ชายชราที่เดิมทีโมโหมาก ได้ยินจี้ซือหานพูดว่าเครือญาติกลุ่มนี้กล้าด่าแม้กระทั่งเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกน้องชายน้องสาวที่ถูกเขาดูแลปกป้องมาตลอด ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาตั้งนานแล้วเขาเงยหน้าขึ้น มองสำรวจพวกน้องชายน้องสาวที่ตัวเองเคยดูแลมาทีละคน จู่ๆก็รู้สึกราวกับคนแปลกหน้าเหมือนว่าหลังจากที่ต่างคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง นานวันเข้า แม้แต่จะมาเยี่ยมเยียนเขาก็น้อยครั้งมาก จะมีก็แต่เวลาที่จะคุยเรื่องโปรเจค หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเท่านั้น ถึงจะมาหาเขาถึงบ้าน ต่อให้เขาจะปฏิบัติกับพวกเขาดีแค่ไหน แต่สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อเขาก็เป็นได้แค่พี่ชายที่มีผลประโยชน์ก็เท่านั้น...ชายชราไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่นึง แล้วเลือกที่จะเงียบ แล้วให้จี้ซือหานเป็นคนจัดการทั้งหมดชายหนุ่มที่อยู่ในห้องโถง ยกนิ้วมือเรียวขึ้น จังหวะที่กำลังจะออกคำสั่ง ลุงคนนึงก็เดินเข้าไปตรงหน้าจี้หยูปิง"หยูปิง ลุงขอโทษ เมื่อกี้ลุงใจร้อนไปหน่อย ยกโทษให้ลุงเถอะ"จี้หยูปิงเห็นลุงที่มักจะมีท่าทีเย่อหยิงโอหังมาโดยตลอด ยอมก้มหัวขอโทษตัวเอง ก็รู้สึกตกใจมากดีที่เธอได้รับการสั่งสอนจากทุกคนมาตั้งแต่เด็ก ว่าห้ามแสดงสีหน้าอารมณ์ จึงรั
เมื่อชายชราจี้สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาคู่นั้น ก็ฉีกมุมปาก แล้วแค่นหัวเราะเสียงเย็น "แกตั้งใจจะจัดการฉันยังไง?"ชายหนุ่มยกมุมปาก ยิ้มเย็นยะเยือกเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นสะท้าน "ผมเตรียมคฤหาสน์ไว้ให้ปู่หลังนึงที่อิตาลี และเครื่องบินส่วนตัวพรุ่งนี้เช้า หลังจากที่ปู่แก่ตัว ไปอยู่ที่อิตาลีในช่วงบั้นปลายชีวิตให้มีความสุขเถอะ"ชายชราจี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีวันที่ถูกหลานชายไล่ออกนอกประเทศ ก็มองจี้ซือหานอย่างตรวจสอบด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "แกรู้หรือเปล่าว่าใครกันที่บ่มเพาะแกจนมายืนอยู่ในจุดนี้ได้?"จี้ซือหานเท้าคางข้างนึง แล้วตอบกลับอย่างไม่มีอารมณ์ "ก็ปู่ไง"ชายชราจี้ค้ำไม้เท้า แล้วแค่นหัวเราะเสียงเย็นอีกครั้ง "ฉันนึกว่าแกลืมรากเหง้าไปแล้วซะอีก"จี้ซือหานหันข้างมา ช้อนดวงตาเฉยชาทั้งสองข้างจ้องชายชรา "ผมไม่ลืมรากเหง้าตัวเองหรอก แล้วก็ไม่ลืมที่ตอนนั้นปู่ยืนดูหน้าตาเฉยด้วยเหมือนกัน"ได้ยินประโยคนี้ ชายชราก็หลบสายตา ราวกับไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ "เรื่องนั้นฉันขอโทษ แต่แกจะทำแบบนี้กับปู่แท้ๆของตัวเอง เพื่อผู้หญิงคนเดียวไม่ได้สิ?"จี้ซือหานดึงสายตากลับมา หันไปมองนอกหน้าต่าง แล้วพูดเสี
จี้ซือหานทิ้งประโยคนั้นเสร็จ ก็ยกฝีเท้าเดินออกไป...ชายชราที่โมโหจนสั่นไปทั้งร่างกาย ค้ำไม้เท้า แล้วกัดฟันพูดว่า "จี้ซือหาน ถ้าแกไม่ฟังฉัน แกจะต้องเสียใจทีหลัง!"ชายหนุ่มชะงักฝีเท้า หันข้างมามองชายชราด้วยความเรียบเฉย "ผมนึกเสียใจไปตั้งนานแล้ว เสียใจที่ไม่ขอเธอแต่งงานให้เร็วกว่านี้"จี้หยูปิงรู้สึกว่าคำพูดของพี่รองเผด็จการสุดๆ ก็กำหมัดทำท่าสู้ๆ ด้วยความตื้นตัน "พี่รอง ฉันสนับสนุนเต็มที่!"การสนับสนุนของเธอ ไม่อาจได้มาแม้แต่การแลมองจากจี้ซือหาน ทว่าได้สายตาเย็นยะเยือกของชายชรามาแทน "ไอ้ห้า สั่งสอนลูกสาวแกให้ดี!"ลูกชายคนที่ห้ากลืนน้ำลายเอือก รีบดึงมือลูกสาว แล้วพูดอย่างใจกล้า "พ่อ เรื่องของเด็กๆ อย่าไปยุ่งเลย"อายุปูนนี้แล้วยังวุ่นวายเรื่องพวกนี้อยู่อีก ที่ยื่นมือเข้ามาสอดเรื่องงานแต่งงานของพี่น้องของเขา ก็ถือซะว่าแล้วกันไป ตอนนี้ยังจะมายุ่งเรื่องแต่งงานของหลานชายอีกวันๆนึง ปากก็เอาแต่พร่ำคำว่าอย่ามีความรักอะไรไม่รู้ หลายปีที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นว่าชายชราที่ไร้ซึ่งความรัก จะประสบความสำเร็จได้มากกว่าหลานชายที่มีความรักสักเท่าไหร่ ไม่ใช่แค่สำเร็จในระดับเดียวกัน แต่ด้อยกว่าด้วยซ้ำไป...
ชายชราจี้อยากตอบกลับ ทว่าจี้เหิงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดแม้แต่น้อย แต่ยังพูดรัวอย่างต่อเนื่อง"ซือหานบอกพ่อไปตั้งกี่ครั้งแล้ว ว่าคุณซูคือชีวิตของเขา พ่อเองก็รู้ว่าเขาเคยฆ่าตัวตายไปตั้งกี่รอบเพื่อคุณซู พ่อจะพรากพวกเขาไปจากกัน แล้วค่อยบีบให้หลานชายที่อัจฉริยะที่สุดของผมให้ตายไป เพราะความคิดที่ดื้อรั้นของตัวเองจริงๆหรอ?""ลูกชายคนโตของพ่อ ก็เพราะการตัดสินผิดพลาดของพ่อในตอนนั้นนั่นแหละ ที่ทำร้ายจนเขาจนเสียชีวิต พี่ชายใหญ่ของผมต้องสูญเสียจี้สืออวี้ไปแล้ว พ่อยังจะให้พี่ชายใหญ่สูญเสียจี้ซือหานไปอีกคนหรือไง? นี่มันเป็นการล้างบางเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ชายใหญ่จนหมดสิ้นเลยไม่ใช่หรอ?""อีกอย่างพ่อต้องรู้ไว้ด้วยว่าในตระกูลจี้ ไม่มีใครจะมารับไม้ต่อเป็นผู้ครอบครองอำนาจได้อีก มีแค่ซือหานเท่านั้นที่จะนำพาทุกคนขยายความยิ่งใหญ่ของกลุ่มบริษัทจี้ได้ ถ้าพ่อจะบีบให้เขาต้องตาย เพียงเพราะเรื่องที่เขาขอผู้หญิงแต่งงาน ถ้างั้นตระกูลจี้ก็นับว่าจบเห่แล้วจริงๆ!"จี้เหิงพูดจบ ก็ดึงกางเกงของชายชรา แล้วพูดว่า "พ่อ ตรรกะพวกนี้ พ่อคิดมาตั้งหลายปี ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง?"ชายชราจี้ปัดมือของเขาออกในครั้งเดียว แล้วคำราม
ชายชราจี้นั่งเหม่อยู่บนหัวเตียง ครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ให้ผู้ช่วยไปสืบเบอร์โทรศัพท์ของซูหว่าน จากนั้นโทรออกไปซูหว่านที่กำลังเร่งวาดพิมพ์เขียวเรือนหอ เห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา สัญชาตญาณแรกคือไม่อยากรับ ทว่าไม่รู้ทำไมกลับบังคับให้ตัวเองกดรับสายไม่นานเสียงแหบแห้งอย่างคนวัยชราของจี้เจิ้นตงก็ดังมาจากปลายสาย "คุณซู ฉันเอง"ซูหว่านอึ้งไปนิดหน่อย ราวกับไม่คิดว่าจี้เจิ้นตงจะโทรหาตัวเอง ก็หวั่นวิตกเล็กน้อย "นายท่านจี้ โทรมาหาฉัน มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าคะ?"แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยมีความคิดที่จะฆ่าเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังถามว่ามีอะไรให้รับใช้ไหมอย่างมีมารยาทมาก และจุดนี้เองที่จี้เจิ้นตงรู้สึกประทับใจมาก น้ำเสียงจึงนุ่มนวลขึ้นไม่น้อย "ฉันยังมีอีกคำถามนึงจะถามเธอ"ซูหว่านวางปากกาลูกลื่นในมือลง นั่งหลังตรง แล้วพูดกับเขาว่า "นายท่าน เชิญถามมาค่ะ"จี้เจิ้นตงเลิกผ้าห่มลงจากเตียง เดินไปยังริมหน้าต่างสูงจรดพื้น มองโคมไฟในสวน แล้วเอ่ยปากช้าๆ "เธอรักหลานฉันไหม?"ซูหว่านยังนึกว่าเขาจะถามคำถามอะไรแปลกๆหยาบคาย มาโจมตีเธอซะอีก ไม่คิดว่าจะเป็นคำถามนี้ ก็ประหลาดใจไม่น้อยเธอไม่ได้ตอบ
ซูหว่านไม่ยินดีที่จะเดิมพันแบบนี้กับชายชรา จี้ซือหานไม่ใช่เครื่องมือในการมีลูก เธอเองก็ไม่ใช่เช่นเดียวกันทว่าเมื่อชายชราพูดจบ ก็กดวางสายไปดื้อๆไอ้นิสัยทำอะไรตามใจตัวเองนี่ เหมือนกับจี้ซือหานสุดๆ...เธอกำโทรศัพท์ลูบไปมาอยู่หลายครั้ง จากนั้นส่งข้อความหาจี้ซือหาน [คุณไปพบนายท่านจี้มาใช่ไหม?]จี้ซือหานที่เพิ่งลงจากรถ เห็นข้อความนี้ก็ก้มหน้าพิมพ์ตอบกลับ [ออกมาเจอฉัน]ซูหว่านหันข้างไปมองนอกหน้าต่างที่สูงจรดพื้น ก็เห็นเข้ากับชายหนุ่มคลุมเสื้อโค้ทสีดำ ยืนอยู่ข้างรถหรูท่ามกลางเกล็ดหิมะปลิวปรายเธอรีบลุกขึ้น หยิบเสื้อโค้ทตัวหนาคลุมลงบนร่างกาย แล้วเดินออกจากนอกวิลล่า...เธอเปิดประตูวิลล่าออก ก็เห็นชายหนุ่มเดินขึ้นหน้ามา แล้วอุ้มเธอลงจากขั้นบันไดซูหว่านหายใจแรกด้วยความตกใจทีนึง ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เห็นชายหนุ่มกางเสื้อโค้ทสีดำออก แล้วห่อร่างเล็กอ้อนแอ้นของเธอไว้ในอ้อมกอดเขาห่อเธอแบบนี้ ทำให้เธอดูเหมือนเด็ก ที่แค่โผล่ศีรษะเล็กๆขึ้นแหงนมองเขาที่ตัวสูงใหญ่"ดึกขนาดนี้ ทำไมคุณถึงมาที่นี่?"ชายหนุ่มก้มหน้าลง ขณะที่มองเห็บใบหน้าเล็กขาวผ่องนั้น ดวงตาที่เป็นประกายก็ส่องแสงแวววาวออกมา"คิด
เมื่อเห็นร่างเล็กๆอรชรนั่นหมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่ลังเล จี้ซือหานก็รีบเดินขึ้นไปด้วยความร้อนรน แล้วกอดเธอเอาไว้จากด้านหลังเมื่อชายหนุ่มกอดเธอแน่นแล้ว ก็ฝังคางลงลงบนไหล่ของเธอ ขยับเข้าใกล้ริมใบหู แล้วถอนหายใจอย่างหมดหนทาง "ฉันทำอะไรเธอไม่ได้เลยจริงๆ"ซูหว่านที่หันหลังให้เขา ยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆ "คุณจี้ รอบหน้าไม่ต้องใช้ลูกไม้แกล้งยอมแพ้นี่แล้วนะ มันใช้ไม่ได้ผลกับฉัน"จี้ซือหานได้ยินดังนั้น ก็เลิกคิ้วหนาขึ้น "ดูท่าทางว่าคุณนายจี้ ชอบให้ฉันทำตรงๆสินะ..."ชายหนุ่มพูดจบ ก็ก้มหน้าลงจูบติ่งหูของเธอ บดขยี้ผิวที่เซ้นซิทีฟของเธอตั้งแต่บนลงล่าง "ฉันอยากทำเธอมากๆ"ลมหายใจอุ่นๆ รดลงมาที่ใบหู มาพร้อมกับความเสียวซ่านที่เหมือนไฟฟ้าสถิตย์ ทำเอาซูหว่านเกือบยืนไม่มั่น "อย่า..."เธอขัดขืน แต่ชายหนุ่มกลัวอุ้มเธอขึ้นมา แล้วกดลงกับกำแพง "ไม่ต้องห่วง ไม่ทำหรอก แค่จูบเท่านั้น"แค่ไม่กี่คำแต่สะท้านไปถึงกระดูก และที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ชายหนุ่มจับมือขึ้นเธอไว้ด้วยมือเดียว แล้วล็อคไว้เหนือศีรษะจากนั้นก็โอบเอวของเธอแน่น ให้ร่างอ้อนแอ้นของเธอ แนบชิดกับร่างกายร้อนผ่าวที่ใกล้จะระเบิดนั่น...ซูหว่านที่ถูกเขา
หลังจากที่ไม่มีชายชราเข้ามาวุ่นวายกับการแต่งงานของทั้งคู่ จี้ซือหานก็พาซูหว่านไปถ่ายพรีเวดดิ้งทั่วโลกเขาสั่งตัดชุดเจ้าสาวจำนวนนับไม่ถ้วนสำหรับซูหว่าน ก็เพื่อถ่ายรูปแค่ไม่กี่ที แม้แต่แหวนหมั้นคู่ก็ยังใช้ดีไซเนอร์ชื่อดังจากทั่วโลกจำนวนมากรวมไปถึงสไตล์แต่งหน้า ทำผมพวกนี้ด้วย จี้ซือหานเรียกทีมงานชื่อดังมาหลายทีม ก็เพื่อมาแต่งหน้า เติมหน้าให้เธอในวันแต่งงานเมื่อจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ ชายหนุ่มก็ไปจัดการสถานที่งานแต่งต่อ หลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้บอกซูหว่าน เหมือนว่าอยากจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์เธอซูหว่านก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพียงแค่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการออกแบบเรือนหอ...เดิมทีหลังจากออกแบบเสร็จ ซูหว่านอยากส่งบริษัทตกแต่งภายในเข้าไปตกแต่งเรือนหอทันทีแต่พอจี้ซือหานรู้ ก็ชิงพิมพ์เขียวของเธอไป ไม่ให้เธอต้องปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ซูหว่านจึงต้องให้บริษัทตกแต่งภายใน ไปตกแต่งบ้านที่เธอจะใช้ส่งตัวเจ้าสาวตามสไตล์วิลล่าของซานซานในเวลาถัดมา เธอกินยาจีนที่อลันส่งมาให้ ไปพร้อมกับจดจ่อสมาธิทั้งหมดไปกับโปรเจคที่พี่สาวทิ้งเอาไว้เพื่อหาเงินสำหรับค่าสินสอดทองหมั้น