เธอเข็นเสาน้ำเกลือเดินกลับห้องผู้ป่วยของตัวเอง ซานซานซื้อข้าวต้มกลับมา พอเห็นเธอก็รีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหา"ไข้เพิ่งลดก็ซี้ซั้วเดินออกไปนู่นนี่ อยากตายหรือไง?"ซานซานกดให้เธอนั่งลงบนเตียง แล้วทำหน้าดุอบรมเธอ "ตัวเองก็เป็นโรคหัวใจอยู่ ยังไม่รู้จักระวังให้ดีอีก"ซูหว่านรู้สึกอบอุ่นในใจ เธอเม้มปากยิ้มๆ "ฉันไปเอาผลตรวจมา"ซานซานเปิดถ้วยข้าวต้ม พร้อมกับพูดขึ้น "ฉันไปเอาให้เธอได้หน่า ซี้ซั้วเดินออกไปทำไม"พูดจบ เธอก็ยื่นมือออกมาอย่างเป็นห่วง "ผลตรวจอยู่ไหน? เอามาให้ฉันดูซิ"ซูหว่านกระพริบตาปริบๆ ไม่อยากโกหกซานซาน แต่ก็ต้องจำใจ "ฉันหยิบไปให้หมอช่วยดู แล้วลืมไว้ที่ห้องตรวจน่ะ"ซานซานได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพียงแต่เป็นห่วงสภาพร่างกายของเธอ "แล้วผลตรวจว่ายังไง?"ซูหว่านตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ "ก็แค่ผลตรวจเลือด ไม่ได้เป็นอะไร"มือของซานซานที่กำลังคีบตะเกียบอยู่ก็ชะงัก เธอหันไปมองซูหว่านด้วยสีหน้าจริงจัง "เธอไม่เหมือนคนทั่วไป เธอมีโรคหัวใจอยู่ ผลตรวจเลือดคือส่วนสำคัญที่สุดในการตรวจร่างกาย"ซูหว่านยิ้มแห้งๆ "รู้แล้วหน่า หมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร หัวใจอะไรก็ปกติ เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"
หลังจากนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน ซูหว่านก็ไข้ลดลงจนเป็นปกติแล้ว จะมีก็แต่ร่างกายที่ยังอ่อนแออยู่บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกเธอจึงให้ซานซานไปทำเรื่องของคืนค่าห้อง ทั้งสองคนทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จ ก็กลับบ้านทันทีที่กลับมาซานซานก็วุ่นวายอยู่ในครัว ซูหว่านอยากช่วย แต่ซานซานไม่ให้ทำ"เธอขึ้นห้องไปนอนเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเอง"ซานซานโบกมือไล่ให้เธอออกไปซูหว่านไข้ลดแล้ว แต่ดูเหมือนอาการหัวใจล้มเหลวกลับแย่ลงเธอรู้สึกเจ็บหน้าอก เวียนหัว เลือดไม่ไหลเวียน ออกซิเจนต่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย แม้แต่จะยืนยังไม่มั่นคงสภาพนี้ก็คงช่วยอะไรซานซานไม่ได้ จึงได้แต่เชื่อฟัง พยุงร่างของตัวเองกลับไปที่ห้องนอนเมื่อทิ้งตัวลงบนเตียง ก็ตั้งใจจะว่านอนหลับ แต่จู่ๆโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงก็มีเสียงข้อความเข้า เป็นข่าวบันเทิงที่เธอติดตามอยู่นับตั้งแต่อยู่กับจี้ซือหาน เธอไม่ค่อยรู้ตารางงานเขานัก แต่บางครั้งก็เห็นเขาออกข่าว ก็เลยติดตามเพจข่าวไว้บ้างเธอเปิดขึ้นดู ก็เห็นปาปารัซซี่ถ่ายรูปที่จี้ซือหานอุ้มหนิงหว่านเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วเขียนพาดถึงรักถ่านไฟเก่าของทั้งคู่เธอค่อยๆเลื่อนลงมาทีละนิด คอมเม
ขณะกำลังหลับลึกไม่สนโลกอยู่นั้น จู่ๆโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นอีกเธอพยายามเปิดหนังตาอันหนักอึ้งจากความเหนื่อยล้า แล้วยันตัวลุกขึ้นรับโทรศัพท์"ที่รัก"เสียงของหลินเจ๋อเฉินดังขึ้นจากปลายสาย "ฉันได้ยินว่าเธอไข้ขึ้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"ซูหว่านได้ยินเสียงของเขา ความรู้สึกอยากลาโลกก็กลับเข้ามาอีกครั้งเธอรู้สึกว่าหลินเจ๋อเฉินแปลกคนจริง คนที่คิดแต่จะปล้ำเธอท่าเดียว ทำไมอยู่ๆก็เป็นห่วงสุขภาพเธอขึ้นมา?ทั้งส่งข้อความ ทั้งโทรหา คงไม่ได้รู้ว่าเธอใกล้ตาย เลยจะปล่อยเธอไปหรอกนะ?ในสมองของซูหว่านมีความคิดตีกันไม่หยุด แต่หน้าตาเฉยเมยนั้นตอบกลับไปเรียบๆ "หายแล้ว""หายแล้วก็ดี"หลินเจ๋อเฉินตอบกลับแบบลวกๆ แล้วรีบถามขึ้นอีกอย่างทนไม่ไหว "เมื่อกี้ที่เธอโทรมา จัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้วใช่ไหม?"ซูหว่านรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างหลินเจ๋อเฉินหรอจะมาห่วงสุขภาพเธอ แล้วเธอก็เพิ่งเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาเธอยืดหลังนั่งตัวตรงบนเตียง มือข้างนึงประคองหน้าผากที่ปวดหัวตึบๆ แล้วพูดเสียงเย็น "ฉันไปหาประธานจี้มาแล้ว เขาบอกว่าขอคิดดูก่อน"ที่เธอเอาตัวรอดจากวันนั้นได้ ก็เพราะใช้คลิปอนาจารมาข่มขู่จี้ซือหาน เพื่อเอาโ
กว่าจะถึงวันที่เก้าเดือนหน้า ยังมีเวลาอีกประมาณสิบวันซูหว่านไปโรงพยาบาลต่างๆในทุกวัน เพื่อสะสมยานอนหลับกลับมาหลังจากเก็บยาพวกนี้อย่างดีแล้ว ก็เห็นกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะถึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คืนชุดราตรีกับสร้อยเพชรให้หลินเจ๋อเฉิน จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเรียกเดลิเวอรี่ถึงแม้เธอต้องต่อสู้กับหลินเจ๋อเฉิน แต่ของพวกนี้ไม่ใช่ของเธอ ดังนั้นต้องส่งมันคืนไปคนขับเดลิเวอรี่มาถึงด้วยความรวดเร็ว หลังจากนำของส่งออกไป เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยตอนที่หลินเจ๋อเฉินเห็นชุดราตรีกับสร้อยที่ถูกส่งคืนมา ในแววตาของเขาก็เผยความสนุกซูหว่านไม่เหมือนกับคนอื่นจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงเอาของพวกนี้ไปขายทิ้งหมดแล้ว แต่เธอกลับส่งมันคืน!ดูท่าทางว่าครั้งนี้เขาจะเจอเข้ากับตัวตึงของแท้เข้าให้ แต่ไม่เป็นไร รอเธอเอาโปรเจคมาให้เขาเรียบร้อยก่อน เขาค่อยกำราบเธอ!ซูหว่านนอนพักผ่อนอยู่บ้านครู่ใหญ่ ซานซานก็โทรมาชุดแต่งงานรุ่นลิมิเต็ดที่เธอสั่งตัดไว้เสร็จแล้ว เลยอยากจะให้ซูหว่านไปร้านเวดดิ้งเพื่อลองชุดเป็นเพื่อนซานซานรีบยันร่างอันเหนื่อยอ่อนให้ลุกขึ้น แล้วไปร้านเวดดิ้งที่ซานซานส่งมาเจียงยวู่ซึ่ง
ซูหว่านกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง ก็เลยรีบปลอบใจ "ก็อุตส่าห์ลดน้ำหนักเพื่องานแต่งเธอน่ะสิ"ซานซานขมวดคิ้วบ่น "เธอผอมจนจะเป็นไม้จิ้มฟันอยู่แล้ว ยังจะลดอะไรอีก ฟังฉันให้ดี ต่อไปนี้ต้องกินข้าวมื้อละสามจาน!"เจียงยวู่หลุดขำออกมา "กินข้าวมื้อละสามจาน หว่านหว่านคงได้อ้วนเป็นหมูพอดี"ซานซานทำเสียงฟึดฟัด "หว่านหว่านของฉันต่อให้อ้วนเป็นหมูก็ยังสวยอยู่ดี"เจียงยวู่พยักหน้า "จ้าๆๆ หว่านหว่านของเธอจะอ้วนยังไงก็สวย แล้วตอนนี้ไปแต่งหน้าได้หรือยังจ๊ะ?"พอถูกเจียงยวู่ช็อตฟีลแบบนั้น ซานซานก็เลิกบ่นซูหว่าน แล้วลากเธอไปที่ห้องแต่งหน้าพวกเขาลองแต่งหน้าทำผมในสไตล์ที่จะใช้ในวันจริงเสร็จ ก็ไปโรงแรมเพื่อซ้อมกำหนดการณ์ทั้งหมดหลังจากยุ่งมาทั้งวัน เจียงยวู่ก็พาซานซานกับซูหว่านไปกินข้าวเย็น แล้วพามาส่งที่บ้านซานซานกลับมาพักอยู่สักครู่ จากนั้นก็เริ่มเก็บข้าวของเจียงยวู่ซื้อเรือนหอเอาไว้แล้ว หลังจากที่ซานซานแต่งงานเธอก็จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่"หว่านหว่าน ถ้าฉันย้ายเข้าเรือนหอแล้ว บ้านเล็กๆหลังนี้ยกให้เธอเป็นคนดูแล ช่วยดูบ้านของเราด้วยนะ~"สำหรับซานซานแล้ว บ้านหลังเล็กๆที่มีซูหว่านคอยดูแลอยู่ ก็เท่ากับเป็น
ซานซานเห็นเธอล็อคกระเป๋าเดินทาง ก็รีบเข้าไปขวาง แต่ถูกเธอผลักออกซานซานถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "หว่านหว่าน ทำไมถึงดื้อแบบนี้?"เมื่อซูหว่านล็อคกระเป๋าเสร็จ ก็หันกลับไปกอดแขนซานซานอย่างออดอ้อน"เธอดูแลฉันมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ฉันไม่เคยให้อะไรเธอเลย ก็คิดซะว่ารับน้ำใจจากน้องสาวคนนี้แล้วกัน"แต่ซานซานก็ยังไม่เห็นด้วย ปกติหว่านหว่านก็ใช้ชีวิตด้วยความลำบากมากพอแล้ว จะให้รับเงินเธอมาอีกได้ยังไงแต่ซูหว่านก็ยังยืนยันจะให้เธอให้ได้ ซานซานจึงได้แต่รับบัตรเอทีเอ็มมาก่อนคิดไว้ว่ารอวันที่เธอแต่งออกไป ค่อยเอาบัตรเอทีเอ็มไปวางคืนที่ห้องนอนหว่านหว่านเงินที่หว่านหว่านลำบากแทบตายกว่าจะหามาได้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่รับไว้เด็ดขาดหลังจากทั้งสองคนเก็บของทุกอย่างเสร็จดี ก็นอนในห้องเดียวกัน บนเตียงเดียวกันเหมือนสมัยยังเป็นเด็กๆ ที่มาร์กหน้าไปด้วย แล้วจินตนาการถึงอนาคตตัวเองไปด้วยซานซานพูดถึงการแต่งงานของซูหว่าน บอกว่าเลิกกับจี้ซือหานก็ดีเหมือนกัน ผู้ชายคนนั้นสถานะทางสังคมสูงเกินไป เขาไม่มีทางเอาผู้หญิงธรรมดาไปเป็นภรรยาอยู่แล้ว เธอแนะนำให้ซูหว่านหาพนักงานออฟฟิศภูมิฐานสักคน ที่สถานะใกล้เคียงกัน หาเ
ในทิศทางของประตู บอดี้การ์ดสิบกว่าคนสวมชุดสีดําผลักประตูเข้ามาหลินเจ๋อเฉินเอาสองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสูทและเดินเข้ามาเหมือนม้าดีดกะโหลกแขกเหรื่อเต็มหอเห็นท่าทางของคนกลุ่มนี้ตกใจจนไม่กล้าพูดซานซานและเจียงยวู่ก็ไม่รู้จะทําอย่างไรดี ตกตะลึงอยู่ที่เดิมช่วงเวลาที่ซูหว่านเห็นหลินเจ๋อเฉิน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีขาวทันทีเธอยังคิดว่าเขาคงไม่มา ไม่คิดว่ายังรีบเข้าไปในงานแต่งงานกเธอกลัวว่าหลินเจ๋อเฉินจะทําลายงานแต่งงาน จึงรีบลุกขึ้นจากแขกและเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว"ประธานหลินค่ะ"ซูหว่านรีบหยุดหลินเจ๋อเฉินที่เดินไปทางแคทวอล์ค "สัญญาเซ็นแล้ว คืนนี้ฉันจะมอบให้คุณค่ะ"หลินเจ๋อเฉินมองเธอขึ้นและลงและเห็นเธอสวมชุดเพื่อนเจ้าสาวสีแชมเปญเซ็กซี่ ดวงตาสีเทาดําจุดประกายความปรารถนาทางเพศทันทีเขาเอามือเดียวโอบเอวของซูหว่านไว้ และดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและแตะต้องพลางพูดว่า "เมื่อคุณเซ็นแล้ว ทำไมไม่ ให้ผมเร็วกว่านี้หรือ?""ประธานหลิน ฉันต้องรับรองว่างานแต่งงานจะสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น ไม่งั้นถ้าคุณเอาสัญญาไปแล้ว พูดไม่นับ รบกวนงานแต่งงานของเพื่อนฉันจะทํายังไง" ซูหว่านอดขยะแขยงและรับมืออย
ทันทีที่พวกเขาจากไป แขกที่เต็มห้องโถงก็เริ่มพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับซูหว่าน ดูเหมือนจะบอกว่าเธอยั่วยุคนประเภทนี้ได้อย่างไรซูหว่านไม่ได้เอาใจ แต่หันไปมองซานซานและเจียงยวู่ที่เดินมาหาเธอ"หว่านหว่าน นั่นใครล่ะ?"ซานซานมีสีหน้าเป็นห่วง และมองซูหว่าน ลางสังหรณ์บอกเธอว่า คนกลุ่มนั้นไม่ใช่คนดีซูหว่านตบมือเธอด้วยรอยยิ้ม "นั่นคือประธานของกลุ่มบริษัทหลิน เขามาหาฉันเพื่อขอเอกสารสัญญาที่สําคัญฉบับหนึ่งค่ะ"เมื่อเธอพูดแบบนี้ เธอจงใจเปิดเสียงให้สูงขึ้นมีไมโครโฟนเล็ก ๆ ติดอยู่บนชุดแต่งงานของซานซาน เธออยู่ใกล้ ๆ และเสียงจะออกมาจากไมโครโฟนตามธรรมชาติแขกเหรื่อได้ยินคําอธิบายของเธอและเริ่มพูดคุยกันอีกครั้งโดยบอกว่าเพื่อนของซานซานเก่งมากและแม้แต่ประธานของกลุ่มบริษัทหลินก็รู้จักบ้านเกิดของเจียงยวู่อยู่ชานเมืองของเมืองเอ ทุกคนไม่รู้จักคนใหญ่คนโตอะไร แต่ชื่อที่รวยที่สุดในเมืองเอก็ยังเคยได้ยินซูหว่านอธิบายนี้เพื่อปัดเป่าความคิดเห็นของทุกคนไม่งั้นญาติพี่น้องของเจียงยวู่ คงเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนของซานซานเป็นคนนอกลู่นอกทางเอาดีไม่ได้สักอย่างเพราะประโยคที่ว่ากาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์ ก็เพียงพอที่จ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ