แชร์

บทที่ 8 ดินแดนหงษา

เผ่าหงษาตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามากนักใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึง

‘จอมมาร ถึงแล้ววังวสันต์วายุแล้วขอรับ' หลิงหลิวเหว่ยเขย่าตัวจอมมาร จอมมารสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์

เรื่องราวในครั้งนั้น…ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอผานเยว่ถิงเหมือนจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

'คารวะโม่จวิน โม่เจิ้นจวิน' ปี้เฉียง องครักษ์หนุ่มออกมารับจอมมารหนุ่ม ไม่ทราบมาก่อนว่าจอมมารหนุ่มจะเสด็จมา

ครั้งสุดท้ายก็เมื่อสองพันกว่าปีก่อน โดยทั่วไปแล้วเขามักจะส่งนกกระเรียนทองมาบอกก่อนล่วงหน้าว่าจะเสด็จมาแต่ครั้งนี้คงมีเรื่องสำคัญจึงมาเร่งด่วนเช่นนี้ ไม่รู้ว่าสาเหตุที่มาครั้งเพราะเหตุใด หรือว่าเขาจะมาเพราะเรื่องของคุณหนูเล็ก?

'อืม ท่านอาอยู่ไหม' 

'อยู่ขอรับ เสี่ยวเซียนจะไปเชิญมาให้ เชิญนั่งรอก่อนขอรับ' จอมมารพยักหน้าและเดินเข้าไปนั่งข้างในตำหนักเช่นเคย เขาคุ้นเคยกับที่นี่ดีอยู่แล้วเพราะมักมาบ่อยครั้งหลังจากผานเยว่ถิงจากไปจากเผ่าหงสา

 เขาทำหน้าที่แทนผานเยว่ถิงมาโดยตลอด หลังจากนางถูกจองจำอยู่ในคุกสวรรค์ ท่านอาผานเป่าเฉิงโศกเศร้าอย่างหนัก

ทุกวันสวดมนต์ภาวนาต่อฟ้าดิน ขอเพียงแค่นางยังมีชีวิตอยู่ คนที่อยู่เบื้องหลังจึงจักใช้ชีวิตต่อไปได้ สูญเสียผานเหอหงไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าต้องสูญเสียผานเยว่ถิงไปอีก คนเป็นบิดานั้นยากจะทำใจ

มีลูกสาวสองคนยังต้องสูญเสียบุตรสาวทั้งสองคน เช่นนี้จะไม่ให้เขาโกรธเกลียดเฟิงหวังเหล่ยได้อย่างไร

'คารวะท่านอา '

'คารวะขอรับ' หลิงหลิวเหว่ยและหวังเยี่ยนก้มโค้งพร้อมกัน จู่ๆเขาก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาคล้ายจะพูดไม่ออก

'ปี้เฉียงบอกว่าเจ้ามีเรื่องสำคัญหรือ' หลิงหลิวเหว่ยหันขวับไปหาปี้เฉียงที่ยิ้มฉีกฟันขาวมาให้ เขาไม่ยักจะจำได้ว่าจอมมารพูดเช่นนั้น แสนรู้เหลือเกิน

'ท่านอา หากข้าพูดเรื่องนี้ท่านต้องใจเย็น'

'ร้ายแรงปานนั้นเทียว คงมิใช่เรื่องรบดอกนะ' ผานเป่าเฉิงเลิกคิ้วถาม

'เรื่องของถิงถิง'

'ปี้เฉียงปิดประตูให้สนิท กางม่านอาคมด้วย' เรื่องของผานเยว่ถิงกลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะเมื่อปีนั้น ชื่อของถิงถิงกลายเป็นคำต้องห้ามที่นางปีศาจอย่าง ‘หนานอี้หรง’ เคยประกาศเอาไว้ ทั้งๆที่เรื่องในตอนนั้น ผู้เป็นฝ่ายถูกกระทำคือนางแท้ๆ

'ขอรับ!' หลิงหลิวเหว่ยทำตามคำสั่งช่วยกางม่านอาคมและให้ปี้เฉียงปิดประตู เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ปี้เฉียงและหลิงหลิวเหว่ยก็ออกมาจากม่านอาคมและให้ผู้อาวุโสทั้งสองสนทนากัน 

'ท่านอา ถิงถิงละทิ้งวิถีเซียนแล้ว' หวังเยี่ยนลำบากใจ กลัวว่าผานเป่าเฉิงจะรับไม่ได้ ตระกูลหงษารุ่นสู่รุ่นล้วนเป็นเซียนทั้งหมด

'หมายความว่าอย่างไร' คิ้วเข้มของผานเป่าเฉิงดุดันมากขึ้น เขาเพียงแค่กลัวกลัวว่าลูกสาวของตนเองจะปลิดชีพ ละทิ้งทุกอย่าง เขาคงทานทนไม่ได้

'เมื่อวาน หลิงหลิวเหว่ยแจ้งมาว่ามีผู้รอรับมอบตำแหน่งอย่างเป็นทางการในตำแหน่ง โม่เจิ้นจวินและรายชื่อชื่อนั้นคือ ผานเยว่ถิง ท่านอารู้ใช่ไหมว่าข้าหมายความว่าอย่างไร' เขาคิดว่าท่านอาของเขาคงจะมีอาการโกรธอยู่บ้างแต่เปล่าเลย ใบหน้าดูคล้ายกังวลอีกทั้งยังลอบถอนหายใจ

'ใจของนางมีความโกรธแค้น ข้าเข้าใจดี ชายคนนั้นไร้คุณธรรมสิ้นดี! ' 

'ท่านอาใจเย็นๆก่อน ท่านอาอยากให้ข้าทำเช่นไร ชำระล้างจิตใจนางและส่งกลับสู่แดนเซียน หรือว่า..'

'อยู่กับเจ้า ข้าวางใจหากนางจะอยู่กับเจ้า' ความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับผานเยว่ถิงไม่สู้ดีนัก ปล่อยให้นางอยู่กับหวังเยี่ยนจะดีต่อตัวนางมากกว่า

'ท่านอา'

'ข้าไม่คาดหวังอะไรหรอกนะ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะแต่งงานกับเซียนบุปผาเฟิงจางจิ้ง ขอเพียงเจ้ารับปากจะดูแลนางปกป้องนาง คิดเสียว่านางคือน้องสาวแท้ๆของเจ้า หากนางกลับมา พานางมาหาข้า' ตอนนั้นที่ผานเหอหงจากไป เขายังคิดว่าอยากให้ผานเยว่ถิงแต่งงานกับจอมมารแทนแต่เพราะพวกเขาทั้งสองไม่ได้มีความรู้สึกเช่นเดียวกันในแนวทางนั้น เขาจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตากำหนด

'ข้ารับปากท่านอา ข้าจะปกป้องถิงถิง ท่านอาโปรดวางใจ ' ครั้งนี้ผิดคาดเกินไปหน่อย เขาไม่คิดว่าท่านอาของเขาจะยินยอมให้ผ่านเยว่ถิงเข้าสู่ทางมาจริงๆ

'สิ่งนี้ช่วยมอบให้นางด้วย' เป็นสร้อยหงสาพิพากษ์ สร้อยเส้นนี้ทำมาจากดวงจิตบริสุทธิ์กึ่งหนึ่งของผานเยว่ถิง เขาสัมผัสได้ สร้อยเส้นนี้คงเป็นของติดตัวนางมา

'ท่านอาโปรดทำใจให้สบาย ' สิ้นคำนั้นหวังเยี่ยนก็เดินออกจากวังวสันต์วายุทันที

 หลังจากนี้ไม่แน่ว่าท่านอากับผานเยว่ถิงอาจจะติดต่อกันได้น้อยลง ทั้งอคติในใจท่านอาที่ยังมีต่อผานเยว่ถิงและใจของผานเยว่ถิงที่ยังไม่ปล่อยวางทิ้งทุกอย่างลง ชีวิตของเขากับผานเยว่ถิงมีส่วนที่เชื่อมโยงกัน เขาทำพิธีเชื่อมโยงจิตกับผานเยว่ถิงมาก่อน ทุกความเจ็บปวดของผานเยว่ถิงเขาจึงได้รับทั้งหมด 

สำหรับคนที่เกิดดับและสามารถฟื้นชีวิตอมตะอย่างเขานั้นมิใช่เรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด เพราะเขายังต้องแบกรับหน้าที่อีกมากมาย เขาเพียงแต่คิดว่าสตรีที่เขาเลือกมาเป็นประมุขคู่ใจเคียงคู่กับเขานั้นจะเข้าใจและแบ่งเบาความทุกข์ในจิตใจเขาได้บ้าง..

 เขาเลือกไม่ผิดใช่ไหม... เพียงแค่นึกถึงรอยยิ้มของเทพเซียนในชุดขาวคนนั้น ใจเขาก็อิ่มเอมและเปี่ยมไปด้วยความสุขคล้ายกับว่าความทุกข์ที่เขาได้รับนั้นอันตรธานหายไป เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าที่นางเคยให้ไว้ขึ้นมากำไว้ในมือทาบไปที่หน้าอกข้างซ้าย ตำแหน่งหัวใจเขาเพียงบอกกล่าวผ่านเสียงลมและดอกพิรุณกาลเบาเบาว่า 'คิดถึง' 

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status