ซูเหยียนถึงได้กดความต้องการภายในของตัวเองไว้แล้วรีบขับรถมาที่นอกเมืองอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาจอดรถไว้ข้างทางเรียบร้อย ก็ย้ายตัวเองไปเบาะหลังจากนั้นก็อุ้มตัวของอลันมาจูบริมฝีปากอย่างบ้าคลั่งความคิดถึงที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยของซูเหยียนในหลายวันมานี้ ในที่สุดก็ได้รับการปลดปล่อยอลันที่กกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา มองเขาที่กำลังมัวเมาด้วยความปรารถนาร้อนแรง จึงถามหยั่งเชิงออกไปว่า "คุณ...คิดจะแต่งงานกับฉันเมื่อไรคะ?"นิ้วมือที่กำลังลูบไล้ใบหน้าของเธออยู่ชะงักกึก ความปรารถนาในดวงตาจางหายไป แล้วตอบกลับอย่างเย็นชาไปประโยคหนึ่ง "คนในตระกูลซูคงไม่เห็นด้วยถ้าผมจะแต่งงานกับคุณ"อลันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดลำคอของเขาเอาไว้ แล้วมองเขาอย่างยั่วยวน "แล้วคุณล่ะคะ?"สีหน้าของซูเหยียนชะงักไปเล็กน้อย แต่สายตากลับปรากฎร่องรอยของความอ่อนหวาน แต่ก็ไม่อยากยอมรับ "ไม่อยากแต่งด้วย"เมื่ออลันได้ยินดังนั้น ก็ผิดหวัง วางมือที่โอบรอบคอของเขาลง "ฉันเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ต้องแต่งงานแล้ว..."เมื่อซูเหยียนได้ยินว่าเธอจะแต่งงาน จู่ๆ หัวใจของเขาก็รู้สึกว่างเปล่าและเจ็บปวด จากนั้นความรู้สึกโมโหอย่างประหลาดก็ไล่ขึ้น
ที่เมืองหลวงกำลังมีฝนตกปลอยๆ กลุ่มคนที่สวมหน้ากาก กำลังล้อมรถลีมูซีนคันหนึ่งอยู่ชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบกว่าปีกำลังกอดชู้รักซึ่งเป็นสาววัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบกว่าๆ ไว้ในอ้อมแขนทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ร่างกายเปลือยเปล่า พยายามซ่อนตัวอยู่ที่เบาะคนนั่งด้านหลัง มองดูกลุ่มคนที่ปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหันอย่างหวาดกลัวจนตัวสั่นและที่ยิ่งทำให้ผู้ชายรู้สึกสิ้นหวังมากกว่าคือ ภรรยาของเขาก็ถูกกลุ่มชายชุดดำเชิญมาดูไลฟ์หนังสดถึงสถานที่จริงด้วยเช่นกัน..."กู้จั้วหลิน! ไอ้คนไร้ยางอาย!"ผู้หญิงกรีดร้องตะโกนออกมาเสียงดัง อยากจะพุ่งเข้าไปฆ่าชายโฉดชายชั่วคู่นี้ซะให้ตายอาเจ๋อเชิดคางเล็กน้อย แล้วมองไปทางชายที่สวมหน้ากากข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกปิดปากแล้วลากตัวออกไปทันทีผู้ชายที่อยู่ในรถกำลังจะมองไปที่อาเจ๋ออย่างขอบคุณ แต่ก็ถูกเขาเปิดประตูลากตัวลงมาจากรถซะก่อนผู้ชายล้มลงมาบนพื้นอย่างไม่เป็นท่า ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้นมา อาเจ๋อก็ใช้เท้าเหยียบลงไปขนหลังของเขาซะก่อนผู้ชายรู้สึกเจ็บตรงหน้าอกมาก ราวกับร่างกายของเขาถูกกดทับด้วยน้ำหนักกว่าร้อยโลก็ไม่ปาน หนักจนเขาไม่อาจจะหายใจได้...เขาเงยหน
สายตาที่กู้จั้วหลินมองเขา ไม่ใช่สายตาที่ดูแคลนอีกต่อไป แต่กลับแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว "แกเป็นใครกันแน่?!"กู้จั้วหลินเหลือบมองเขาทีหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไร้ความอดทนว่า "ให้เวลาแกหนึ่งนาที"เขาใช้มีดสั้นในมือชี้ไปที่สัญญาฉบับนั้น เป็นเชิงว่าให้เขาเซ็นให้เสร็จในเวลาหนึ่งนาที ไม่เช่นนั้นจุดจบเขาจะเป็นคนตัดสินใจเองตอนที่ปลายมีดพาดผ่านกระดาษบางๆ นั้น ประกายแสงจ้าสีขาวก็กระทบเข้ากับดวงตาของเขา ทำให้กู้จั้วหลินตกใจจนตัวสั่นเขามองไปยังผู้ชายคนนั้นอย่างหวาดผวา แล้วก็มองสลับไปที่ตัวเอกสารด้วยสีหน้าที่ลังเล "กลุ่มบริษัทกู้เป็นธุรกิจของตระกูลกู้ที่ทำมากว่าร้อยปี หากว่าฉันเซ็นเอกสารนี่ก็จะต้องการเป็นคนทรยศของตระกูลกู้..."จี้ซือหานที่หมดความอดทนไปนานแล้ว ไม่อยากที่จะฟังเขาพูดไร้สาระอีก เขายกมีดในมือขึ้นมาแล้วแทงลงไปที่บนไหล่ของกู้จั้วหลินทันทีหลังจากที่แทงลงไปแล้ว ก็ชักมีดกลับออกมาอย่างรวดเร็ว ตลอดการกระทำ ไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย รังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากดวงตา ช่างดูโหดเหี้ยมเหลือเกินกู้จั้วหลินเจ็บปวดจนต้องร้องออกมา เสียงดังโหยหวนท่ามกลางบรรยากาศรกร้างนอกเมือง ยิ่งทำใ
ซูหว่านที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง นั่งมองตัวเองในกระจกอย่างเหม่อลอยซานซานที่ผลักประตูเข้ามา เมื่อเห็นว่าเธอนั่งใจลอยอยู่ก็เดินเข้าไปตบบ่าของเธอเบาๆ"หว่านหว่าน ซือเยว่สั่งให้คนเอาของมาส่งให้ เธอลงไปดูข้างล่างหน่อยเถอะ...""ได้..."ซูหว่านตอบรับอย่างว่าง่าย ลุกขึ้นแล้วเดินตามซานซานลงไปข้างล่างด้านนอกของคฤหาสน์มีรถจอดอยู่หลายคัน กู้เจ๋ออุ้มชุดเจ้าสาวเดินเข้ามา"คุณซู คุณชายผมบอกว่าชุดแต่งงานที่ร้านแต่งงานไม่ค่อยดี เขาหาคนตัดชุดเจ้าสาวมาให้คุณชุดหนึ่งโดยเฉพาะ แล้วก็ยังมีรองเท้าเจ้าสาว เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของขวัญแต่งงานต่างๆ..."พอเขาพูดจบก็กวักมือเรียกผู้ช่วย ไม่นานก็มีคนยกของมากมายลงมาจากรถ ช่วยกับยกเข้าไปไว้ในคฤหาสน์หลังจากที่กู้เจ๋อส่งชุดแต่งงานให้กับซูหว่านแล้ว ก็พูดกับเธอว่า "คุณซู วันแต่งงาน เจ้านายของผมไม่สะดวกเดินทางมาร่วมพิธี ผมจะเป็นตัวแทนเขามารับเจ้าสาวเอง ตามกำหนดการเป็นช่วงสิบโมงเช้านะครับ ก่อนจะถึงตอนนั้น คุณชายได้เชิญทีมช่างหน้าช่างผมมาช่วยคุณแต่งตัวแล้ว ไม่ต้องตื่นเช้ามากก็ได้ครับ พักผ่อนให้มากๆ เรื่องต่างๆ ในงานแต่ง คุณไม่ต้องเป็นกังวล..."ซูหว่านตอบว่า
"คุณซู คุณหนูสองสั่งผมไว้ว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้คุณรับชุดแต่งงานนี้ไว้ให้ได้ ผมจำเป็นจะต้องทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้น"หลังจากที่เขาโบกมือสั่งให้คนรับใช้เอาชุดแต่งงานไปวางไว้บนโซฟาเรียบร้อยก็พูดกับซูหว่านว่า "หวังว่าคุณซูจะสวมชุดแต่งงานนี้ในวันแต่งงานนะครับ"ซูหว่านรู้สึกตื้อในใจ สีหน้าเคร่งเครียด "ลุงโจว เอากลับไปเถอะ สามีของฉัน ส่งชุดแต่งงานชุดใหม่มาให้ฉันแล้ว ชุดแต่งงานของคนอื่น ฉันไม่สนใจหรอก และก็จะไม่สวมชุดที่เขาให้ในวันแต่งงานด้วย"เธอพูดจาอย่างไร้เยื่อใย แถมยังขีดเส้นอย่างชัดเจน จนลุงโจวทั้งอึ้งทั้งโมโห "คุณซู สามปีมานี้ คุณหนูสองอาศัยกินยานอนหลับทุกวันเพื่อที่จะได้ฝันเห็นคุณ คุณทำกับเขาแบบนี้มันไม่ไม่ยุติธรรมไปหน่อยเหรอครับ?"ซูหว่านรู้สึกหายใจไม่ออก สีหน้าเคร่งเครียด ติดจะซีดน้อยๆทำไม ทำไมจะต้องมาบอกเรื่องพวกนี้กับเธอในตอนนี้ด้วย...ซานซานที่เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรมาตั้งแต่ต้น เมื่อได้ยินประโยคนี้ เธอก็ตะลึงไปเหมือนกันแต่เมื่อเห็นท่าทีบีบบังคับของลุงโจวที่มีต่อหว่านหว่าน จึงได้กดความตกใจนั้นลงไปเธอลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินมาขวางอยู่หน้าซูหว่านอย่างปกป้อง"คุณโจว หากว่าค
พริบตาเดียวก็ถึงวันแต่งงานแล้ว ทีมช่างแต่งหน้าที่ซ่งซือเยว่เชิญมา เพิ่งจะเดินทางมาถึงคฤหาสน์ตอนเก้าโมงเช้า ราวกับว่าอยากจะให้เจ้าสาวได้นอนพักนานหน่อย พวกเขาถึงได้จงใจมากันช้าแบบนี้ซานซานเชิญพวกเขาให้ขึ้นมาข้างบน ตอนที่เจอตัวเจ้าสาว ทั้งช่างหน้าช่างผม และดีไซน์เนอร์ต่างก็พากันตกตะลึงพวกเขายังคิดกันอยู่เลยว่ามีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวไม่น่าจะพอ แต่ดูจากหน้าตาของเจ้าสาว แค่แต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้วทีมช่างแต่งหน้าดึงตัวซูหว่านออกมาแต่งหน้าเอย ทำผมเอย ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็แต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อยทีนี้ก็ถึงคราวดีไซน์เนอร์ที่จะต้องมาช่วยเธอแต่งตัวแล้ว ดีไซน์เนอร์มองไปที่ชุดแต่งงานที่วางไว้อยู่บนโซฟาใช้มือที่สั่นน้อยๆ ลูบไปที่ชุดแต่งงานที่ประดับไว้ด้วยเพชร แล้วพูดอย่างตกใจว่า "นี่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของนักออกแบบชุดเจ้าสาวชื่อดังชาวฝรั่งเศส หลังจากที่เธอออกแบบชุดนี้ก็ไม่ได้จับดินสออีกเลย ชุดนี้จึงกลายเป็นชุดที่ล้ำค่าที่สุดในโลก"เธอหันไปมองซูหว่านที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างตกใจ "คุณซูคะ ทำไมชุดแต่งงานชุดนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้? สามีของคุณเป็นคนประมูลมาอย่างนั้นเหรอคะ? นี
ในจังหวะที่ประตูถูกผลักเปิดออก เขาก็มองเห็นหญิงสาวนั่งรอขบวนรับเจ้าสาวอยู่บนเตียงอย่างสงบ เธอไม่ได้สวมชุดเจ้าสาวที่เขาให้เธอเลือกใส่ชุดเจ้าสาวที่สามีของเธอเป็นคนสั่งตัดใหม่ให้ เป็นสไตล์ชุดผ้าลูกไม้เรียบหรู พอถูกสวมอยู่บนร่างกายของเธอ ยิ่งเสริมให้เธอดูบริสุทธิ์และงดงามขึ้นไปอีกเขากำช่อดอกไม้ในมือแน่น หลังจากที่พยายามสะกดความรู้สึกเจ็บปวดราวกับใจจะขาด ก็เดินเข้าไปหาเธอช้าๆ...ซูหว่านที่นั่งก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ก็เข้าใจว่ากู้เจ๋อมาถึงแล้ว แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ประสานสายตาเข้ากับดวงตาคมสวยที่แดงระเรื่อคู่หนึ่งเข้าพอดีหัวใจของเธอกระตุกไปหนึ่งที ใบหน้าขาวซีดขึ้นมาในฉับพลันเธอบอกกับลุงโจวแล้วว่าไม่ให้เขามา แต่เขาก็ยังมาแล้วจะให้เธอวางตัวยังไง จะให้ซ่งซือเยว่วางตัวยังไง แล้วตัวเขาล่ะจะวางตัวยังไง?แต่จี้ซือหานกลับไม่สนใจ หลังจากที่เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าของเธอช้าๆ เขาก็นั่งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วยื่นช่อดอกไม้ไปให้เธอ"คุณซู ขอโทษด้วย ผมแย่งเอาช่อดอกไม้จากกู้เจ๋อมา หวังว่าคุณอย่าโทษผม..."เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย อีกทั้งยังดูสุภาพและเหินห่าง ราวกับแค่มาส
ซูหว่านยังคงดิ้นขัดขืน แต่จี้ซือหานกลับกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น ไม่ยอมให้เธอดิ้นได้เขายืนยันที่จะอุ้มเธอต่อไป โดยไม่สนว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ เขาเดินลงไปข้างล่างทีละก้าวอย่างช้าๆเมื่อซานซานได้เห็นภาพนี้ ขอบตาของเธอก็พลันแดงก่ำขึ้นมา...เขาจะต้องมีความกล้ามากขนาดไหน ถึงมาส่งตัวคนรักไปแต่งงานได้ด้วยตัวเองแบบนี้จี้ซือหาน เขารักหว่านหว่านมากจริงๆ แต่ทั้งหมดนี้มันสายไปแล้ว...เขาอุ้มเธอเดินออกไปนอกคฤหาสน์ วางเธอลงบนเบาะนั่งด้านหลัง จากนั้นก็ค้อมตัวลงไปจัดกระโปรงยาวๆ ของเธอให้เรียบร้อยจากนั้นเขาก็มองไปที่ตำแหน่งข้างคนขับ ก่อนจะมองมายังเบาะที่นั่งข้างๆ เธอ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะนั่งลงข้างๆ เธอซูชิงเป็นคนขับรถ เมื่อเขาเห็นว่าท่านประธานของตัวเองยังทำใจเรื่องคุณซูไม่ได้ เขาก็กดปุ่มปิดฉากที่กั้นลงอย่างเข้าใจเขาขับรถออกไปยังสถานที่จัดงานแต่ง ด้านหลังมีขบวนรถส่งตัวเจ้าสาวขับตามมาอีกเป็นแถวซูหว่านที่นั่งอยู่บนรถรู้สึกตัวเย็นไปทั้งตัว ใบหน้าของเธอขาวซีดจนไร้สีเลือด ร่างกายบอบบางเอาแต่สั่นระริกไม่หยุดหลังจากที่จี้ซือหานสังเกตเห็น เขาก็พูดปลอบใจเธออย่างอ่อนโยน "อีกไม่นานก็ถึงแล้ว ต่อให้คุ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ