ดวงตาสวยกลมใสจ้องมองไปยังของพวกนี้ หลังจากที่อึ้งไปสักพัก ซูหว่านก็ยื่นมือออกไป ปิดถุงใหม่อีกครั้งใบหน้าแดงชุ่มชื้นขาวสะอาดของเธอ ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าตัดสินใจดีแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ เพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่จี้ซือหานเจอของที่หายไปแต่ไม่ได้เอาให้เธอในทันทีเพราะไม่อยากให้เธอจากไปเร็วแบบนี้ส่วนเธอก็ได้ตัดสินใจในตอนที่เขาปกป้องเธอ เป็นห่วงเธออย่างไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองแล้วในเมื่อเลือกที่จะให้โอกาสกันและกันอีกครั้ง เช่นนั้นก็อย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้...เธอวางถุงกลับไปเหมือนเดิม แล้วก็วางอุปกรณ์ร่างแบบกลับไปในตู้หนังสือตามเดิมด้วยหากว่าเธอเอาอุปกรณ์พวกนี้ไป จี้ซือหานจะต้องรู้แน่นอน เช่นนั้นก็ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรเถอะจี้ซือหานเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เมื่อไม่เห็นซูหว่านเขาก็ตกใจ รีบลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็วเมื่อคนรับใช้กลุ่มหนึ่งเห็นสายตาที่เย็นชาของเขา ก็ตกใจจนรีบหลบออกไป ไม่กล้าที่จะพูดอะไรจี้ซือหานมองไปรอบๆ ไม่ยังไม่เห็นเงาร่างของซูหว่าน ใบหน้าหล่อเหลาก็เปลี่ยนเป็นงอง้ำในทันที"ผมกำชับพวกคุณเอาไว้แล้วไม่ใช่เหร
หลังจากที่วุ่นวายตลอดทั้งเช้า จี้ซือหานถึงค่อยได้ไปหยิบอุปกรณ์ร่างแบบมากมายออกมาจากในห้องหนังสือซูหว่านอยากจะยื่นมือออกไปรับ แต่เขากลับกุมมือของเธอเอาไว้ จูงมือเธอเดินออกไปทางห้องหนังสืออีกห้องหนึ่งห้องหนังสือนี้ใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านั้นนิดหน่อย แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา ทำให้ภายในห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปสว่างขึ้น ดูอบอุ่นมากหลังจากที่จี้ซือหานวางของไว้บนโต๊ะทำงานยาว ก็ยกนิ้วมือเรียวยาวของตัวเองลูบไปที่ผมสั้นของซูหว่านอย่างลึกซึ้ง"หว่านหว่าน ห้องหนังสือนี้ใช้ได้ไหม?""ได้สิ"เธอต้องออกแบบเกี่ยวกับอาคาร โต๊ะไม้นี่ก็ยาวและกว้างเพียงพอ สะดวกกับการวางไม้บรรทัดร่างแบบพอดีเธอนั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน กำลังจะปูกระดาษ วาดโครงร่าง แต่ชายหนุ่มกลับอุ้มตัวเธอขึ้นมาซูหว่านที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายและต่อต้าน "อย่า..."เมื่อจี้ซือหานได้ยิน สีหน้าขาวสะอาดของเขาก็รู้สึกขำขึ้นมา "คุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ไปกินอะไรก่อนเถอะ"ซูหว่านที่เข้าใจความหมายของเขาผิด หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ก้มหน้างุดเข้าไปกับหน้าอกแกร่งของเขาทันที ปล่อยให้เขาอุ้มเธอไปที่ห้องอาห
"หว่านหว่าน"จี้ซือหานกดภาพวาดเอาไว้ ก้มหน้ามองซูหว่านที่กำลังวาดภาพอย่างตั้งใจ"ฉันจะช่วยกู้ตัวตนให้เธอ สร้างบริษัทให้เธอ ต่อไปเธอจะได้ออกแบบด้วยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง"ซูหว่านได้ยินดังนั้น มือที่ถือไม้บรรทัดอยู่ก็ชะงัก เงยหน้าขึ้นมองจี้ซือหาน แล้วส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล"ถ้าจะกลับคืนสู่ตัวตนเดิม รอให้ฉันทำความฝันของพี่สาวให้สำเร็จก่อน"พี่สาวของเธอรับโปรเจคที่ชอบห้าสิบกว่าโปรเจค แต่ยังไม่ทันได้ออกแบบก็จากโลกนี้ไปแล้วไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องทําโปรเจคเหล่านี้ให้เสร็จในฐานะพี่สาว เพื่อให้พี่สาวได้นอนตายตาหลับ"ส่วนก่อตั้งบริษัท อันนั้นขอผ่านค่ะ"เธออยากรอให้ความฝันของพี่สาวเป็นจริงก่อน แล้วจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาด้วยความสามารถของเธอเองแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดอย่างเขา แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ไร้การศึกษาและไม่มีภูมิหลังเหมือนอย่างตอนนี้จี้ซือหานราวกับอ่านความคิดของเธอออก ก็พูดกับเธอว่า "หว่านหว่าน ฉันยินดีจะสร้างทุกอย่างขึ้นมาให้เธอ เธอไม่ต้องคิดมาก"ซูหว่านลุกขึ้นยืนตรง แหงนหน้ามองจี้ซือหานที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์ "ฉันรู้ค่ะ แต่เรื่องบางเรื่อง ฉันอยากจะทำมันให้สำเร็จ
ซูหว่านตกตะลึง เหม่อมองผู้ชายตรงหน้า สมองว่างเปล่าจี้ซือหานเชยคางขึ้นเล็กน้อย จับจ้องดวงตาของเธออยู่เงียบๆ ราวกับกำลังรอคําตอบจากเธอซูหว่านก้มหน้า ครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน แต่กลับนึกอะไรไม่ออก จึงได้แต่พูดอย่างรู้สึกผิด "ฉันจำไม่ได้แล้ว..."ถ้าหากเธอยังเพ้อถึงชื่อซ่งซือเยว่ในฝันเหมือนอย่างในอดีต ถ้างั้นระหว่างเธอกับเขาก็คงไม่ต้องไปต่อกันแล้วมือของเธอที่อยู่บนแผงอกของเขา ค่อยๆกำแน่น "ขอโทษ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้..."เธอลุกขึ้นเตรียมจะไป แต่จี้ซือหานกลับกอดเธอแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของเธอเอาไว้เบื้องล่าง ดวงตาสวยงามจ้องเธอเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แต่จูบลงบนแก้มของเธอแผ่วเบา จากนั้นลุกขึ้น อุ้มเธอเข้าห้องอาบน้ำ...เสียงร้องครางของชายหนุ่ม เคล้าคลอกับเสียงน้ำไหลที่ตามมาติดๆ ลอยออกมาจากด้านในแว่วๆ...เสียงสุดท้าย เป็นเสียงจากลำคอที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาของชายหนุ่มซึ่งยังไม่เต็มอิ่มและต้องการอีกเขาว่า "หว่านหว่าน ในที่สุดเธอก็เรียกชื่อของฉันในฝันแล้ว..."ซูหว่านเหนื่อยจนสุดชีวิต แต่กลับยังฝืนร่างกายมานั่งวาดแบบต่อ เธอวาดไปด้วยแล้วก็ด่าจี้ซือหานในใจไปด้วยในที่สุดภายก็วาดจุดสุดท้า
เสิ่นหนานอี้ที่มาถึงเมืองเกรทฟอลส์ เมื่อเห็นวิลล่าสไตล์ปราสาทที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่สมมาตรอยู่ตลอดเวลาพังทลายลงทันทีเขาก้มหน้ามองรองเท้าแตะแห่งการประท้วงเพื่อแสดงออกต่อจี้ซือหานว่า "ฉันไม่แคร์นาย"...แล้วมองดูปราสาทตรงหน้าอีกครั้ง จู่ๆก็รู้สึกว่า การตัดสินใจของเขาเมื่อกี้ ออกจะเลอะเทอะไปหน่อย...ประตูวิลล่าเปิดอยู่ เสิ่นหนานอี้กลืนน้ําลายและเดินเข้าไปข้างในเมื่อเห็นว่าภายในวิลล่าหรูหราโอ่อ่ากว่าด้านนอก ความคับข้องใจของเสิ่นหนานอี้ก็หลั่งไหลเข้ามาในใจ"คุณซู รู้หรือเปล่า วันนั้นที่คุณถูกท่านประธานจี้พาตัวไป ผมนอนอยู่ที่ไหน?"ซูหว่านกำลังม้วนภาพวาด พร้อมกับถาม "นอนอยู่ที่ไหน?"เสิ่นหนานอี้ฉีกยิ้มบางๆ แล้วหัวเราะแห้ง "นอนอยู่ใต้สะพานลอย เป็นเพื่อนกับพวกคนจรจัดแอฟริกัน!"มือของซูหว่านที่กำลังม้วนภาพวาดอยู่ ก็ชะงักเล็กน้อย เธอพูดอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษนะ คุณเสิ่น ฉันไม่รู้เลย..."เสิ่นหนานอี้โบกมืออย่างใจกว้าง บ่งบอกว่าไม่เป็นไร "ถึงแม้ว่าคุณนอนในที่ที่ดีกว่าผม แต่คุณก็ต้องเสียเงินไปห้าล้าน"ขอแค่เธอต้องเจอกับเรื่องน่าสังเวชมากกว่าเขา เขาก็จะพอหาความรู้สึกยุติธรรมในใจได้ เพียงแต่
ในสระว่ายน้ำ คลื่นค่อยๆซัดเป็นระลอกบนผิวน้ำ ใต้แสงของดวงจันทร์...ชายหนุ่มกดหญิงสาวลงกับขอบสระว่ายน้ำ น้ำเสียงยั่วยวนล่อลวงให้เธอหลงใหล "หว่านหว่าน เธอยังไม่เคยพูดเลยว่ารักฉัน..."ฉันรักคุณสามคํานี้ เป็นสัญญาอย่างหนึ่ง ที่เมื่อพูดออก มันก็คือคําสาบานที่สัญญาไว้กับคนรักซูหว่านที่ขาดความกล้า มองดูดวงจันทร์ที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า แล้วก็ไม่รู้จะเอ่ยปากยังไงจี้ซือหานจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอด รอให้เธอเอ่ยคำว่า "ฉันรักคุณ" ออกมาอย่างเงียบๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้รับคำตอบดวงตาของเขาที่ก้มต่ำลงกระตุกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยกริ้มฝีปากยิ้มบางๆ "ฉันคงขอมากไป"ซูหว่านอ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นมา ใช้ผ้าขนหนูหห่อหุ้มตัวเธอไว้ จากนั้นอุ้มเธอกลับห้องอาบน้ำคืนนี้ จี้ซือหานไม่ได้พูดอะไรกับเธอมาก เพียงแต่สวมกอดเธอจากด้านหลังแน่น ราวกับแค่ว่านี้ก็พอใจแล้วซูหว่านหันกลับไปมองเขาหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาอะไร ช่วงที่เธอพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับนั้นเอง เขาจึงลืมตาคู่นั้นขึ้นนิ้วเรียวยาวลูบแผ่นหลังของเธอ กล่อมให้เธอนอน "หว่านหว่าน นอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปที่ที
จี้ซือหานเห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอ ความรู้สึกหดหู่ที่มืดมนในห้องหัวใจตั้งแต่เมื่อคืน ก็หายไปไม่น้อยทันทีเขาจับมือเธอและพาเธอไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากเปลี่ยนชุดขี่ม้าให้เธอด้วยตัวเองแล้ว เขาก็หันไปสั่งให้คนเอาเสื้อผ้าพิเศษของเขามาซูหว่านรออยู่นอกประตู เท้ากับบนราวบันได เขณะที่กำลังเตะก้อนหินบนพื้นอย่างเบื่อหน่ายนั้นเอง ประตูด้านหลังก็เปิดออกอย่างช้า ๆชายหนุ่มเดินออกมารับแสงแดด บนใบหน้าที่เย็นชาราวหิมะ สวมแว่นกันแดดสีดํา ขับใบหน้าให้ประณีตและมีมิติมากขึ้นสัดส่วนของเขาสมบูรณ์แบบ ท่อนบนสวมเสื้อสีขาวรัดรูป เข้ากับเข็มขัดสีดําที่พันรอบเอวแน่นท่อนล่างสวมกางเกงขี่ม้าสีขาว ขาเรียวยาวเมื่อถูกกางเกงยกสูงยิ่งเผยให้ดูขายาวมากขึ้น ใต้หัวเข่าลงไปเป็นรองเท้าบูทขี่ม้าทรงสูงสีดำชายหนุ่มถือหมวกกันน็อคด้วยมือข้างเดียว เอียงศีรษะน้อยๆปะทะกับแสงอาทิตย์แสงที่มีสีสันหลากหลายปรากฏขึ้น สะท้อนบนแว่นกันแดดตามทิศทางเอนเอียงของเขาทำให้เขาที่แผ่รังสีเย็นชาไปทั้งกาย ดูเหมือนกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่เดินออกมาจากภาพวาดสีน้ำมันโบราณเขาเดินมาตรงหน้าซูหว่าน ยกนิ้วมือเรียวยาวที่เห็นกระดูกข้อต่อ สวมหม
เมื่อกี้เห็นจี้ซือหานช่วยสวมหมวกกันน็อคให้ซูหว่าน ท่าทางนุ่มนวลและคลั่งรักแบบนั้น ทำให้เซิ่งจิ่นอิจฉา ในขณะเดียวกันก็ริษยาด้วยนิดหน่อยเธอกับซูหว่านก็หน้าตาเหมือนกัน แต่ภูมิหลังครอบครัว ความสามารถ การศึกษาของเธอสูงกว่าซูหว่านด้วยซ้ำจี้ซือหานดันไม่ชอบเธอ แต่กลับไปชอบซูหว่านที่คุณสมบัติเทียบฉันเธอไม่ติด นี่มันทำให้เธอรู้สึกเหนือความคาดหมายไปมากจริงๆซูหว่านปรายตามองเซิ่งจิ่นที่มั่นใจซะเต็มประดา แล้วตอบกลับเรียบๆ "งั้นคุณก็ไปถามเขาดูสิ"เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจี้ซือหานถึงตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ เพราะงั้นก็เลยไม่สามารถตอบคำถามของเซิ่งจิ่นได้เซิ่งจิ่นได้ยินคำพูดนี้ ก็เข้าใจว่าเป็นคำท้าทาย ใบหน้างามบึ้งตึงขั้นทันที "คุณซูไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน?"ซูหว่านขมวดคิ้ว ถามเธอด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ "คุณหมอเซิ่ง คุณถาม ฉันก็แค่ตอบตามความจริง มันเกี่ยวอะไรกับความมั่นใจ?"เซิ่งจิ่นยกริมฝีปากแสยะยิ้ม "คุณก็แค่มีจี้ซือหานคอยหนุนหลังให้ ถึงได้กล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน"ซูหว่านรู้สึกว่าคุยกับเซิ่งจิ่นไม่รู้เรื่อง จึงเม้มริมฝีปากสีแดง ไม่ตอบอะไรเธออีกเซิ่งจิ่นเห็นว่าเธอเป็นใบ้ไม่พูด