เพื่อป้องกันไม่ให้ซูหว่านฆ่าตัวตาย จิเหยียนโจวสั่งให้คนเอาโซ่มาล่ามมือกับเท้าทั้งสองข้างไว้กับเตียงหญิงสาวซึ่งนิ่งบนฟูกเตียง ราวกับไม่มีชีวิต ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแค่หันข้างไปมองทะเลกว้างใหญ่นอกหน้าต่างคนรับใช้ที่คอยรับใช้และเฝ้าไม่ให้เธอฆ่าตัวตาย ต่างก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นก็แต่ดวงตาของเธอมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด...เธอเอาแต่ร้องไห้ ทว่าไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เงียบสงัดจนกระทั่งไม่มีเสียงหายใจอย่างคนมีชีวิตเป็นแบบนี้ติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ เธอไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมกินน้ำ ราวกับหวังจะให้ตัวเองอดอาหารจนตายทั้งเป็น...จิเหยียนโจวไม่ยอมให้เธอตาย ให้สารอาหารเกลือแร่เข้าร่างกายเธอไม่หยุด เพื่อให้เธอที่ร่างกายเหี่ยวแห้ง ยังหายใจได้อยู่...ตอนที่จอร์จถอดถุงน้ำเกลือออก สัมผัสไปถึงดวงตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นของซูหว่าน หัวใจก็กระตุกอย่างรุนแรงเขายกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้าเธอ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง ก็รู้ว่าดวงตาของเธอสูญเสียแสงสว่างไปแล้วจอร์จรีบหยิบยาสำหรับใช้รักษาดวงตาออกมาจากกล่องปฐมพยาบาล ยัดเข้าใส่ปากของเธอ แต่เธอไม่ยอมกลืม ถึงขนาดคายออกมาจอร์จอยากจะตำหนิเพื่อโน้มน้าวเธอ ก
สายตาของจิเหยียนโจว จับจ้องไปที่ร่างเล็กอรชรนั่น "เธอคิดถึงเขาขนาดนี้เลยหรอ?"ซูหว่านยังคงไม่ตอบ ใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกสักนิด เธอไม่ได้เห็นคนที่อยู่เบื้องหลังในสายตาจิเหยียนโจวเองก็ไม่ได้รำคาญอะไร ขาเรียวยาวนั่งประสานกัน เอียงศีรษะมองแผ่นหลังนั่น "ก่อนหน้านี้ฉันเคยถามเธอว่ารักจี้ซือหานไหม เธอบอกว่าไม่รัก ทำไมไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือน เธอถึงรักเขารักซะจนจะเป็นจะตายได้ขนาดนี้?"ราวกับรู้ว่าเธอจะรับมือด้วยความเงียบ ครั้งนี้จิเหยียนโจวไม่ได้รอ แต่ถามเองตอบเอง "เพราะเธอปากไม่ตรงกับใจ ทั้งๆที่ในใจของเธอรักเขา แต่ก็ไม่ยอมรับ ตอนนี้พลาดไปแล้ว แต่กลับอยากจะตายไปกับเขา แปลกคนจริงๆ..."เขาตำหนิซูหว่านในมุมมองบุคคลที่สามราวกับพระเจ้า จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างสงสัยอีก "แต่ก็มีเรื่องนึง ที่ฉันคิดยังไงก็คิดไม่ตก..."เขาคลายขาที่ไขว่ห้างออก ยืดตัวลุกจากโซฟสอีกครั้ง เข่าข้างนึงชันนั่งลงบนเตียง พลิกตัวของซูหว่านให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา"ฉันสืบเรื่องในอดีตระหว่างเธอกับจี้ซือหาน เขาให้เธอเป็นคนรักลับๆอยู่ห้าปี ตอนที่อยู่กับเธอ เขาก็ไม่ได้หวงแหนอะไรเธอ พอเลิกกันแล้วยังตบเธอครั้งนึง เป็นเหตุให
คนบนเตียงเริ่มอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ มาจนถึงขั้นที่ไม่รับสารอาหารอะไรแล้วจอร์จใช้เกลือแร่นานาชนิด เพื่อหวังจะยืดชีวิตของเธอออกไป แต่เธอไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตต่อแล้วตอนที่จอร์จสัมผัสเข้ากับดวงตามืดหมนไร้แสงสว่าง มือที่ช่วยจับสายน้ำเกลือให้ ทันใดนั้นก็ชะงักเขาดึงสายน้ำเกลือออก หมุนตัวไปหาจิเหยียนโจวที่เวลานี้กำลังเฝ้ามองเขา เพราะกลัวว่าเขาจะหลุดพูดอะไรออกไป"จิ เธอใกล้จะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นายปล่อยเธอไปเถอะ..."จิเหยียนโจวที่นั่งพิงอยู่บนโซฟา กวาดตามองซูหว่านที่ไร้ซึ่งชีวิตด้วยความเฉยเมย"ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ต้องทำให้เธอมีหายใจต่อไป!""ทั้งๆที่นายก็รู้ว่าทางเดียวที่จะทำให้เธอยืนหยัดที่จะมีชีวิตอยู่ ก็มีแค่บอกเธอถึงความจริงที่ว่าจี้ซือหานยังไม่ตาย"ประเทศอังกฤษให้ความสำคัญกับความเป็นสุภาพบุรุษ จิเหยียนโจวทรมานผู้หญิงแบบนี้ จอร์จรับไม่ได้อยู่แล้ว แล้วก็ไม่อาจเข้าใจการกระทำของจิเหยียนโจวได้"นายต้องเข้าใจนะ ถ้าเธอตาย หัวใจของชูยีก็ต้องตายไปด้วย..."จิเหยียนโจวคลายขาที่ไขว่ห้างลง โน้มตัวลงเล็กน้อย ข้อศอกวางลงบนหัวเข่า มองใบหน้าที่ได้มาตราฐานตามฉบับชาวตะวันตกของจอร์จตรงๆ"เพ
ซูหว่านยังไม่กล้าเชื่อนัก ถ้าท้องก็น่าจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้างสิ แต่เธอไม่ได้รู้สึกเลย จะท้องได้ยังไง...เธอยกมือขึ้นอย่างยากลำบาก ลูบหน้าท้องของตัวเอง "คุณรู้ได้ยังไงว่าเดือนนึงแล้ว..."จอร์จหันไปมองจิเหยียนโจวแวบนึง รู้ว่าเขาไม่มีทางให้ตัวเองพูดความจริงออกมา จึงได้แต่โกหกซูหว่านต่อไป "คุณซู ผมเป็นหมอ ผมตรวจได้..."จริงๆเขาก็แค่คาดเดาจากระยะเวลาเท่านั้น จิเหยียนโจวพาซูหว่านกลับมาเป็นเวลายี่สิบวัน ก่อนที่จะพาเธอกลับมา เธอต้องอยู่กับจี้ซือหานแน่ จึงวินิจฉันเวลาไปแบบมั่วๆเท่านั้นถ้าซูหว่านตอบมาว่าพวกเขาสองคนไม่ได้ทำอะไรกัน งั้นเขาก็จะบอกความจริงกับเธอ ว่าที่โกหกแบบนี้ ก็เพื่อให้เธอมีชีวิตต่อไปแต่สิ่งที่ซูหว่านตอบกลับคือ คุณรู้ได้ยังไง จอร์จจึงรู้ว่าตัวเองมั่วถูกเขาหวังว่าคำโกหกนี้ จะทำให้เธอมีชีวิตกลับไปเจอจี้ซือหาน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามขอแค่มีชีวิตอยู่ก็มีหวังไม่ใช่หรอ?หลังจากที่จอร์จพูดจบ ก็โน้มตัวเข้าใกล้ใบหูของซูหว่าน แล้วให้กำลังใจเธอ "มีชีวิตให้ดี คุณถึงจะได้กลับไปเจอเขา"เขาบอกเป็นนัยซูหว่านด้วยคำพูดคลุมเครือ แต่ซูหว่านในเวลานี้ถูกจิเหยียนโจวล้างสมองจนเข้าใจว่ากลับไปเจอ
เมื่อจิเหยียนโจวตัดสินใจเสร็จ ก็ติดต่อหาคุณวิลสันเพื่อเตรียมเครื่องบินส่วนตัวทันทีจากนั้นสั่งให้คนลบร่องรอยเส้นทาง และออกจากประเทศอังกฤษไปอย่างเงียบๆเมื่อพวกเขาทั้งหมดแลนด์ดิ้งลงนอร์เวย์ ก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้วคนรับใช้แบกซูหว่าน เดินลงมาจากเครื่องบินส่วนตัว แผ่นหลังดูบอบบางมากเมื่ออยู่ท่ามกลางลมหนาวซบเซาจิเหยียนโจวเดินอยู่ด้านหลัง มองแวบนึง จากนั้นกางเสื้อโค้ทที่พาดแขนอยู่ คลุมลงบนตัวซูหว่าน...การกระทำเล็กๆน้อยๆ อยู่ในสายตาของจอร์จ ทำเอาจอร์จสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดอะไร อุ้มเด็กก้มหัวเดินอยู่ด้านหลังอากาศที่นอร์เวย์หนาวมาก อุณหภูมิติดลบ ลงจากเครื่องบินจนเดินออกจากสนามบิน ภายในเวลาไม่กี่สิบนาที ซูหว่านก็แข็งจนสั่นคนขับรถในวิลล่าที่นอร์เวย์ มารับพวกเขาขึ้นรถ จากนั้นเปิดแอร์ร้อนจนสุด แต่ก็ยังไม่คลายความเหน็บหนาวในร่างกายของซูหว่าน...จิเหยียนโจวเห็นเธอนอนขดตัว สองมือกอดอกอยู่ที่เบาะหลัง แต่ไม่ยอมห่มเสื้อโค้ทของเขา แววตาก็ดำมืดลงเขาหยิบเสื้อโค้ทขึ้นมาอีกครั้งแล้วบังคับห่อร่างกายเธอไว้ ซูหว่านไม่ได้ปฏิเสธในทันที แต่รอให้เขากลับไปนั่งที่ของตัวเอง ถึงได้ปัดเสื้
คนบนรถเงียบ มาจนถึงวิลล่าที่นอร์เวย์ของจิเหยียนโจว สถานที่ที่ถูกตัดขาด และห่างไกล จนไม่มีแม้แต่สัญญาณจิเหยียนโจวสั่งให้คนรับใช้แยกกันแบกซูหว่านกับเด็กน้อยเข้าห้อง จากนั้นหยิบบุหรี่ออกมาซองนึง โยนให้จอร์จ ทั้งสองคนสวมเสื้อ เดินออกจากวิลล่าจิเหยียนโจวกัดบุหรี่ จุดไฟแช็ก แล้วจุดไฟให้จอร์จก่อน แล้วค่อยจุดให้ตัวเอง ทั้งสองคนสูบและพ่นควันออกมา โดยที่ไม่พูดอะไรจอร์จอาศัยแสงสลัวและอากาศที่หนาวเหน็บของนอร์เวย์ มองไปยังจิเหยียนโจวที่ยืนย้อนแสงอยู่ "นายวางแผนจะทำยังไง?"จิเหยียนโจวเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ "ทำยังไงอะไร?"จอร์จสอดมือที่หนาวจนแข็งเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ท "นายแย่งลูกของชูยีมา แล้วก็ชิงตัวคุณซูมาอีก ตั้งใจจะอยู่แบบนี้ไปทั้งชีวิต?"จิเหยียนโจวสูงบุหรี่ทีนึง แล้วถามกลับจอร์จ "ไม่ได้หรอ?"จอร์จได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจหนัก "จิ นายจะอยู่กับพวกเธอทั้งชีวิตในนามอะไร?"ลูกของชูยี มีพ่อเป็นของตัวเอง คุณซูก็มีคนที่ตัวเองรัก พวกเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจิเหยียนโจวจิเหยียนโจวกระตุกผุยผงบุหรี่ พูดด้วยความไม่แคร์ "ไม่มีนาม แล้วจะใช้ชีวิตไม่ได้หรือไง?"จอร์จขมวดคิ้ว "จิ คนตั้งมากมายกำลังตาม
ซูหว่านยังคงไม่อยากพูด จอร์จก็ไม่ได้บังคับเธอ เพียงแต่ในวันต่อๆมา ก็อุ้มกั่วกัวมาเยี่ยมเธอดังปกติในช่วงเช้า กั่วกัวจะเกาะอยู่หน้าเตียงของซูหว่าน ใช้นิ้วมือจ้ำม้ำจิ้มหน้าของเธอเล่น"คุณ เหมือนตุ๊กตาที่ปะปี๊ซื้อให้หนูเลย เค้าหน้าตาน่ารักเหมือนคุณน้า แล้วก็พูดไม่ได้..."ก็ไม่รู้ว่าจอร์จพูดกล่อมกั่วกัวจนเชื่อได้ยังไง นอกจากที่เจอกันครั้งแรก แล้วเรียกเธอว่าหม่ามี๊ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเรียกเธอคุณน้าคำว่าคุณน้าที่เรียกขานไม่หยุด ทำเอาหัวใจของซูหว่านรู้สึกอบอุ่น ตกกลางคืนถึงเวลานอน ก็ยังอดกอดร่างเล็กจ้อยของกั่วกัวอย่างไม่รู้ตัวก็เหมือนกับท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ทันใดนั้นก็เจอเรือน้อยๆลำนึง ขณะที่พาเธอออกไปท่องโลกนั้น ทำให้เธอเห็นวิวทิวทัศน์ที่สดใสซูหว่านก้มหน้าลงมองเด็กน้อยในอ้อมกอด อยากดูว่าเธอหน้าตายังไงแต่พบว่าดวงตาของเธอมองไม่เห็น อารมณ์ที่นึกเสียดายก็ทะลักเข้ามาในหัวใจอีกครั้ง...ถ้าตายไปแล้วจะกลับมามองเห็นอีกไหม?ถ้าไม่ งั้นแม้กระทั่งตายไปแล้วเธอก็จะไม่เห็นว่าจี้ซือหานเป็นยังไงใช่ไหม...ซูหว่านกอดกั่วกัว ดวงตาที่ว่างเปล่าเปิดออก มองไปยังสถานที่ที่นึงไกลๆ...ซ
ณ เมืองเอ โรงพยาบาลของอลันนับตั้งแต่ระยะเวลาที่จี้ซือหานไม่ได้สติ ก็ผ่านไปสองเดือนแล้วชายหนุ่มเป็นเตียงคนไข้ ใบหน้าที่งามสง่าราวหมอก ผิวขาวสว่างใส ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท เห็นก็แต่แพขนตาหนาดำเขานอนอยู่บนเตียงสีขาวเงียบๆ ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด ราวกับไปจากโลกอันวุ่นวายนี้ไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็เป็นแค่กายหยาบจี้เหลียงชวนรับคอตตอนบัดที่ซูชิงส่งมาให้ จุ่มน้ำอุ่น แล้วซับริมฝีปากแห้งกร้านแทนชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงคนไข้หลังจากซับเสร็จ ก็เอาผ้าขนหนูสะอาดมาเช็ดหน้าผากให้ชายหนุ่ม พร้อมกับถามหัวหน้าบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลัง "ยังหาไม่เจอหรอ?"หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มศีรษะลงครึ่งนึง สีหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ "ขอโทษครับ ฝั่งที่อยู่อังกฤษก็ยังหาไม่พบครับ..."จี้เหลียงชวนได้ยินดังนั้น ก็กำผ้าขนหนูในมือแน่น หันไป แล้วโยนใส่หัวของหัวหน้าบอดี้การ์ด "พวกขยะ แค่คนๆเดียวก็ยังหาไม่เจอ!"หัวหน้าบอดี้การ์ดไม่กล้าแม้แต่ขยับ ปล่อยให้จี้เหลียงชวนระบายความโกรธ "สามเดือนที่แล้ว เครื่องบินส่วนตัวลำนั้นที่บินไปอังกฤษ มีคนเห็นเธอขึ้นไปแน่ๆ ทำไมถึงหาไม่เจอ?!"จี้เหลียงชวนเดือดจนหน้าเขียวไปหมด ชี้หน้าหัวหน้า