ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง
“นายดิน”
“คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด
“ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง
“แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ
“ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ”
“บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ”
“พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ แล้วเมื่อกี้ใครกันที่จะถอดชุดผม จะปล้ำผม”
“หยุดพูดนะนายดิน”
“ผมพูดเรื่องจริง หรือที่คุณหนูกำลังหงุดหงิดใส่ผมแบบนี้เพราะเรื่องเมื่อกี้หรือเปล่า เพราะไม่ยอมนอนกับคุณหรือเปล่าล่ะครับคุณหนู” พูดจบปฐพีก็วิ่งเข้าไปยังห้องแต่งตัวโดยมีเสียงของเอลินอร์กรี๊ดตามหลัง ชายหนุ่มรอจนเธอหยุดกรีดก็กลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
“ขอบใจนะนายดิน” หญิงสาวพูดกับปฐพีเมื่อเขาเดินกลับออกจากห้องแต่งตัวและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง
“คุณหนูขอบใจผมเรื่องไรครับ”
“ก็ทุกเรื่อง”
“แล้วทุกเรื่องนี้มันเรื่องอะไรบ้างล่ะครับ”
“ก็เรื่องยา เรื่องที่นายไปพาฉันมาจากผับและก็เรื่องเมื่อกี้”
“เรื่องเมื่อกี้ คือเรื่องที่ผมช่วยคุณหนู หรือเรื่องที่ผมไม่ทำอะไรคุณหนูล่ะครับ”
“ก็ทั้งสองเรื่องนั่นแหละ นายจะถามให้ฉันอายใช่ไหม”
“เปล่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย เอาละ ดึกแล้วคุณหนูรีบนอนเถอะครับ ผมง่วงมากแล้ว” ปฐพีพูดจบก็เอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับเอลินอร์
“นายจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“นอนเถอะครับคุณหนู ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ถ้าผมจะทำก็ทำตั้งแต่ตอนที่คุณหนูขอร้องผมเมื่อกี้แล้วละครับ” ปฐพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจนเอลินอร์ยอมนอนร่วมเตียงกับเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนร่วมเตียงกับคนอื่น ที่ผ่านมาหญิงสาวไม่เคยให้ใครนอนร่วมเตียงเลยยกเว้นมารดาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“นายดินฉันนอนไม่หลับ ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ” ปฐพีขยับเข้ามาใกล้และดึงหญิงสาวให้นอนไปบนหน้าอกของเขา
“ฉันนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่เจอนาย ฉันจะเป็นยังไงบ้าง พวกมันคงไม่ปล่อยฉันไว้แน่”
“เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดครับ ผมสัญญาว่าดูแลคุณหนู จะไม่ให้คุณหนูเจอเรื่องแบบนั้นแน่นอน”
“นายจะช่วยฉันทุกครั้งใช่ไหม”
“ครับ ผมจะช่วยคุณหนู จะอยู่ข้างคุณหนู แต่คุณหนูก็ต้องดูแลตัวเองด้วย และก็ห้ามออกไปเจอพวกเขาอีกเด็ดขาด”
“ฉันไม่กล้าไปเจอเข้าอีกแล้ว แต่ถ้าเขามาหาฉันล่ะ เขารู้ว่าบ้านฉันอยู่ไหน เขารู้ว่าฉันเป็นใคร”
“ถึงเขาจะรู้แต่เขาจะทำอะไรคุณหนูไม่ได้หรอกครับ”
“นายแน่ใจนะว่าจะอยู่ข้างฉันตลอด” เอลินอร์นึกถึงผู้ชายที่อยู่กับเพื่อนของตนเองแล้วก็ขนลุกขึ้นมาทันที
“แน่ใจสิ นอนนะครับพรุ่งนี้จะได้รีบกลับบ้านแต่เช้า”
เพราะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเอลินอร์เลยหลับลงอย่างง่ายดาย กว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็ตอนที่ได้ยินเสียงของปฐพีเหมือนเขากำลังคุยกับใครอยู่นอกห้อง
หญิงสาวรีบลุกจากที่อนแล้ววิ่งออกไปดูแต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน
“นายดิน เมื่อกี้นายคุยกับใครเหรอ”
“ผมให้แม่บ้านเอาชุดไปซักให้ คุณรอก่อนนะไม่นานหรอกซักแล้วก็อบเลย”
“ชุดของฉันเหรอ ทั้งหมดเลยเหรอ”
“ครับทั้งหมดเลย” ปฐพีมองคนที่สวมเชิ้ตยาวคลุมเข่าแล้วยิ้ม เพราะรู้ว่าภายใต้ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
“อย่ามองฉันแบบนั้น”
“แบบไหน” เขาขยับเข้าใกล้จนหญิงสาวถอยไปทีละนิดจนชนกับประตูห้องนอน
“นายจะทำอะไรฉัน” เอลินอร์หายใจติดขัดเพราะเขาเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมที่จำได้ดีว่าเป็นคนซื้อมาฝาก
“ผมไม่ทำอะไรคุณหนูหรอกครับ แค่จะถามว่าคุณหนูหิวไหม”
“ฉันยังไม่หิว”
“แต่ผมหิวแล้ว ผมทำอาหารเช้าไว้เผื่อคุณหนูแล้ว จะไม่กินหน่อยเหรอครับ” ปฐพีก้มใบหน้าต่ำลงหน้าผากของเขาชนกับหน้าผมของเธอย่างพอดี
เอลินอร์ยืนนิ่ง แทบกะกลั้นหายใจเพราะมันใกล้จนเธอทำตัวไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าคุณหนูยืนตัวเกร็งใบหน้าแดงซ่านปฐพีก็หัวเราะในลำคอก่อนจะจับมือเธอให้เดินตามเขามาที่โต๊ะทานอาหาร
“นายทำเองเหรอ”
“ครับ น่ากินไหม”
“น่ากินมาก ฉันไม่ได้กินอาหารเช้าแบบนี้เลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย” เอลินอร์มองไส้กรอกไข่ดาวและแฮมที่อยู่ในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่อาย เธอชินกับอาหารเช้าแบบนี้มากกว่าการทานข้าว ซึ่งที่บ้านของเธอไม่มีใครทานแบบนี้สักคน
“คุณหนูอยากกินทำไมไม่ให้ป้านวลให้ทำให้ล่ะครับ”
“ป้านวลทำเป็นที่ไหนล่ะ แกถนัดแต่อาหารไทยเท่านั้น”
“จริงสิ เอางี้ไหม วันไหนอยากกินก็บอกผมจะทำให้”
“ปกตินายทำกินคนเดียวแบบนี้เหรอ”
“ก็ทำบ้าง บางครั้งก็ออกไปกินข้าวต้มหน้าปากซอยหรือบางครั้งก็ไปทานกับคุณลุงคุณป้าที่บ้านคุณ”
“คุณสนิทกับคุณพ่อและคุณแม่มากกว่าฉันอีกนะ”
“ก็ผมอยู่เมืองไทยนี่ครับ”
“แล้วนายไปบ้านฉันบ่อยๆ แฟนนายไม่ว่าเหรอ”
“ไม่ครับ”
“ดีจังนะ ถ้าเป็นฉันคงโวยวายแน่ที่แฟนของตัวเองไม่มีเวลาให้”
“ก็ผมยังไม่มีแฟนนี่ครับ”
“นี่นายอายุเท่าไหร่แล้วทำไมยังไม่มีแฟนอีก ดูอย่างพี่อลันสิ เขาแต่งงานแล้วชีวิตเขาดูแฮปปี้ดีออก”
“จะมีหรือมีมันก็ไม่เกี่ยวกับอายุนี่ครับคุณหนู ผมว่าอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดี ”
“แล้วอย่างนี้ถ้านายแก่ไปใครจะดูแลนายล่ะ”
“ก็คุณหนูไงครับ”
“เรื่องอะไรฉันจะต้องดูแลนายตอนแก่ละ”
“อ้าว ก็เมื่อคืนคุณหนูขอให้ผมอยู่ข้างคุณหนูเองนะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามที่พูด”
“มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”
“ไม่รู้หล่ะครับ ผมถือว่าคุณหนูพูดแล้ว และถ้าคุณหนูคิดจะผิดคำพูด ผมก็ไม่กล้ารับปากว่าเรื่องเมื่อคืนจะมีคนอื่นรู้เพิ่มไหม”
“นายแบล็กเมลฉันใช่ไหมนายดิน”
“เปล่าครับผมก็แค่พูดขึ้นมาเฉยๆ เอง”
“ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นกับนายเลย ให้ตายสิ”
“อย่าเพิ่งคิดมากครับ รีบกินเถอะนะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะหาว่าผมทำไม่อร่อยนะครับ”
ทั้งสองนั่งทานอาหารกันเงียบๆ ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของหญิงสาว นอกจากปฐพีจะช่วยเหลือเธอแล้วเขายังปกป้องและไม่คิดจะฉวยโอกาสซึ่งมันทำให้สายตาที่มองเขาเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว
ปฐพีเองก็แอบมองคุณหนูอยู่บ่อยครั้ง เรื่องเมื่อคนเขาก็มีส่วนผิดเพราะถ้าเขาไม่เอาของในกระเป๋าไปบางทีเธอก็อาจจะไม่โดนเพื่อนหักหลังแบบนั้น แต่เพราะกลัวว่าเธอจะติดร่างแหไปด้วยจึงไม่ได้บอกเธอก่อนว่าของในนั้นเป็นอะไร
“ผมขอโทษนะครับคุณหนู”
“นายขอโทษฉันเรื่องอะไร อย่าบอกนนะว่านายบอกแม่ฉันเรื่องเมื่อคืนแล้ว”
“เปล่าครับ ที่ผมขอโทษก็เพราะถ้าผมไม่เอาของในกระเป่าไป พวกนั้นก็คงไม่เล่นสกปรก”
“แต่ฉันอาจจะโดนตำรวจจับ นายว่าอย่างไหนมันน่ากลัวกว่ากัน”
“ก็แย่ทั้งสองอย่าง”
“นั่นสิ นายไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่โกรธนะ แต่ถ้าพูดเรื่องเดิมขึ้นมาอีกฉันอาจจะโกรธนายก็ได้” เอลินอร์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะรู้ว่าเขาทำทุกอย่างก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของเธอ
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
สนามบินสุวรรณภูมิ 06.20 น. ร่างระหงของหญิงสาวผมทองคนหนึ่งกำลังเข็นรถที่มีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ทั้งหมดสี่ใบด้วยความกระฉับกระเฉง พอเห็นว่าบิดามารดามายืนรอรับก็รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง โดยทิ้งรถเข็นไว้ทางด้านหลังเพราะรู้ว่ายังไงลูกน้องของบิดาก็จะต้องมาช่วยเข็นอย่างแน่นอน “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่แอลคิดถึงพ่อกับแม่จังเลยค่ะ”เอลินอร์ เอกประดิษฐ์มณีหรือแอลเป็นหญิงสาววัย 24 ปี เธอไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุ 15 พอจบเกรด 12 ก็เรียนต่อปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากนั้นก็เรียนต่อการออกแบบอัญมณีอีกสองปีเพื่อจะกลับมาช่วยงานของบิดา แต่หลังจากเรียนจบก็เที่ยวกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน จนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาต้องโทรศัพท์ตามให้กลับบ้านเพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเขาก็รู้ว่าลูกสาวจะเที่ยวอีกนานแค่ไหน“เดินทางเหนื่อยไหมลูก” เสียงมารดาถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่เลยค่ะแม่ บินตรงแบบนี้แอลหลับยาวเลยค่ะ”“จะเหนื่อยก็แปลกแล้วล่ะคุณ นั่งเฟิร์สคลาสแบบนั้นแถมบังบินตรงไม่ต้องแวะที่ไหน”“ก็แอลคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่นี่คะ ก็เลยเลือกบินตรงจะได้ไม่ต้องแวะที่ไหนให้เสียเวลา” เอลินอร์รีบบอกอีกเหตุผลหนึ่งท
รถตู้คันเดิมแล่นเข้ามายังบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่กินพื้นที่กว่าหนึ่งไร่ ภายในมีบ้านทรงยุโรปสีขาวตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านขวาของตัวบ้านเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นโรงจอดรถ ปฐพีจอดรถที่บันไดทางด้านหน้า จากนั้นก็ยกกระเป๋าลงจากรถโดยมีลุงสมานและเด็กรับใช้ช่วยกันยก ส่วนเจ้าของกระเป๋านั้นเดินตัวปลิวเขาไปในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ขอบใจมากนะดิน อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนไหม” เอกภพเอ่ยชวน “ไม่เป็นไรครับคุณลุง” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเกรงใจ ถึงแม้ว่าเขาจะเติบโตมาในอุปการะของคุณเอกภพแต่เขาก็เจียมตัวอยู่เสมอว่าตนเองเป็นแค่เด็กที่ท่านเมตตาส่งเสียเลี้ยงดู “ทำไมล่ะดิน หรือว่ารีบไปไหน ป้าว่าดินไม่มาทานข้าวกับเรานานแล้วนะ หรือว่ามีใครรอทานข้าวหรือเปล่า” “ไม่มีหรอกครับคุณป้า” “ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ทานด้วยกันก่อน” “ครับ” เพราะความเกรงใจปฐพีเลยต้องยอมทานอาหารเช้ากับท่านทั้งสอง ซึ่งแต่ก่อนก็มักจะมาทานที่นี่เป็นประจำแต่หลังจากที่ลูกชายเจ้าของบ้านแต่งงานและย้ายออกไปอยู่ที่อื่นปฐพีก็ไม่ค่อยได้มาทานอาหารเช้าที่บ้านนี้อย่างเคย ปฐพีขับ
บ้านเอกประดิษฐ์มณี “น้องแอลไม่อยู่เมืองไทยนาน ไม่รู้ว่าจะทานอาหารเผ็ดได้หรือเปล่า พี่เลยใส่พริกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะคะ ไม่รู้ว่ารสชาติจะถูกปากหรือเปล่า” พรลภัสบอกกับน้องสามี เพราะอาหารมื้อนี้เธอกับป้านวลช่วยกันทำตั้งแต่บ่าย “อร่อยมากค่ะพี่เนย ฝีมือทำอาหารของพี่เนยอร่อยมากค่ะ แอลไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของแอลเริ่มจะมีพุงแล้ว” เอลินอร์เอ่ยชมจากใจจริงหลังจากที่ตักแกงเขียวหวานเนื้อเข้าปากติดๆ กันไปหลายคำ “พุงนี้ไหนกันยัยแอล กล้ามเนื้อทั้งนั้น” อลันเอามือลูบท้องตนเองที่ตอนนี้ดูจะมีเนื้อมากกว่าแต่ก่อน “ถ้าพี่อลันหลอกตัวเองแล้วก็มีความสุขก็เชิญตามสบายเลยค่ะ แต่แอลมองยังก็ไงเห็นว่ามันเป็นพุงอยู่ดี” เธอพูดพลางยักไหล่อย่างยียวน “พูดแบบนี้ขอให้ได้แฟนอ้วนลงพุงทีเถอะ พี่จะหัวเราะให้ฟันร่วงไปเลย” อลันพูดจบก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี “พี่อลัน อย่ามาแช่งน้องแบบนี้นะ คอยดูเถอะแอลจะหาแฟนหล่อรวยหุ่นนายแบบมาควงให้ดู” “จ้ะพี่จะคอยดู แต่ขอร้องนะแอลขอคนที่มีสมองด้วยนะ อย่างแฟนคนล่าสุดของเราพี่ว่ามันไม่มีสมอง” “มีสิทธิ์อะไรมาว่าจอห์น
A Plus Condominium ปฐพีถอนหายใจอย่างหนักขณะมองขวดน้ำหอมที่เอลินอร์ซื้อฝาก เขารู้ว่าราคามันแพงและคงไม่มีขายแบบหนึ่งแถมหนึ่งอย่างที่เธอบอก แต่ที่เธอซื้อมาให้เขาก็คงอยากจะแกล้ง เนื่องจากเขาเคยพูดกับอลันว่าไม่ค่อยชอบใช้ของแบบนี้เท่าไหร่ แต่เอลินอร์คงลืมไปแล้วว่านิสัยของคนเรามันเปลี่ยนกันได้และน้ำหอมที่เธอซื้อมาฝากก็เป็นกลิ่นที่เขาใช้ประจำอยู่แล้ว “ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อเอง” ปฐพีหัวเราะก่อนจะรีบอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน พรุ่งนี้เขามีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากทั้งเรื่องงานที่ต้องทำและเรื่องที่คุณเอกภพขอร้องให้เขาช่วยสอนงานให้กับเอลินอร์ ปฐพีคิดว่าคงต้องเตรียมแผนรับมือให้ดีเพราะลูกสาวของเจ้านายคนนี้ค่อนข้างเอาแต่ใจและดูท่าแล้วคงจะไม่เชื่อฟังเขาอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อเขาได้รับความไว้วางใจจากบิดาและมารดาของเธอแล้วก็จะทำอย่างเต็มที่ เขารู้ว่าคุณเอกภพมีปัญหาสุขภาพ ถ้ามีอะไรที่พอช่วยได้ปฐพีก็ยินดีทำ แต่ไม่รู้ว่าอีกคนนั้นจะให้ความร่วมมือกับตนเองหรือเปล่าคุณเอกภพมีธุรกิจสองอย่างที่ต้องดูแล อย่างแรกคือธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้อลันลูกชายคนโต
งานเดินแบบเล็กๆ ที่จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องประดับผ่านไปด้วยดีและตอนนี้ทุกคนก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมสระขนาดใหญ่ที่ทางโรงแรมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม เอลินอร์กำลังคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสิบนาทีอย่างออกรสเพราะเขาเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่ตอนอยู่ที่อังกฤษทั้งสองไม่เคยได้เจอกัน แม้จะคุยกับเพื่อนใหม่แต่เอลินอร์ก็มองมาทางปฐพีเป็นระยะเพราะกลัวว่าเหล่านางแบบสาวเมื่อครู่จะฉกเขาไปอย่างที่พลอยลดาเตือน และเมื่อเห็นว่าพลอยลดาและเพื่อนกำลังเดินมาทางที่ปฐพียืนอยู่หญิงสาวก็รีบเดินมาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว “พี่ดินขาพรุ่งนี้พี่ดินรีบกลับหรือเปล่าคะ พลอยอยากชวนพี่ดินไปเที่ยว” “ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อายก็เห็นอยู่ว่าคนเขามากับแฟนยังจะมาตามตื๊ออยู่ได้” “ฉันยังไม่ยินพี่ดินบอกสักคำว่าเป็นแฟนเธอ ฉันว่าเธอมโนไปเองมากกว่ามั้ง ใช่ไหมคะพี่” พลอยลดาคล้องแขนอีกข้างของปฐพีในขณะที่อีกข้างหนึ่งเอลินอร์ก็คล้องไว้จนแน่น พลอยลดาจะเลิกหว่านเสน่ห์ให้ปฐพีเพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่พอเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าผ
ภูเก็ต การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เอลินอร์มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้กับนักธุรกิจหลายท่าน แต่ละคนมีประสบการณ์ในเส้นทางสายนี้มาอย่างยาวนาน “ขอบใจมากนะนายดิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่นายพาฉันมาด้วยไง ฉันได้ความรู้เยอะเลย ถ้าไม่มาคงเสียดายแย่” “ผมบอกแล้วว่าคุณจะไม่เสียใจ แล้วเย็นนี้มีงานเลี้ยงด้วยคุณจะเข้าร่วมไหม” “ไหนๆ ก็เตรียมชุดมาแล้วเข้าร่วมสักหน่อยก็ดี บางทีฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจจากงานเดินแบบครั้งนี้ก็ได้” “ครั้งนี้คุณหนูมาครั้งแรกก็คงได้เป็นผู้ชม แต่ครั้งหน้าก็คงได้ร่วมเดินแบบกับเขาบ้าง” “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ” “ก็ถือว่ามันเป็นงานสิครับ คนที่มาเดินวันนี้ก็มีนางแบบมืออาชีพและก็มีทั้งลูกสาวของนักธุรกิจซึ่งมันเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทด้วยนะครับ” “นายก็เดินเองสิ” “ถ้าเขาให้ผู้ชายเดินผมก็คงสมัครไปแล้วล่ะครับ” ปฐพีหัวเราะร่วน ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์โดยมีเอลินอร์วิ่งตามไปติดๆ “พี่ดินรอพลอยด้วยค่ะ” เสียงที่ดังมาจากนอกลิฟต์ทำให้ปฐพีต้องกดลิฟต์เพ
เริ่มต้นการทำงานร่วมกันในสัปดาห์ที่สอง เอลินอร์เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เธอศึกษาเอกสารที่ปฐพีเตรียมไว้ได้เกินครึ่ง บ่ายนี้เขาเลยบรีฟรายละเอียดเครื่องบริษัทกำลังวางแผนผลิตในเดือนหน้าให้เธอฟังอีกครั้งหลังจากที่ส่งรายละเอียดทุกอย่างให้เธอทางเมลตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ “นายดิน ฉันออกแบบหลายชิ้นได้ไหม” “แล้วแต่คุณหนูเลยครับ” “ฉันอยากให้ทุกอย่างมันเข้าชุดกัน เน้นชิ้นเล็กๆ เวลาใส่จะได้น่ารักๆ จะดูไม่เวอร์ด้วยนายคิดว่าไง” “ครับ เอาแบบที่คุณหนูคิดว่าเหมาะสมเพราะครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงาน ราคาแต่ละชิ้นก็ไม่แพงมากคุณหนูอย่าลืมใส่รายละเอียดด้วยนะครับว่าชิ้นไหนใช้เพชรแท้หรือเพชรสังเคราะห์ด้วยนะครับ” “ฉันอยากใช้เพชรแท้ทุกชิ้น แต่ราคามันก็จะสูงเกินไปหรือจะใช้ทั้งสองแบบแต่ต่างราคากัน นายคิดว่าไง” เอลินอร์ถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า “เราทำแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ผมว่าคนซื้อคงคิดหนักเพราะถ้าเขาซื้อราคาหนึ่งแต่อีกคนซื้อราคาหนึ่งทั้งๆ ที่แบบมันเหมือนกันเขาคงรู้สึกไม่ดี ถึงแม้จะต่างกับที่เพชรแต่คนมองเขาไม่รู้หรอกนะครับว่าใครใส่
10.00 น บ้านเอกประดิษฐ์มณี เอลินอร์ลงจากรถก็รีบขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบเปลี่ยนชุดเดิมออกก่อนที่จะมีใครมาเห็นเพราะตอนนี้บนเนินอกและต้นคอของเธอนั้นมีรอยแดงที่ปฐพีทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หญิงสาวอยากจะโกรธที่เขาบังอาจทำร่องรอยไว้บนตัวเธอ แต่เมื่อนึกย้อนไปก็ต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่แสนทรมานมาได้ ยังดีที่เธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการจึงหายได้เร็วกว่าที่เพื่อนของเธอเคยเป็น นับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่ไม่ฉวยโอกาสกับเธอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเรียกร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม เธอมองกระจกแล้วยิ้ม แม้เมื่อคืนจะถูกเพื่อนหักหลังแต่เธอก็ได้รู้แล้วว่ายังมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอตลอด รอยยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงคำพูดของปฐพีที่บอกว่าจะอยู่ข้างเธอและจะดูแลเธอตลอด เมื่อตรวจดูแล้วว่าร่องรอยถูกปดปิดจนครบทุกจุดเอลินอร์ก็เดินลงมาจากชั้นสองอีกครั้ง แต่ภายในห้องรับแขกกลับมีแค่มารดาของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น “แม่คะ นายดินไปไหนแล้วค่ะ” “คุยกับพ่ออยู่ในห้องจ้ะ หนูมีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า” “เปล่าค่ะแม่ แอลนึกว่าเขากลับไปแล้ว”
ปฐพีออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาในห้องก็เห็นว่าตอนนี้คุณหนูของเขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงกว้าง “นายดิน” “คุณหนูโอเคแล้วใช่ไหมครับ” “อือ ฉันโอเคแล้ว คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม” เพราะเธอดื่มน้ำส้มไปไม่มากอาการก็เลยกลับมาเป็นปกติเร็วกว่าที่คิด “ได้สิ ผมบอกคุณป้าแล้วว่าคุณจะไปค้างบ้านเพื่อน” พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง “แล้วนั่นนายจะไปไหน นายจะทิ้งฉันอยู่คนเดียวเหรอ”ถึงแม้ตัวเองจะรู้สึกดีขึ้นแต่คืนนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียว อีกอย่างเธอก็มีเรื่องจะคุยกับชายหนุ่มทั้งเรื่องเพื่อนของเธอและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ “ผมจะไปใส่เสื้อ หรือคุณหนูอยากจะเห็นผมนอนแบบนี้ล่ะ” “บ้าใครอยากจะเห็นกันล่ะ” เอลินอร์รีบก้มหน้าลงกับเข่า แต่เมื่อครู่เธอก็เห็นแล้วว่าตอนนี้ชายหนุ่มไม่ตัวเล็กผอมแห้งอย่างแต่ก่อน และเมื่อนึกเหตุการ์เมื่อครู่หญิงสาวก็รู้สึกอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี “ก็เห็นจ้องตาแทบไม่กะพริบ” “พอเลยนายดิน รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “ที่อย่างนี้ล่ะมาไล่ให้ผมไปใส่เสื้อ
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำแบบนั้น” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ” “นายแน่ใจใช่ไหมว่าในนั้นเป็นยาไอซ์จริงๆ” “ผมเอาไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจตรวจแล้วครับ เขาบอกว่าใช่ และสายตำรวจก็รายงานมาด้วยว่าที่ผับมีการซื้อขายยาอยู่ตลอด เมื่อกี้ตอนผมส่งคุณเสร็จผมโทรหาเพื่อนก็เลยรู้ว่าคืนนี้เขาจะบุกตรวจ” เอลินอร์หน้าซีดเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของตัวเองจะทำเรื่องแบบนั้น “พวกเขาจะเป็นยังไงบ้างถ้าถูกตำรวจจับ” “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณหนูเถอะกลัวมากเหรอถึงได้เหงื่อออกขนาดนั้น” “เปล่า ฉันแค่รู้สึกร้อน รถนายแอร์ไม่เย็นเลย” “ตอนที่ผมขับมาส่งคุณหนูยังบ่นอยู่เลยว่าแอร์รถผมหนาว” “แต่ตอนนี้ฉันว่ามันร้อนนะ” “แค่ร้อนอย่างเดียวใช่ไหมครับ” “อือ ร้อนมาก” “คุณหนูดื่มเหล้ามาละมั้งก็เลยร้อนเอาละผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่านะ” “เปล่านะนายฉันแค่ดื่มน้ำส้มไปนิดเดียวเอง” “ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ไม่นะ แค่น้ำส้มจริงๆ นายถามทำไม”
ออกจากบริษัทปฐพีก็รับขับรถตรงมายังบ้านคุณเอกภพด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนที่เจอคุณเอกภพที่บริษัทสีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “คุณป้าครับ คุณลุงเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว หมอบอกว่าแค่พักผ่อนน้อยตอนนี้ก็นอนพักอยู่ข้างบน” “ช่วงนี้ท่านมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าครับ” “ก็คงจะเรื่องยัยแอลนั่นแหละ ช่วงแรกแกเที่ยวทุกคืนท่านก็เลยนอนไม่ค่อยหลับ นี่ขนาดยังไม่รู้เรื่องที่ยัยแอลตบตีกับคนอื่นจนขึ้นโรงพักนะ ถ้ารู้คงเครียดขึ้นกว่าเดิม “คืนนี้เธอก็นัดออกไปกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก” ปฐพีไม่อยากช่วยเธอปิดบังเพราะเพื่อนของเธอกลุ่มนี้ไม่น่าคบเท่าไหร่ แต่เขาก็ห้ามเธอไม่ได้ ก็คงจะมีแต่คุณแอนเดรียเท่านั้นที่จะพูดกับเอลินอร์ “ตายละ เดี๋ยวก็ได้ไปมีเรื่องกับคนอื่นอีก ดินได้ห้ามเธอหรือเปล่า” “ห้ามแล้วครับ แต่คุณหนูบอกว่าจะไปเจอครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ไปเจออีก ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยบอกไปว่าผมจะมารับและมาส่งเธอที่บ้านเอง” “ป้าได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย แต่ดินต้องดูแลยัยแอลดีๆ นะ ป้ากลัวจะไม่เรื่องกับใครเขาอีก”
เอลินอร์เดินมานั่งตรงข้ามกับปฐพี รอไม่นานพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งมาส่งให้ “ฉันสั่งให้นาย สีชมพู เข้ากับหน้าดุๆ ของนายดีนะ” “ขอบคุณครับ” ปฐพียิ้มก่อนจะดูดนมเย็นพรวดเดียวครึ่งแก้ว “นายชอบกินเหรอ” เมื่อไม่เป็นไปตามแผนเธอก็รู้สึกเสียความมั่นใจ “อือ ผมว่าอร่อยดีนะคุณจะลองไหมล่ะ” “ไม่ล่ะ มันชมพูเกินไปไม่เหมาะกับฉันเลยสักนิด” “แต่คุณหนูก็เก่งนะรู้ด้วยว่าผมชอบกินนมชมพู” ปฐพีรู้ว่าเธอยากแกล้งให้เขาอายคนอื่น แต่ถ้าเขาโมโหหรือไม่พอใจเธอก็คงจะหาเรื่องแกล้งเขาไปเรื่อยไม่รู้จบแน่นอน “แน่นอนฉันน่ะเดาใจคนเก่งอยู่แล้วแหละ” เอลินอร์ “คุณหนูครับผมอยากถามว่า..” “นายดิน อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูต่อหน้าคนอื่นสิ ฉันอายเขานะ” เอลินอร์รีบบอก “ก็คุณหนูบอกให้ผมเรียกอย่างนี้เองถ้าผมไม่เรียกคุณหนูจะไม่ยอมให้ผมนั่งรถไปด้วย ผมจำได้นะคุณหนู” “ฉับบอกว่าอย่าเรียกไง ต่อไปนายห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูเวลาอยู่ข้างนอกอีก เข้าใจไหม” “แล้วถ้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่สองคนผมก็เรียกคุณหนูว่าคุณหนูได้ใช่ไหมครับ”
“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที “ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง “แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ” “คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย “สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ” “นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง “มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม” “คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ” “ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว “เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครั