หลังจากที่บอดี้การ์ดพูดจบ เขาก็ค่อยๆ ยืนตัวตรงและร่วมกับคนอื่น ๆ จ้องมองอย่างเย็นชาที่เซิ่งจิ่นที่นอนอยู่บนพื้น และกดข้อมือของเธอไว้ไม่ว่าเธอจะคำนวณมากแค่ไหน แต่เธอไม่คิดเลยว่าจี้ซือหานจะฉลาดขนาดนี้และวิธีการของเขาโหดร้ายขนาดนี้!เธอเคลื่อนไหวเร่งรีบเกินไป โดยคิดว่าเธอสามารถใช้ประโยชน์จากอาการบาดเจ็บของเขาเพื่อดูแลเขาและพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า...ขณะที่เธอแอบเสียใจ เซิ่งจิ่นก็มองข้อมือของเธออย่างกังวลใจเช่นกัน ไม่สามารถหยุดเลือดได้การเลือกตายตอนนี้หรือตายทีหลังไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดแต่ตอนนี้เธอไม่มีทางอื่นแล้ว การชะลอความตายอาจทำให้เธอมีโอกาสหลบหนีดังนั้น...“ก็ได้ ฉันจะพูด!”เซิ่งจิ่นเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่บอดี้การ์ด "เรียกหมอให้ฉันก่อน!"บอดี้การ์ดมองเธอเหมือนเธอเป็นคนโง่เง่า "คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะเรียกร้อง!"เซิ่งจิ่นหายใจไม่ออก และเธอก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ต้องบังคับตัวเองให้อดทนเอาไว้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วโยนมันลงบนพื้น "ให้เขาอ่านข้อความเอง!"บอดี้การ์ดคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ รับรหัสผ่าน แล้วรีบออกจากห้องน้ำ เข้าไปหาจี้ซือหา
ณ โรงพยาบาล"ไปลากเธอออกมาให้ฉัน!"น้ำเสียงของจี้ซือหานเย็นชาถึงกระดูก ทำเอาอาเจ๋อเหงื่อตกอย่างห้ามไม่ไหว ดูท่าทางว่าวันนี้นายท่านจะลงมือเองซะแล้วเมื่ออาเจ๋อรับคำสั่งมา ก็ไปห้องอาบน้ำด้วยตัวเอง จับแขนหักๆของเซิ่งจิ่น แล้วลากมาตลอดทางจนถึงตรงหน้าจี้ซือหานเซิ่งจิ่นกุมข้อมือที่ถูกห้ามเลือด ตัวสั่น มองไปที่จี้ซือหานที่แผ่รังศีรังหารไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัวชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา ปรายตามองเซิ่งจิ่นราวกับมึงคนที่ตายไปแล้ว จากนั้นกางฝ่ามือออกอาเจ๋อที่อยู่ด้านหลัง รีบนำมีดสีทองเล่มเล็กวางลงบนฝ่ามือของเขาจี้ซือหานจับมีดเล่มเล็กในมือขึ้นมา ใช้ปลายมีดแตะเงินดอลลาร์ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจก"สองร้อยห้าสิบล้านบาท ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เธอช่วยรักษาผิวแผ่นหลังของซูหว่านให้ บุญคุณที่ฉันติดค้างเธอ ได้หมดสิ้นตั้งแต่วินาทีนี้"เซิ่งจิ่นมองเงินดอลลาร์ก้อนโต ทันใดนั้นดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็เบิกกว้าง จี้ซือหานใช้เงินตอบแทนบุญคุณ คงไม่ใช่ว่า...เธอยังไม่ทันคิดคำว่า "ฆ่า" ขึ้นมา ก็เห็นจี้ซือหานลุกขึ้นยืน เดินมาตรงหน้าเธอ จากนั้นค่อยๆย่อตัวสูงใหญ่ลง"หมดบุญคุณกันแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาชำระแค้น
นัยตาของจี้ซือหานค่อยๆดำมืดลงเรื่อยๆ เพราะหว่านหว่านของเขา เคยได้เจ็บปวดนี่นะเขาเคยทำร้ายเธออย่างโหดเหี้ยม หัวใจที่ยับเยินดวงนั้น ยังไม่ทันจะได้ฟื้นตัวดี แล้วเธอจะเชื่อใจเขาได้ยังไง?จี้ซือหานไม่ตอบคำพูดของเซิ่งจิ่น ใบหน้ายังคงเย็นชา มีดเล็กที่กำแน่น กรีดไปยังมืออีกข้างนึง...เซิ่งจิ่นเห็นว่าเขาไม่มีวี่แววจะปล่อยตัวเอง ก็โมโหจนแทบจะฉีกทึ้งหัวใจเป็นชิ้นๆ "เพราะคุณนั่นแหละ ตอนที่คุณเห็นเธอ ก็ไปเย็นชาใส่เธอแบบนั้น เธอถึงได้หมดใจกับคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!!!"จี้ซือหานหน้าซีด เขาเย็นชาใส่ตอนที่เห็นหน้าซูหว่านตั้งแต่เมื่อไหร่?เขาปรายตาคมกริบมองเซิ่งจิ่น ยกมีดในมือขึ้นแล้วแทงลงไปในปลายนิ้วมือของเธออย่างรุนแรง"พูดให้รู้เรื่อง!"เซิ่งจิ่นรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองชีวิตเธอได้ จึงไม่ยอมพูดออกมาง่ายๆ"รับปากว่าจะปล่อยฉัน แล้วฉันจะบอก!"จี้ซือหานเป็นคนรักษาสัจจะ ขอแค่ให้เขาเอ่ยปาก เธอก็จะรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้แล้ว!ขณะที่เธอกำลังรอคำตอบจากจี้ซือหาน เสียงสดใสมั่นใจก็ดังลอยมาจากด้านนอกประตู"ไม่ต้องให้เธอบอก ฉันก็สืบมาได้หมดแล้ว!"เจียงโม่ในชุดกระโปรงสีแดง สวมรองเท้าส้นสูง
เจียงโม่ก่นด่าเสร็จ ก็พูดขึ้นต่อ "แต่คุณซูก็กล้าหาญอยู่ เธอยืนอยู่ที่เดิมอยู่แปบนึง ก็อยากจะเข้าร้านอาหารไปหาคุณ คงอยากจะถามคุณต่อหน้าให้รู้เรื่อง แต่ถูกรปภ.รั้งตัวเอาไว้""อันนี้ต้องโทษฉัน ฉันกลัวว่าจะมีคนสอดแนม ก็เลยเหมาร้าน แล้วก็กลัวคนในกลุ่มจะมาหาฉันได้ทุกเมื่อ ก็เลยสั่งรปภ.ไว้ว่าจะต้องแสดงการ์ดเชิญ นายก็คงเข้าใจดี การ์ดเชิญเป็นรหัสลับของกลุ่ม"ภาพจากกล้องวงจรปิด เปลี่ยนไปฉายภาพที่เซิ่งจิ่นห้ามไม่ให้ซูหว่านเคาะกระจก เมื่อเห็นภาพนี้ เจียงโม่ก็หันกลับมาตบที่เซิ่งจิ่นอีกครั้ง"ทั้งที่เธอก็รู้ว่าร้านนั้นติดตั้งกระจกLOW-E ไม่บอกคุณซูก็ว่าแย่แล้ว ยังจะไปห้ามเธอ สมควรตาย!"เซิ่งจิ่นโดนตบจนไม่มีแรงจะขัดขืน ความเจ็บปวดขนนิ้วมือ ข้อมือ ใบหน้า ทำให้เธอนอนราบอยู่บนพื้น พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวเจียงโม่ตบเสร็จ ก็ดึงสายตากลับมา มองจี้ซือหานที่กำลังสั่นไปทั้งตัว"ขอโทษ ตอนที่ออกจากร้านอาหาร ฉันขอให้ทุกคนใส่หูฟังไร้สายไว้ เพื่อจะได้สะดวกในการติดต่อกับคนอื่นๆ เพราะงั้นคุณซูที่ตามมาด้านหลัง พยายามตะโกนเรียกชื่อคุณ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น อีกทั้งคืนนั้นฝนตกหนัก พวกเราที่กำลังติดต่ออยู่กับสำน
ทันใดนั้นเขาก็จําได้ว่าเธอเคยไปหาเครื่องมือวาดภาพที่ห้องหนังสือมาก่อน หว่านหว่านในตอนนั้น ได้พบสิ่งที่หายไปแล้วหรือเปล่า เพียงแต่ว่าเธอแสร้งทำว่าไม่เห็น เพราะหว่านหว่านของเขาอยากอยู่กับเขาจริงๆ...ครั้งที่สองที่เขาทำร้ายหัวใจของเธอ เธอถึงได้หยิบของเหล่านั้นมาใหม่ แล้วอยากยุติความสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่ต้นอีกครั้งแต่เขากลับไม่ได้สังเกตเห็น แล้วยังถูกคำพูดของเธอที่ว่า "ก็แค่เล่นสนุก ทำไมต้องจริงจัง" มายั่วให้โมโหจนขาดสติ แล้วไม่เพียงแค่ขืนใจเธอ กักขังเธอ แต่ยังบังคับให้เธอมีลูกโดยไม่สนอะไรทั้งนั้นหว่านหว่านที่เดิมทีก็มีบาดแผลในใจอยู่แล้ว ยังมาเห็นเขาที่เป็นแบบนี้อีก เกรงว่าจะยิ่งผิดหวังจนถึงขีดสุด ถึงได้ไม่อยากคุยกับเขาแม้แต่คำเดียว...เขาโง่มาก เมื่อไหร่ที่เจอเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเธอ ไอคิวของเขาก็จะลดลงเป็นศูนย์ ทั้งอีคิว ทั้งสติล้วนควบคุมไม่ได้มือสั่นเทาของจี้ซือหานโยนแท็บเล็ตทิ้ง มือข้างนึงกุมดวงตา ก้มหน้า ความเสียใจที่เหนือคณานับทำให้เขารู้สึกหนาวสั่น...ปัญหาระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่แค่เข้าใจผิดแต่เพียงผิวเผิน แต่หัวใจของหว่านหว่านเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า จนยากจะกลับ
ความหมายของจี้ซือหานก็คือ ไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งแบบนี้ก็ดี ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อเกิดความเข้าใจผิด เจ้าตัวแก้ไขด้วยตัวเอง จะดูจริงใจมากกว่าแต่เจียงโม่ยังกังวลนิดหน่อย เธอกลัวว่าเพื่ออธิบายให้ชัดเจนแล้ว จี้ซือหานจะเปิดเผยเรื่องขององค์กร และตัวตนลังเลอยู่ไม่กี่วินาที เจียงโม่ก็เลือกที่จะหมุนตัวกลับไป แล้วกำชับว่า"ประธานจี้ สถานะของคุณเกี่ยวข้องถึงชีวิตของทุกคนในS คุณจะอธิบายกับเธอก็ได้ แต่ห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด..."จี้ซือหานช้อนดวงตาคมเหมือนนกอินทรีย์ที่แดงก่ำ กวาดมองเจียงโม่อย่างเย็นชา"ฉันเชื่อใจซูหว่าน"เขาจะบอกเธอ เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา และจะไม่ปิดบังอะไรต่อเธออีกแบบนี้ต่อไปถ้าเขาต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อองค์กร หว่านหว่านก็จะไม่เข้าใจเขาผิดอีกเจียงโม่ที่อยู่ข้างๆ อยากจะพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อใส่เขาสักที แล้วค่อยด่าเขาว่าไอ้คนบ้ารักไม่ลืมหูลืมตาแต่สุดท้ายเธอก็อดทนเอาไว้ได้ ไม่ได้พูดอะไร แค่ส่งสายตาให้อาเจ๋อ แล้วจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วยโดยแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่อาเจ๋อได้รับสัญญาณจากเจียงโม่ ปรายตามองเซิ่งจิ่นที่สลบอยู่นิดหน่อย แล้วอาศัยโอ
จี้เป่ยเฉิงที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเครื่องส่งสัญญาณอยู่ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ก็ถอดถุงมือแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากชุดทำงานเมื่อเห็นว่าจี้ซือหานโทรมา จี้เป่ยเฉิงก็รีบเดินออกไปข้างนอก กดรับโทรศัพท์ "พี่รอง ไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะเปิดเครื่องได้ พี่รู้หรือเปล่าว่าจี้เหลียงชวนบริหารกลุ่มบริษัทจี้ซะเละตุ้มเป๊ะ ช่วงนี้พวกเราหัวหมุนจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว พี่..."จี้เป่ยเฉิงยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงเย็นของจี้ซือหานตัดบทขึ้นมา "นายรีบมาวอชิงตัน รับช่องต่อโปรเจคองค์การนาซ่า"จี้เป่ยเฉิงนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วถาม "เกิดอะไรขึ้น?"ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลโปรเจคองค์การนาซ่าที่เคยวางตัวเอาไว้ก็คือเขา ตอนนี้เอาโปรคเจคมาคืนให้เขาอีก จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในประเทศแน่หรือว่าไอ้จี้เหลียงชวนมันขายกลุ่มบริษัทจี้ไปแล้ว???จี้เป่ยเฉิงไม่ได้ยินคำอธิบายจากจี้ซือหาน ได้รับแค่คำสั่ง "รีบมาทันที"จี้ซือหานสั่งเสร็จ ก็กดวางสายไปทันที ช้อนสายตาขึ้นมองอาเจ๋อ "เตรียมเครื่องบิน เราจะกลับกันเดี๋ยวนี้"เขารอไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แค่อยากเจอหน้าซูหว่านเร็วๆอาเจ๋อรับคำ จากนั้นสั่งคนรับใช้ให้ช่วย
ตอนที่อลันมาบรรยายที่คณะแพทย์ของพวกเขา ซีอี้ก็ปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบเพื่อให้ตัวเองได้คู่ควรกับเธอ เขาศึกษาวิชาแพทย์อย่างหนัก จนระยะนี้มีชื่อเสียงประมาณนึงในวงการแพทย์ระดับสากล ถึงได้กล้าสารภาพรักกับเธอแต่มักจะได้รับการปฏิเสธจากอลันอยู่เสมอ กระทั่งวันนี้ เขาถึงได้รู้สาเหตุที่ถูกปฏิเสธที่แท้เธอก็เคยมีบาดแผล ส่วนแผลนั้นเป็นอะไร ซีอี้ไม่ต้องถามก็รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับความรักแต่สำหรับซีอี้แล้ว เรื่องพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไร เพราะที่เขาชอบ ก็คือตัวตนของเธอเพราะงั้น ไม่ว่าเธอจะมีอดีตยังไง เขาก็มองข้าม และยอมรับได้หมด...อลันยังอยากจะปฏิเสธเขา แต่จู่ๆนิ้วเรียวยาวก็โอบเอวของเธอไว้"คุณหมอซี คุณนี่ใจกว้างซะจริง ผู้หญิงที่ถูกผมเล่นจนไม่เหลือชิ้นดี คุณก็ยังจะชอบ"อลันได้ยินคำว่า "เล่นจนไม่เหลือชิ้นดี" สีหน้าก็ซีด ความเกลียดในใจทำให้เธอผลักซูเหยียนออกโดยอัตโนมัติซูเหยียนที่ถูกอลันผลักออก ทันใดนั้นสีหน้าก็ดำทะมึนลง แต่ยังแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร ยกมือขึ้นเชยคางของอลัน"เธอกลัวว่าฉันจะพูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเราต่อหน้าคุณหมอซีมากเกินไป ถึงได้ผลักฉันสินะ?"อลันกำหมัดแน่น ช้อนสายตา