ตอนที่ 31เรื่องราวของตัวข้า'ที่นี่มันที่ไหนกันแน่นะ นี่นางตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ' นางจำได้ว่าตัวเองหมดสติไปที่สะพานท่าเรือ ไม่รู้ว่าเหตุใดภาพตัดมาอีกทีนางก็มาอยู่ในที่ ๆ มืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง นางเดินไปเรื่อย ๆ หวังให้พบเจอแสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็ยังดี ที่นี่ทั้งมืดทั้งว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดเลยยิ่งก้าวขาเดินต่อไปก็ยิ่งหนาวเหน็บหรือว่านางควรจะหยุดและอยู่เฉย ๆ ในที่มืดมิดแห่งนี้ไปตลอดกาลงั้นเหรอ นี้คือสิ่งที่นางจะได้รับหลังความตายใช่ไหม?เวลานี้ในหัวของนางนั้นพลั่งพลูความคิดต่าง ๆ ออกมากมายจนรู้สึกสับสนวุ่นวายไปหมด แต่แล้วในชั่วขณะหนึ่งนางก็เหมือนกับว่าจะมองเห็นแสงสว่างเล็ดลอดออกมาจากประตูบานหนึ่ง หลิวซือนัววิ่งตามแสงสว่างนั้นไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด แต่ยิ่งนางวิ่งตามประตูบานนั้นกลับยิ่งดูเหมือนห่างออกไปทุกที ๆ นางลองหยุดวิ่งตามประตูบานนั้นดูก็ปรากฏว่าประตูที่เหมือนขยับไปเรื่อย ๆ ก็หยุดลงเช่นเดียวกัน"ข้าจะเข้าไปในประตูบานนั้นได้ยังไงนะ" นางยิ่งเข้าใกล้ประตูนั้นยิ่งขยับหนี เมื่อเป็นเช่นนี้ยังไงนางก็ไม่สามารถเข้าไปในประตูบานนั้นอย่างที่ใจคิด"ข้าช่วยเจ้าได้" เสียงของชายชราผู
ตอนที่ 32คำสาปนับพันปีเสี่ยวซือวิ่งหนีออกมาตามคำสั่งคนรักทั้งน้ำตา แต่นางก็ไม่อาจจะหลุดพ้นจากหัวหน้าหมู่บ้านจางได้สักที"ข้ากะว่าจะไม่เลือดของเจ้านองพื้น เพราะจะทำให้เสียของไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่ตอนนี้คงจะไม่ให้เปื้อนไม่ได้แล้วล่ะ" เขาเอ่ยพลางเดินถือดาบในมือตรงเข้าไปหาเสี่ยวซือผู้มีเลือดวิเศษพริบตาเขาก็เลือกที่จะฟันดาบลงไปที่ร่างของนางทันทีด้วยความรวดเร็วเมื่อดาบถูกฟันลงไปเลือดจำนวนมากจึงไหลรินนองไปทั่วพื้นทว่าเลือดมากมายที่ไหลรินอยู่นี้กลับไม่ใช่ของเสี่ยวซืออย่างที่ควรเป็น แต่กลับเป็นเลือดของอาหนานแทนเพราะเขาใช้ตัวบังคมดาบแทนเสี่ยวซือเอาไว้ร่างของอาหนานล้มลงในเวลาต่อมา เสี่ยวซือรีบเขาไปหาคนรักของนางทันที นางประคองศีรษะของเขาขึ้นมาหนุนบนตัก ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมใบหน้าของเขาเอาไว้"อาหนาน อาหนาน""ขอโทษนะ ข้าคงจะปกป้องเจ้าต่อไปไม่ได้แล้ว" ใบหน้าของอาหนานยามที่เอ่ยประโยคนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลิวซือนัวเห็นแล้วก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ นางทำได้เพียงมองดูเหตุการณ์โหดร้ายนี้โดยไม่อาจเข้าไปยุ่งหรือว่าเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้เลย"ข้ารักเจ้ามากนะเสี่ยวซือและจะรักเจ้าตลอดไป" อาหนานเอ่ยออกมาเป็
ตอนที่ 33สำหรับข้า เจ้าสำคัญกว่าทุกสิ่งสิ่งแรกยามที่หลิวซือนัวเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาก็คือ ม่านกั้นเตียงสีหวานอันคุ้นเคย นางเอื้อมมือจับที่ศีรษะของตนเพราะรู้สึกว่าในศีรษะของตนเพราะยังรู้สึกมึน ๆ อยู่เล็กน้อย"คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว!!!" เสี่ยวหนิงที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของคุณหนูของนางตะเบ็งเสียงขึ้นมาอย่างดังเมื่อเห็นว่าคุณหนูของนางได้สติแล้ว"รีบช่วยประคองข้านั่งหน่อย เร็วเข้า" หลิวซือนัวเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ยามนี้นางรู้สึกคอแห้งเป็นอย่างมากหลังจากที่เสี่ยวหนิงประคองนางขึ้นนั่งผิงกับหัวเตียงแล้ว นางจึงรีบสั่งให้สาวใช้คนสนิทไปรินน้ำมาให้นางสักถ้วยหนึ่ง"ข้ารู้สึกกระหายนัก เจ้ารีบไปรินน้ำมาให้ข้าสักถ้วยเถิด""น้ำได้แล้วเจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะรีบไปแจ้งคุณชายใหญ่นะเจ้าคะ" หลังจากส่งถ้วยน้ำให้คุณหนูแล้วนางจึงเอ่ยขึ้น"ช้าก่อนเถอะเสี่ยวหนิง เวลานี้ยามอะไรแล้วหรือ" นางเรียกสาวใช้ของตนเอาไว้ก่อนเพราะเห็นว่ารอบ ๆ ตัวนางยามนี้ค่อนข้างมืดมิดไม่มีแสงแดดส่องเข้ามาจากด้านนอกเลย"เรียนคุณหนูปลายยามจื่อแล้วเจ้าค่ะ" [ยามจื่อ คือ 23:00 น. - 00:59 น.]"ดึกแล้วอย่าไปรบกวนพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เลย ข้าไม่ได้เป็นอะไรแ
ตอนที่ 34อาสาจัดการเช้าวันรุ่งขึ้นสมุนไพรบำรุงร่างกายจำนวนมากถูกส่งมาที่จวนสกุลหลิวพร้อมกับท่านหมอมีชื่อในเมืองถึงสามท่านด้วยกัน โดยที่สกุลหลิวไม่ต้องเสียแรงส่งคนไปเชิญมาด้วยตนเองหลิวเค่อรีบร้อนออกจากเรือนพักพร้อมกับภรรยาตนในทันทีเมื่อมีสาวใช้มาแจ้งว่านัวเอ๋อร์น้องสาวของเขาได้สติฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ก็ต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเขาและภรรยานั้นมาช้ากว่าท่านหมอทั้งสามอีกทั้ง ๆ ที่พวกเขาอยู่ในจวนเดียวกันแท้ ๆ ยามที่สองสามีภรรยามาถึงท่านหมอทั้งสามท่านก็ผลัดกันตรวจอาการของน้องสาวของเขาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "พวกข้าทั้งสามตรวจอาการของคุณหนูแล้ว เห็นพ้องต้องกันว่าอาการของคุณหนูไม่มีสิ่งใดน่ากังวลเพียงแค่พักผ่อนให้ดีสักสองสามวันร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรงแล้วขอรับ ข้าจะเป็นผู้จัดตำรับยาบำรุงร่างกายให้คุณหนูเอง คุณชายส่งคนตามข้าไปเอาที่ร้านหมอของข้าได้เลย" หนึ่งในหมอที่ดูจะเป็นผู้มีอายุมากที่สุดในสามคนเป็นผู้เอ่ยบอกอาการแก่เขาและภรรยา"ข้าเข้าใจแล้วท่านหมอ ขอบคุณพวกท่านทั้งสามมาก ข้าจะให้คนของข้าไปส่งพวกท่านและไปเอาเทียบยาพร้อมกันเลย" หลิวเค่อเอ่ยพบบอกท่านหมอทั้งสามอย่างอารมณ์ดี เมื่อครู่ที่รู้ว
ตอนที่ 35ผู้มาเยือนยามค่ำคืน"คุณหนู ท่านจะเข้านอนเลยไหมเจ้าค่ะ" เสี่ยวหนิงเอ่ยถามนาง"กลางวันข้านอนเยอะแล้ว ว่าจะอ่านหนังสือต่ออีกซะหน่อย เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ" หลิวซือนัวเอ่ยกับสาวใช้ของนาง สายตาก็ยังจับจ้องตัวอักษรจากในหนังสือในมือตน"หากคุณหนูจะอยู่อ่านหนังสือต่อบ่าวก็จะอยู่เป็นเพื่อนท่านเจ้าค่ะ" "อ่านหนังสือต่ออีกหน่อยข้าก็จะเข้านอนแล้วล่ะ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะไม่ต้องเป็นห่วงข้า""แต่...""ไปพักผ่อนเถอะ อ่านต่ออีกหน่อยข้าก็จะนอนแล้วจริง ๆ ""เช่นนั้น พรุ่งนี้เช้าบ่าวจะรีบมานะเจ้าคะ""ได้ เจ้าไปเถอะ"เสี่ยวหนิงไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงหลิวซือนัวเพียงผู้เดียวที่ยังคงนั่งเอนตัวอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย [เก้าอี้กุ้ยเฟย คือเก้าอี้ตัวยาวที่มีที่ให้เท้าแขนและสามารถเอนตัวนอนลงได้]ความจริงแล้วหนังสือในมือเป็นเพียงข้ออ้างของนางเท่านั้น นายอ้างหนังสือในมือเพราะจะได้รอคนที่บอกว่าจะมาหานางในวันนี้ แต่จนกระทั่งฟ้ามืดก็ยังไม่เห็นแม้แต่เหงา ซ้ำยังไม่ให้คนมาแจ้งว่าจะไม่มา หลิวซือนัวจึงคิดที่จะรอเขาอีกสักหน่อย ไม่นานก็มีเสียงกึกกักดังขึ้นที่แถว ๆ หน้าต่างใกล้กับที่นางนั่งอยู่ หลิวซือนั
ตอนที่ 36ผู้อยู่เบื้องหลังหลายวันที่ผ่านมาเขาสั่งให้กู่เหอตามหาตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเด็กผู้ชายที่ขายดอกไม้นั่น แล้วก็พบแล้วว่าเป็นใคร วันนี้เขาจึงต้องมาเยือนสกุลเวินที่ไม่เคยคิดอยากจะมาเยือนเลยสักครั้ง"พี่อวี้ ข้าต้องขออภัยด้วยที่ปล่อยให้ท่านรอเสียนาน" เวินหยวนจือที่เพิ่งก้าวเข้ามายังห้องโถงรับรองของจวนตนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม"แม่นมของเจ้าล่ะ นางอยู่ไหน" อวี้หนานไห่ ไม่สนใจคำพูดของสตรีผู้หนึ่งที่เหมือนโตมาด้วยกัน เขาเอ่ยถามถึงสิ่งที่ต้องการรู้และเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขามาที่สกุลเวินนี้"แม่นมของข้านางกลับบ้านเดิมของนางไปหลายเดือนแล้วนะเจ้าคะ พี่อวี้ท่านเหตุใดจึงได้ถามถึงนางกัน" นางทำทีเอ่ยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เวินหยวนจือคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าพี่อวี้จะต้องมาเพราะเรื่องของแม่นมเฉียวแน่นางเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องที่แม่นมเฉียวทำหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว และแม่นมเฉียวมาบอกลานางเพื่อจะหลบหน้าไปสักพักแม้นางจะไม่ชอบใจเวลาเห็นแม่นางหลิวอยู่กับพี่อวี้แต่นางก็ไม่เคยคิดร้ายถึงขั้นต้องการให้แม่นางหลิวผู้นั้นตายเลยจริง ๆ "ข้าเพิ่งจะรู้ว่าเจ้าเองก็โกหกเป็นด้วย บอกที่อยู่ของแม่นมผู้นั้นมา
ตอนที่ 37ล่องเรือ“เจ้า ไม่ใช่ว่าแอบให้คนคอยตามดูข้าหรอกใช่ไหม เหตุใดไปที่ไหนก็ต้องเจอเจ้าทุกที” หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นเมื่อนางเดินลงมาจากชั้นสองของร้านเป็ดสวรรค์หลังจากที่เสี่ยวหนิงจัดการเป็ดแดดเดียวตัวหนึ่งจนหมดเรียบร้อยแล้ว“มีข้าคอยเป็นเพื่อนเจ้ากินเจ้าดื่มไม่ดีหรืออย่างไร”“ก็ดีไม่น้อยอยู่หรอก แต่คุณชายหมู่ตึกอวี้ฟางเช่นเจ้าไม่ยุ่งหรืออย่างไร กิจการมากมายเช่นนั้นวันหนึ่งคงต้องวิ่งวุ่นไม่น้อย”“ยุ่งแค่ไหน ข้าก็ว่างมาหาเจ้าได้เสมอ” อวี้หนานไห่พูดสวนขึ้นมาในทันที เขาจ้องมองเจ้าของร่างอวบอิ่มตรงหน้าไม่ละสายตา เพื่อย้ำให้นางรู้ว่าที่เขาเอ่ยไปนั้นเป็นไปอย่างที่เขาพูด ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่นางต้องการไม่ว่าเขา ยุ่งแค่ไหน อวี้หนานไห่ก็พร้อมจะละจากทุกสิ่งเพื่อมาหานางได้“ในเมื่อเจ้าเอ่ยเช่นนี้ ข้าก็แล้วแต่เจ้าเพียงแต่อย่ามาพร้อมของอร่อยให้ มากครั้งติดกันก็พอ หากยังไม่อยากเห็นข้ากายเป็นโอ่งใส่น้ำเดินได้” หลิวซือ นัวเอ่ยอย่างติดตลก“หากเจ้ากลายเป็นโอ่งใส่น้ำ เจ้าไม่ต้องเดิน ข้ายินดีแบกเจ้าขึ้นหลัง ทำหน้าที่เดินแทนเจ้า”“ได้ยินเจ้าเอ่ยเช่นนี้ข้าก็รู้สึกตื้นตันยิ่งนัก แต่จะดีกว่าหากข้ายังจะสามารถเดิน
ตอนที่ 38ไม่อยากบอกลา“ในเมืองเป่ยจู เจ้าคงเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุด”“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้” เขาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่ออยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น“รอบตัวเจ้า มีสตรีงดงามมากมายรายล้อมอยู่ บุรุษใดบ้างจะไม่อิจฉา” นางเอ่ยตอบเขา ก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เหล่าแม่นางจากหอหยวนหมิงรวมตัวเตรียมพร้อมจะลงเรืออยู่"ข้าไม่เคยสนใจพวกนาง" เขาตอบไปในทันที"เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษจะไม่สนใจสตรี ยิ่งสตรีแสนงามด้วยแล้ว" "เป็นไปได้ ข้านี่ไง""หากพวกนางมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่""เรื่องนั้นข้าไม่เคยคิดที่จะสนใจ" เขาเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง ในชีวิตเขามีสตรีที่เขาจะให้ความสนใจเพียงแค่สามคนก็พอแล้ว แค่ ท่านแม่ น้องสาว และนางเท่านั้นไม่นานผู้ดูแลหอหยวนหมิงผู้ที่เคยขวางไม่ให้นางเข้าไปในหอก็เข้ามาหา"คารวะนายน้อยอวี้ คารวะคุณหนูหลิว" เจ๋อเหนียงเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งให้คนทั้งคู่"แม่นางเจ๋อเหนียง พวกเราพบกันอีกแล้วนะ" นางเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร "ครั้งก่อนเป็นข้าไม่รู้ความ จึงได้กระทำการล่วงเกินคุณหนู ข้าต้องขออภัยด้วยนะเจ้าค่ะ" นางรู้ดีว่าตนควรขออภัยคุณหนูตรงหน้า อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นก
ตอนพิเศษ 1แม่สามีของข้านั้นดียิ่งนักเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่นางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่สกุลอวี้ อวี้หนานไห่มีน้องสาวอยู่หนึ่งคนชื่ออวี้จินเชียง จากที่อวี้หนานไห่เล่าให้ฟังก็คือ อวี้จินเชียงนั้นอยู่ที่บ้านเดิมกับท่านยายของพวกเขาตั้งแต่ยังเยาว์เพราะมีร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง อีกไม่นานอวี้หนานไห่ก็จะพานางไปเยี่ยมท่านตาท่านยายและน้องสาวของเขาเพราะว่าฮูหยินอวี้ไม่ใช่สิ เวลานี้นางควรจะเรียกว่าท่านแม่สามีถึงจะถูก เอ็นดูนางเป็นพิเศษดูแลต้อนรับนางเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างอบอุ่น เหมือนกับว่านางเป็นบุตรสาวแท้ ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงลูกสะใภ้ ซ้ำยังชอบให้ท้ายนางอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะยกเลิกไม่ต้องให้นางมาคารวะทุกเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นมาทานมือเช้าเป็นเพื่อนนางบ้างก็พอ ยิ่งเป็นเรื่องข้าวของเครื่องประดับหรืออาภรณ์ แน่นอนว่าอาภรณ์ใหม่ ๆ ของนางไม่มีวันขาดแคลนเพราะว่านางเป็นบุตรสาวจากสกุลที่เปิดร้านอาภรณ์ แต่ยิ่งนางมีเสื้อผ้ามากมายเท่าไหร่ ท่านแม่สามีก็ยิ่งจะยื่นเครื่องประดับจำนวนมากมาให้นาง ทั้งของที่ประมูลมา ของที่หาซื้อได้ตามร้านหรือว่าเครื่องประดับที่ต้องสั่งทำจนยามนี่นางมีเครื่องประดั
ตอนที่ 45คำนับฟ้าดิน"หนึ่ง คำนับฟ้าดิน""สอง คำนับบิดามารดา""สาม สามีภรรยาคำนับกันและกัน"หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าสาวก็ถูกส่งตัวเข้าหอ ด้านเจ้าบ่าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ในงานเลี้ยงมงคล เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานดื่มอวยพร เป็นธรรมเนียมปกติที่ในงานมงคลเช่นนี้เจ้าบ่าวจะต้องถูกมอมเหล้าจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมไปถึงญาติมิตรต่าง ๆ ที่มาร่วมงานอวี้หนานไห่ไม่ยอมให้ตนต้องตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นมอมเหล้านานเกินไป เข้าทักทายแขกที่มาร่วมงานอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามก็แอบปลีกตัวออกมาแล้วคืนเข้าหอเวลามีค่าแค่ไหน ไม่ต้องให้ผู้ใดต้องมาบอกเขาก็รู้ดี ทันทีที่เข้าได้ก้าวเข้ามาในเรือนหอของตน บนเตียงก็พบกับภรรยา ใช่แล้วหลิวซือนัวภรรยาของเขา และนางจะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์หลังจากคืนนี้ไป"อวี้หนานไห่เป็นเจ้าหรือ" เจ้าสาวของเขาซึ่งนั่งคลุมหน้าตัวตรงอยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น"เป็นข้าเองภรรยารัก เจ้าควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว" เขาเอ่ยก่อนจะก้าวเข้าไปหานาง และใช้ไม้ตวัดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดออกจากศีรษะของนางยามเมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวถูกเปิดออกแล้ว ความงดงามที่แสนตราตรึงในใจเขาก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าของนางในเวลานี้ค่อน
ตอนที่ 44ความจริงใจของข้า"ดู ๆ ข้าก็คิดอยู่ว่าคุณหนูหลิวเหมือนใคร นางเหมือนฮูหยินหลิวนี่เอง ไม่ไหวหน้าผู้อื่นเช่นนี้ไม่มีผิด""ข้าน่ะหรือไม่ไว้หน้า พวกเจ้าต่างหากที่ไม่ไว้หน้ากันก่อน" ฮูหยินหลิวตอกกลับทันที แม่สื่อพวกนี้นางทนพูดดีด้วยอีกไม่ได้แล้ว"ฮูหยิน ท่านใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ" สาวใช้คนสนิทของฮูหยินหลิวรีบเข้ามาห้ามผู้เป็นนายตน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะย่ำแย่ลงไปทุกทีแล้ว"จะให้ข้าใจเย็นได้อย่าง...." ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยจบประโยค ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งเข้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอะไรสักอย่างเสียก่อน"ฮูหยิน ฮูหยินขอรับ""มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเรื่องตรงหน้ายังไม่ทันได้สะสางก็ดูท่าว่าจะมีเรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว"มีขบวน มีขบวน...ใหญ่ ขบวนใหญ่" อาจจะเป็นเพราะวิ่งมาด้วยความเร็ว ซ้ำยังตื่นเต้นจึงทำให้บ่าวชายผู้นี้พูดออกมาไม่รู้ความจนฮูหยินหลิวต้องเอ่ยถามซ้ำหลายรอบ"ขบวน ขบวนอะไร ขบวนอะไรใหญ่กันแน่""เหมือนว่าจะเป็นขบวนสินสอดสินะ" แม่สื่อคนที่หนึ่งผู้ขึ้น บ่าวชายที่มาแจ้งข่าวก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับว่าใช่"คงเป็
ตอนที่ 43สู่ขออาจจะเป็นเพราะเดินทางไกลมาหลายวัน และก็ไม่ได้นอนพักดี ๆ มาตลอดทาง วันนี้หลิวซือนัวเลยตื่นสายกว่าปกติถึงหนึ่งชั่วยามด้วยกัน กว่าที่จะแต่งตัวหวีผมเสร็จก็กินเวลาช่วงเช้าไปไม่น้อยแล้ว"คุณหนูเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่ให้บ่าวมาแจ้งท่านว่า หากคุณหนูแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณหนูไปพบฮูหยินใหญ่ที่โถงรับรองด้วยเจ้าค่ะ""ได้ข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปแจ้งท่านแม่นะว่าประเดี๋ยวข้าแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปหาท่าน""เจ้าค่ะคุณหนู"สาวใช้ที่ท่านแม่ให้มาแจ้งข่าวนางจากกลับไปแล้ว เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่นาง เสี่ยวหนิง และสาวใช้ในเรือนอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยพวกนางเลือกเครื่องประดับที่จะใส่ในวันนี้อยู่"เสี่ยวหนิง เจ้าว่าเหตุใดท่านแม่ถึงได้ให้คนมาตามข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ จะมีแขกสำคัญมาหรือไงนะ""บ่าวคิดว่าไม่น่าจะมีแขกนะเจ้าค่ะ ตั้งแต่เช้าไม่เห็นว่าในโรงครัวคึกคักเลย" ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยออกมาตามที่นางคิด เพราะถ้าหากในจวนมีแขกสำคัญ ปกติแล้วในครัวก็มักจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะต้องมีการเตรียมอาหารเอาไว้รับรองแขก"เช่นนั้นแล้วท่านแม่จะเรียกให้ข้าไปพบที่ห้องโถงทำไมกัน" หลิวซือนัวเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจคงมีแต่รีบ
ตอนที่ 42จากอีกเพียงวันเท่านั้นนางก็จะต้องเดินทางกลับเมืองเป่ยโจวแล้ว ตามกำหนดการเดินทางกลับที่ท่านแม่ของนางได้กำหนดเอาไว้ พี่ใหญ่ของนางหลิงเค่อกับพี่สะใภ้ฉือหนานเองก็จะเดินทางไปส่งนางกลับจวนและถือโอกาสให้พี่ฉือหนานได้กลับไปเยี่ยมบ้านเดิมด้วย หลังจากวันนั้นที่อวี้หนานไห่และนางได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง ความสัมพันธ์ของพวกนางก็มีสถานะเป็นคนรักของกันและกันอย่างเปิดเผย แต่เปิดเผยที่ว่านี้ก็จะมีแค่คนในครอบครัวของพวกนางเท่านั้นที่รู้ ส่วนคนนอกนางและอวี้หนานไห่ก็ไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านั้นจะคิดจะพูดถึงพวกนางอย่างไรมีบางครั้งที่นางและอวี้หนานไห่ออกไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกันบ้างก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารต่าง ๆ ในเมือง หลายครั้งก็มีข่าวลือตามมาบ้างทว่าส่วนใหญ่จะลือไปทางที่พวกนางเป็นสหายกันเสียมากกว่า ไม่มีการลือหรือการพูดไปถึงเรื่องเชิงชู้สาวใด ๆ ทั้งสิ้นแน่นอนว่าเรื่องลือเช่นนี้ไม่ถือเป็นผลเสียกับนาง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นผลดีต่อร้านสกุลอาภรณ์สกุลหลิวไม่น้อยเช่นกัน เพราะผู้ใดที่อยากสนิทสนมกับหมู่ตึกอวี้ฟางก็จะต้องเข้าหาร้านอาภรณ์สกุลหลิวซึ่งลือกันว่าเป็นสหายกับหมู่ตึกอวี้ฟางเพื่อทำต
ตอนที่ 41รัก"ที่ห้องโถงใหญ่เอะอะอะไรกัน เหตุใดถึงได้เสียงดังมาถึงนี่ เจ้าไปดูหน่อยเถอะ" ฉือหนานเอ่ยขึ้น ก่อนจะสั่งให้สาวใช้คนสนิทของนางออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในวันมงคลเช่นนี้นอกจากฉือหนานแล้วในห้องรับรองขนาดเล็กซึ่งอยู่ติดกับห้องโถงใหญ่ก็มีหลิวซือนัวน้องสามีของนาง และก็ฉือฮั่วลูกพี่ลูกน้องของนางที่มาเยี่ยมนางจากบ้านเกิดเมื่อสองวันก่อนใครจะคิดเล่าว่าการมาที่นี่ของฉือฮั่วซึ่งอ่อนวัยกว่านางเกือบสี่ปีจะทำให้นางได้เจอกับรักแรกพบที่นี่ หนำซ้ำยังถูกสู่ขออย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า นางและผู้เป็นสามีที่ถือเป็นญาติสนิทจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของฉือฮั่วแทนบิดามารดาของนางที่ไว้ใจฝากฝังบุตรสาวเอาไว้ด้วยเพราะเชื่อมั่นและไว้ใจนางกับสามีด้วยเพราะว่าทั้งฝ่ายสู่ขอและฝ่ายถูกสู่ขอต่างก็มีใจต่อกัน การตัดสินใจจริงเป็นไปอย่างดี ทุกฝ่ายตกลงปลงใจที่จะปลูกเรือนร่วมกันวันนี้แค่แลกหนังสือสินสอดเสร็จสิ้นก็หาวันดีจัดงานแต่งได้เลย ด้านหลิวซือนัวยามนี้นางกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าไหมสีแดงเพื่อตัดชุดแต่งงานให้กับฉือฮั่ว สำหรับฉือฮั่วนั้นนางก็เห็นเป็นสหายมาเนิ่นนาน ซ้ำเมื่อพี่ฉือหนานแต่งเข้ามาจวนสกุลหลิวแล้
ตอนที่ 40ผู้ใดจะแย่งนางไป ข้าไม่ยอมตลอดสามวันที่เขาต้องเดินทางออกจากเมืองเป่ยจู ไม่มีวันใดเลยที่เขาไม่กังวลหรือคิดถึงนาง ยิ่งเรื่องที่ได้ตัวแม่นมเฉียวผู้ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังการที่นางหมดสติไปด้วยแล้ว เขากับทางการมีการพูดคุยกันเอาไว้แล้วว่าเรื่องทุกอย่างต้องจัดการให้เรียบร้อยและเงียบที่สุด จะต้องไม่ให้มีเรื่องอะไรที่จะมากระทบต่อชื่อเสียงของนางได้เป็นอันขาดอวี้หนานไห่รู้สึกเสียดายที่ตนไม่ได้ไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ก็คิดเอาไว้ว่าหลิวเค่อพี่ชายของหลิวซือนัวคงจัดการต่อไปได้ดีเช่นกัน นั่นจึงทำให้เขารู้สึกเบาใจได้เปราะหนึ่ง เมื่อเขากลับเข้ามาในเมืองเป่ยจู ก็สั่งให้รถม้าจอดที่ร้านขนมชื่อดังที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกทิศตะวันตกเพื่อซื้อขนมจากร้านนี้ติดมือไปฝากหลิวซือนัว แม้เขาจะมีของฝากขึ้นชื่อจากพื้นที่ ๆ เขาเพิ่งกลับมาอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังอยากเอาของฝากกลับไปให้นางหลาย ๆ อย่าง นางจะได้ดีใจที่ได้เห็นของฝากมากมายจากเขาในระหว่างที่รอให้ทางร้านห่อขนมที่เขาสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน รวมไปถึงขนมที่เขาเพิ่งเลือกซื้อเพิ่มเติมอยู่นั้น ก็มีสตรีวัยกลางคนสองคนก้าวเข้ามาเลือกซื้อขน
ตอนที่ 39ร้องขออย่างจริงใจเช้าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่แสนจะวุ่นวายสำหรับหลิวซือนัว ตั้งแต่เช้าพี่ใหญ่ให้คนมาเรียกนางไปพบก่อนจะบอกนางว่าทางการพบตัวคนที่เป็นคนใส่ยาบางอย่างในดอกไม้จนทำให้นางหมดสติพลัดตกน้ำไปจนเกือบตายแล้วพี่ใหญ่ยังเอ่ยอีกว่าพรุ่งนี้ทางการต้องการให้นางเข้าไปเพื่อสอบปากคำบางอย่าง การไต่สวนคดีนี้จะทำโดยเงียบเชียบไม่ให้ภายนอกรู้ เพื่อให้ไม่เป็นที่เล่าลือกันไปผิด ๆ หลิวซือนัวเองก็คิดว่าจัดการเรื่องราวเหล่านี้ ให้เสร็จเงียบ ๆ จะดีซะกว่า เพราะว่านอกจากคนในครอบครัวและอวี้หนานไห่แล้วก็ไม่มีใครอื่นรู้ว่าเรื่องที่นางหมดสติพลัดตกทะเลไม่ใช่เพียงอุบัติเหตุพรุ่งนี้ไปที่ศาลประจำเมืองนางก็จะได้รู้แล้วว่าผู้ใดที่อยู่เบื้องหลังและ ต้องการทำร้ายนาง อีกเพียงแค่วันเดียวนางก็จะรู้แล้วว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่ ต้องการให้นางตายหนำซ้ำยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้หลังจากที่นางกลับเรือนพักของตนมาได้ไม่นาน ก็มีสาวใช้มาแจ้งว่ามีคนมาของพบนาง "คุณหนูเจ้าค่ะ สาวใช้ที่เรือนหน้ามาแจ้งว่ามีคนมาขอพบท่านเจ้าค่ะ นางบอกว่าเป็นคุณหนูหยวนจือจากสกุลเวินมาขอพบท่าน" เสี่ยวหนิงเอ่ยรายงาน ตามที่สาวใช้ที่มาแจ้ง
ตอนที่ 38ไม่อยากบอกลา“ในเมืองเป่ยจู เจ้าคงเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุด”“ทำไมเจ้าถึงกล่าวเช่นนี้” เขาถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่ออยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาซะอย่างนั้น“รอบตัวเจ้า มีสตรีงดงามมากมายรายล้อมอยู่ บุรุษใดบ้างจะไม่อิจฉา” นางเอ่ยตอบเขา ก่อนจะพยักพเยิดไปทางที่เหล่าแม่นางจากหอหยวนหมิงรวมตัวเตรียมพร้อมจะลงเรืออยู่"ข้าไม่เคยสนใจพวกนาง" เขาตอบไปในทันที"เป็นไปไม่ได้ที่บุรุษจะไม่สนใจสตรี ยิ่งสตรีแสนงามด้วยแล้ว" "เป็นไปได้ ข้านี่ไง""หากพวกนางมาได้ยินเข้าคงจะเสียใจแย่""เรื่องนั้นข้าไม่เคยคิดที่จะสนใจ" เขาเอ่ยออกมาตามความเป็นจริง ในชีวิตเขามีสตรีที่เขาจะให้ความสนใจเพียงแค่สามคนก็พอแล้ว แค่ ท่านแม่ น้องสาว และนางเท่านั้นไม่นานผู้ดูแลหอหยวนหมิงผู้ที่เคยขวางไม่ให้นางเข้าไปในหอก็เข้ามาหา"คารวะนายน้อยอวี้ คารวะคุณหนูหลิว" เจ๋อเหนียงเอ่ยขึ้นก่อนจะโค้งให้คนทั้งคู่"แม่นางเจ๋อเหนียง พวกเราพบกันอีกแล้วนะ" นางเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร "ครั้งก่อนเป็นข้าไม่รู้ความ จึงได้กระทำการล่วงเกินคุณหนู ข้าต้องขออภัยด้วยนะเจ้าค่ะ" นางรู้ดีว่าตนควรขออภัยคุณหนูตรงหน้า อีกทั้งไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นก