ซูหว่านมองดูเขาที่อยู่ดีๆ ก็หงุดหงิด ราวกับได้เห็นจี้ซือหานในสมัยก่อนอีกครั้ง ตอนนั้นเขาก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้เธอค่อนข้างกลัวเขาที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้เลือกที่จะเงียบเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่พยายามหาสาเหตุจากตัวเองเธอคิดทบทวนถึงบทสนทนาของทั้งสองคนเมื่อครู่ ถึงค่อยๆ เข้าใจ...เธอพูดกับชายหนุ่มที่จูบตัวเองว่า "จี้ซือหาน ฉันไม่ได้ไม่อยากคลอดลูกของเรานะ ฉันแค่ยังไม่พร้อม คุณอย่าได้เข้าใจผิด"เมื่อชายหนุ่มได้ยินที่เธออธิบายแบบนี้สายตาของเขาก็ปรากฎร่องรอยของความรู้สึกผิดขึ้นมาเขายื่นมือออกไปกอดซูหว่าน แล้วซุกหน้าลงไปที่ลำคอของเธออย่างหมดเรี่ยวแรง"หว่านหว่าน ขอโทษนะ เป็นความผิดของผมเอง..."เป็นเขาที่รู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นเขาที่กลัว กลัวว่าสักวันเธอจะจากเขาไปโดยไม่หันกลับมาความรู้สึกไม่สบายใจนี้ทรมานเขา ทำให้ถึงแม้เขาจะมีเธออยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริงเลยราวกับเป็นความฝันที่งดงามฉากหนึ่ง ที่มีสักวันจะต้องพังทลายลง เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น...เมื่อซูหว่านได้เห็นเขาที่ไม่สบายใจแบบนี้ก็ยื่นมือออกไปโอบคอของเขาเอง แล้วจูบไปที่ริมฝีปากของเขา"ซือหาน ฉันก็อยู่กั
การฝีมือของจี้ซือหานเธอก็พอจะรู้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากจะคิดมาก จึงตอบไปว่า "บางทีอาจจะแค่ออกไปจากวอชิงตันแล้วก็ได้"เสิ่นหนานอี้ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ บอกบ๊ายบายจากนั้นก็วางสายไปเลยซูหว่านเพิ่งจะกดออกจากหน้าบันทึกการโทรเข้าออก ซานซานก็วีดีโอคอลเข้ามาพอดีเธอกดปุ่มรับสาย จากนั้นซานซานที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าบาร์ก็ปรากฎขึ้นมาในมือถือเธอถือมือถือไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งคีบบุหรี่ตัวหนึ่งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าซูหว่านรับโทรศัพท์แล้ว จึงรีบยิ้มกับหน้าจอมือถือทันที"หว่านหว่าน เธอไปอยู่วอชิงตันตั้งครึ่งเดือนกว่าแล้ว คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?""แน่นอนสิ"ซูหว่านยิ้มตอบ เมื่อเห็นบุหรี่ในมือของเธอ จึงได้พูดเตือนขึ้น "ซานซาน เธอสูบบุหรี่ให้น้อยลงหน่อยเถอะ"เธอติดบุหรี่ค่อนข้างหนัก เพิ่งจะเลิกได้ไม่กี่วันก็สูบใหม่อีกแล้วร่างกายของผู้หญิง ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับพวกเหล้าบุหรี่มากนัก แต่ซานซานกลับไม่สนเรื่องพวกนี้เลยเธอแทบจะไม่ห่างเหล้าบุหรี่เลย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของไนท์คลับ ทำให้เธออยากเลิกก็เลิกไม่ได้ซานซานเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่สนใจ "บุหรี่ชั้นดี ไม่ทำลายสุขภาพหรอก วางใจเถอะ"ซูหว่านถอนหายใจห
ซูหว่านเขินจนหน้าแทบจะไหม้อยู่แล้ว กำลังจะพูดตอกกลับซานซานสักสองประโยคอย่างไม่ยอมแพ้ ก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเงาหนึ่งโผล่ขึ้นในวีดีโอคอลผู้ชายที่สวมเสื้อสูทสีขาวคนนั้น ยื่นมือมาแย่งบุหรี่ในมือของซานซานไป ดับไฟก่อนจะโยนทิ้งลงไปในถังขยะ แล้วก้มหน้ามองเธอ"บอกคุณหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าสูบบุหรี่ ทำไมคุณถึงไม่ฟังบ้าง?"ซูหว่านที่เห็นจี้เหลียงชวนที่จู่ๆ ก็ปรากฎตัวออกมาอีกฝั่งของวีดีโอคอล ก็ตกใจอึ้งอยู่ตรงนั้นแต่ซานซานกลับตกใจยิ่งกว่าเธออีก ราวกับคิดไม่ถึงเลยว่าจี้เหลียงชวนจะมาไนท์คลับ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าเขาจะเดินเข้ามาพูดกับเธอเองแบบนี้หลังจากที่พวกเขามีเรื่องจนแยกย้ายกันอย่างไม่ค่อยสวยเท่าไรที่ไนท์คลับในครั้งนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย อารมณ์ประมาณไม่ต้องติดต่อกันอีกตลอดชีวิตแต่จี้เหลียงชวนกลับลดตัวมาที่ไนท์คลับของเธออีกครั้งหลังจากที่ระยะเวลาผ่านไปนานหลายเดือน แถมยังแย่งบุหรี่ของเธอไปเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วยนี่ทำให้ซานซานไม่ค่อยเข้าใจเลย...ทั้งๆ ที่ครั้งก่อนตอนอยู่ในโรงพยาบาล เห็นเขาเดินเข้าแผนกสูตินารีเวชกับหญิงสาวหน้าตาดีมากคนหนึ่งท่าทางการประคองที่ระมัดระวังแบบนั้น เห็นชั
ดวงตาสวยกลมใสจ้องมองไปยังของพวกนี้ หลังจากที่อึ้งไปสักพัก ซูหว่านก็ยื่นมือออกไป ปิดถุงใหม่อีกครั้งใบหน้าแดงชุ่มชื้นขาวสะอาดของเธอ ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าตัดสินใจดีแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ เพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่จี้ซือหานเจอของที่หายไปแต่ไม่ได้เอาให้เธอในทันทีเพราะไม่อยากให้เธอจากไปเร็วแบบนี้ส่วนเธอก็ได้ตัดสินใจในตอนที่เขาปกป้องเธอ เป็นห่วงเธออย่างไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองแล้วในเมื่อเลือกที่จะให้โอกาสกันและกันอีกครั้ง เช่นนั้นก็อย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้...เธอวางถุงกลับไปเหมือนเดิม แล้วก็วางอุปกรณ์ร่างแบบกลับไปในตู้หนังสือตามเดิมด้วยหากว่าเธอเอาอุปกรณ์พวกนี้ไป จี้ซือหานจะต้องรู้แน่นอน เช่นนั้นก็ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรเถอะจี้ซือหานเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เมื่อไม่เห็นซูหว่านเขาก็ตกใจ รีบลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็วเมื่อคนรับใช้กลุ่มหนึ่งเห็นสายตาที่เย็นชาของเขา ก็ตกใจจนรีบหลบออกไป ไม่กล้าที่จะพูดอะไรจี้ซือหานมองไปรอบๆ ไม่ยังไม่เห็นเงาร่างของซูหว่าน ใบหน้าหล่อเหลาก็เปลี่ยนเป็นงอง้ำในทันที"ผมกำชับพวกคุณเอาไว้แล้วไม่ใช่เหร
หลังจากที่วุ่นวายตลอดทั้งเช้า จี้ซือหานถึงค่อยได้ไปหยิบอุปกรณ์ร่างแบบมากมายออกมาจากในห้องหนังสือซูหว่านอยากจะยื่นมือออกไปรับ แต่เขากลับกุมมือของเธอเอาไว้ จูงมือเธอเดินออกไปทางห้องหนังสืออีกห้องหนึ่งห้องหนังสือนี้ใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านั้นนิดหน่อย แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา ทำให้ภายในห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปสว่างขึ้น ดูอบอุ่นมากหลังจากที่จี้ซือหานวางของไว้บนโต๊ะทำงานยาว ก็ยกนิ้วมือเรียวยาวของตัวเองลูบไปที่ผมสั้นของซูหว่านอย่างลึกซึ้ง"หว่านหว่าน ห้องหนังสือนี้ใช้ได้ไหม?""ได้สิ"เธอต้องออกแบบเกี่ยวกับอาคาร โต๊ะไม้นี่ก็ยาวและกว้างเพียงพอ สะดวกกับการวางไม้บรรทัดร่างแบบพอดีเธอนั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน กำลังจะปูกระดาษ วาดโครงร่าง แต่ชายหนุ่มกลับอุ้มตัวเธอขึ้นมาซูหว่านที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายและต่อต้าน "อย่า..."เมื่อจี้ซือหานได้ยิน สีหน้าขาวสะอาดของเขาก็รู้สึกขำขึ้นมา "คุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ไปกินอะไรก่อนเถอะ"ซูหว่านที่เข้าใจความหมายของเขาผิด หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ก้มหน้างุดเข้าไปกับหน้าอกแกร่งของเขาทันที ปล่อยให้เขาอุ้มเธอไปที่ห้องอาห
"หว่านหว่าน"จี้ซือหานกดภาพวาดเอาไว้ ก้มหน้ามองซูหว่านที่กำลังวาดภาพอย่างตั้งใจ"ฉันจะช่วยกู้ตัวตนให้เธอ สร้างบริษัทให้เธอ ต่อไปเธอจะได้ออกแบบด้วยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง"ซูหว่านได้ยินดังนั้น มือที่ถือไม้บรรทัดอยู่ก็ชะงัก เงยหน้าขึ้นมองจี้ซือหาน แล้วส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล"ถ้าจะกลับคืนสู่ตัวตนเดิม รอให้ฉันทำความฝันของพี่สาวให้สำเร็จก่อน"พี่สาวของเธอรับโปรเจคที่ชอบห้าสิบกว่าโปรเจค แต่ยังไม่ทันได้ออกแบบก็จากโลกนี้ไปแล้วไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องทําโปรเจคเหล่านี้ให้เสร็จในฐานะพี่สาว เพื่อให้พี่สาวได้นอนตายตาหลับ"ส่วนก่อตั้งบริษัท อันนั้นขอผ่านค่ะ"เธออยากรอให้ความฝันของพี่สาวเป็นจริงก่อน แล้วจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาด้วยความสามารถของเธอเองแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดอย่างเขา แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ไร้การศึกษาและไม่มีภูมิหลังเหมือนอย่างตอนนี้จี้ซือหานราวกับอ่านความคิดของเธอออก ก็พูดกับเธอว่า "หว่านหว่าน ฉันยินดีจะสร้างทุกอย่างขึ้นมาให้เธอ เธอไม่ต้องคิดมาก"ซูหว่านลุกขึ้นยืนตรง แหงนหน้ามองจี้ซือหานที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์ "ฉันรู้ค่ะ แต่เรื่องบางเรื่อง ฉันอยากจะทำมันให้สำเร็จ
ซูหว่านตกตะลึง เหม่อมองผู้ชายตรงหน้า สมองว่างเปล่าจี้ซือหานเชยคางขึ้นเล็กน้อย จับจ้องดวงตาของเธออยู่เงียบๆ ราวกับกำลังรอคําตอบจากเธอซูหว่านก้มหน้า ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน แต่กลับนึกอะไรไม่ออก จึงได้แต่พูดอย่างรู้สึกผิด "ฉันจำไม่ได้แล้ว..."ถ้าหากเธอยังเพ้อถึงชื่อซ่งซือเยว่ในฝันเหมือนอย่างในอดีต ถ้างั้นระหว่างเธอกับเขาก็คงไม่ต้องไปต่อกันแล้วมือของเธอที่อยู่บนแผงอกของเขา ค่อยๆกำแน่น "ขอโทษ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้..."เธอลุกขึ้นเตรียมจะไป แต่จี้ซือหานกลับกอดเธอแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของเธอเอาไว้เบื้องล่าง ดวงตาสวยงามจ้องเธอเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แต่จูบลงบนแก้มของเธอแผ่วเบา จากนั้นลุกขึ้น อุ้มเธอเข้าห้องอาบน้ำ...เสียงร้องครางของชายหนุ่ม เคล้าคลอกับเสียงน้ำไหลที่ตามมาติดๆ ลอยออกมาจากด้านในแว่วๆ...เสียงสุดท้าย เป็นเสียงจากลำคอที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาของชายหนุ่มซึ่งยังไม่เต็มอิ่มและต้องการอีกเขาว่า "หว่านหว่าน ในที่สุดเธอก็เรียกชื่อของฉันในฝันแล้ว..."ซูหว่านเหนื่อยจนสุดชีวิต แต่กลับยังฝืนร่างกายมานั่งวาดแบบต่อ เธอวาดไปด้วยแล้วก็ด่าจี้ซือหานในใจไปด้วยในที่สุดภายก็วาดจุดสุดท้า
เสิ่นหนานอี้ที่มาถึงเมืองเกรทฟอลส์ เมื่อเห็นวิลล่าสไตล์ปราสาทที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่สมมาตรอยู่ตลอดเวลาพังทลายลงทันทีเขาก้มหน้ามองรองเท้าแตะแห่งการประท้วงเพื่อแสดงออกต่อจี้ซือหานว่า "ฉันไม่แคร์นาย"...แล้วมองดูปราสาทตรงหน้าอีกครั้ง จู่ๆก็รู้สึกว่า การตัดสินใจของเขาเมื่อกี้ ออกจะเลอะเทอะไปหน่อย...ประตูวิลล่าเปิดอยู่ เสิ่นหนานอี้กลืนน้ําลายและเดินเข้าไปข้างในเมื่อเห็นว่าภายในวิลล่าหรูหราโอ่อ่ากว่าด้านนอก ความคับข้องใจของเสิ่นหนานอี้ก็หลั่งไหลเข้ามาในใจ"คุณซู รู้หรือเปล่า วันนั้นที่คุณถูกท่านประธานจี้พาตัวไป ผมนอนอยู่ที่ไหน?"ซูหว่านกำลังม้วนภาพวาด พร้อมกับถาม "นอนอยู่ที่ไหน?"เสิ่นหนานอี้ฉีกยิ้มบางๆ แล้วหัวเราะแห้ง "นอนอยู่ใต้สะพานลอย เป็นเพื่อนกับพวกคนจรจัดแอฟริกัน!"มือของซูหว่านที่กำลังม้วนภาพวาดอยู่ ก็ชะงักเล็กน้อย เธอพูดอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษนะ คุณเสิ่น ฉันไม่รู้เลย..."เสิ่นหนานอี้โบกมืออย่างใจกว้าง บ่งบอกว่าไม่เป็นไร "ถึงแม้ว่าคุณนอนในที่ที่ดีกว่าผม แต่คุณก็ต้องเสียเงินไปห้าล้าน"ขอแค่เธอต้องเจอกับเรื่องน่าสังเวชมากกว่าเขา เขาก็จะพอหาความรู้สึกยุติธรรมในใจได้ เพียงแต่