ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง
“นายดิน”
“คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด
“ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง
“แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ
“ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ”
“บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ”
“พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ แล้วเมื่อกี้ใครกันที่จะถอดชุดผม จะปล้ำผม”
“หยุดพูดนะนายดิน”
“ผมพูดเรื่องจริง หรือที่คุณหนูกำลังหงุดหงิดใส่ผมแบบนี้เพราะเรื่องเมื่อกี้หรือเปล่า เพราะไม่ยอมนอนกับคุณหรือเปล่าล่ะครับคุณหนู” พูดจบปฐพีก็วิ่งเข้าไปยังห้องแต่งตัวโดยมีเสียงของเอลินอร์กรี๊ดตามหลัง ชายหนุ่มรอจนเธอหยุดกรีดก็กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“ขอบใจนะนายดิน” หญิงสาวพูดกับปฐพีเมื่อเขาเดินกลับออกจากห้องแต่งตัวและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
“คุณหนูขอบใจผมเรื่องไรครับ”
“ก็ทุกเรื่อง”
“แล้วทุกเรื่องนี้มันเรื่องอะไรบ้างล่ะครับ”
“ก็เรื่องยา เรื่องที่นายไปพาฉันมาจากผับและก็เรื่องเมื่อกี้”
“เรื่องเมื่อกี้ คือเรื่องที่ผมช่วยคุณหนู หรือเรื่องที่ผมไม่ทำอะไรคุณหนูล่ะครับ”
“ก็ทั้งสองเรื่องนั่นแหละ นายจะถามให้ฉันอายใช่ไหม”
“เปล่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย เอาละ ดึกแล้วคุณหนูรีบนอนเถอะครับ ผมง่วงมากแล้ว” ปฐพีพูดจบก็เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับเอลินอร์
“นายจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“นอนเถอะครับคุณหนู ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ถ้าผมจะทำก็ทำตั้งแต่ตอนที่คุณหนูขอร้องผมเมื่อกี้แล้วละครับ” ปฐพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจนเอลินอร์ยอมนอนร่วมเตียงกับเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนร่วมเตียงกับคนอื่น ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยให้ใครนอนร่วมเตียงเลยยกเว้นมารดาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“นายดินฉันนอนไม่หลับ ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ” ปฐพีขยับเข้ามาใกล้และดึงหญิงสาวให้นอนไปบนหน้าอกของเขา
“ฉันนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่เจอนาย ฉันจะเป็นยังไงบ้าง พวกมันคงไม่ปล่อยฉันไว้แน่”
“เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดครับ ผมสัญญาว่าดูแลคุณหนู จะไม่ให้คุณหนูเจอเรื่องแบบนั้นแน่นอน”
“นายจะช่วยฉันทุกครั้งใช่ไหม”
“ครับ ผมจะช่วยคุณหนู จะอยู่ข้างคุณหนู แต่คุณหนูก็ต้องดูแลตัวเองด้วย และก็ห้ามออกไปเจอพวกเขาอีกเด็ดขาด”
“ฉันไม่กล้าไปเจอเข้าอีกแล้ว แต่ถ้าเขามาหาฉันล่ะ เขารู้ว่าบ้านฉันอยู่ไหน เขารู้ว่าฉันเป็นใคร”
“ถึงเขาจะรู้แต่เขาจะทำอะไรคุณหนูไม่ได้หรอกครับ”
“นายแน่ใจนะว่าจะอยู่ข้างฉันตลอด” เอลินอร์นึกถึงผู้ชายที่อยู่กับเพื่อนของตนเองแล้วก็ขนลุกขึ้นมาทันที
“แน่ใจสิ นอนนะครับพรุ่งนี้จะได้รีบกลับบ้านแต่เช้า”
เพราะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเอลินอร์เลยหลับลงอย่างง่ายดาย กว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็ตอนที่ได้ยินเสียงของปฐพีเหมือนเขากำลังคุยกับใครอยู่นอกห้อง
หญิงสาวรีบลุกจากที่อนแล้ววิ่งออกไปดูแต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน
“นายดิน เมื่อกี้นายคุยกับใครเหรอ”
“ผมให้แม่บ้านเอาชุดไปซักให้ คุณรอก่อนนะไม่นานหรอกซักแล้วก็อบเลย”
“ชุดของฉันเหรอ ทั้งหมดเลยเหรอ”
“ครับทั้งหมดเลย” ปฐพีมองคนที่สวมเชิ้ตยาวคลุมเข่าแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าภายใต้ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
“อย่ามองฉันแบบนั้น”
“แบบไหน” เขาขยับเข้าใกล้จนหญิงสาวถอยไปทีละนิดจนชนกับประตูห้องนอน
“นายจะทำอะไรฉัน” เอลินอร์หายใจติดขัดเพราะเขาเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมที่จำได้ดีว่าเป็นคนซื้อมาฝาก
“ผมไม่ทำอะไรคุณหนูหรอกครับ แค่จะถามว่าคุณหนูหิวไหม”
“ฉันยังไม่หิว”
“แต่ผมหิวแล้ว ผมทำอาหารเช้าไว้เผื่อคุณหนูแล้ว จะไม่กินหน่อยเหรอครับ” ปฐพีก้มใบหน้าต่ำลงหน้าผากของเขาชนกับหน้าผมของเธอย่างพอดี
เอลินอร์ยืนนิ่ง แทบกะกลั้นหายใจเพราะมันใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าคุณหนูยืนตัวเกร็งใบหน้าแดงซ่านปฐพีก็หัวเราะในลำคอก่อนจะจับมือเธอให้เดินตามเขามาที่โต๊ะทานอาหาร
“นายทำเองเหรอ”
“ครับ น่ากินไหม”
“น่ากินมาก ฉันไม่ได้กินอาหารเช้าแบบนี้เลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย” เอลินอร์มองไส้กรอกไข่ดาวและแฮมที่อยู่ในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อาย เธอชินกับอาหารเช้าแบบนี้มากกว่าการทานข้าว ซึ่งที่บ้านของเธอไม่มีใครทานแบบนี้สักคน
“คุณหนูอยากกินทำไมไม่ให้ป้านวลให้ทำให้ล่ะครับ”
“ป้านวลทำเป็นที่ไหนล่ะ แกถนัดแต่อาหารไทยเท่านั้น”
“จริงสิ เอางี้ไหม วันไหนอยากกินก็บอกผมจะทำให้”
“ปกตินายทำกินคนเดียวแบบนี้เหรอ”
“ก็ทำบ้าง บางครั้งก็ออกไปกินข้าวต้มหน้าปากซอยหรือบางครั้งก็ไปทานกับคุณลุงคุณป้าที่บ้านคุณ”
“คุณสนิทกับคุณพ่อและคุณแม่มากกว่าฉันอีกนะ”
“ก็ผมอยู่เมืองไทยนี่ครับ”
“แล้วนายไปบ้านฉันบ่อยๆ แฟนนายไม่ว่าเหรอ”
“ไม่ครับ”
“ดีจังนะ ถ้าเป็นฉันคงโวยวายแน่ที่แฟนของตัวเองไม่มีเวลาให้”
“ก็ผมยังไม่มีแฟนนี่ครับ”
“นี่นายอายุเท่าไหร่แล้วทำไมยังไม่มีแฟนอีก ดูอย่างพี่อลันสิ เขาแต่งงานแล้วชีวิตเขาดูแฮปปี้ดีออก”
“จะมีหรือมีมันก็ไม่เกี่ยวกับอายุนี่ครับคุณหนู ผมว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดี ”
“แล้วอย่างนี้ถ้านายแก่ไปใครจะดูแลนายล่ะ”
“ก็คุณหนูไงครับ”
“เรื่องอะไรฉันจะต้องดูแลนายตอนแก่ละ”
“อ้าว ก็เมื่อคืนคุณหนูขอให้ผมอยู่ข้างคุณหนูเองนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามที่พูด”
“มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่รู้หล่ะครับ ผมถือว่าคุณหนูพูดแล้ว และถ้าคุณหนูคิดจะผิดคำพูด ผมก็ไม่กล้ารับปากว่าเรื่องเมื่อคืนจะมีคนอื่นรู้เพิ่มไหม”
“นายแบล็กเมลฉันใช่ไหมนายดิน”
“เปล่าครับผมก็แค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เอง”
“ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับนายเลย ให้ตายสิ”
“อย่าเพิ่งคิดมากครับ รีบกินเถอะนะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะหาว่าผมทำไม่อร่อยนะครับ”
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันเงียบๆ ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของหญิงสาว นอกจากปฐพีจะช่วยเหลือเธอแล้วเขายังปกป้องและไม่คิดจะฉวยโอกาสซึ่งมันทำให้สายตาที่มองเขาเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว
ปฐพีเองก็แอบมองคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง เรื่องเมื่อคนเขาก็มีส่วนผิดเพราะถ้าเขาไม่เอาของในกระเป๋าไปบางทีเธอก็อาจจะไม่โดนเพื่อนหักหลังแบบนั้น แต่เพราะกลัวว่าเธอจะติดร่างแหไปด้วยจึงไม่ได้บอกเธอก่อนว่าของในนั้นเป็นอะไร
“ผมขอโทษนะครับคุณหนู”
“นายขอโทษฉันเรื่องอะไร อย่าบอกนนะว่านายบอกแม่ฉันเรื่องเมื่อคืนแล้ว”
“เปล่าครับ ที่ผมขอโทษก็เพราะถ้าผมไม่เอาของในกระเป่าไป พวกนั้นก็คงไม่เล่นสกปรก”
“แต่ฉันอาจจะโดนตำรวจจับ นายว่าอย่างไหนมันน่ากลัวกว่ากัน”
“ก็แย่ทั้งสองอย่าง”
“นั่นสิ นายไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่โกรธนะ แต่ถ้าพูดเรื่องเดิมขึ้นมาอีกฉันอาจจะโกรธนายก็ได้” เอลินอร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะรู้ว่าเขาทำทุกอย่างก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของเธอ
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
เอลินอร์กลับห้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็อาบน้ำและเตรียมจะเข้านอน พรุ่งนี้เขาคิดว่าจะพาคุณหนูไปทานอาหารเช้าที่ร้านขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ตหลังจากนั้นก็จะพาเธอขับรถเที่ยวให้ทั่วเมืองเพราะหลังจากกลับไปครั้งนี้ทั้งเธอและเขาคงจะต้องช่วยกันทำงานอย่างหนัก เนื่องจากกำหนดการผ่าตัดของคุณเอกภพเลื่อนเข้ามาเร็วกว่าเดิมสองสัปดาห์ เขาล้มตัวลงนอนและกำลังจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงกรีดดังมาจากห้องของเอลินอร์ ชายหนุ่มลุกจากเตียงแล้ววิ่งตรงไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว “คุณหนูครับ เป็นอะไรหรือเปล่า คุณหนูอยู่ไหนครับ” ปฐพีถามอย่างห่วงใยเพราะตอนนี้เขามองไม่เห็นว่าเธออยู่ เนื่องจากทั้งห้องมีเพียงแสงจากจอทีวีเท่านั้น “นายดินฉันอยู่นี่ นายช่วยปิดทีวีก่อนได้ไหม” เสียงนั้นดังมาจากหน้าห้องน้ำซึ่งตอนนี้เอลินอร์นั่งอยู่บนพื้น ปฐพีปิดทีวีตามที่เธอบอกจากนั้นก็เดินไปดึงเธอให้ลุกขึ้นแล้วพากลับมานั่งบนเตียง “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่า” “ฉันแค่ตกใจน่ะ” “ก็รู้ว่าตัวเองกลัวผีแล้วจะเปิดหนังผีดูทำไมล่ะครับ” เพราะก่อนจะปิดทีวีเขาเห็นว่าเธอเปิดหนังผีไว้ “ฉั
ระหว่างที่เอลินอร์ยังคงหอบเหนื่อยเพราะความสุขที่ชายหนุ่มมอบให้ ปฐพีก็รีบจัดการตัวเองแล้วขึ้นคร่อมทับอีกครั้งอย่างรวดเร็ว“คุณหนูจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม”“นายกำลังทำให้ฉันกลัวนะ”เอลินอร์ชักไม่ค่อยมั่นใจเพราะดูท่าทางแล้วครั้งนี้ปฐพีคงไม่ยอมให้จบลงเหมือนครั้งก่อน“อยู่กับผมคุณหนูจะกลัวอะไร เชื่อใจผมนะ”คำปลอบโยนของชายหนุ่มทำให้เอลินอร์ใจชื้นในเมื่อเขาบอกว่าจะมีแค่เธอคนเดียวและเธอก็มีใจให้เขาเพราะฉะนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว“ฉันเชื่อใจนาย”ปฐพีได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มก่อนจะจูบลงมาอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบหลอมละลาย จูบจนพอใจก็ใช้ปากร้อนสัมผัสกับความอวบอิ่มดูดดุนอย่างกระหาย อีกมือก็บีบแรงจนขึ้นรอยแดงความต้องการของเขามากล้นจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ ทรวงอกอิ่มทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยแดงจากการดูดดุนของริมฝีปากร้อน เขาจับขาเธอให้กว้างขึ้นแล้วถูกไถความเป็นชายที่ห่อหุ้มด้วยถุงบางใสไปยังกลางกายสาว เมื่อส่วนปลายเข้าไปได้เพียงนิดเขาก็ต้องกัดกรามแน่นเพราะรู้สึกถึงความคับแน่นที่มันบีบรัดจนเขาไม่อาจจะฝ่าเข้าไปได้“ดิน แอลเจ็บ”น้ำตาไหลรินออกมาจนเขารู้สึกสงสาร แต่ก็ทำได้แต่เพียงปลอบประโลมเธ
“พี่ดิน เราต้องกลับแล้วจริงเหรอคะ” “ครับ พรุ่งนี้เราต้องกลับไปทำงานแล้ว หนูแอลยังต้องออกแบบเครื่องประดับอีกตั้งหลายชิ้นนะครับ” “เรื่องนั้นสบายมาก ตอนนี้แอลออกแบบไว้ในหัวหมดแล้วรับรองว่าพี่ดินเห็นแล้วต้องทึ่งแน่นอนค่ะ” “แล้วทำไมถึงไม่อยากกลับล่ะครับ” “แอลกลัวว่าเรื่องของเรามันจะจบเพียงแค่นี้” “ไม่หรอกครับ ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่ๆ แต่อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้หนูแอลรอได้ไหม” “ถ้าบอกพ่อแล้วจะถูกห้ามไม่ให้คบกันแอลขอไม่บอกดีกว่า” “ยังไงก็ต้องบอกครับแต่ต้องหลังจากที่หนูแอลต้องพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าคุณหนูโตแล้ว” “พิสูจน์ยังไงล่ะคะ” “คุณต้องทำให้ท่านเห็นครับว่าสามารถทำงานแทนท่านได้ และเป็นผู้ใหญ่พอจากนั้นก็ค่อยบอกเรื่องของเรา” “แต่งานมันยาก แอลไม่ค่อยเข้าใจเลย” “ที่ไม่เข้าใจก็เพราะไม่ได้ตั้งใจจริงนี่ครับ ผมว่าคนเก่งๆ อย่างหนูแอลถ้าตั้งใจขึ้นมาจริงๆ ก็ทำได้ ผมจะคอยอยู่ข้างๆ หนูแอลถ้าไม่เข้าใจก็ถามผมได้ตลอด” “สัญญาได้ไหมล่ะ ว่าจะอยู่ข้างกันตลอดช่วยแอลดูแลบริษัทแทนคุณ
“แอลครับหน้าพี่มีอะไรติดอยู่หรือเปล่า” เพราะตั้งแต่เช้ามาจนเกือบสิบโมงเอลินอร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเข้านับครั้งไม่ถ้วน “เปล่าค่ะ แอลแค่คิดว่าทำไม่แต่แต่ก่อนแอลไม่เคยเห็นความหล่อของพี่ดินเลย” “แล้วตอนนี้ล่ะครับ” ปฐพีวางเอกสารในมือแล้วเดินมายังโต๊ะทำงานของหญิงสาว เขากอดอกและพิงสะโพกกับโต๊ะอย่างผ่อนคลาย “ตอนนี้พี่ดินของแอลหล่อที่สุดเลยค่ะ” “พี่ดินของแอลคำนี้ฟังเข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ สงสัยว่าเย็นนี้คงต้องพาไปหาอะไรอร่อยๆ ทานก่อนกลับบ้านแล้วล่ะ” ปฐพีอยากพาเธอไปทานอาหารกันตามลำพังเพราะตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ตเขายังไม่เคยได้อยู่กันตามลำพังกับเธอเลย แต่ช่วงนี้คุณเอกภพและคุณแอนเดรียไม่อยู่เขาคงจะได้ใกล้ชิดกับคนรักมากขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ เย็นนี้แอลให้ลุงสมานมารับแล้วค่ะ” เอลินอร์เงยหน้าขึ้นมายิ้ม “เหรอครับพี่นึกว่าแอลจะกลับพร้อมพี่” “แอลรบกวนพี่มาหลายวันแล้วค่ะ วันนี้ลุงสมานไม่ต้องรอรับคุณพ่อแอลก็เลยให้มารับแอลแทนค่ะ” เอลินอร์พูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อเหมือนไม่ได้สนใจคนตัวโตที่ยืนงงเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ หญิงสาวถึงได้ท
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย
หลังจากเข้ามาดูโรงแรมที่เกาะสมุยแล้ว ปฐพีก็ส่งรายงานทั้งหมดกลับไปให้วิลเลียมพร้อมกับหมายเหตุตอนท้ายไปด้วยว่าเขารู้สึกสนใจโรงแรมที่ส่งเขามาดู แต่ราคาไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะโรงแรมที่นี่จะรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ตลอด เพราะถ้าเป็นช่วงมรสุมเข้านักท่องเที่ยวก็จะไม่นิยมกัน ต่างจากโรงแรมที่ภูเก็ตซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีวิลเลียมเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เรื่องซื้อโรงแรมจึงชะลอไว้ก่อน แล้วค่อยกลับปรึกษากันอีกที่ว่าอาจจะเปลี่ยนเป็นการร่วมทุน หรืออาจจะเป็นแค่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพียงเท่านั้นพรุ่งนี้เขาก็จะต้องพาเอลินอร์กลับกรุงเทพแล้ว หลังจากทานอาหารค่ำแล้วปฐพีจึงพาเธอมาเดินเล่นที่ชายหาดส่วนตัวหน้าที่พักซึ่งบริเวณนี้มีแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้นทั้งสองเดินทอดน่องไปตามชายหาดปฐพีโอบเอวบางเดินไปเรื่อยๆ ลมทะเลพัดปะทะใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย“แอลยังไม่อยากกลับเลยค่ะ” เพราะรู้ว่าหลังจากเขาส่งเธอแล้วก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกนาน“พี่ก็เหมือนกันครับ อยากหยุดเวลาไว้แบบนี้จัง” ชายหนุ่มก็รู้สึกใจหายที่ครั้งนี้เขาจะจากเธอไปนานกว่าครั้งไหน“เราหนีไปกันสองคนดีไหมคะ”“ถ้าทำแบบนั้นได้ก็ดี
พอทุกคนออกไปแล้วคุณเอกภพก็ถอนหายใจก่อนจะถามปฐพีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เรื่องที่คบกัน มันเป็นเรื่องจริง หรือพูดเพื่อช่วยยัยแอลกันแน่ ดินบอกลุงมาตามตรง” “เรื่องจริงครับลุง” “คบกันมานานแค่ไหนแล้ว คิดจะคบเล่นฆ่าเวลาหรือจริงจัง ดินบอกป้ามา” คุณแอนเดรียกดดันอีกทาง เพราะนึกไม่ออกว่าทั้งสองคนจะไปชอบกันตอนไหน “ผมขอโทษนะครับคุณลุง คุณป้า ที่กินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา แต่ผมรักหนูแอลจริงๆ นะครับ” ปฐพียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างสำนึกผิด “แอลละลูก จริงจังกับพี่เขาไหม หรือตั้งใจจะแกล้งเขา” เธอหันมาถามลูกสาว “แม่คะแอลโตแล้วนะคะ แอลจะทำแบบนั้นไปทำไม เรื่องนี้แอลจริงจังมาก ถ้าไม่คิดจริงจังแอลจะสารภาพกับแม่ทำไมล่ะคะ จริงๆ จะแอบคบกันไปเรื่อยๆ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้หรอก พี่ดินอยากสารภาพตั้งนานแล้วค่ะ แต่แอลห้ามไว้เองค่ะ” “เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิทั้งลูกทั้งหลาน ทำเอาคนแก่เกือบจะโดนพ่อเลี้ยงถอนหงอกแล้วไหมล่ะ แล้วมาสารภาพเอาวันนี้ด้วยเลือกวันได้ดีจริงๆ นะ” “เขาจะถนอนหงอกคุณแม่ได้ยังไงคะ ในเมื่อคุณแม่ยังไม่มีหงอกเลยสักเ
“พี่ดิน แอลกลัวค่ะ เราหนีไปด้วยกันเลยดีไหมคะ” “ไม่ต้องกลัวครับ พี่ว่าคุณลุงคุณป้าจะต้องยอมให้เราคบกันเพราะท่านรักหนูแอลมาก” “พี่สัญญาได้ไหมคะ ถ้าแม่ห้าม พี่จะไม่ยอมแพ้” “ครับพี่จะไม่ยอมเสียแอลให้กับใครทั้งนั้น” ปฐพีกับเอลินอร์มาถึงห้องอาหารกึ่งห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เขากล่าวทักทายคุณเอกภพและคุณแอนเดรีย ก่อนจะหันไปสวัสดีแขกอีกสองท่าน “ดิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “หลายวันแล้วครับคุณลุง ผมขอโทษด้วยนะครับที่กลับมาแล้วไม่รีบไปหาพอดีต้องจัดการธุระให้ลุงวิลล์น่ะครับก็” “แล้วรู้ได้ยังไงว่าเรามาเที่ยว ยัยแอลบอกเหรอ” “หนูแอลบอกครับ แล้วบังเอิญว่าผมก็ต้องทำธุระที่นี่เหมือนกัน”“เอาล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วกินข้าวด้วยกันเลย เดี๋ยวลุงจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนของลุงนะ” คุณเอกภพแนะนำให้ปฐพีได้รู้จักกับพ่อเลี้ยงมงคลและลูกชาย เขาบอกทั้งสองเหมือนกับบอกคนอื่นว่าปฐพีเป็นหลานชาย ปฐพีกล่าวทักทายทักสองคนอย่างนอบน้อม “เด็กคนนี้ที่คุณส่งเรียนจนจบใช่ไหมครับ โตขึ้นมากเลย แล้วตอนนี้ทำงานอะไร