หลังจากที่ซูหว่านวิ่งตากฝนกลับบ้าน เธอก็ถอดชุดราตรี และสร้อยเพชรที่ประดับบนคอออก แล้วโยนมันลงกล่องพรุ่งนี้เธอจะส่งมันคืนให้หลินเจ๋อเฉิน ของของเขาน่าขยะแขยงเกินทน เธอจะไม่เก็บมันไว้เด็ดขาดเมื่อปิดฝากล่อง เธอก็เดินเข้าห้องอาบน้ำ เปิดก็อกด้านบนอ่าง แล้วลงไปนอนแช่เธอหยิบที่ขัดตัวมาถูกหลังของตัวเองอย่างแรงจนเกิดเป็นสีแดงเปื้อน จากนั้นก็มองดูตัวเองในกระจกเมื่อลบเครื่องสำอางออก จึงเหลือเพียงใบหน้าซีดเซียวที่เกิดจากอาการป่วย ไม่มีหลงเหลือความสดใสอีก โดยเฉพาะขอบใต้ตาที่ดำคล้ำเหมือนคนไม่มีชีวิตเธอมองไม่เห็นแสงแห่งความหวัง สัมผัสไม่ถึงความอบอุ่นไม่ต่างอะไรกับมดตัวนึงที่ใครจะเหยียบย่ำเมื่อไหร่ก็ได้แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี..."ศักดิ์ศรี"ซูหว่านพึมพำคำนั้นออกมา แล้วก็หัวเราะเยาะตัวเอง นับตั้งแต่วินาทีที่เขาขายตัวให้จี้ซือหาน เธอก็ไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีอีกแล้วเธอเช็ดผมให้แห้ง แล้วทิ้งตัวนอนบนเตียง เนื่องจากเหนื่อยล้ามาก จึงผล็อยหลับไปไม่รู้ตัวเพราะตากฝนกลับบ้าน อาการป่วยก็ซูหว่านหนักขึ้นตามไปด้วย ซูหว่านสลบยาวจนถึงช่วงบ่ายของวันต่อมาซานซานทำงานกะดึก
ซานซานได้ยินเสียงร้องที่ดังขึ้นต่อเนื่องของซูหว่าน ก็ตกใจจนรีบปลุกให้ตื่น"หว่านหว่าน เป็นอะไร?"สติสัมปชัญญะของซูหว่านค่อยๆกลับเข้าที่ เธอเบิกตาโพล่ง ทั้งจี้ซือหานและซ่งซือเยว่ที่อยู่ตรงหน้าหายวับไป เหลือแค่ใบหน้าเป็นกังวลของซานซานเธอจึงตระหนักได้ว่าเมื่อกี้นี้เป็นเพียงแค่ฝันร้าย เธอฝันเห็นเหตุการณ์ในอดีต แล้วก็ฝันเห็นคนที่เธอไม่อยากพบเจอเธอสลัดภาพในหัวทิ้งไป พยายามกลืนน้ำลายเพราะคอที่แห้งผาก เมื่อยกมือขึ้นหวังจะหยิบน้ำมาดื่ม ก็พบว่าข้อมือของเธอมีสายน้ำเกลืออยู่"เธอไข้สูง ฉันก็เลยพามาโรงพยาบาล"ซานซานเห็นเธอมึนๆเพราะพิษไข้ จึงอธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็รินน้ำที่วางอยู่ข้างๆ พยุงตัวเธอให้ลุกขึ้นดื่มน้ำรสชาติหวานของน้ำไหลลงสู่คอ ทำให้ซูหว่านค่อยๆกลับมามีชีวิตอีกครั้ง..."ซานซาน...""หืม?"ซานซานขานรับด้วยความอ่อนโยน เธอลูบเส้นผมปรกตรงหน้าผากที่เปียกได้ด้วยเหงื่อ ไปทัดไว้ที่หูของเพื่อนรัก แล้วถามเบาๆ "หิวหรือเปล่า?"ซูหว่านรู้สึกเหนื่อยง่าย เธอส่ายหน้า "หมอได้บอกอะไรเธอหรือเปล่า?"โรคหัวใจล้มเหลวที่เป็นอยู่ เธอยังไม่ได้คิดเลยว่าจะบอกซานซานยังไงดี จู่ๆดันไข้ข
เธอเข็นเสาน้ำเกลือเดินกลับห้องผู้ป่วยของตัวเอง ซานซานซื้อข้าวต้มกลับมา พอเห็นเธอก็รีบลุกขึ้นเดินเข้ามาหา"ไข้เพิ่งลดก็ซี้ซั้วเดินออกไปนู่นนี่ อยากตายหรือไง?"ซานซานกดให้เธอนั่งลงบนเตียง แล้วทำหน้าดุอบรมเธอ "ตัวเองก็เป็นโรคหัวใจอยู่ ยังไม่รู้จักระวังให้ดีอีก"ซูหว่านรู้สึกอบอุ่นในใจ เธอเม้มปากยิ้มๆ "ฉันไปเอาผลตรวจมา"ซานซานเปิดถ้วยข้าวต้ม พร้อมกับพูดขึ้น "ฉันไปเอาให้เธอได้หน่า ซี้ซั้วเดินออกไปทำไม"พูดจบ เธอก็ยื่นมือออกมาอย่างเป็นห่วง "ผลตรวจอยู่ไหน? เอามาให้ฉันดูซิ"ซูหว่านกระพริบตาปริบๆ ไม่อยากโกหกซานซาน แต่ก็ต้องจำใจ "ฉันหยิบไปให้หมอช่วยดู แล้วลืมไว้ที่ห้องตรวจน่ะ"ซานซานได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ เพียงแต่เป็นห่วงสภาพร่างกายของเธอ "แล้วผลตรวจว่ายังไง?"ซูหว่านตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ "ก็แค่ผลตรวจเลือด ไม่ได้เป็นอะไร"มือของซานซานที่กำลังคีบตะเกียบอยู่ก็ชะงัก เธอหันไปมองซูหว่านด้วยสีหน้าจริงจัง "เธอไม่เหมือนคนทั่วไป เธอมีโรคหัวใจอยู่ ผลตรวจเลือดคือส่วนสำคัญที่สุดในการตรวจร่างกาย"ซูหว่านยิ้มแห้งๆ "รู้แล้วหน่า หมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร หัวใจอะไรก็ปกติ เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"
หลังจากนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน ซูหว่านก็ไข้ลดลงจนเป็นปกติแล้ว จะมีก็แต่ร่างกายที่ยังอ่อนแออยู่บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกเธอจึงให้ซานซานไปทำเรื่องของคืนค่าห้อง ทั้งสองคนทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จ ก็กลับบ้านทันทีที่กลับมาซานซานก็วุ่นวายอยู่ในครัว ซูหว่านอยากช่วย แต่ซานซานไม่ให้ทำ"เธอขึ้นห้องไปนอนเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเอง"ซานซานโบกมือไล่ให้เธอออกไปซูหว่านไข้ลดแล้ว แต่ดูเหมือนอาการหัวใจล้มเหลวกลับแย่ลงเธอรู้สึกเจ็บหน้าอก เวียนหัว เลือดไม่ไหลเวียน ออกซิเจนต่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย แม้แต่จะยืนยังไม่มั่นคงสภาพนี้ก็คงช่วยอะไรซานซานไม่ได้ จึงได้แต่เชื่อฟัง พยุงร่างของตัวเองกลับไปที่ห้องนอนเมื่อทิ้งตัวลงบนเตียง ก็ตั้งใจจะว่านอนหลับ แต่จู่ๆโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงก็มีเสียงข้อความเข้า เป็นข่าวบันเทิงที่เธอติดตามอยู่นับตั้งแต่อยู่กับจี้ซือหาน เธอไม่ค่อยรู้ตารางงานเขานัก แต่บางครั้งก็เห็นเขาออกข่าว ก็เลยติดตามเพจข่าวไว้บ้างเธอเปิดขึ้นดู ก็เห็นปาปารัซซี่ถ่ายรูปที่จี้ซือหานอุ้มหนิงหว่านเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วเขียนพาดถึงรักถ่านไฟเก่าของทั้งคู่เธอค่อยๆเลื่อนลงมาทีละนิด คอมเม
ขณะกำลังหลับลึกไม่สนโลกอยู่นั้น จู่ๆโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นอีกเธอพยายามเปิดหนังตาอันหนักอึ้งจากความเหนื่อยล้า แล้วยันตัวลุกขึ้นรับโทรศัพท์"ที่รัก"เสียงของหลินเจ๋อเฉินดังขึ้นจากปลายสาย "ฉันได้ยินว่าเธอไข้ขึ้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"ซูหว่านได้ยินเสียงของเขา ความรู้สึกอยากลาโลกก็กลับเข้ามาอีกครั้งเธอรู้สึกว่าหลินเจ๋อเฉินแปลกคนจริง คนที่คิดแต่จะปล้ำเธอท่าเดียว ทำไมอยู่ๆก็เป็นห่วงสุขภาพเธอขึ้นมา?ทั้งส่งข้อความ ทั้งโทรหา คงไม่ได้รู้ว่าเธอใกล้ตาย เลยจะปล่อยเธอไปหรอกนะ?ในสมองของซูหว่านมีความคิดตีกันไม่หยุด แต่หน้าตาเฉยเมยนั้นตอบกลับไปเรียบๆ "หายแล้ว""หายแล้วก็ดี"หลินเจ๋อเฉินตอบกลับแบบลวกๆ แล้วรีบถามขึ้นอีกอย่างทนไม่ไหว "เมื่อกี้ที่เธอโทรมา จัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้วใช่ไหม?"ซูหว่านรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างหลินเจ๋อเฉินหรอจะมาห่วงสุขภาพเธอ แล้วเธอก็เพิ่งเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาเธอยืดหลังนั่งตัวตรงบนเตียง มือข้างนึงประคองหน้าผากที่ปวดหัวตึบๆ แล้วพูดเสียงเย็น "ฉันไปหาประธานจี้มาแล้ว เขาบอกว่าขอคิดดูก่อน"ที่เธอเอาตัวรอดจากวันนั้นได้ ก็เพราะใช้คลิปอนาจารมาข่มขู่จี้ซือหาน เพื่อเอาโ
กว่าจะถึงวันที่เก้าเดือนหน้า ยังมีเวลาอีกประมาณสิบวันซูหว่านไปโรงพยาบาลต่างๆในทุกวัน เพื่อสะสมยานอนหลับกลับมาหลังจากเก็บยาพวกนี้อย่างดีแล้ว ก็เห็นกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะถึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คืนชุดราตรีกับสร้อยเพชรให้หลินเจ๋อเฉิน จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเรียกเดลิเวอรี่ถึงแม้เธอต้องต่อสู้กับหลินเจ๋อเฉิน แต่ของพวกนี้ไม่ใช่ของเธอ ดังนั้นต้องส่งมันคืนไปคนขับเดลิเวอรี่มาถึงด้วยความรวดเร็ว หลังจากนำของส่งออกไป เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยตอนที่หลินเจ๋อเฉินเห็นชุดราตรีกับสร้อยที่ถูกส่งคืนมา ในแววตาของเขาก็เผยความสนุกซูหว่านไม่เหมือนกับคนอื่นจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงเอาของพวกนี้ไปขายทิ้งหมดแล้ว แต่เธอกลับส่งมันคืน!ดูท่าทางว่าครั้งนี้เขาจะเจอเข้ากับตัวตึงของแท้เข้าให้ แต่ไม่เป็นไร รอเธอเอาโปรเจคมาให้เขาเรียบร้อยก่อน เขาค่อยกำราบเธอ!ซูหว่านนอนพักผ่อนอยู่บ้านครู่ใหญ่ ซานซานก็โทรมาชุดแต่งงานรุ่นลิมิเต็ดที่เธอสั่งตัดไว้เสร็จแล้ว เลยอยากจะให้ซูหว่านไปร้านเวดดิ้งเพื่อลองชุดเป็นเพื่อนซานซานรีบยันร่างอันเหนื่อยอ่อนให้ลุกขึ้น แล้วไปร้านเวดดิ้งที่ซานซานส่งมาเจียงยวู่ซึ่ง
ซูหว่านกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง ก็เลยรีบปลอบใจ "ก็อุตส่าห์ลดน้ำหนักเพื่องานแต่งเธอน่ะสิ"ซานซานขมวดคิ้วบ่น "เธอผอมจนจะเป็นไม้จิ้มฟันอยู่แล้ว ยังจะลดอะไรอีก ฟังฉันให้ดี ต่อไปนี้ต้องกินข้าวมื้อละสามจาน!"เจียงยวู่หลุดขำออกมา "กินข้าวมื้อละสามจาน หว่านหว่านคงได้อ้วนเป็นหมูพอดี"ซานซานทำเสียงฟึดฟัด "หว่านหว่านของฉันต่อให้อ้วนเป็นหมูก็ยังสวยอยู่ดี"เจียงยวู่พยักหน้า "จ้าๆๆ หว่านหว่านของเธอจะอ้วนยังไงก็สวย แล้วตอนนี้ไปแต่งหน้าได้หรือยังจ๊ะ?"พอถูกเจียงยวู่ช็อตฟีลแบบนั้น ซานซานก็เลิกบ่นซูหว่าน แล้วลากเธอไปที่ห้องแต่งหน้าพวกเขาลองแต่งหน้าทำผมในสไตล์ที่จะใช้ในวันจริงเสร็จ ก็ไปโรงแรมเพื่อซ้อมกำหนดการณ์ทั้งหมดหลังจากยุ่งมาทั้งวัน เจียงยวู่ก็พาซานซานกับซูหว่านไปกินข้าวเย็น แล้วพามาส่งที่บ้านซานซานกลับมาพักอยู่สักครู่ จากนั้นก็เริ่มเก็บข้าวของเจียงยวู่ซื้อเรือนหอเอาไว้แล้ว หลังจากที่ซานซานแต่งงานเธอก็จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่"หว่านหว่าน ถ้าฉันย้ายเข้าเรือนหอแล้ว บ้านเล็กๆหลังนี้ยกให้เธอเป็นคนดูแล ช่วยดูบ้านของเราด้วยนะ~"สำหรับซานซานแล้ว บ้านหลังเล็กๆที่มีซูหว่านคอยดูแลอยู่ ก็เท่ากับเป็น
ซานซานเห็นเธอล็อคกระเป๋าเดินทาง ก็รีบเข้าไปขวาง แต่ถูกเธอผลักออกซานซานถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "หว่านหว่าน ทำไมถึงดื้อแบบนี้?"เมื่อซูหว่านล็อคกระเป๋าเสร็จ ก็หันกลับไปกอดแขนซานซานอย่างออดอ้อน"เธอดูแลฉันมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ฉันไม่เคยให้อะไรเธอเลย ก็คิดซะว่ารับน้ำใจจากน้องสาวคนนี้แล้วกัน"แต่ซานซานก็ยังไม่เห็นด้วย ปกติหว่านหว่านก็ใช้ชีวิตด้วยความลำบากมากพอแล้ว จะให้รับเงินเธอมาอีกได้ยังไงแต่ซูหว่านก็ยังยืนยันจะให้เธอให้ได้ ซานซานจึงได้แต่รับบัตรเอทีเอ็มมาก่อนคิดไว้ว่ารอวันที่เธอแต่งออกไป ค่อยเอาบัตรเอทีเอ็มไปวางคืนที่ห้องนอนหว่านหว่านเงินที่หว่านหว่านลำบากแทบตายกว่าจะหามาได้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่รับไว้เด็ดขาดหลังจากทั้งสองคนเก็บของทุกอย่างเสร็จดี ก็นอนในห้องเดียวกัน บนเตียงเดียวกันเหมือนสมัยยังเป็นเด็กๆ ที่มาร์กหน้าไปด้วย แล้วจินตนาการถึงอนาคตตัวเองไปด้วยซานซานพูดถึงการแต่งงานของซูหว่าน บอกว่าเลิกกับจี้ซือหานก็ดีเหมือนกัน ผู้ชายคนนั้นสถานะทางสังคมสูงเกินไป เขาไม่มีทางเอาผู้หญิงธรรมดาไปเป็นภรรยาอยู่แล้ว เธอแนะนำให้ซูหว่านหาพนักงานออฟฟิศภูมิฐานสักคน ที่สถานะใกล้เคียงกัน หาเ