ปฐพีมาที่บ้านเอกประดิษฐ์มณีตั้งแต่เพื่อเอากระเป๋ามาคืนเอลินอร์แต่เจ้าของกระเป๋าคงจะยังไม่รู้ตัวว่าลืมไว้บนรถเขา
“อ้าว ดินมากินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
“ครับคุณลง”
“ได้ยินว่าเมื่อคืนไปเที่ยวเจอกับยัยแอลเหรอถึงได้พามาส่งบ้าน” เอกภพรู้จากภรรยาเมื่อเช้าว่าคนที่มาส่งลูกสาวของตนถึงในบ้านนั้นคือปฐพี
“ครับคุณลุง”
“ลูกลุงไปทำอะไรให้ดินเดือดร้อนหรือเปล่า”
“เปล่าครับเธอก็แค่เที่ยวตามประสาวัยรุ่นครับ”
“ยังไงลุงก็ฝากด้วยนะ ตอนนี้อลันก็มีครอบครัวไปแล้วเหลือแต่ดินนี่แหละที่พอจะช่วยลุงดูแลเธอได้”
ถึงแม้ลูกสาวของตนเองจะอายุ 24 ปีแล้วแต่ในสายตาขอผู้เป็นบิดาก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่
“ครับคุณลุง แล้ววันนี้คุณหนูจะไม่ลงมาทานอาหารเช้ากับเราเหรอครับ”
“เช้าขนาดนี่ยัยแอลยังไม่ตื่นหรอกจ้ะดิน” คนที่ตอบคำถามของชายหนุ่มก็คือคุณแอนเดรียที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านหลังใหญ่
“ครับ”
“ดินมีอะไรกับยัยแอลหรือเปล่า”
“พอดีคุณหนูลืมกระเป๋าถือไว้ในรถ ผมเลยจะเอามาคืนเธอครับคุณป้า”
“ขอบใจจ้ะ ดินฝากไว้ที่ป้าก่อนก็ได้นะ ถ้ารอให้ยัยแอลก็คงบ่ายนู่นแหละกว่าจะตื่น”
“ครับ”
“ยังไงวันนี้คุณก็ดูลูกหน่อยนะ พรุ่งนี้จะต้องไปทำงานตั้งแต่เช้า ถ้าคืนนี้อย่าให้เขาออกไปเที่ยว” เอกภพสั่งภรรยาเพราะเขาคงจะรอให้ลูกสาวตื่นไม่ไหว
“ค่ะ เดียวฉันจะบอกยัยแอลให้ แต่ตอนนี้เรารีบทานข้าวกันเถอะ คุณกับดินจะได้รีบไปทำงาน” แอนเดรียไม่อยากให้สามีต้องอารมณ์ขุ่นมัวเพราะลูกสาวก่อนไปทำงาน
“วันนี้ดินขับรถให้คุณเอกได้ไหม พอดีตอนบ่ายป้าจะให้ลุงสมานช่วยขับรถให้หน่อย”
“ได้ครับ ตอนเย็นคุณป้าไม่ต้องให้ลุงสมานไปรับนะครับ เดี๋ยวผมมาส่งคุณลุงเอง”
ขอบใจมากนะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ก็ทานข้าวที่นี่เลยละกันนะ”
“ขอบคุณครับ” เพราะอยากจะเจอเอลินอร์อีกสักครั้งเขาเลยรับปากอย่างง่ายดาย
20.00 น. บ้านเอกประดิษฐ์มณี
“คุณหนูตรวจของในกระเป๋าหรือยังครับว่าของครบไหม”
“ทำไม นายแอบขโมยอะไรออกไปจากกระเป๋าฉันเหรอ”
“เปล่าครับ ผมก็แค่อยากให้คุณหนูตรวจดูให้ดีก่อนว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า เกินคุณหนูมาโวยวายทีหลังผมจะซวยเอานะครับ”
พอเขาพูดจบเอลินอร์ก็เปิดกระเป๋าถือแล้วเทข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะ การกระทำของเธอไม่เหมือนกันคนที่ซ่อนอะไรไว้ในนั้นเลยสักนิด
“ครบไหมครับ”
“ก็ไม่มีอะไรหายนี่ กระเป๋าตัง แป้ง ลิปสติก กระดาษซับมันโทรศัพท์ก็มีแค่นี้ เดี๋ยวนะฉันของเช็กดูก่อนว่านายใช้ลิปสติกของฉันไปหรือเปล่า”
“แอล” คุณเอกภพทำเสียงดุทำให้เอลินอร์ต้องชะงักมือจากนั้นก็เก็บของทุกอย่างลงกระเป๋าอย่างเดิม
“ถ้าของทุกอย่างครบ งั้นผมก็ขอตัวกลับก่อน ผมลานะครับคุณลุงคุณป้า” ชายหนุ่มกล่าวลาก่อนจะยกมือไหว้
“เดี๋ยวสินายดิน”
“ครับ”
“พรุ่งนี้ฉันจะขับรถให้คุณพ่อเองนายไม่ต้องมารับนะ”
“ได้ครับคุณหนู”
“แอล หนูยังขับไม่ค่อยคุ้นกับเส้นทางเลยนะ” แอนเดียเป็นห่วงลูกสาว
“แม่คะ ถ้าไม่ให้แอลขับตอนนี้แล้วเมื่อไหร่แอลจะขับรถไปทำงานเองได้ล่ะคะ”
“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณลุงกับคุณหนูไปทำงานก่อน ผมจะบอกทางให้คุณหนูเองทั้งทางตรงและทางลัดในช่วงเวลาเร่งด่วน อาทิตย์หน้าคุณหนูค่อยขับไปทำงานเอง” ปฐพีเสนอเพราะถ้าให้เธอขับรถไปทำงานก็คงได้ถึงบริษัทไม่ทันเวลาเข้างานอย่างแน่นอน
“ตกลงตามนั้นจ้ะดิน ป้าขอบใจมากนะ”
เอลินอร์ยอมรับโดยที่ไม่ได้โต้แย้งอะไรเพราะเธอก็ไม่ชำนาญเท่าไหร่อย่างที่เขาพูดจริงๆ
ปฐพีออกจากบ้านหลังใหญ่ แต่เขาไม่ได้กลับที่คอนโดของตนเองเพราะมีเรื่องที่ต้องจัดการเกี่ยวกับซองที่เขาเจอในกระเป๋าของเอลินอร์เมื่อคืน
ชายหนุ่มขับรถมาหาเพื่อนที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของตนเองมากนัก
“เท่าที่ดูด้วยตาก็น่าจะใช่อย่างที่นายคิดนั่นแหละ น้ำหนักรวมก็คงประมาณ 3 กรัม จำคุกสี่ปีถึงตลอดชีวิตเลยนะ นายไปเอาของพวกนี้มาจากไหน”
“ฉันเจอมันในกระเป๋าคนรู้จัก”
“แล้วนายเอาของเขามาแบบนี้เขายอมเหรอ”
“เหมือนเจ้าของกระเป๋าจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีของพวกนี้อยู่”
“เขาจะไม่รู้ได้ยังไง เขาแกล้งไม่รู้หรือเปล่าว่าของหายไป”
“ฉันแน่ใจว่าเธอไม่รู้”
“ผู้หญิงเหรอ”
“อือ”
“แฟนนายเหรอ”
“ไม่ใช่แฟน นายจำน้องสาวอลันได้ไหมล่ะ
“จำได้ว่าอลันมีน้องสาว แต่ไม่เคยเจอ อย่าบอกนะว่าเอามาจากนะเป๋าของเธอ”
“อือ”
ปฐพีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่โรงพักและเรื่องที่เขาเจอซองพวกนี้ในกระเป๋าของเอลินอร์รวมถึงปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกตอนเขาถามถึงของในกระเป๋าให้กับเพื่อนรักที่ตอนนี้เป็นถึงรองผู้กำกับสถานีตำรวจที่เข้าไปประกันตัวเอลินอร์เมื่อคืน
“นายยังไม่จับด้วยมือเปล่าใช่ไหม”
“อือ”
“งั้นฉันว่าลองตรวจหาลายนิ้วมือก่อน ตัวอย่างลายนิ้วมือของเธอกับเพื่อนอยู่ในระบบอยู่แล้วก็คงไม่ยาก”
“แล้วจากนั้นจะเป็นยังไงต่อ” ถึงแม้จะมั่นใจว่าเอลินอร์ไม่รู้เห็นเรื่องนี้แต่ถ้าเกิดเขาคิดผิดขึ้นมาก็กลัวจะกระทบกับสุขภาพของคุณเอกภพ
“ถ้ารู้ว่าใครเป็นเจ้าของซองยาก็อาจจะเชิญตัวมาสอบสวน หาแหล่งที่ซื้อหรือบางครั้งก็อาจจะต้องตามสืบต่อเพราะคนพวกนี้ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็คงไม่ยอมรับง่ายๆ”
“ถ้าลายมีลายนิ้วมือคุณหนูบนซองยานั่น นายบอกฉันก่อนได้ไหม ฉันอยากจะคุยกับเธอเอง”
“มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น แต่ฉันเห็นแก่นายที่เป็นเพื่อนกันมานาน ฉันจะบอกนายก่อน แต่นายอย่าทำอะไรไปมากกว่าการถามเธอเข้าใจใช่ไหม”
“อือ ฉันไม่ทำให้นายเสียงานหรอกน่า”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ นายก็อย่าเพิ่งเครียดไปล่ะ”
“ขอบใจมากนที ฉันกลับล่ะ แล้วจะรอฝั่งข่าวจากนายนะ”
“โชคดีเพื่อน”
ปฐพีขับรถออกจากบ้านของนทีแล้วตรงไปยังคอนโดของตนเอง เขาหลับตาและนึกย้อนไปถึงภาพเมื่อตอนหัวค่ำ ดูยังไงเอลินอร์ก็ไม่มีพิรุธเลย คงเพราะเธอไม่รู้เรื่องของในกระเป๋า แล้วถ้าคนที่เอามาใส่จะเป็นเพื่อนที่เธอออกไปดื่มด้วยมันก็น่าเป็นห่วงเพราะพวกนั้นคงจะต้องตามมาเอาของคืนและถ้าเธอไม่มีของคืนให้เขาก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง
ระหว่างนี้ปฐพีคิดว่าจะต้องตามประกบเอลินอร์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เธอออกเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก ในใจของเขาตอนนี้แอบภาวนาว่าซองยาเหล่านั้นจะไม่มีลายนิ้วมือของคุณหนูอยู่บนนั้น เพราะถ้ามีเรื่องมันคงไม่จบง่ายอย่างแน่นอน
“เฮ้อ ปวดหัวชะมัด” ปฐพีถอนหายใจก่อนจะข่มตานอนในเวลาเกือบตีหนึ่ง
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง “แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ” “คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย “สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ” “นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง “มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม” “คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว “เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครั
เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้ “ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ” “ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว “นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ “อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ” “ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด” “แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน “แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์ “คุณหนูครับผมอยากถามว่า..” “นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก “ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู” “ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม” “แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้ “ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ” “ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว “นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ “อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ” “ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด” “แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน “แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์ “คุณหนูครับผมอยากถามว่า..” “นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก “ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู” “ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม” “แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ”
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง “แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ” “คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย “สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ” “นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง “มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม” “คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว “เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครั