ตอนที่ 27จดหมายถึงเจ้าช่วงสายของวันหลิวซือนัวมาเยือนเรือนห้องหนังสือของพี่ใหญ่ตน ซึ่งพี่หลิวเค่อจะใช้ที่นี่เป็นห้องทำงานร่วมด้วย แน่นอนว่าสิ่งแรกที่หลิวซือนัวถามผู้เป็นพี่ชายมิใช่เรื่องเกี่ยวกับการค้าของร้านอาภรณ์ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ชายของนางและพี่สะใภ้"พี่ไม่อยู่จวนหลายวัน ทำไมวันนี้ไม่อยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้ให้มากหน่อยเล่า""พี่ยังมีงานที่ต้องจัดการอยู่ เสี่ยวหนานนางเข้าใจพี่เป็นอย่างดี นัวเอ๋อร์เจ้าอย่าได้กังวลแทนพี่ไปก่อนเลย" หลิวเค่อเอ่ยตอบผู้เป็นน้องสาวตน สายตาของเขายังไม่ละจากสมุดบัญชีที่อยู่ในมือตนแม้สักนิด"ที่ท่านว่า พี่สะใภ้เข้าใจท่านเป็นอย่างดีน่ะ พี่สะใภ้เป็นคนพูดออกมาเองหรือว่าเป็นพี่ใหญ่ที่คิดเองเออเอง""นัวเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึงเอ่ยเช่นนี้ พี่มั่นใจว่าเสี่ยวหนานจะต้องเข้าใจพี่แน่ พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อสกุลหลิว และก็เพื่อเสี่ยวหนานทั้งนั้น เหตุใดนางจะต้องไม่เข้าใจพี่ด้วย""พี่ใหญ่ ข้าเองก็ทราบดีว่าเรื่องระหว่างท่านสองสามีภรรยาแล้วข้าถือเป็นคนนอก ความจริงแล้วก็ไม่สมควรจะสอดปาก แต่ในฐานะที่ข้าเป็นน้องสาวของท่าน เมื่อเห็นปัญหาก็ไม่อาจละเลยไม่บอกท่านได้""เจ้ากำลังจะเอ
ตอนที่ 28เริ่มงานประมูลในที่สุดวันงานประมูลก็มาถึง หลิวซือนัว รวมไปถึงพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ต่างก็มาร่วมงานประมูลด้วยกันทั้งหมดงานประมูลในวันนี้จัดขึ้นที่สวนดอกไม้ของโรงเตี้ยมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง ผ้าปักที่จะเข้าร่วมประมูลนั้นจะถูกนำไปเก็บเอาไว้ที่ชั้นบนสุดของโรงเตี้ยมจนกว่าจะถึงเวลาประมูลจึงจะให้คนของผู้จัดประมูลเป็นคนนำลงมายามนี้หลิวซือนัวตามพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เข้ามายังสวนดอกไม้ของโรงเตี้ยมเพื่อรอการประมูลเริ่มขึ้น แน่นอนว่างานประมูลผ้าปักนี้ก็ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ไม่น้อยของเมืองเป่ยจูเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีผู้ที่มีชื่อเสียงในเมืองเป่ยจูแห่งนี้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก"นัวเอ๋อร์เจ้าค่อยตามพี่สะใภ้เอาไว้ก็แล้วกัน ส่วนพี่จะไปทักทายสหายทางด้านนั้นซะหน่อย"พี่ใหญ่ของนางเอ่ยสั่งก่อนจะเดินตรงไปยังกลุ่มบุรุษหลายคนที่ยืนอยู่ไกล ๆ ด้านพี่สะใภ้ของนางก็พานางเข้าไปร่วมวงสนทนากับเหล่าคุณหนูและฮูหยินที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่อีกด้านหนึ่ง เป็นเพราะนางเพิ่งจะออกงานเป็นทางการที่เมืองเป่ยจูแห่งนี้เป็นครั้งแรก แน่นอนว่าตัวหลิวซือนัวนั้นย่อมไม่เป็นที่รู้จักของใครเช่นเดียวกันกับที่นางเองก็
ตอนที่ 29ผู้ประมูลคนสุดท้าย"เรียนคุณชาย รายการประมูลผ้าปักของร้านอาภรณ์สกุลหลิวอยู่อันดับสุดท้ายของรายการขอรับ""ใกล้ถึงรายการเมื่อไหร่เจ้าค่อยเรียกข้าอีกที อย่าลืมเตรียมตั๋วเงินเอาไว้ให้พร้อมด้วย" อวี้หนานไห่เอ่ยสั่งคนสนิทของตนก่อนจะก้มลงไปตรวจสัญญาค้าเกลือในมือที่เพิ่งได้ทำการตกลงร่วมมือกันพ่อค้าเกลือเมื่อครู่ต่อ"ขอรับคุณชาย" กู่เหอรับคำคุณชายของตนก่อนจะถอยออกมาสั่งงานลูกน้องตนอีกที เขาไม่ลืมกำชับให้คนรีบมาแจ้งหากใกล้ถึงรายการประมูลแล้ว แน่นอนว่ายามนี้พวกเขานายบ่าวล้วนแล้วแต่อยู่ที่โรงเตี้ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โรงเตี้ยมฟางซือแห่งนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจการของหออวี้ฟางเช่นเดียวกัน วันนี้หากไม่มีการนัดพบกับพ่อค้าเกลือเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ซ้ำยังเป็นการเจรจาการค้าที่สำคัญ เกรงว่าคุณชายของเขาคงจะลงไปที่งานประมูลซึ่งจัดอยู่ที่สวนด้านในของโรงเตี้ยมตั้งแต่งานยังไม่เริ่มแล้วไม่ใช่ว่าคุณชายของเขามีความสนใจในงานประมูลนี้แม้แต่น้อย หากมิใช่ว่างานประมูลในครั้งนี้มีคุณหนูหลิวมาร่วมด้วย คุณชายของเขาคงจะทำเช่นทุกครั้งคือไม่ไปเข้าร่วมงานประมูล แม้สกุลอวี้จะเป็นหนึ่งในสามของผู้ลงทุนใหญ่ที่ร่ว
ตอนที่ 30ภัยร้ายเมื่อคืนกว่าที่จะกลับถึงจวนก็ค่ำแล้ว มิหนำซ้ำเมื่อถึงจวนแล้วหลิวซือนัวก็ยังถูกพี่ใหญ่และพี่สะใภ้กักตัวเอาไว้เค้นถามเรื่องระหว่างนางกับอวี้หนานไห่เสียยกใหญ่ กว่าจะยอมปล่อยนางกลับเรือนพักก็ดึกมากแล้ววันนี้หากไม่ติดตรงที่ว่า นางได้ข่าวมาว่าหลายวันก่อนมีเรือสินค้าจากแคว้นอื่นมาเทียบท่า และวันนี้จะนำสินค้าจากเรือนั้นจัดวางขายที่ตลาดท่าเรือหลิวซือนัวก็คงจะนอนตื่นสายสักวันไปแล้วพี่ใหญ่ของนางหลิวเค่อออกไปที่ร้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสางดี พี่สะใภ้เองก็ตามไปด้วย เพราะเมื่อวานผ้าปักจากร้านอาภรณ์สกุลหลิวของพวกนางถูกประมูลในราคาสูงที่สุดในรายการประมูล วันนี้ที่ร้านอาภรณ์ก็คงจะคึกคักไม่น้อย หลิวซือนัวแวะไปที่จวนสกุลซูก่อนที่จะตรงไปยังท่าเรือ นางหมายใจจะชวนพี่ฉีเอ๋อร์ไปตลาดท่าเรือด้วยกัน แต่แล้วนางก็ต้องผิดหวังเพราะพี่ฉีเอ๋อร์นั้นออกไปไหว้พระกับฮูหยินซูที่นอกเมืองตั้งแต่เช้ามืด มีเพียงแค่คุณชายรองซูฉีเหิงเท่านั้นที่ยังอยู่ที่จวนนางสนทนากับคุณชายรองอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ทราบว่าเขาเองก็กำลังจะไปที่ท่าเรือเช่นเดียวกันกับนาง ซ้ำเขายังอาสาจะช่วยแนะนำร้านค้าที่ท่าเรือให้นางด้วย แน่นอนว่าน
ตอนที่ 31เรื่องราวของตัวข้า'ที่นี่มันที่ไหนกันแน่นะ นี่นางตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ' นางจำได้ว่าตัวเองหมดสติไปที่สะพานท่าเรือ ไม่รู้ว่าเหตุใดภาพตัดมาอีกทีนางก็มาอยู่ในที่ ๆ มืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง นางเดินไปเรื่อย ๆ หวังให้พบเจอแสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี ที่นี่ทั้งมืดทั้งว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดเลยยิ่งก้าวขาเดินต่อไปก็ยิ่งหนาวเหน็บหรือว่านางควรจะหยุดและอยู่เฉย ๆ ในที่มืดมิดแห่งนี้ไปตลอดกาลงั้นเหรอ นี้คือสิ่งที่นางจะได้รับหลังความตายใช่ไหม?เวลานี้ในหัวของนางนั้นพลั่งพลูความคิดต่าง ๆ ออกมากมายจนรู้สึกสับสนวุ่นวายไปหมด แต่แล้วในชั่วขณะหนึ่งนางก็เหมือนกับว่าจะมองเห็นแสงสว่างเล็ดลอดออกมาจากประตูบานหนึ่ง หลิวซือนัววิ่งตามแสงสว่างนั้นไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด แต่ยิ่งนางวิ่งตามประตูบานนั้นกลับยิ่งดูเหมือนห่างออกไปทุกที ๆ นางลองหยุดวิ่งตามประตูบานนั้นดูก็ปรากฏว่าประตูที่เหมือนขยับไปเรื่อย ๆ ก็หยุดลงเช่นเดียวกัน"ข้าจะเข้าไปในประตูบานนั้นได้ยังไงนะ" นางยิ่งเข้าใกล้ประตูนั้นยิ่งขยับหนี เมื่อเป็นเช่นนี้ยังไงนางก็ไม่สามารถเข้าไปในประตูบานนั้นอย่างที่ใจคิด"ข้าช่วยเจ้าได้" เสียงของชายชราผู
ตอนที่ 32คำสาปนับพันปีเสี่ยวซือวิ่งหนีออกมาตามคำสั่งคนรักทั้งน้ำตา แต่นางก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากหัวหน้าหมู่บ้านจางได้สักที"ข้ากะว่าจะไม่เลือดของเจ้านองพื้น เพราะจะทำให้เสียของไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่ตอนนี้คงจะไม่ให้เปื้อนไม่ได้แล้วล่ะ" เขาเอ่ยพลางเดินถือดาบในมือตรงเข้าไปหาเสี่ยวซือผู้มีเลือดวิเศษพริบตาเขาก็เลือกที่จะฟันดาบลงไปที่ร่างของนางทันทีด้วยความรวดเร็วเมื่อดาบถูกฟันลงไปเลือดจำนวนมากจึงไหลรินนองไปทั่วพื้นทว่าเลือดมากมายที่ไหลรินอยู่นี้กลับไม่ใช่ของเสี่ยวซืออย่างที่ควรเป็น แต่กลับเป็นเลือดของอาหนานแทนเพราะเขาใช้ตัวบังคมดาบแทนเสี่ยวซือเอาไว้ร่างของอาหนานล้มลงในเวลาต่อมา เสี่ยวซือรีบเขาไปหาคนรักของนางทันที นางประคองศีรษะของเขาขึ้นมาหนุนบนตัก ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมใบหน้าของเขาเอาไว้"อาหนาน อาหนาน""ขอโทษนะ ข้าคงจะปกป้องเจ้าต่อไปไม่ได้แล้ว" ใบหน้าของอาหนานยามที่เอ่ยประโยคนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลิวซือนัวเห็นแล้วก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ นางทำได้เพียงมองดูเหตุการณ์โหดร้ายนี้โดยไม่อาจเข้าไปยุ่งหรือว่าเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้เลย"ข้ารักเจ้ามากนะเสี่ยวซือและจะรักเจ้าตลอดไป" อาหนานเอ่ยออกมาเป็
ตอนที่ 33สำหรับข้า เจ้าสำคัญกว่าทุกสิ่งสิ่งแรกยามที่หลิวซือนัวเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาก็คือ ม่านกั้นเตียงสีหวานอันคุ้นเคย นางเอื้อมมือจับที่ศีรษะของตนเพราะรู้สึกว่าในศีรษะของตนเพราะยังรู้สึกมึน ๆ อยู่เล็กน้อย"คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว!!!" เสี่ยวหนิงที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของคุณหนูของนางตะเบ็งเสียงขึ้นมาอย่างดังเมื่อเห็นว่าคุณหนูของนางได้สติแล้ว"รีบช่วยประคองข้านั่งหน่อย เร็วเข้า" หลิวซือนัวเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ยามนี้นางรู้สึกคอแห้งเป็นอย่างมากหลังจากที่เสี่ยวหนิงประคองนางขึ้นนั่งผิงกับหัวเตียงแล้ว นางจึงรีบสั่งให้สาวใช้คนสนิทไปรินน้ำมาให้นางสักถ้วยหนึ่ง"ข้ารู้สึกกระหายนัก เจ้ารีบไปรินน้ำมาให้ข้าสักถ้วยเถิด""น้ำได้แล้วเจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะรีบไปแจ้งคุณชายใหญ่นะเจ้าคะ" หลังจากส่งถ้วยน้ำให้คุณหนูแล้วนางจึงเอ่ยขึ้น"ช้าก่อนเถอะเสี่ยวหนิง เวลานี้ยามอะไรแล้วหรือ" นางเรียกสาวใช้ของตนเอาไว้ก่อนเพราะเห็นว่ารอบ ๆ ตัวนางยามนี้ค่อนข้างมืดมิดไม่มีแสงแดดส่องเข้ามาจากด้านนอกเลย"เรียนคุณหนูปลายยามจื่อแล้วเจ้าค่ะ" [ยามจื่อ คือ 23:00 น. - 00:59 น.]"ดึกแล้วอย่าไปรบกวนพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เลย ข้าไม่ได้เป็นอะไรแ
ตอนที่ 34อาสาจัดการเช้าวันรุ่งขึ้นสมุนไพรบำรุงร่างกายจำนวนมากถูกส่งมาที่จวนสกุลหลิวพร้อมกับท่านหมอมีชื่อในเมืองถึงสามท่านด้วยกัน โดยที่สกุลหลิวไม่ต้องเสียแรงส่งคนไปเชิญมาด้วยตนเองหลิวเค่อรีบร้อนออกจากเรือนพักพร้อมกับภรรยาตนในทันทีเมื่อมีสาวใช้มาแจ้งว่านัวเอ๋อร์น้องสาวของเขาได้สติฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ก็ต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเขาและภรรยานั้นมาช้ากว่าท่านหมอทั้งสามอีกทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่ในจวนเดียวกันแท้ ๆ ยามที่สองสามีภรรยามาถึงท่านหมอทั้งสามท่านก็ผลัดกันตรวจอาการของน้องสาวของเขาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "พวกข้าทั้งสามตรวจอาการของคุณหนูแล้ว เห็นพ้องต้องกันว่าอาการของคุณหนูไม่มีสิ่งใดน่ากังวลเพียงแค่พักผ่อนให้ดีสักสองสามวันร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรงแล้วขอรับ ข้าจะเป็นผู้จัดตำรับยาบำรุงร่างกายให้คุณหนูเอง คุณชายส่งคนตามข้าไปเอาที่ร้านหมอของข้าได้เลย" หนึ่งในหมอที่ดูจะเป็นผู้มีอายุมากที่สุดในสามคนเป็นผู้เอ่ยบอกอาการแก่เขาและภรรยา"ข้าเข้าใจแล้วท่านหมอ ขอบคุณพวกท่านทั้งสามมาก ข้าจะให้คนของข้าไปส่งพวกท่านและไปเอาเทียบยาพร้อมกันเลย" หลิวเค่อเอ่ยพบบอกท่านหมอทั้งสามอย่างอารมณ์ดี เมื่อครู่ที่รู้ว
ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั
ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน
ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็
ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ
ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต
ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้
ตอนที่ 40ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอมตลอดสามวันที่เขาต้องเดินทางออกจากเมืองเป่ยจู ไม่มีวันใดเลยที่เขาไม่กังวลหรือคิดถึงนาง ยิ่งเรื่องที่ได้ตัวแม่นมเฉียวผู้ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังการที่นางหมดสติไปด้วยแล้ว เขากับทางการมีการพูดคุยกันเอาไว้แล้วว่าเรื่องทุกอย่างต้องจัดการให้เรียบร้อยและเงียบที่สุด จะต้องไม่ให้มีเรื่องอะไรที่จะมากระทบต่อชื่อเสียงของนางได้เป็นอันขาดอวี้หนานไห่รู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้ไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ก็คิดเอาไว้ว่าหลิวเค่อพี่ชายของหลิวซือนัวคงจัดการต่อไปได้ดีเช่นกัน นั่นจึงทำให้เขารู้สึกเบาใจได้เปราะหนึ่ง เมื่อเขากลับเข้ามาในเมืองเป่ยจู ก็สั่งให้รถม้าจอดที่ร้านขนมชื่อดังที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกทิศตะวันตกเพื่อซื้อขนมจากร้านนี้ติดมือไปฝากหลิวซือนัว แม้เขาจะมีของฝากขึ้นชื่อจากพื้นที่ ๆ เขาเพิ่งกลับมาอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังอยากเอาของฝากกลับไปให้นางหลาย ๆ อย่าง นางจะได้ดีใจที่ได้เห็นของฝากมากมายจากเขาในระหว่างที่รอให้ทางร้านห่อขนมที่เขาสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน รวมไปถึงขนมที่เขาเพิ่งเลือกซื้อเพิ่มเติมอยู่นั้น ก็มีสตรีวัยกลางคนสองคนก้าวเข้ามาเลือกซื้อขน
ตอนที่ 39ร้องขออย่างจริงใจเช้าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่แสนจะวุ่นวายสำหรับหลิวซือนัว ตั้งแต่เช้าพี่ใหญ่ให้คนมาเรียกนางไปพบก่อนจะบอกนางว่าทางการพบตัวคนที่เป็นคนใส่ยาบางอย่างในดอกไม้จนทำให้นางหมดสติพลัดตกน้ำไปจนเกือบตายแล้วพี่ใหญ่ยังเอ่ยอีกว่าพรุ่งนี้ทางการต้องการให้นางเข้าไปเพื่อสอบปากคำบางอย่าง การไต่สวนคดีนี้จะทำโดยเงียบเชียบไม่ให้ภายนอกรู้ เพื่อให้ไม่เป็นที่เล่าลือกันไปผิด ๆ หลิวซือนัวเองก็คิดว่าจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ให้เสร็จเงียบ ๆ จะดีซะกว่า เพราะว่านอกจากคนในครอบครัวและอวี้หนานไห่แล้วก็ไม่มีใครอื่นรู้ว่าเรื่องที่นางหมดสติพลัดตกทะเลไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุพรุ่งนี้ไปที่ศาลประจำเมืองนางก็จะได้รู้แล้วว่าผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังและ ต้องการทำร้ายนาง อีกเพียงแค่วันเดียวนางก็จะรู้แล้วว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่ ต้องการให้นางตายหนำซ้ำยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้หลังจากที่นางกลับเรือนพักของตนมาได้ไม่นาน ก็มีสาวใช้มาแจ้งว่ามีคนมาของพบนาง "คุณหนูเจ้าค่ะ สาวใช้ที่เรือนหน้ามาแจ้งว่ามีคนมาขอพบท่านเจ้าค่ะ นางบอกว่าเป็นคุณหนูหยวนจือจากสกุลเวินมาขอพบท่าน" เสี่ยวหนิงเอ่ยรายงาน ตามที่สาวใช้ที่มาแจ้ง
ตอนที่ 38ไม่อยากบอกลา“ในเมืองเป่ยจู เจ้าคงเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุด”“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้” เขาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่ออยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น“รอบตัวเจ้า มีสตรีงดงามมากมายรายล้อมอยู่ บุรุษใดบ้างจะไม่อิจฉา” นางเอ่ยตอบเขา ก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เหล่าแม่นางจากหอหยวนหมิงรวมตัวเตรียมพร้อมจะลงเรืออยู่"ข้าไม่เคยสนใจพวกนาง" เขาตอบไปในทันที"เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษจะไม่สนใจสตรี ยิ่งสตรีแสนงามด้วยแล้ว" "เป็นไปได้ ข้านี่ไง""หากพวกนางมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่""เรื่องนั้นข้าไม่เคยคิดที่จะสนใจ" เขาเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง ในชีวิตเขามีสตรีที่เขาจะให้ความสนใจเพียงแค่สามคนก็พอแล้ว แค่ ท่านแม่ น้องสาว และนางเท่านั้นไม่นานผู้ดูแลหอหยวนหมิงผู้ที่เคยขวางไม่ให้นางเข้าไปในหอก็เข้ามาหา"คารวะนายน้อยอวี้ คารวะคุณหนูหลิว" เจ๋อเหนียงเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งให้คนทั้งคู่"แม่นางเจ๋อเหนียง พวกเราพบกันอีกแล้วนะ" นางเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร "ครั้งก่อนเป็นข้าไม่รู้ความ จึงได้กระทำการล่วงเกินคุณหนู ข้าต้องขออภัยด้วยนะเจ้าค่ะ" นางรู้ดีว่าตนควรขออภัยคุณหนูตรงหน้า อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นก