Share

บทที่ 13 คำนับฟ้าดิน

last update Last Updated: 2024-11-19 17:06:13

วังมังกรเนรมิตถูกจัดตกแต่งด้วยสาหร่ายแดงที่พอจะหาได้และผ้าไหมแดงที่พอจะมีอยู่บ้าง จื่อจิงรับหน้าที่เป็นแม่งานจัดเตรียมหน้างานทั้งหมด ยังรู้สึกผิดหวังที่งานเเต่งอลังการถูกพังทลายลงอีกทั้งตี้จวิน[1]คนนั้นเหตุใดจึงละเลยเรื่องนี้ ผ่านมาแล้วสามวันกลับไม่มีข่าวคราวจากวังสวรรค์ส่งมาเลยแม้แต่น้อย

'จื่อเออร์ เหตุใดจึงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนั้นเล่า' หลิงหลิวเหว่ยเอ่ยถามจื่อจิง 

'ข้ารู้สึกว่ายังขาดอะไรไปแต่ช่างเถอะ ท่านเห็นเหล่าหลงทั้งสามไหม'

'ไม่เห็น จริงสิ  ปี้เฉียงก็หายไปด้วย'

'เดี๋ยวข้าไปตามเอง' จื่อจิงว่าเช่นนั้นแล้วเดินลัดเลาะไป 

ด้านหลังวังมังกรเนรมิตยังมีสระน้ำมรกตไป๋ฉุนจิ้งคงต้องไปดูสักหน่อย บังอาจปล่อยให้สตรีร่างบางกับบุรุษอ้อนแอ้นอย่างนางกับหลิงหลิวเหว่ยทำงานอยู่สองคนใช้ได้ที่ไหนกัน

เสียงน้ำหลั่งไหลผ่านโขดหินใต้ธาราสีใสจนเห็นตัวปลานานาชนิดบุรุษรูปร่างกำยำทั้งสี่หย่อนกายหย่อนใจลงในสระน้ำนั้น..

'พวกท่านอยู่ที่นี่มานานแค่ไหน' ปี้เฉียงเอ่ยถามมังกรทั้งสาม พวกเขาแลดูเหมือนจะรู้จักทางป่านี้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังนำทางพามาอา

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 14 แตกหัก

    หวังเยี่ยนและเฟิงจางจิ้งแยกกันไปถอดเครื่องแต่งกายออกแล้วสวมชุดตามเดิมเพื่อมาหารือกันเรื่องเหล่าองครักษ์มารของเผ่ยอวิ๋นจวิน ผู้อาวุโสทั้งสี่ยินดียื่นมือเข้ามาช่วย หวังเยี่ยนออกจะเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้เข้าห้องหอแต่เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนักจึงต้องเลื่อนเข้าห้องหอออกไปก่อน อย่างไรกว่าจะได้เข้าห้องหอกันอีกครั้งคงต้องรอหลังพิธีอภิเษกเฟิงจางจิ้งเซียนขึ้นเป็นจักรพรรดินีมาร....'ต้องขอขอบคุณเฉินฮุยเกอมากที่ตามมาช่วยข้ากับฮูหยินอีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวให้ด้วย' หวังเยี่ยนก้มโค้งคำนับเฉินฮุยอีกครั้ง'ไม่เป็นไร ลืมไปแล้วรึว่าพวกเราคือพี่น้องกัน ข้าผิดหวังมากนะหวังเยี่ยนที่ไม่เชิญพวกข้าเข้าร่วมงานอภิเษก' เฉินฮุยตำหนิจอมมารยกใหญ่อีกครั้งทั้งๆที่นับถือกันเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแล้ว เจ้าหวังเยี่ยนยังทำตัวห่างเหินกับพวกเขาอีก หากมิใช่ว่าเรื่องที่เกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้าในงานแต่งเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนต้องเรียกเซียนชั้นสูงทั้งสิบมาหารือมีหรือที่พวกเขาจะรู้&

    Last Updated : 2024-11-20
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 15 การกลับมาของผานเยว่ถิง

    จอมมารหนุ่มอุ้มร่างบางที่หลับใหลไปในอ้อมกอดมายังในห้องส่วนตัวและจัดแจงวางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือเพียงเเค่จับเเขนเล็กหรือเเตะเพียงเบาเบาก็ยังเกรงกลัวเหลือเกินว่ากระดูกขาวเช่นเทพเซียนจะแตกหัก เนื้อตัวนุ่มนิ่มบอบบางราวกับปุยนุ่นเช่นนี้ คนหยาบกระด้างอย่างเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหลายวันมานี้ไม่ได้รับโลหิตดับดวงจิตมารภายในร่างจึงรู้สึกกระหายอย่างมาก ยิ่งอยู่ใกล้นางกลิ่นหอมรัญจวนยิ่งเพิ่มทวีคูณ เกรงกลัวจะห้ามใจไม่อยู่'เหว่ยตี้ ข้ากระหายเหลือเกิน''เชิญจอมมารไปที่โถงก่อนเถิด ขุนนางมารรออยู่แล้ว เสี่ยวโม่[1]จะไปเตรียมเครื่องดื่มดับกระหายมาให้''อืม' ร่างองอาจรวบผมขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับแต่งกายเสียใหม่แล้วจึงเรียกจื่อจิงมาเฝ้าเซียนหญิงแล้วค่อยเดินออกไปครั้นเดินทางมายังโถงใหญ่ก็เห็นชี้ชัดแล้วว่ามีขุนนางมารบางส่วนหายไปจากโถงแห่งนี้ ไม่ต้องคาดเดาก็รู้แจ่มแจ้งว่าขุนนางมารเหล่านั้นคงแยกพรรคพรรคแยกฝ่ายตามเผ่ยอวิ๋น

    Last Updated : 2024-11-21
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 16 เรื่องในอดีต

    ‘ยินดีต้อนรับกลับ' หวังเยี่ยนเดินเข้าไปกอดซ้อนอีกทีหนึ่ง เขาไม่รู้มาก่อนว่าพวกนางรู้จักกันคนหนึ่งก็เปรียบเสมือนน้องสาวในไส้ส่วนอีกคนก็คือภรรยาของเขา จากนี้ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร เขาจะเป็นคนปกป้องพวกนางเอง ไม่มีผู้ใด ไม่มีอดีตและแม้อดีตจะลบล้างไม่ได้ หากแต่เมื่อวันวานแห่งความขมขื่นผันผ่านไป หลังจากนี้เขาจะเป็นแสงสว่างชี้นำพวกนางเอง พวกนางคงยังมีความหลังให้ระลึกถึงกันอีกมากเห็นสมควรปล่อยให้สนทนากันเพียงลำพัง กิจของสตรีบุรุษมิควรยุ่งจอมมารสะกิดหลิงหลิวเหว่ยพยักพเยิดหน้าไปทางประตูแล้วพากันเดินออกไปเงียบๆ เซียนหญิงกับมารสาวมองหน้ากันร่ำไห้กันเงียบงัน ก่อนจะบอกเล่าถึงความทรมานแสนสาหัสและเรื่องเขา'คนนั้น''เยว่ถิง ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้แล้วเจ้ากับจอมมารรู้จักมักจี่กันตั้งแต่เมื่อไหร่''ไม่เจอกันเพียงไม่กี่แสนปี ท่านหญิงของข้ากลายเป็นคนช่างถามแล้วรึ''เพราะข้าสนิทใจที่พูดคุยกับเจ้าต่างหาก!'

    Last Updated : 2024-11-22
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 17 คนแซ่เสวี่ย

    บรรดาเหล่าเซียนยืนเรียงกันเป็นสองแถวแบ่งแยกสตรีและบุรุษเพียงแค่โดดลงเหวก็ตกลงมาโผล่ที่หุบเขาไท่ซาน ไม่คิดว่าหุบเขาแห่งนี้จะยังมีสำนักที่คล้ายสำนักสงฆ์อยู่ เบื้องหน้ามีเสามังกรสีเหลืองอร่ามสลักรูปปั้นมังกรสามหัวขนาดยักษ์มันถูกตั้งไว้กลางโถง ช่างเสมือนจริงเหลือเกิน..'เสวี๋ยอิงคารวะท่านอาจารย์' ชายหนุ่มหัวขาวก้มโค้งคำนับต่อหน้ารูปปั้นมังกรสามหัวอาจารย์ที่ไหนกันไม่เห็นจะมีใครสักคน เฟิงจางจิ้งคิด'ถือว่ามีฝีมือ ส่วนคนอื่นยังต้องฝึกอีกมาก' ร่างมังกรสามหัวแปรเปลี่ยนเป็นบุรุษสามคน หน้าตางดงาม สวมชุดฮั่นฝูสีดำ รูปร่างแกร่งกำยำ มองแค่ตาเปล่าก็สัมผัสได้แล้วว่าปราณเซียนของพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใดข้ายังเคยได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งสามเป็นสัตว์เทพแห่งบรรพกาลที่บังเกิดมาพร้อมกับเหล่าอสูรร้ายแห่งบรรพกาลอย่างเช่น อสูรเถาอู้กับฮุ่นตุ้น[1]'เสี่ยวเซียนทั้งห้าขอคารวะท่านอาจารย์' เฟิงจางจิ้งเซียนกล่าวนำข้าและเพื่อนพ้องอีกสามคนจึงพากันก้มโค้งคารวะดังที่เฟิงจางจิ้งกล่าวนำไว้ ไม่แน่ว่าในช่วงหลายวันมานี้อาจมีแต่เรื่องสนุกเกิดขึ้น'ไม่ต้องมากพิธี ข้าเ

    Last Updated : 2024-11-23
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 18 รักครั้งเก่า

    'เสวี๋ยอิง เฟิงจางจิ้งเซียนฝากข้ามาตามท่านไปที่เรือนไผ่ด้านหลัง' เรือนไผ่ด้านหลังที่ว่า อยู่ริมธารน้ำตกที่ข้าใช้วิชาสนทนากับหวังเยี่ยนเกอเรือนไผ่นั่นดูเหมือนจะเป็นเรือนไผ่ที่ท่านเซียนเนรมิตขึ้นมาเพราะตอนที่ข้าไปไม่เห็นจะมีเรือนไผ่อยู่พลังเซียนของเฟิงจางจิ้งเซียนเหนือชั้นกว่าเซียนคนอื่นมากอย่างข้าคงเสกได้เพียงแค่เก้าอี้หนึ่งตัวกับวิชาเจ้าเล่ห์เล็กน้อยที่หวังเยี่ยนสอนก็เท่านั้น'รบกวนแม่นางช่วยนำทางไปที' เขากล่าวเสียงเรียบพลางสะบัดชายผ้าขาวอย่างอ่อนโยนยามอยู่ใกล้เขารู้สึกหนาวเหน็บจริงสมแล้วที่เป็นถึงวิหคหิมะ'ตามข้ามาเถิด' เขาเดินตามข้าอย่างสงบเสงี่ยมจริงแท้หรือวิสัยของพวกวิหคหิมะเป็นเช่นนี้เอง แม้แต่เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เคร่งครัดวิถีเซียน'ขอบคุณที่มาส่ง''ไม่ต้องเกรงใจ พวกท่านสูงส่งกว่าข้า ข้าย่อมยินดีช่วย' เขาพยักหน้ารับเงียบๆแล้วเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไผ่ฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่เฟิงจางจิ้งเซียนนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ พูดได้ว่าน่าเอ็นดู ข้าแอบมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหาที่เหมาะๆสักที เสกกาน้ำชาหนึ

    Last Updated : 2024-11-24
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 19 กระบี่เฟิงจางจิ้ง

    หลายๆวันมานี้ท่านเซียนหญิงเฟิงจางจิ้งและเสวี๋ยอิงต่างทำหน้าที่ดูแลพวกข้าได้อย่างดีเยี่ยม วิชาเซียนของพวกเขาทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นเทพเซียนที่แท้ ข้ายังคอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เสมอมิรู้ว่าเลื่อนขั้นไปถึงไหนกันแล้ว เสวี๋ยอิงคนนั้นยามอยู่กับเฟิงจางจิ้งเซียนเพียงลำพังแสนแตกต่างกับตอนที่พูดคุยกับพวกข้าอย่างมากข้าสังเกตเสวี๋ยอิงตั้งแต่วันเเรกจนวันสุดท้ายสรุปความได้ว่า เสวี๋ยอิงคนนี้เป็นวิหคเหมันตกาลโดยแท้ นับถือวิถีเซียนเคร่งครัด และที่สำคัญเขารักของเฟิงจางจิ้งเซียนสหายของข้าอย่างแท้จริง ข้ากับเฟิงจางจิ้งเซียนตกลงกันไว้ว่าหลังจากจบการฝึกปรือครั้งนี้จะรับข้าเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงในวังสวรรค์'ความพยายามของพวกเจ้า เปิ่นจวินเห็นแล้วว่าสมควรแก่เวลา กระบี่ของผู้ใดจะกลับคืนสู่เจ้าของ' หลงลี่เสกกระบี่อันทรงฤทธิ์ที่ส่องแสงเรืองรองและส่งคืนสู่เซียนผู้เป็นเจ้าของ กระบี่เหล่านั้นลอยกลับมาอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเจ้าของ'กระบี่มีจิตวิญญาณของมัน ผู้เป็นเจ้าของต้องตั้งชื่อด้วยก่อนจะเซ่นกระบี่ด้วยเลือด''ขอรับ! เจ้าค่ะ! ซือฝุ' เซียนสตรีและเซียนบุรุษทั้งหกขานรับ

    Last Updated : 2024-11-26
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 1 ลักพาตัว

    ในโลกนี้ล้วนมีขาว ล้วนมีดำ เขาทั้งสองผู้หนึ่งเปรียบเสมือนหยิน ผู้หนึ่งเปรียบเสมือนหยาง หลายปีมานี้สวรรค์ชั้นฟ้าและดินแดนใต้พื้นพิภพหรืออีกอย่างที่มนุษย์เรียกกันว่า'นรกอเวจี' ต่างสงบสุขไร้ความขุ่นเคืองใจและเป็นที่น่าเบื่อแก่จอมมารอย่างหวังเยี่ยนจวินเป็นอย่างมากแม้ว่าช่วงแปดแสนปีก่อนหน้านี้จะมีเรื่องให้ต้องครุ่นคิดอย่างหนักมามากก็เถอะ ท้องฟ้าผันแปร สรรพสิ่งแปรผัน คนที่เคยอยู่เคียงข้างกันลาจากไปจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นหลายคน...'หลิงหลิวเหว่ยที่สวรรค์ชั้นฟ้ามีเรื่องอะไรหรือไม่ ข้าเหงา อยากหาอะไรสนุกๆทำเสียหน่อย' จอมมารหนุ่มอายุราวๆสามล้านกว่าปีหาววอดๆโดยมีหลิงหลิวเหว่ยผู้สงสารชั้นดีที่แต่ก่อนเคยเป็นซ่างเซียนขั้นแรกและแน่นอนว่าจอมมารไม่ได้ถามความยินยอมจากเขาแต่กลับชิงตัวมาไว้แดนโลกันตร์ไปๆมาๆหลิงหลิวเหว่ยกลับชอบที่นี่เสียอย่างนั้น จอมมารอย่างเขาสิ่งไหนที่เขาปรารถนา เขาย่อมต้องได้สิ่งนั้น ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีการใด ในมือของหวังเยี่ยนยังคงถือคันฉ่องสีทองอร่ามประดับด้วยเม็ดทับทิมแดงลูกโตชื่นชมความงามของตนเอง 'เรียนท่านจอมมาร ข้าฟังมาว่าเม่ยเม่ย[1]ของเทียนจวิน[2]เสด็จลงมาจากหุบเขาสิ้นชี

    Last Updated : 2024-11-10
  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 2 สู่ขอ

    ครั้นเมื่อหลิงหลิวเหว่ยก้าวเข้าสู่แดนสวรรค์ชั้นฟ้า หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือจากที่นี่ไปนานจึงเห็นเป็นเช่นนั้นเดิมทีเขาเองไม่อยากก้าวเข้ามาในแดนเซียนอีกครั้งเพราะยังละอายใจอยู่ไม่น้อยที่แปรเปลี่ยนพรรคจากซ่างเซียนเข้าสู่วิถีมารและยิ่งเขาเพิ่งเข้ารับพิธีแต่งตั้งตำแหน่งกุนสือมารฝ่ายซ้ายยิ่งแล้วใหญ่ เกรงกลัวว่าจะได้บังเอิญเจอคนรู้จักที่เคยใช้งานเขาเยี่ยงทาส ครานั้นเขาเป็นเซียนรับใช้อยู่ที่สวรรค์ชั้นฟ้ามีเรื่องให้ต้องทำไม่เว้นแต่ละวัน น่าเบื่อหน่ายเหลือทน..'ไม่เจอกันนานนะ หลิงหลิวเหว่ยจวิน' เฟิงหวังเหล่ยสำรวจใบหน้าของอดีตคนรู้จักยังพอจำได้เลือนลางว่าแต่ก่อนหลิงหลิวเหว่ยเป็นเพียงแค่ซ่างเซียนขั้นแรกรับใช้อยู่ตำหนักเทพดวงชะตาซื่อมิ่ง เขาไม่ค่อยสนใจเหล่าเทพเซียนน้อยๆซักเท่าใดแต่ก็มิใช่ว่าเมินเฉยไม่ใส่ใจ หากกล่าวถึงคนที่ชอบมาฉกชิงเหล่าเซียนเข้าพรรคตนอย่างหวังเยี่ยน เมื่อปีนั้นยังเคยเป็นสหายร่วมสำนักสนิทชิดเชื้อพอควรหลังจากเขาได้รับตำแหน่งเหง็กเซียนฮ่องเต้แดนสวรรค์ได้ไม่นาน หวังเยี่ยนก็เข้ารับตำแหน่งประมุขมารเช่นเดียวกัน เขากับจอมมารมีเรื่องให้ขุ่นเคืองใจเป็นอดีตอ

    Last Updated : 2024-11-10

Latest chapter

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 19 กระบี่เฟิงจางจิ้ง

    หลายๆวันมานี้ท่านเซียนหญิงเฟิงจางจิ้งและเสวี๋ยอิงต่างทำหน้าที่ดูแลพวกข้าได้อย่างดีเยี่ยม วิชาเซียนของพวกเขาทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นเทพเซียนที่แท้ ข้ายังคอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เสมอมิรู้ว่าเลื่อนขั้นไปถึงไหนกันแล้ว เสวี๋ยอิงคนนั้นยามอยู่กับเฟิงจางจิ้งเซียนเพียงลำพังแสนแตกต่างกับตอนที่พูดคุยกับพวกข้าอย่างมากข้าสังเกตเสวี๋ยอิงตั้งแต่วันเเรกจนวันสุดท้ายสรุปความได้ว่า เสวี๋ยอิงคนนี้เป็นวิหคเหมันตกาลโดยแท้ นับถือวิถีเซียนเคร่งครัด และที่สำคัญเขารักของเฟิงจางจิ้งเซียนสหายของข้าอย่างแท้จริง ข้ากับเฟิงจางจิ้งเซียนตกลงกันไว้ว่าหลังจากจบการฝึกปรือครั้งนี้จะรับข้าเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงในวังสวรรค์'ความพยายามของพวกเจ้า เปิ่นจวินเห็นแล้วว่าสมควรแก่เวลา กระบี่ของผู้ใดจะกลับคืนสู่เจ้าของ' หลงลี่เสกกระบี่อันทรงฤทธิ์ที่ส่องแสงเรืองรองและส่งคืนสู่เซียนผู้เป็นเจ้าของ กระบี่เหล่านั้นลอยกลับมาอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเจ้าของ'กระบี่มีจิตวิญญาณของมัน ผู้เป็นเจ้าของต้องตั้งชื่อด้วยก่อนจะเซ่นกระบี่ด้วยเลือด''ขอรับ! เจ้าค่ะ! ซือฝุ' เซียนสตรีและเซียนบุรุษทั้งหกขานรับ

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 18 รักครั้งเก่า

    'เสวี๋ยอิง เฟิงจางจิ้งเซียนฝากข้ามาตามท่านไปที่เรือนไผ่ด้านหลัง' เรือนไผ่ด้านหลังที่ว่า อยู่ริมธารน้ำตกที่ข้าใช้วิชาสนทนากับหวังเยี่ยนเกอเรือนไผ่นั่นดูเหมือนจะเป็นเรือนไผ่ที่ท่านเซียนเนรมิตขึ้นมาเพราะตอนที่ข้าไปไม่เห็นจะมีเรือนไผ่อยู่พลังเซียนของเฟิงจางจิ้งเซียนเหนือชั้นกว่าเซียนคนอื่นมากอย่างข้าคงเสกได้เพียงแค่เก้าอี้หนึ่งตัวกับวิชาเจ้าเล่ห์เล็กน้อยที่หวังเยี่ยนสอนก็เท่านั้น'รบกวนแม่นางช่วยนำทางไปที' เขากล่าวเสียงเรียบพลางสะบัดชายผ้าขาวอย่างอ่อนโยนยามอยู่ใกล้เขารู้สึกหนาวเหน็บจริงสมแล้วที่เป็นถึงวิหคหิมะ'ตามข้ามาเถิด' เขาเดินตามข้าอย่างสงบเสงี่ยมจริงแท้หรือวิสัยของพวกวิหคหิมะเป็นเช่นนี้เอง แม้แต่เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เคร่งครัดวิถีเซียน'ขอบคุณที่มาส่ง''ไม่ต้องเกรงใจ พวกท่านสูงส่งกว่าข้า ข้าย่อมยินดีช่วย' เขาพยักหน้ารับเงียบๆแล้วเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไผ่ฝั่งตรงข้ามกับฝั่งที่เฟิงจางจิ้งเซียนนั่งกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ พูดได้ว่าน่าเอ็นดู ข้าแอบมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหาที่เหมาะๆสักที เสกกาน้ำชาหนึ

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 17 คนแซ่เสวี่ย

    บรรดาเหล่าเซียนยืนเรียงกันเป็นสองแถวแบ่งแยกสตรีและบุรุษเพียงแค่โดดลงเหวก็ตกลงมาโผล่ที่หุบเขาไท่ซาน ไม่คิดว่าหุบเขาแห่งนี้จะยังมีสำนักที่คล้ายสำนักสงฆ์อยู่ เบื้องหน้ามีเสามังกรสีเหลืองอร่ามสลักรูปปั้นมังกรสามหัวขนาดยักษ์มันถูกตั้งไว้กลางโถง ช่างเสมือนจริงเหลือเกิน..'เสวี๋ยอิงคารวะท่านอาจารย์' ชายหนุ่มหัวขาวก้มโค้งคำนับต่อหน้ารูปปั้นมังกรสามหัวอาจารย์ที่ไหนกันไม่เห็นจะมีใครสักคน เฟิงจางจิ้งคิด'ถือว่ามีฝีมือ ส่วนคนอื่นยังต้องฝึกอีกมาก' ร่างมังกรสามหัวแปรเปลี่ยนเป็นบุรุษสามคน หน้าตางดงาม สวมชุดฮั่นฝูสีดำ รูปร่างแกร่งกำยำ มองแค่ตาเปล่าก็สัมผัสได้แล้วว่าปราณเซียนของพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใดข้ายังเคยได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งสามเป็นสัตว์เทพแห่งบรรพกาลที่บังเกิดมาพร้อมกับเหล่าอสูรร้ายแห่งบรรพกาลอย่างเช่น อสูรเถาอู้กับฮุ่นตุ้น[1]'เสี่ยวเซียนทั้งห้าขอคารวะท่านอาจารย์' เฟิงจางจิ้งเซียนกล่าวนำข้าและเพื่อนพ้องอีกสามคนจึงพากันก้มโค้งคารวะดังที่เฟิงจางจิ้งกล่าวนำไว้ ไม่แน่ว่าในช่วงหลายวันมานี้อาจมีแต่เรื่องสนุกเกิดขึ้น'ไม่ต้องมากพิธี ข้าเ

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 16 เรื่องในอดีต

    ‘ยินดีต้อนรับกลับ' หวังเยี่ยนเดินเข้าไปกอดซ้อนอีกทีหนึ่ง เขาไม่รู้มาก่อนว่าพวกนางรู้จักกันคนหนึ่งก็เปรียบเสมือนน้องสาวในไส้ส่วนอีกคนก็คือภรรยาของเขา จากนี้ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร เขาจะเป็นคนปกป้องพวกนางเอง ไม่มีผู้ใด ไม่มีอดีตและแม้อดีตจะลบล้างไม่ได้ หากแต่เมื่อวันวานแห่งความขมขื่นผันผ่านไป หลังจากนี้เขาจะเป็นแสงสว่างชี้นำพวกนางเอง พวกนางคงยังมีความหลังให้ระลึกถึงกันอีกมากเห็นสมควรปล่อยให้สนทนากันเพียงลำพัง กิจของสตรีบุรุษมิควรยุ่งจอมมารสะกิดหลิงหลิวเหว่ยพยักพเยิดหน้าไปทางประตูแล้วพากันเดินออกไปเงียบๆ เซียนหญิงกับมารสาวมองหน้ากันร่ำไห้กันเงียบงัน ก่อนจะบอกเล่าถึงความทรมานแสนสาหัสและเรื่องเขา'คนนั้น''เยว่ถิง ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้แล้วเจ้ากับจอมมารรู้จักมักจี่กันตั้งแต่เมื่อไหร่''ไม่เจอกันเพียงไม่กี่แสนปี ท่านหญิงของข้ากลายเป็นคนช่างถามแล้วรึ''เพราะข้าสนิทใจที่พูดคุยกับเจ้าต่างหาก!'

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 15 การกลับมาของผานเยว่ถิง

    จอมมารหนุ่มอุ้มร่างบางที่หลับใหลไปในอ้อมกอดมายังในห้องส่วนตัวและจัดแจงวางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือเพียงเเค่จับเเขนเล็กหรือเเตะเพียงเบาเบาก็ยังเกรงกลัวเหลือเกินว่ากระดูกขาวเช่นเทพเซียนจะแตกหัก เนื้อตัวนุ่มนิ่มบอบบางราวกับปุยนุ่นเช่นนี้ คนหยาบกระด้างอย่างเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหลายวันมานี้ไม่ได้รับโลหิตดับดวงจิตมารภายในร่างจึงรู้สึกกระหายอย่างมาก ยิ่งอยู่ใกล้นางกลิ่นหอมรัญจวนยิ่งเพิ่มทวีคูณ เกรงกลัวจะห้ามใจไม่อยู่'เหว่ยตี้ ข้ากระหายเหลือเกิน''เชิญจอมมารไปที่โถงก่อนเถิด ขุนนางมารรออยู่แล้ว เสี่ยวโม่[1]จะไปเตรียมเครื่องดื่มดับกระหายมาให้''อืม' ร่างองอาจรวบผมขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับแต่งกายเสียใหม่แล้วจึงเรียกจื่อจิงมาเฝ้าเซียนหญิงแล้วค่อยเดินออกไปครั้นเดินทางมายังโถงใหญ่ก็เห็นชี้ชัดแล้วว่ามีขุนนางมารบางส่วนหายไปจากโถงแห่งนี้ ไม่ต้องคาดเดาก็รู้แจ่มแจ้งว่าขุนนางมารเหล่านั้นคงแยกพรรคพรรคแยกฝ่ายตามเผ่ยอวิ๋น

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 14 แตกหัก

    หวังเยี่ยนและเฟิงจางจิ้งแยกกันไปถอดเครื่องแต่งกายออกแล้วสวมชุดตามเดิมเพื่อมาหารือกันเรื่องเหล่าองครักษ์มารของเผ่ยอวิ๋นจวิน ผู้อาวุโสทั้งสี่ยินดียื่นมือเข้ามาช่วย หวังเยี่ยนออกจะเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้เข้าห้องหอแต่เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนักจึงต้องเลื่อนเข้าห้องหอออกไปก่อน อย่างไรกว่าจะได้เข้าห้องหอกันอีกครั้งคงต้องรอหลังพิธีอภิเษกเฟิงจางจิ้งเซียนขึ้นเป็นจักรพรรดินีมาร....'ต้องขอขอบคุณเฉินฮุยเกอมากที่ตามมาช่วยข้ากับฮูหยินอีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวให้ด้วย' หวังเยี่ยนก้มโค้งคำนับเฉินฮุยอีกครั้ง'ไม่เป็นไร ลืมไปแล้วรึว่าพวกเราคือพี่น้องกัน ข้าผิดหวังมากนะหวังเยี่ยนที่ไม่เชิญพวกข้าเข้าร่วมงานอภิเษก' เฉินฮุยตำหนิจอมมารยกใหญ่อีกครั้งทั้งๆที่นับถือกันเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแล้ว เจ้าหวังเยี่ยนยังทำตัวห่างเหินกับพวกเขาอีก หากมิใช่ว่าเรื่องที่เกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้าในงานแต่งเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนต้องเรียกเซียนชั้นสูงทั้งสิบมาหารือมีหรือที่พวกเขาจะรู้&

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 13 คำนับฟ้าดิน

    วังมังกรเนรมิตถูกจัดตกแต่งด้วยสาหร่ายแดงที่พอจะหาได้และผ้าไหมแดงที่พอจะมีอยู่บ้าง จื่อจิงรับหน้าที่เป็นแม่งานจัดเตรียมหน้างานทั้งหมด ยังรู้สึกผิดหวังที่งานเเต่งอลังการถูกพังทลายลงอีกทั้งตี้จวิน[1]คนนั้นเหตุใดจึงละเลยเรื่องนี้ ผ่านมาแล้วสามวันกลับไม่มีข่าวคราวจากวังสวรรค์ส่งมาเลยแม้แต่น้อย'จื่อเออร์ เหตุใดจึงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นนั้นเล่า' หลิงหลิวเหว่ยเอ่ยถามจื่อจิง'ข้ารู้สึกว่ายังขาดอะไรไปแต่ช่างเถอะ ท่านเห็นเหล่าหลงทั้งสามไหม''ไม่เห็น จริงสิปี้เฉียงก็หายไปด้วย''เดี๋ยวข้าไปตามเอง' จื่อจิงว่าเช่นนั้นแล้วเดินลัดเลาะไปด้านหลังวังมังกรเนรมิตยังมีสระน้ำมรกตไป๋ฉุนจิ้งคงต้องไปดูสักหน่อย บังอาจปล่อยให้สตรีร่างบางกับบุรุษอ้อนแอ้นอย่างนางกับหลิงหลิวเหว่ยทำงานอยู่สองคนใช้ได้ที่ไหนกันเสียงน้ำหลั่งไหลผ่านโขดหินใต้ธาราสีใสจนเห็นตัวปลานานาชนิดบุรุษรูปร่างกำยำทั้งสี่หย่อนกายหย่อนใจลงในสระน้ำนั้น..'พวกท่านอยู่ที่นี่มานานแค่ไหน' ปี้เฉียงเอ่ยถามมังกรทั้งสาม พวกเขาแลดูเหมือนจะรู้จักทางป่านี้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังนำทางพามาอา

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 12 สองดวงจิตในร่างเดียว

    เหล่าหลงทั้งสามพาพวกข้ากลับมายังหุบเขาสิ้นชีวาอีกครั้ง แต่พวกทหารชุดดำเหล่านั้นก็ยังตามข้ามาทันอยู่ดี ข้าจึงลุกขึ้นยืนหยัดสั่งให้หลงลี่พาคนที่บาดเจ็บกลับไปที่วังมังกรเนรมิตก่อนแล้วจึงไปประจันหน้ากับเหล่าทหารชุดดำ'นี่ไม่ใช่เรื่องของท่านเซียนใยต้องยื่นมือเข้ามาด้วยเล่า' หมิงป๋ายยิ้มเย้ยหยัน ข้าต้องระงับโทสะตัวเองหากจะกระทำการสิ่งใดย่อมต้องทำอย่างมีสติ 'หากพูดว่าไม่ใช่เรื่องข้าคงมิใช่กระมัง งานที่เจ้ามาพังวันนี้คืองานวิวาห์ของข้า คนที่เจ้าปักกระบี่ลงกลางอกคือว่าที่สามีของข้า' 'ข้ารู้ว่าท่านเองก็คงมิอยากจะตกลงปลงใจกับจอมมารมือเปื้อนโลหิตอย่างเขา มาร่วมมือกับพวกข้าเถอะเฟิงจางจิงเซียน' ข้ากำกระบี่ในมือแน่น'คุณธรรมเขาสูงส่งกว่าพวกเจ้ามากและถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ก็อย่าหวังว่าจะได้ชีวิตของเขาไป'หวังเยี่ยน..ท่านทำเรื่องอะไรมากัน ทำไมมารเหล่านี้ถึงได้มีความแค้นกับเจ้ามากถึงเพียงนี้แปะ แปะ แปะเงาสีดำทมิฬค่อยๆประกอบรูปร่างขึ้นเป็นคน เงาสีดำที่นางรับได้ถึงพลังมหาศาลพลังงานแห่งความมืดความชั่วร้ายที่ถูกล้อมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เรือนผมสีดำแผ่สยายดวงตาเป็นประกายสีเขียวมรกตงดงาม ชุดเกราะสีเงินทรงอา

  • ปราการรักจักรพรรดิจอมมาร   บทที่ 11 วิวาห์ย้อมโลหิต

    หลิงหลิวเหว่ยและปี้เฉียงเดินเข้ามาในห้องโถงเงียบๆ เห็นจอมมารกุมมือท่านหญิงเซียนอยู่แต่ท่านหญิงเซียนแลดูมีเรื่องลำบากใจ ตอนนี้จดหมายตอบรับได้มาถึงแล้ว เขาควรนำไปรายงานแก่จอมมาร เจ้าปี้เฉียงนี่ก็ตามติดเป็นเงาตามตัวน่ารำคาญจริง เมื่อไหร่จะกลับเผ่าหงสาไปสักที'ท่านจอมมารขอรับ สาน์สตอบรับมาถึงแล้ว' หลิงหลิวเหว่ยยื่นสาน์สให้จอมมาร จอมมารเปิดอ่านในทันที'เจ้าตอบตกลง?' จอมมารยิ้มกว้าง เขาบรรจงจุมพิตหลังมือของเฟิงจางจิ้ง นางไม่ทันตั้งตัว พอรู้สึกตัวก็ชักมือออก'อืม ใช่ แล้วข้าจะรอเกี้ยวของท่านที่สวรรค์ชั้นฟ้า' นางลุกเดินออกไปอย่างขัดเขินเล็กน้อย นางมองตำแหน่งที่จอมมารจุมพิตไปเมื่อครู่ รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้ตัว 'ไปกันเถอะจื่อจิง' จอมมารยังคงตะลึงงันด้วยความดีใจ จนกระทั่งนางกับจื่อจิงเดินลับสายตาไปแล้ว..'ปี้เฉียง ฝากเจ้าคุ้มครองนางถึงสวรรค์ชั้นฟ้าที' 'รับทราบ!' ปี้เฉียงฟังคำสั่งจอมมารอย่างไม่อิดออด แล้วเดินตามเฟิงจางจิ้งกับจื่อจิงไป...จอมมารนั่งเปิดอ่านเทียบของหมั้นที่เขาส่งไปคราวที่แล้วเพิ่มของไปอีกสักหลายอย่าง..'ของทุกอย่างพร้อมแล้วนะ นี่เป็นรายการที่ข้าเพิ่ม จัดเตรียมให้เสร็จวั

DMCA.com Protection Status