สิ่งที่จี้ซือหานเคยทํากับเธอเป็นเพียงหนึ่งในสิบของสิ่งที่เขาเคยทํากับพี่สาวนี่หรือคือเหตุผลที่พี่สาวรีบจบชีวิตเพื่อหนีเขา?จิเหยียนโจว... เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่?ซูหว่านมองเงาหลังที่โดดเดี่ยวนั้น เมื่อหายลับไปจากห้องรับแขก ก็ยกมือขึ้นลูบหัวใจตัวเองชั่วชีวิตนี้ของพี่สาว ใช้ชีวิตอย่างลําบากยากแค้นยิ่งกว่าเธออีกใช่ไหม?ซูหว่านถอนหายใจหนัก ชูยีได้จากโลกนี้ไปแล้ว หาคําตอบนี้ไม่ได้อีกแล้วหลังจากเธอนั่งอยู่บนโซฟาเป็นเวลานาน เธอก็ลุกขึ้นและกลับไปที่ห้องนอน เมื่อเปิดหน้าต่าง เธอก็เห็นว่ารถโคนีเซกที่ชั้นล่างยังไม่ได้ขับออกไปขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย หลังจากเย็บแผลที่ฉีกขาดจากก้นบึ้งของหัวใจให้แน่นแล้ว ก็ปิดหน้าต่างและปิดผ้าม่าน ปิดกั้นรถคันนั้นจากสายตาโดยสิ้นเชิงไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลของเขาหรือเปล่า เธอถึงได้ฝันร้ายทั้งคืนความผิดหวังต่อเขานับครั้งไม่ถ้วน ความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามา ความเสียใจก่อนกำลังจะตาย...ล้วนได้ปรากฏในความฝันทั้งหมด ทรมานจนเธอนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน พอตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือฟ้าก็สว่างแล้วสิ่งแรกที่เธอทําเมื่อตื่นนอนคือ เปิดผ้าม่านออกตามความเคยชิน พอกวาดสายตา
เธอไม่สนใจคนวิปริตคนนี้ หลังจากลบมันแล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์กลับไปที่วิลล่าจิเหยียนโจวไม่ได้อยู่ในร้านอาหารแล้ว ซูหว่านวางกุญแจรถไว้ที่เดิมแล้วหันหลังกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองเมื่อขึ้นไปชั้นบนก็เห็นจิเหยียนโจวเดินออกมาจากห้องของเธอ ระหว่างนิ้วมือมีเอกสารกองหนึ่งที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้"เก็บของ เราจะกลับอังกฤษ"เขาเดินผ่านเธอไปหลังจากทิ้งประโยคนี้ไว้ซูหว่านชะงักไปครู่หนึ่งแล้วรีบตามเขาทัน"ฉันเพิ่งกลับมา จะกลับไปตอนนี้ไม่เร็วไปเหรอคะ?"เธอยอมแต่งงานกับเขาก็เพราะแลกกับการได้กลับมา กลับไปเร็วขนาดนี้ไม่ถือว่าขาดทุนตายเหรอเนี่ย?จิเหยียนโจวหยุดเดินแล้วพูดกับเธอด้วยนํ้าเสียงเย็นชาว่า "เธอกลับมาก็เพื่อยืนยันว่าผู้ชายที่ชื่อซ่งซือเยว่คนนั้นเสียชีวิตแล้วหรือยัง? ในเมื่อยืนยันแล้วว่าเขาเสียชีวิตแล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ต่อ"เมื่อพูดถึงซ่งซือเยว่ ความรู้สึกผิดที่ซูหว่านเก็บกดไว้ในใจก็ถูกขุดออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง ทําให้เธอหน้าซีดทันทีเธอพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ หลังจากระงับความรู้สึกผิดที่ทำให้เธอหายใจไม่ออกแล้ว ก็มองไปที่จิเหยียนโจว"ฉันยังมีญาติคนหนึ่ง ฉันอยากอยู่เคียงข้างเธอค่ะ"เธอ
ซูหว่านกลับไปที่ห้องนอน เห็นจิเหยียนโจวยังไม่ขึ้นมาห้ามเธอ ในใจก็รู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อยจิเหยียนโจวจะกลับอังกฤษ เพราะตอนที่ทานมื้อเช้า เธอไม่ยอมเป็นตัวแทนของพี่สาวเขารู้ว่าเธออยากอยู่ต่อ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพื่อเสนอเงื่อนไข และทำให้เธอจำนนเธอจะยอมไปเป็นตัวแทนให้คนอื่นได้ยังไงกัน จึงจงใจทำเหมือนไม่เป็นไร เพื่อให้จิเหยียนโจวล้มเลิกความคิดนี้ซะแต่เห็นได้ชัดว่าสำหรับจิเหยียนโจวแล้ว อำนาจอยู่ในมือของเขา ไม่ว่าตนเองจะไกล่เกลี่ยกับเขาอย่างไร เขาก็ไม่สนใจซูหว่านรู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย นั่งลงบนเตียง หดตัวแล้วซุกหัวลงไปในอ้อมแขนตัวเองจิเหยียนโจวที่เดินเข้ามาจากข้างนอก เห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็เชิดคางขึ้นมาเชิงยั่วโมโหเล็กน้อย "จะเก็บของไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังไม่เริ่มล่ะ?"ซูหว่านได้ยินเสียงของเขา ก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เธอกัดฟันและจ้องมองเขา "รอเดี๋ยว"จิเหยียนโจวเห็นเธอทุกข์ใจแบบนี้ก็อารมณ์ดีมาก เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว "กลับอังกฤษกับฉัน ก็ไม่ต้องเป็นตัวแทนของชูยีอีกต่อไปแล้ว"จี้ซือหานรักเธอขนาดนี้ อยู่ในประเทศก็มีแต่จะวุ่นวายมากยิ่งขึ้น ถึงเวลาแย่งกันจริง ๆ คงเสียแรงมาก
ซานซานสวมกระโปรงยาวสีดำเผิดหลัง สะพายกระเป๋าแบรนด์นั่งบนโซฟา สำรวจสภาพแวดล้มรอบ ๆ คฤหาสน์เมื่อเห็นซูหว่านเดินลงจากบันไดวนลงมาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา จะเดินไปหาเธอแต่ซูหว่านกลับเร็วกว่า"เธอช้า ๆ หน่อย เดี๋ยวก็ล้มหรอก"ซานซานประคองเธอไว้แล้วลูบผมสั้นเธออย่างอ่อนโยน "เมื่อก่อนไว้ผมยาวตลอด ตอนนี้ตัดผมสั้นแล้วดูสดใสขึ้นเยอะนะ"ซูหว่านแม้จะมีความทุกข์ในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกให้ซานซานเห็น "เมื่อก่อนป่วยออด ๆ แอด ๆ มาตลอด ตอนนี้ดูสดใสขึ้นก็ดีแล้วล่ะ"ซานซานยิ้มอย่างซึ้งใจ "เธอคิดแบบนี้ได้ก็ดีแล้ว"ซูหว่านยิ้มตอบ "ซานซาน เธอกินข้าวเช้ารึยัง?"ซานซานพยักหน้าตอบ "กินแล้ว"เธอพูดจบก็หันมองซ้ายขวาถามซูหว่าน "คุณจิคนนั้นล่ะ?"ซูหว่านเงยหน้ามองไปทางห้องนอนชั้นสอง "คงกำลังเป็นเด็กหลายบุคคลิกอยู่มั้ง"ซานซานผงะไปอย่างไม่เข้าใจ กว่าเธอจะเข้าใจซูหว่านก็ลากเธอเดินออกไปที่สวนข้างนอกแล้ว"เมื่อกี้เธอด่าจิเหยียนโจวว่า เป็นผู้ป่วยโรคจิตหลายบุคลิกใช่ไหม?"ซูหว่านพยักหน้าลากเธอมานั่งลงบนโซพาตัวน้อยสาวใช้ยกกาแฟและของขวัญมาเสิร์ฟวางไว้หน้าซานซานทันทีซานซานบอกขอบคุณกับสาวใช้แล้วถามซูหว่านอย่างไม่เข้าใจ
ซูหว่านอุ่นใจขึ้นมา ซานซานก็เป็นแบบนี้ตลอด ยอมทุ่มเทให้เธอทุกอย่างไม่ใช่แค่พี่สาวที่แสนดีของเธอ แต่ยังเป็นแสงสว่างในความมืดมิดของเธออีกด้วยจะปล่อยให้คนอบอุ่นแบบนี้ไปเสี่ยงอันตรายกับเธอที่อังกฤษได้ยังไง?"ความสัมพันธ์ของฉันกับจิเหยียนโจวซับซ้อนเกินไป ไม่รู้ว่าอนาคตจะกลายเป็นแบบไหน ฉันไม่อยากให้เธอไปเสี่ยงอันตรายกับฉัน""ฉันรู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ว่าหว่านหว่าน..."ซานซานมองซูหว่านแล้วพูดอย่างมั่นคง "ฉันเหลือเธอเป็นญาติเพียงคนเดียวแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนที่นั่นก็คือบ้านของฉัน"ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนที่นั่นก็คือบ้านของฉัน ประโยคนี้ทำให้ซูหว่านกลั้นน้ำตาไหวจนทะลักออกมาซานซานยกมือตบหลังเธอเบาๆ "หว่านหว่านคนดี ไม่ต้องร้องนะ ฉันยังไม่เคยไปอังกฤษเลย ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาแล้วกัน"ซูหว่านอยากเปลี่ยนใจเธอแต่อยู่ๆ ซานซานก็โพล่งออกมา "เกือบลืมเลย การศึกษาฉันไม่สูงพูดภาษอังกฤษได้แค่ไม่กี่คำอย่าง สวัสดี ขอบคุณอะไรพวกนี้ แล้ววันหลังจะคุยกับฝรั่งยังไงล่ะเนี่ย?"เธอพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ถ้าใช้แค่ภาษามือ คนต่างชาติพวกนั้นจะรู้เรื่องไหมนะ?"ตอนแรกซูหว่านกำลังร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล แต่เมื่อได
เมื่อก่อนเรื่องที่จี้เหลียงชวนเป็นกังวลที่สุดก็คือกลัวว่าพี่รองจะตกหลุมรักซูหว่านแต่คำตอบที่ได้รับจากการลองใจในหลาย ๆ ครั้งก็คือไม่รัก เขาเลยไม่ได้ไปยุ่งกับพี่รองอีกใครจะไปนึกว่าหลังจากที่ซูหว่านเสียชีวิต พี่รองของเขาจะกรีดแขนตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย และกินยาอย่างบ้าคลั่งเพื่อเธออีกตอนนี้เพิ่งจะถูกช่วยชีวิตกลับมาหยก ๆ พอฟื้นขึ้นมาก็ดึงสายน้ำเกลือออกแล้วกลับไปไปดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ช่างไม่รักชีวิตตัวเองเลยจริง ๆจี้ซือหานไม่ได้ยินเลยว่าเขากำลังพูดอะไร เขายื่นมือไปทางเขา "เอามาให้ฉัน"จี้เหลียงชวนกดขวดเหล้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย "ถ้าพี่ยังดื่มต่อไปแบบนี้ก็ได้ตายแน่ ๆ ดื่มอีกไม่ได้แล้ว"จู่ ๆ จี้ซือหานก็ยิ้มเย็นออกมาแล้วพูด "เดิมทีฉันก็ไม่ได้จะอยากมีชีวิตอยู่แล้วนี่"จี้เหลียงชวนสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมพร้อมนึกย้อนกลับไปถึงภาพพี่รองในตอนเด็กที่เกือบจะถูกเหลียนหว่านชิงทรมานจนเกือบตายเลยอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตระกูลจี้ พี่รองก็คงจะจากโลกนี้ไปนานแล้วเขาปล่อยมือที่กดขวดเหล้าออกแล้วส่งมันให้กับจี้ซือหาน "ดื่มให้มันน้อย ๆ หน่อยนะ"จี้ซือหานรินเหล้าเสร็จก็ถือแก
จี้ซือหานหัวเราะอย่างเยือกเย็น ดวงตาเย็นชาและห่างเหินคู่หนึ่งเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเองเขากดความเจ็บปวดที่อึดอึดในหัวใจของเขา เเล้วหยิบแก้วขึ้นมาและดื่มอีกครั้งลูกกระเดือกที่เซ็กซี่ขยับไปมา เขาใช้วิธีกลืนความเจ็บปวดเหล่านั้นลงไปพร้อมกับไวน์แต่ไวน์ก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดนั้นได้ จี้ซือหานวางแก้วของเขา ลุกขึ้นและเดินโซเซไปทางชั้นสอง...เมื่อมองดูเเผ่นหลังที่เย็นชาและโดดเดี่ยวนั้น จู่ ๆ จี้เหลียงชวนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ปู่ของเขาพูดนั้นถูกต้อง ความรักเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปยุ่งกับมันดันเป็นพี่ีรองที่ถูกสอนแต่เด็กว่าอย่าหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนที่หวั่นไหวมากที่สุด แต่กลับเป็นเขาที่เลือกที่จะเฉยเมยต่อความรักจี้เหลียงชวนเล่นกับแก้วไวน์และจ้องมองไปที่ซูชิง ซึ่งมีสีหน้าเป็นกังวลเช่นกัน "พี่ีรองของฉันรู้ว่าคุณซูยังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังคงหดหู่และไม่มีความสุข ไม่ใช่ว่าไปขอเขาคืนดี เเต่ถูกปฏิเสธมาหรอกนะ?"ซูชิงถอนสายตาที่เป็นกังวลของเธอออกและพยักหน้าไปทางจี้เหลียงชวน "ดูเหมือนว่าคุณซูจะผิดหวังกับประธานจี้เเล้ว"เขาก็ไม่ได้บอกว่าคุณซูไม่รักประธานจี้ แต่เขารู้สึกเสมอว่าเธอเคยรั
พอพูดจบจี้เหลียงชวนก็วางแก้วไวน์ หยิบเสื้อนอกแล้วลุกออกไปพอเขาเดินออกมาถึงข้างนอกกำลังเปิดประตูรถ เฉียวซานซานก็โทรเข้ามาพอดีเขารับสายไปพลางระหว่างขึ้นไปนั่งในรถ "มีอะไร"ซานซานกุมโทรศัพท์ไว้ในมือพูดกับเขาว่า "คุณชายเจ็ด คุณอยู่ไหน ฉันมีธุระกับคุณนิดหน่อย"จี้เหลียงชวนเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ก็บอกแล้วว่าจะไม่เจอกันตอนกลางวัน เจอแค่ตอนกลางคืนไม่ใช่หรือไง?"เขาไปเอาผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาเป็นแฟน ถูกเพื่อนคนรวยที่เป็นเพลย์บอยเยาะเย้ยมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่เสน่ห์ของเธอทำให้เขาอดใจไม่ได้ เขาจึงต้องทนรับแรงกดดันจากการถูกเยาะเย้ย ให้เธอได้นั่งตำแหน่งแฟนสาวของเขาต่อไปแต่อย่าหวังว่าเขาจะไปหาเธอตอนกลางวัน ถ้าถูกพวกเพื่อน ๆ เห็นเข้า เขาต้องถูกพวกนั้นถากถางอีกแน่ เขาคงทนไม่ไหวซานซานเหลือบมองคฤหาสน์ของจี้เหลียงชวนแล้วพูดว่า "ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว คุณกลับมาหน่อยนะ"จี้เหลียงชวนหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "โอเค งั้นเธอรอฉันก่อน"กับผู้หญิงถ้าอีกฝ่ายขออะไรเขาก็ตอบสนองตลอดอยู่แล้ว ยิ่งกับแฟนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาวางสายแล้วสตาร์ทรถตรงกลับไปที่ค