มใจจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน
“กลางวันนี้คุณหนูจะทานอาหารกับท่านประธานไหมครับ ผมจะได้บอกคุณแขไขจัดเพิ่มให้”
“แล้วนายไปกินกับคุณพ่อด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ปกติผมจะออกไปทานที่ร้านข้างๆ บริษัทหรือไม่ก็ฝากคุณแขซื้อมาแล้วไปทานที่ห้องพักเบรก”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณพ่อ งั้นฉันไปกินกับนายได้ไหมกินเสร็จจะได้รีบกลับมาทำงาน”
“คุณหนูหิวหรือยังครับ”
“ยังไม่หิวเลย นายล่ะ”
“ปกติแล้วผมจะลงไปเวลาเที่ยงครึ่งเพราะคนอื่นเริ่มจะทานกันอิ่มแล้วจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าคุณหิวก็ไปเที่ยงตรงก็ได้ อยากจะทานอะไรร้านไหนคุณเลือกมาเลยจะได้โทรสั่งไว้ก่อน”
ปฐพีส่งรายชื่อร้านอาหารและเมนูอาหารที่แขไขเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่องานให้กับเอลินอร์เป็นคนเลือก
“ฉันอยากกินขนมจีน ไม่ได้กินนานแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยงก็กลัวคนเยอะ ร้านมันอยู่ไกลมากไหม ฉันกลัวกลับมาไม่ทันบ่ายโมง” เพราะอ่านระเบียบของพนักงานไปแล้วเอลินอร์จึงรู้ว่าที่นี่ทุกคนต้องเข้างานตรงเวลาถึงแม้จะเป็นลูกสาวท่านประธานแต่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกก็ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเส้น
“ถ้าเราออกไปทานตอนเที่ยงครึ่งก็เข้างานบ่ายโมงครึ่งครับ ทุกคนมีเวลาพักเท่ากัน”
“งั้นฉันไปกินขนมจีนนะ นายโทรสั่งให้ได้ไหม ฉันสั่งไม่ถูก เอาน้ำยาที่มันสีส้มๆ อ้อ ถ้าเขามีแกงเขียวหวานก็เอาด้วย”
“ครับ”
13.05 น.
“นายนี่ท่าทางจะแฟนคลับเยอะไม่เบาเลยนะ เดินไปไหนก็มีแต่คนทักทาย” เพราะตั้งแต่ร้านอาหารจนเดินกลับเขามาก็มีแต่คนทักทายปฐพีจนเอลินอร์รู้สึกหมั่นไส้
“เขาก็ทักทายตามมารยาท ผมทำงานที่นี่มานานก็ต้องรู้จักคนเยอะเป็นธรรมดาครับ ถ้าคุณหนูทำงานที่นี่ไปอีกสักพักก็จะมีคนรู้จักเยอะแบบผมนี่แหละครับ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก”
“ทำไมฉันจะต้องไปรู้จักพวกเขาด้วยละ” เอลินอร์พูดอย่างถือตัว
“ที่มหาวิทยาลัยเขาไม่สอนเรื่องการบริหารคนเหรอครับแต่ผมว่ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงขนาดนั้นคงไม่พลาดกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นที่คุณหนูไม่ตั้งใจเรียนมากกว่า”
“นี่นายดิน พอเลยนะ หยุดว่าฉันได้แล้ว ฉันรู้หรอกน่าจะต้องวางตัวยังไง ฉันก็แค่ลองพูดแบบเมื่อกี้ดู ฉันจะได้รู้ด้วยไงว่านายน่ะ เข้าใจเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน” เอลินอร์แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
“ครับ” ปฐพีไม่เถียงต่อเพราะมีงานต้องทำ ตลอดบ่ายห้องก็เลยอยู่ในความสงบเงียบจนกระทั่งคุณแขไขเอากาแฟและของว่างเข้ามาให้
“คุณเอลินอร์คะ แขไม่รู้ว่าคุณทานกาแฟแบบไหนก็เลยชงเป็นกาแฟดำมาให้ก่อน ส่วนครีมกับน้ำตาลคุณเติมเองนะคะ แล้วครั้งหน้าแขจะทำตามที่คุณชอบทานค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณแขเรียกแอลก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงก็ได้ ปกติแล้วตอนบ่ายแอลชอบคาปูชิโน่คะหวานน้อยค่ะ แอลไม่ชอบกาแฟร้อน”“เดี๋ยวแขให้เด็กไปซื้อให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณแข เดี๋ยวผมจัดการเอง” ปฐพีรีบบอกด้วยความเกรงใจ เขารู้ว่าแขไขนั้นมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้วจึงไม่อยากจะรบกวนเธอ
“ค่ะ งั้นแขไปนะคะถ้ามีอะไรคุณแอลเรียกแขได้ตลอดเลยนะคะ” แขไขพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไป
“ฉันเอาคาปูชิโน่หวานน้อยนะนายดิน” เอลินอร์รีบบอกเพราะคิดว่าเขาจะเป็นคนไปซื้อให้
“บอกผมทำไมครับคุณหนู”
“ก็นายบอกคุณแขว่าจะจัดการเอง”
“ผมหมายถึงให้คุณลงไปซื้อเอง แค่ชั้นล่างตึกนี่เอง”
“นานดิน นายแกล้งฉันอีกแล้วนะ”
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไมครับ คุณแขเขาก็มีงานของเขา คุณจะใช้เขาไปซื้อกาแฟได้ยังไง”
“เขาใช้ลูกน้องเขาอีกที่ก็ได้ หรือให้แม่บ้านไปซื้อก็ได้”
“ทุกคนมีงานครับถ้าคุณอยากกินกาแฟก็ลงไปซื้อเอง”
“นายดิน นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” เมื่อโหมดวีนไม่ได้ผลเอลินอร์ก็เปลี่ยนมาพูดดีๆ
“ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณก็ได้ แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรอีก ทำไม่อยู่กับนายนี่ข้อแม้ถึงเยอะจัง”
“ก็ระหว่างทางเราต้องผ่านหลายแผนกเพราะฉะนั้นผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักทั้งขาไปแล้วขากลับคุณหนูยอมไหมล่ะครับ”
“ไหนว่าจะไปพรุ่งนี้ไง”
“งั้นคุณหนูก็ค่อยกินกาแฟพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าทำงานต่อ
“ไปก็ได้ นายนี่มันเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินเลย” เอลินอร์หน้าบูดบึ้งขณะที่เดินตามปฐพีออกมาจากห้องทำงาน แต่พอเจอกับคนอื่นเธอก็ยิ้มแย้มทักทายอย่างเต็มใจ กว่าจะมาถึงร้านกาแฟหญิงสาวก็ต้องฉีกยิ้มจนเมื่อยหน้า
“นายจะกินอะไรสั่งสิ ฉันเลี้ยง”
“ผมกินกาแฟดำไปแล้ว ขืนกินกับคุณอีกคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกันพอดี”
“งั้นกินเค้กไหม ฉันว่าน่ากินดีนะ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่ค่อยชอบกินของหวาน”
“อย่ามามั่วพี่อลันบอกฉันว่าเค้กที่ฉันหัดทำนายกินคนเดียว”
“ก็นั้นมันเป็นเค้กที่คุณหนูทำ”
“มันจะต่างกันยังไงนี่ก็เค้กเหมือนกัน”
“ต่างกันที่คนทำไงครับ ถ้าเค้กที่คุณหนูทำแล้วผมกินไม่หมด ผมก็ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง”
ปฐพีรู้ฤทธิ์เดชของเอลินอร์เป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเธอปิดเทอมแล้วกลับมาที่บ้านและบังเอิญว่าเขาก็ปิดเทอมจึงกลับมาที่บ้าน หญิงสาวกำลังทำขนมอะไรสักอย่างแล้วยื่นให้เขาชิม แต่เขาไม่รับเพราะตอนนั้นมือเปื้อนอยู่ คุณหนูเอลินอร์ก็เลยเอาขนมนั้นขว้างใส่หน้าเขาจนเละไม่มีชิ้นดี
“นายกลัวฉันเอาเค้กป้ายหน้านายเหรอ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
“เพราะอะไรล่ะครับ”
“เพราะฉันเข้าหอชายไม่ได้ยังไงล่ะ”
พูดจบเอลินอร์ก็หัวเราะเพราะนึกภาพชายหนุ่มที่มีครีมสีขาวอยู่เต็มหน้าแล้วเธอก็อดขำไม่ได้
“ผมนั่งรอตรงนู้นนะ คุณหนูสั่งเสร็จก็ตามมา”
“อือ ไปนั้นรอก่อนเลย”
พอปฐพีไปนั่งรอแล้วหญิงสาวก็สั่งกาแฟของตนเองกับเค้ก และคุกกี้กับนมชมพูเพราะอยากจะแกล้งให้เขาอายคนอื่นที่กินเครื่องดื่มสีหวานขัดกับหน้าตา
เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้ “ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ” “ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว “นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ “อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ” “ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด” “แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน “แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์ “คุณหนูครับผมอยากถามว่า..” “นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก “ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู” “ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม” “แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย
หลังจากเข้ามาดูโรงแรมที่เกาะสมุยแล้ว ปฐพีก็ส่งรายงานทั้งหมดกลับไปให้วิลเลียมพร้อมกับหมายเหตุตอนท้ายไปด้วยว่าเขารู้สึกสนใจโรงแรมที่ส่งเขามาดู แต่ราคาไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะโรงแรมที่นี่จะรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ตลอด เพราะถ้าเป็นช่วงมรสุมเข้านักท่องเที่ยวก็จะไม่นิยมกัน ต่างจากโรงแรมที่ภูเก็ตซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีวิลเลียมเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เรื่องซื้อโรงแรมจึงชะลอไว้ก่อน แล้วค่อยกลับปรึกษากันอีกที่ว่าอาจจะเปลี่ยนเป็นการร่วมทุน หรืออาจจะเป็นแค่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพียงเท่านั้นพรุ่งนี้เขาก็จะต้องพาเอลินอร์กลับกรุงเทพแล้ว หลังจากทานอาหารค่ำแล้วปฐพีจึงพาเธอมาเดินเล่นที่ชายหาดส่วนตัวหน้าที่พักซึ่งบริเวณนี้มีแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้นทั้งสองเดินทอดน่องไปตามชายหาดปฐพีโอบเอวบางเดินไปเรื่อยๆ ลมทะเลพัดปะทะใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย“แอลยังไม่อยากกลับเลยค่ะ” เพราะรู้ว่าหลังจากเขาส่งเธอแล้วก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกนาน“พี่ก็เหมือนกันครับ อยากหยุดเวลาไว้แบบนี้จัง” ชายหนุ่มก็รู้สึกใจหายที่ครั้งนี้เขาจะจากเธอไปนานกว่าครั้งไหน“เราหนีไปกันสองคนดีไหมคะ”“ถ้าทำแบบนั้นได้ก็ดี
พอทุกคนออกไปแล้วคุณเอกภพก็ถอนหายใจก่อนจะถามปฐพีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เรื่องที่คบกัน มันเป็นเรื่องจริง หรือพูดเพื่อช่วยยัยแอลกันแน่ ดินบอกลุงมาตามตรง” “เรื่องจริงครับลุง” “คบกันมานานแค่ไหนแล้ว คิดจะคบเล่นฆ่าเวลาหรือจริงจัง ดินบอกป้ามา” คุณแอนเดรียกดดันอีกทาง เพราะนึกไม่ออกว่าทั้งสองคนจะไปชอบกันตอนไหน “ผมขอโทษนะครับคุณลุง คุณป้า ที่กินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา แต่ผมรักหนูแอลจริงๆ นะครับ” ปฐพียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างสำนึกผิด “แอลละลูก จริงจังกับพี่เขาไหม หรือตั้งใจจะแกล้งเขา” เธอหันมาถามลูกสาว “แม่คะแอลโตแล้วนะคะ แอลจะทำแบบนั้นไปทำไม เรื่องนี้แอลจริงจังมาก ถ้าไม่คิดจริงจังแอลจะสารภาพกับแม่ทำไมล่ะคะ จริงๆ จะแอบคบกันไปเรื่อยๆ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดินอยากสารภาพตั้งนานแล้วค่ะ แต่แอลห้ามไว้เองค่ะ” “เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิทั้งลูกทั้งหลาน ทำเอาคนแก่เกือบจะโดนพ่อเลี้ยงถอนหงอกแล้วไหมล่ะ แล้วมาสารภาพเอาวันนี้ด้วยเลือกวันได้ดีจริงๆ นะ” “เขาจะถนอนหงอกคุณแม่ได้ยังไงคะ ในเมื่อคุณแม่ยังไม่มีหงอกเลยสักเ
“พี่ดิน แอลกลัวค่ะ เราหนีไปด้วยกันเลยดีไหมคะ” “ไม่ต้องกลัวครับ พี่ว่าคุณลุงคุณป้าจะต้องยอมให้เราคบกันเพราะท่านรักหนูแอลมาก” “พี่สัญญาได้ไหมคะ ถ้าแม่ห้าม พี่จะไม่ยอมแพ้” “ครับพี่จะไม่ยอมเสียแอลให้กับใครทั้งนั้น” ปฐพีกับเอลินอร์มาถึงห้องอาหารกึ่งห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เขากล่าวทักทายคุณเอกภพและคุณแอนเดรีย ก่อนจะหันไปสวัสดีแขกอีกสองท่าน “ดิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “หลายวันแล้วครับคุณลุง ผมขอโทษด้วยนะครับที่กลับมาแล้วไม่รีบไปหาพอดีต้องจัดการธุระให้ลุงวิลล์น่ะครับก็” “แล้วรู้ได้ยังไงว่าเรามาเที่ยว ยัยแอลบอกเหรอ” “หนูแอลบอกครับ แล้วบังเอิญว่าผมก็ต้องทำธุระที่นี่เหมือนกัน”“เอาล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วกินข้าวด้วยกันเลย เดี๋ยวลุงจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนของลุงนะ” คุณเอกภพแนะนำให้ปฐพีได้รู้จักกับพ่อเลี้ยงมงคลและลูกชาย เขาบอกทั้งสองเหมือนกับบอกคนอื่นว่าปฐพีเป็นหลานชาย ปฐพีกล่าวทักทายทักสองคนอย่างนอบน้อม “เด็กคนนี้ที่คุณส่งเรียนจนจบใช่ไหมครับ โตขึ้นมากเลย แล้วตอนนี้ทำงานอะไร