ตอนที่ 13
ตามผัวไปสนามรบผู้ใดว่าความลับมีในโลกเล่าสวี่ห่าวซวนไม่ยอมบอกลู่เจียวจูว่าตัวเองกำลังเดินทางไปสมรภูมิ จนออกนอกเมืองไปแล้วนางก็ยังเข้าใจว่าเขาไปทำงานที่ฐานฝั่งตะวันตกความมาแตกเอาก็ตอนที่ไม่เห็นเขากลับบ้านนี่แหละหญิงสาวนั่งรอกินข้าวเย็นด้วยกันเหมือนทุกวัน รอแล้วเล่าก็ยังไม่เห็นวี่แววของสามี“ทำไมช้านัก..”นางเริ่มร้อนใจเมื่อตะวันลับขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นจันทราขึ้นมาแทนที่สุดท้ายตอนเวรยามในเมืองเคาะระฆังบอกโมงยาม ถึงเวลาห้ามออกจากเคหสถานแล้วนั่นแหละลู่เจียวจูถึงหันไปสั่งสาวใช้ข้างกาย “เอาสำรับพวกนี้ไปเก็บ”นั่งกล่าวเสียงเรียบใบหน้าบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งหากท่านแม่ทัพโผล่หน้ามาช้ากว่านี้ได้จวนแตกแน่..เหล่าคนรอบข้างต่างหวาดกลัวโทสะฮูหยิน ได้แต่ถอยกรูดจรลีหนีไป ปล่อยให้นางนั่งหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ผู้เดียวจนกระทั่งตอนก่อนเข้านอน ลู่เจียวจูยังคุยกับบ่าวที่สางผมให้นางหน้าคันฉ่อง “เจ้าว่าท่านแม่ทัพไปไหน”“บ่าวไม่ทราบเจ้าคตอนที่ 14หย่า ก็ หย่าชายแดนฝั่งใต้เป็นที่ตั้งค่ายทหารนำโดยแม่ทัพสวี่ ในกระโจมแม่ทัพที่ตั้งอยู่ตรงกลางนั้นเขากำลังดูแผนที่ วางแผนจัดกองทัพค่ายกลอยู่กับรองแม่ทัพโหลวก่อนสมาธิทั้งหมดจะกระเจิดกระเจิงไปเมื่อมีนายทหารชั้นผู้น้อยนายหนึ่งเข้ามาประสานมือรายงาน“ท่านแม่ทัพขอรับ เมื่อครู่มีรถม้าคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าประตูค่ายขอรับ”รถม้า? ... “ของผู้ใด”“สวี่ฮูหยินขอรับ”สวี่ฮูหยิน..ลู่เจียวจู!!คำนั้นทำตาสวี่ห่าวซวนวาวโรจน์ ใครจะคิดว่านางจะถึงขั้นกล้าตามมาถึงค่ายที่ทุรกันดารขนาดนี้ได้ ตอนแรกเขากะว่าให้นางรอดีๆ ที่จวนจนกว่าจะกลับไปแท้ๆ“ท่านแม่ทัพขอรับ สวี่ฮูหยินสั่งให้ข้ามารายงานท่านว่าถ้าไม่รีบออกมาพบ...จะได้เห็นดีกันแน่ขอรับ”“เช่นนั้นก็ไปพานางเข้ามา!”ฟังเช่นนี้รองแม่ทัพโหลวที่อยู่ข้างๆ ต้องแอบเหล่ตามอง และเพียงเห็นคลื่นโทสะลูกใหญ่กำลังก่อตัวใกล้เป็นมรสุมเต็มที เขาก็ต้องรีบประสานมือให้สวี่ห่าวซวน “เช่นนั้นเรื่องนี้ไว้หารือกันพรุ่งนี้ไม่สาย เชิญท่านพูดคุยกับฮูหยินตามสบาย”กล่าวจบรองแม่ทัพโหลวไม่คิดเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางศึกในบ้านอีก พร้อมพาทหารนายนั้นออกไปด้วยคอยดูว่าคงได้เห็นดีกันทั้งสองข
ตอนที่ 15ท่านแม่ทัพหน้ามึนฟังวาจาของสามี ลู่เจียวจูก็ได้แต่นิ่งอึ้ง นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าสวี่ห่าวซวนจะยื่นข้อเสนอเช่นนี้การถือหนังสือหย่าไว้กับตัวก็นับว่าดีอยู่หรอก แต่...เช่นนี้มันราวกับเขาไม่มีเยื่อใยให้กันเลยสักนิดไม่สิ..ข้าจะต้องการเยื่อใยอะไรจากเขากัน!?“เช่นนั้นก็ดี อย่างน้อยหากมีหนังสือหย่าอยู่กับตัวข้าก็อุ่นใจ”นางว่าทั้งที่ไม่รู้เลยกระมังว่าดวงตาคู่งามกำลังฉายแววเจ็บปวด..เมื่อลั่นวาจาแล้วก็ต้องทำตาม สวี่ห่าวซวนหันไปหยิบกระดาษ จรดพู่กันเขียนหนังสือหย่าเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว ส่งให้ภรรยาลงนามต่อเลยแล้วนางก็ยังทำทีเป็นไม่ยี่หระ ลงนามเสร็จก็พับม้วนหนังสือหย่าเก็บใส่อกเสื้อไว้อย่างดี“จากนี้ท่านจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ข้าก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอีก”ฟังวาจานางเข้า..สวี่ห่าวซวนจำเป็นต้องเจ็บปวดหรือไม่ไม่เลย เมื่อเขาเงยขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้า เขากลับเผยรอยยิ้มออกมาได้อย่างหมดหัวใจนางปากไม่ตรงกับใจ ไยเขาจะดูไม่ออกเล่า..“ขอบคุณที่ไม่เป็นห่วงข้า”“ไม่ต้องขอบคุณ เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่”การต่อปากต่อคำจบลงเพียงเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดอีก จนกระทั่งลู่เจียวจูเดินกระทืบเท้
ตอนที่ 16กระวนกระวายเช้าตรู่ที่ค่ายในแดนใต้... ไม่มีใครได้พบลู่เจียวจูอีกแม้แต่สามีของนาง ตื่นมาก็พบว่าข้างเตียงว่างเปล่าเสียแล้ว พอถามพวกเวรยามที่เฝ้าอยู่ก็ได้ความว่ารถม้าของภรรยาเคลื่อนออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างนางคงอายเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับเขาตรงๆกระมังเพราะเมื่อคืนสวี่ห่าวซวนคึกคะนองมากไป ตอนอาบน้ำด้วยกันนั่นเขาได้แกล้งนางไปสองยก เสร็จแล้วก็ลากมาจัดการต่อบนเตียงอีกเกือบทั้งคืนป่านนี้นางคงไปแอบงีบบนรถม้าระหว่างทางแทน..แต่ช่างเถิด เขาได้สมใจอยากแล้ว ค่อยมีกำลังใจไปสู้กับข้าศึกจากแดนใต้เพิ่มขึ้นหน่อยทางฝั่งลู่เจียวจู นางรีบหอบเสื้อผ้าข้าวของขึ้นรถม้าก่อนสามีจะตื่น เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาจริงๆก็ใครจะกล้าล่ะ...ตอนกลางวันยังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งจิกกัดด่าทอ หากไม่เกรงใจกันอีกนิดคงถึงขั้นไล่ไปตายด้วยซ้ำแต่พอตกกลางคืนกลับมีแต่เสียงครางเสียงร้องระงมด้วยความสุขสม... อย่างกับคืนดีกันแล้วทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้มาง้อข้าสักนิด แบบนี้ก็เหมือนข้าโกรธแล้วก็ต้องหายโกรธเอง เสียหน้าจะตายไประยะเวลาขากลับสั้นกว่าขาไปเล็กน้อยเพราะคนขับรถม้าชำนาญทางมากขึ้น ลู่เจียวจูถึงได้ไม่ทรมานมากนัก เม
ตอนที่ 17ที่ปรึกษาถึงอยากขัดใจก็ไม่อาจขัดใจ เหล่าบ่าวรับใช้ต่างก็แยกย้ายไปเก็บข้าวของของนายหญิงลงหีบขนขึ้นรถม้า เพื่อพร้อมสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้นจุดมุ่งหมายที่นางสั่งคนขับรถม้าประจำจวนให้มุ่งหน้าไป มิใช่จวนเจ้าเมืองจงเหนียนเหมือนอย่างเคย แต่เป็นระยะทางที่ไกลกว่านั้นสู่ชายแดนฝั่งตะวันออกเมืองจงเหนียน...คฤหาสน์พ่อค้าตระกูลอี้“เฉินเฉิน! เฉินเฉิน!”หลังจากเดินทางอยู่วันครึ่ง เมื่อก้าวลงจากรถม้านางก็สั่งคนเฝ้าหน้าประตูให้ไปตามนายจวนออกมา ยังส่งเสียงเรียกเขาอยู่ตรงนั้นอีกด้วยไม่นานก็ปรากฏร่างชายหนุ่มผู้แต่งตัวดีมีท่าทางสุภาพ รอยยิ้มของเขาเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับนาง“เจียวจู”เพียงเขาเรียกขานนามนั้น ลู่เจียวจูก็ระบายยยิ้มกว้างตอบได้ “ข้าคงต้องรบกวนเจ้าอีกครั้งแล้ว”“รบกวนที่ใดกัน มาๆ เข้าบ้านก่อนเร็ว”อี้เฉินมักต้อนรับแขกดีเสมอ แต่กับนางเรียกว่าต้อนรับอย่างดีที่สุด อบอุ่นประหนึ่งได้กลับบ้านจริง
ตอนที่ 18ร้อนใจสุดท้ายแล้ว ลู่เจียวจูก็ได้พักค้างแรมอยู่ที่คฤหาสน์พ่อค้าสกุลอี้เพียงไม่กี่วันเท่านั้นก่อนออกเดินทางกลับจวนที่โจวหนาน อี้เฉินเดินมาส่งนางหน้าประตู มีคำร่ำลาเพียงเล็กน้อย“เดินทางปลอดภัยนะเจียวจู”“อื้อ ข้าไปนะ”นางก้าวขึ้นไปแล้ว เขาก็เตรียมหมุนกายกลับแต่ก่อนจากกันจริงๆหนนี้ มีถ้อยคำที่อยากฝากไว้ถึงสหายอีกหน่อย“กับสามีคนนั้น เจ้ามีอะไรอยากพูดกับเขาก็รีบๆพูดไปให้หมดเถอะนะ”ลู่เจียวจูไม่เข้าใจว่าอี้เฉินคิดอะไรถึงได้กล่าวเช่นนั้น“ถ้าข้าอยากพูดละก็นะ”“อย่าดื้อรั้นปากแข็งให้มากนักเลยลู่เจียวจู เจ้าแต่งงานแล้วนะ คนเป็นสามีน่ะอยากให้ภรรยาเชื่อฟังทั้งนั้น”พอเขาเตือนไปอีก นางก็ทำหน้ามุ่ยตอบรับแบบส่งๆ “เข้าใจแล้วๆ ข้าจะพยายายามแล้วกัน เพราะเจ้าบอกหรอกนะ”“อืม โชคดีล่ะ”แล้วรถม้าของนางก็เคลื่อนตัวออกไป โดยมีสายตาของเขามองส่งจนหาย
ตอนที่ 19ข้าเป็นห่วงท่านหลังจากตอนลู่เจียวจูโดนพ่อบ้านใหญ่พูดชวนคิด ผ่านไปเพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น ที่หน้าจวนก็มีเสียงเอะอะโวยวาย เรียกให้คนด้านในออกไปมุงดูเป็นเหล่าขุนพลกองทัพที่เดินทางกลับมาจากชายแดนฝั่งใต้ พวกเขามุ่งหน้ามาทางนี้..โดยที่บนหลังม้านั่น รองแม่ทัพโหลวพาร่างสวี่ห่าวซวนที่สะบักสะบอมจนเหมือนจะไม่ได้สติกลับมาส่งพ่อบ้านใหญ่กับบ่าวรับใช้ต่างหน้าถอดสีรีบร้อนไปจัดแจงที่พักรักษาตัวให้ท่านแม่ทัพของพวกเขาทันที ก่อนจะไปตามลู่เจียวจูมา“ท่าน!!”เพียงภรรยาได้มาเห็นสภาพอันน่าสงสารเท่านั้น แววตานางเจือรอยน้ำใส รีบโผเข้าไปหาเขา กุมมือไว้ที่ข้างเตียง“ผู้ใด..ผู้ใดทำ คนของแดนใต้หรือ! ท่านบอกข้ามา!”และเพราะใจร้อนเกินระงับมาตั้งแต่แรก ลู่เจียวจูเปลี่ยนความเศร้าเป็นความโกรธฉับพลัน นางวิ่งไปคว้าดาบคู่ใจของตัวเองอีกครั้ง ราวกับว่าหากวันนี้มันไม่ได้ดื่มเลือดของใครแล้ว นางจะทนอยู่ไม่ได้กระนั้น“นั่นเจ้า..จะถือดาบไปไหน”
ตอนที่ 20หวั่นไหวคืนวันที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้าทำให้ลู่เจียวจูกับสวี่ห่าวซวนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิมเพราะนางคอยอยู่ดูแลเขาตลอดเวลา ไม่ว่าตอนป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดตัว ทำแผล ดื่มยารักษาร่างกายยิ่งช่วงหลังๆมานี้ นางถึงขั้นลงมือเข้าครัวเองด้วยซ้ำ เพื่อดูให้แน่ใจว่าสามีจะได้กินของที่ดีที่สุดเป็นเช่นนี้...สวี่ห่าวซวนจะไม่ยิ่งหวั่นไหวได้อย่างไร“เป็นอย่างไรเจ้าคะ เค็มไปหรือไม่”นางตักข้าวต้มป้อนเข้าปากเขา ถามรสชาติด้วยดวงตาแฝงประกายความหวังข้าวต้มชามนี้ภรรยาลงมือปรุงเอง ยังใส่ความตั้งใจลงไปเปี่ยมล้น แล้วมันจะไม่อร่อยได้อย่างไร“ไม่เลย เจ้าปรุงรสได้ตรงกับที่ข้าชอบ อร่อยกลมกล่อมดีมาก”ในความทรงจำของสวี่ห่าวซวน เขาไม่เคยคิดพูดชมผู้ใดอย่างยืดยาวเช่นนี้ กับแค่ข้าวต้มชามเดียว หากอร่อยก็แค่กินให้มากหน่อยเท่านั้นแต่ตอนนี้..เห็นได้ชัดว่าตัวเขาเองก็เปลี่ยนไปมากได้รับคำตอบที่พอใจ ลู่เจียวจูก็จะยิ่งมีรอยยิ้มงดงามมอบให้ &ld
ตอนที่ 21ข้าต้องการหย่ากายนางกดอยู่เหนือร่างเขา ยังอ้าขาคร่อมความเป็นบุรุษเพศอันใหญ่โตนั้นอยู่ด้วยสวี่ห่าวซวนเห็นอีกคนทำสะเทิ้นอายก็ยิ่งมีรอยยิ้มร้าย ยกสะโพกตัวเองชนแก่นกายเข้ากับส่วนสงวนของหญิงสาว ให้นางสะดุ้งเล็กน้อย“ท่านพี่!”“ก็เจ้าชักช้า มาว่าข้าได้อย่างไร”ดูเขาช่างกล้า มันน่าทุบให้แผลแตกนัก“ข้าไม่ได้ตกลงว่าจะทำสักหน่อย”“หืม...ทั้งที่เจ้าอยากขนาดนี้น่ะหรือ”ทำไมเขาจะไม่รู้ ทั้งที่ยังไม่ได้เล้าโลมอะไรเลย กลางกายสาวกลับเริ่มฉ่ำแฉะรอเสียแล้ว อย่างกับนางอยากขึ้นขย่มเขาใจจะขาดคนโดนรู้ทันไร้ซึ่งคำโต้แย้ง นางได้เพียงเสมองทางอื่น ทำให้สวี่ห่าวซวนรู้สึกอยากแกล้งหนักขึ้นไปอีก จึงค่อยๆยกสะโพกตัวเองถูไถเบาๆอีกครั้ง“เถอะนะน้องหญิง ข้าเองก็อยากจะแย่แล้ว”สัมผัสได้ชัดเจนว่าแก่นกายใต้เป้ากางเกงนั่นเริ่มจะพองขึ้นน้อยๆ พอเสียดสีกับความแข็งนั่นมากๆเข้าลู่เจียวจูก็ถึงกับเม้มปากหน้าแด
บทส่งท้ายไม่กี่เดือนหลังจากนั้น แคว้นโจวหนานก็มีข่าวดี..ฮูหยินของแม่ทัพสวี่ตั้งครรภ์แรกแล้วหลังจากเริ่มรู้ตัวว่าระดูไม่มา และอยู่ๆก็เกิดอาการเหม็นอาหารหลายอย่าง ลู่เจียวจูก็สังหรณ์ใจว่าในท้องน่าจะมีเจ้าตัวเล็กแล้ว นางจึงให้หมอมาตรวจอาการดู“ยินดีกับฮูหยินสวี่ด้วย” หมอชราประสานมือให้นางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆเย็นย่ำเมื่อสามีกลับมาบ้านและรู้ข่าวนี้ ความยินดีก็ฉายเกลื่อนใบหน้าเขาเช่นกัน ก่อนสวี่ห่าวซวนเข้ามาสวมกอดคลอเคลีย“จะเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิงกันนะ”“ท่านคงต้องรออีกนานกว่าจะได้เห็นหน้าลูก”เขารอลุ้นอยากเห็นหน้าลูกแทบไม่ไหว ทั้งที่อีกตั้งหลายเดือนกว่านางจะคลอด“ไม่เป็นไร ข้ารอได้ ขอแค่คลอดอย่างปลอดภัยก็พอ”เสียงเขาฟังช่างชวนอบอุ่นหัวใจ ลู่เจียวจูก็อดยิ้มกว้างไม่ได้ค่ำคืนนั้นสามีนัวเนียอยู่แต่กับร่างนาง มีจูบหวานล้ำมอบให้ทั้งบนริมฝีปากและหน้าท้องที่ยังไม่นูนออกมาเลย“จากนี้ข้าจะดูแลเจ้าให้ดีกว่าเดิม”ราวกับเป็นคำมั่
ตอนที่ 29เข้าหออีกครั้งถึงแม้จะบอกว่าการหย่าร้างไม่เคยเกิดขึ้น แต่สุดท้ายการเลี้ยงฉลองใหญ่โตประหนึ่งงานสมรสครั้งใหม่กลับเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น“ไหนท่านว่าไม่เคยหย่ากับข้า แต่ทำไมจัดงานเสียอย่างกับแต่งกับข้าอีกครั้งเช่นนี้”“ใครว่าเป็นงานแต่งเล่า นี่มันงานฉลองที่แคว้นโจวหนานมีชัยเหนือยแคว้นเดิมของเจ้าเท่านั้น”ลู่เจียวจูฟังคำกล่าวอ้างของสามีแล้วต้องแอบเบ้ปากนิดๆ หากบอกว่าเป็นงานฉลองจริงเขาจะบังคับให้นางสวมชุดแดงมงคล สวมมงกุฎทับทิมทองเก้าชั้น ร่วมเดินเคียงข้างเขาที่สวมชุดแดงเต็มยศเช่นนี้หรือบางทีสวี่ห่าวซวนอาจอยากเสริมความมงคลให้ชีวิติด้วยการจัดงานที่เสมือนเป็นงานแต่งกับภรรยาคนนี้อีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนร่วมอวยพรให้เขาได้ครองรักกับนางนานๆก็เป็นได้และพอถึงตอนค่ำ สุรามงคลก็ยังวางอยู่บนโต๊ะ ราวกับรอให้บ่าวสาวมารินลงจอกแล้วคล้องแขนดื่มชมจันทร์ด้วยกัน“ไหนท่านว่าไม่ใช่งานสมรสซ้ำ”“งานสมรสมีรอบเดียวน่ะดี แต่เรื่องร่วมหอมีหลายๆครั้งไม่นับว่าเสียหาย
ตอนที่ 28ข้าไม่เคยหย่ากับเจ้า‘หากเจ้าอยากตามหานาง เช่นนั้นก็ไปตามหาเอาในปรโลกเถิด’นั่นคือคำที่ลู่จุนเฟิงทิ้งเอาไว้ให้สวี่ห่าวซวนก่อนถูกลากคอไปแน่นอนว่าข้าไม่มีทางเชื่ออย่างสนิทใจเขาใช่จะอ่านความคิดลู่จุนเฟิงไม่ออก ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองจะต้องตายอยู่แล้ว เช่นนั้นคงไม่มีทางยอมเห็นใบหน้าดีใจเปี่ยมล้นของศัตรูเด็ดขาดลู่เจียวจูยังไม่ตายแน่ๆ..แต่แค่ต้องหาตัวนางให้พบการปูพรมค้นหาสตรียอดดวงใจแม่ทัพสวี่เริ่มต้นขึ้น แต่ผิดคาดจากที่ตอนแรกคิดว่าอาจพบตัวนางได้ยากสักหน่อย ที่ไหนได้กลับมาเจอเอาง่ายๆในห้องลับของจวนเจ้าเมืองเสียอย่างนั้นถึงสภาพนาง..จะดูย่ำแย่มากเต็มทีก็ตาม“เจียวจู!!”เสียงนั้นเป็นสามีเรียกหานาง โซ่ตรวนถูกปลดออกให้เขาได้กอดร่างหญิงสาวผู้เป็นที่รักไว้นางยังพอมีสติอยู่บ้าง รู้ว่าคนที่มาช่วยเป็นใคร น้ำตาก็ไหลรินอย่างไม่อาจห้าม มือที่ไร้เรี่ยวแรงและซีดขาวค่อยๆเลื่อนมาโอบกอดตอบเขาเบาๆ“ไม่นึกว่าจะเป็
ตอนที่ 27ทวงคืนคืนวันต่อจากนั้น ความทรมานของลู่เจียวจูยังไม่สิ้นสุด ยังไม่อาจเห็นแสงสว่างใดลอดเข้ามาเช่นเดียวกับความหวัง...ส่วนลู่จุนเฟิง ความเครียดยิ่งเพิ่มพูนเมื่อเขาเริ่มกลับมาครุ่นคิดถึงหนทางต่อจากนี้เพราะลู่เจียวจูหย่ากับสวี่ห่าวซวนแล้ว สัญญาสงบศึกจึงเป็นอันสิ้นสุดลง ระหว่างแคว้นโจวหนานกับเมืองจงเหนียนกลับไปสู่ความขัดแย้งเหมือนเช่นร้อยปีที่ผ่านมาหากยังอยู่เฉยๆ..ไม่แน่ว่าภัยอาจจะมาเยือนเขาในอีกไม่ช้า เช่นนั้นลู่จุนเฟิงจึงออกคำสั่งต่อแม่ทัพของเขา ให้เริ่มจัดเตรียมกระบวนรบเพื่อบุกแคว้นโจวหนานอีกคราเพราะสวี่ห่าวซวนพึ่งหย่ากับลู่เจียวจูไป ซ้ำทางแคว้นโจวหนานพึ่งสิ้นศึกกับแดนใต้ กำลังรบน่าจะยังไม่ฟื้นคืนเต็มที่ เรียกว่าจะบุกมาหาเรานั่นเป็นไปไม่ได้ จะตั้งรับก็อาจจะยากเกินไปด้วยซ้ำนี่เป็นเวลาทองที่จะใช้ยึดอำนาจ ให้แคว้นโจวหนานตกมาอยู่ใต้อาณัติของเราเสีย!การจัดตั้งกองทัพเดินทางสู่ชายแดนสองเมืองเต็มไปด้วยความฮึกเหิมเปี่ยมล้นแต่ผิดคาด...ลู่จ
ตอนที่ 26หย่าขาด“ในเมื่อเจ้าไม่เห็นว่าข้าเป็นสามีที่คู่ควรกับเจ้าอีกต่อไป เช่นนั้นก็หย่าให้มันจบเรื่องไปเสีย”ยามกล่าวน้ำเสียงสวี่ห่าวซวนทั้งเข้มข่มขวัญ แววตาของเขาก็ช่างดุดันน่ากลัวอย่างยิ่งราวกับเขาโกรธจริงๆ และไม่คิดอยากจะมองหน้านางให้ยิ่งโกรธเพิ่มไปกว่านี้อีกจริงๆ...ลู่เจียวจูไม่ได้อยากได้รับปฏิกิริยาเช่นนี้ แต่นางต้องกลั้นใจว่าต่อ“พรุ่งนี้ ข้าจะไปยื่นหนังสือหย่าของเรากับท่านผู้ครองโจวหนานเอง ท่านโปรดวางใจ”“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยสะสางธุระน่ารำคาญให้ยิ่งลำบากกาย”ฟังวาจาเขาบาดหูได้อย่างเจ็บแสบนัก ลู่เจียวจูเกือบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้วแต่นางยังต้องทนต่อไป กล่าวอำลาอย่างเร็วๆก่อนจากออกมา“จากนี้ข้า..ไม่ใช่ฮูหยินสวี่อีกต่อไป ต้องขอลา”“เชิญ ข้าไม่ส่งนะ”เขาทำทีไร้เยื่อใยได้อย่างแนบเนียนมากจริงๆสมดังตั้งใจ ลู่เจียวจูดูไม่ออกเลยว่าอะไรจริงอะไรปลอมกันแน่
ตอนที่ 25คำตอบรับคืนค่ำ หลังจากวันนั้นที่สวี่ห่าวซวนออกจากบ้านไป ผ่านมาสองคืนก็แล้ว สามคืนก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมาเลยจุดประสงค์ของท่านคืออะไร? ตั้งใจหนีหน้าข้า หรือแค่อยากให้ความคิดของข้าตกตะกอนมากขึ้นกันแน่?“เฮ้อ!”ลู่เจียวจูผ่อนลมหายใจไม่ต่ำกว่าคืนละร้อยหนนางยังนั่งคอยนอนคอยอยู่บนเตียงอย่างกับจะตายลงเช่นเดิม กระทั่งบ่าวรับใช้หน้าประตูเข้ามารายงาน “ฮูหยินเจ้าคะ มีจดหมายมาถึงท่านเจ้าค่ะ”“จากท่านแม่ทัพหรือ!?”เพียงได้ยินว่ามีจดหมาย แววตานางพลันเปล่งประกายขึ้นมา ประหนึ่งวิญญาณกลับเข้าร่างแล้วกระนั้นแต่ฉับพลันมันก็ต้องวูบดับไปเมื่อได้รับคำเฉลย “ไม่ใช่เจ้าค่ะ เป็นจากท่านเจ้าเมืองจงเหนียนเจ้าค่ะ”จากลู่จุนเฟิงอย่างนั้นหรือรับจดหมายมาแล้ว ลู่เจียวจูยังไม่กล้าทำใจเปิด ด้วยหัวใจกระหน่ำเต้นลุ้นระทึกเขาจะเขียนอะไรมากันนะ...เมื่อในห้องนี้มีเพียงนาง ก็ยิ่งราวกับว่าเสียงหัวใ
ตอนที่ 24หาทางออกยามย่ำรุ่ง ลู่เจียวจูตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ข้างเตียงก็ว่างเปล่าเสียแล้วสวี่ห่าวซวน..หายไปไหนกัน?หญิงสาวนิ่งคิด ก่อนลุกออกไปถามบ่าวหน้าประตู “ท่านแม่ทัพล่ะ”“ท่านแม่ทัพไปที่ฐานทัพตะวันตกเจ้าค่ะ”“ไปตอนไหน แล้วไปอย่างไร”“ท่านแม่ทัพขี่ม้า..ไปตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นเจ้าค่ะ”ได้รับคำตอบแล้วลู่เจียวจูต้องสูดหายใจเข้าลึกสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ระเบิดนี้เขา..ฝืนขี่ม้าไปไกลถึงเพียงนั้น..เพื่อหนีหน้าข้าเนี่ยนะ!ทั้งๆที่ยังไม่หายดีแท้ๆ ตอนนี้นางเป็นห่วงก็เป็นห่วงอยู่ แต่โมโหในความไร้เหตุผลของสามีมากกว่า“เฮอะ! ในเมื่อไม่อยากเห็นหน้าข้ามาก เช่นนั้นก็ไม่ต้องพบกันอีก!!”นางประชดประชันก่อนปิดประตูห้องเสียดังลั่น แต่คนที่รับทั้งเสียงประชดและเสียงกระแทกนั่นก็มีแต่บ่าวรับใช้ หาใช่ตัวสามีโดยตรงพวกเขา..ทะเลาะอะไรกันอีก?คนรอบข้างไม่มีทางไม่สงสัย แต่ก
ตอนที่ 23ไม่อาจทรยศตอนแต่งเข้ามาในจวนนี้..ทีแรกข้าก็ตั้งใจจะทำภารกิจให้สำเร็จอยู่หรอกในวันแรกหลังจากผ่านพิธีสมรสมา ลู่เจียวจูยังจำได้ดีว่าตัวเองพยายามตามหาตราประจำกองทัพของสวี่ห่าวซวนขนาดไหนโชคดีที่เขาไม่อยู่ห้องตั้งแต่ตอนนางตื่น เช่นนั้นนางจึงสามารถค้นดูได้อย่างถนัดแต่ก็เป็นโชคร้ายเหมือนกัน ที่หาเท่าไรก็ยังไม่พบสุดท้ายนางเลยต้องเปลืองแรงขยายขอบเขตการตามหา โดยทำทีว่าต้องการเรียนรู้เรื่องต่างๆในจวน ทั้งเดินสำรวจไปทั่ว เข้าไปในห้องหนังสือเพื่อศึกษาตำราต่างๆอีก แม้ความจริงนางจัดการบัญชีทรัพย์สินได้อย่างชำนาญ และการดูแลบ่าวในจวนก็ไม่ใช่งานยากอะไร‘ไม่เจอ...’ในตอนที่ลู่เจียวจูพบกับความล้มเหลว นางเหงื่อแตกมือสั่นใจเต้นแรง พอเข้าวันที่สองก็เริ่มกระวนกระวายจนเหมือนจะทนไม่ได้เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็อีกไม่นานจะต้องกลับไปเยี่ยมญาติแล้วอย่างไรเล่าหากว่าพ่อบุญธรรมของนางเกิดถามไถ่ขึ้นมา นางจะตอบอย่างไร..ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ลู่เจียวจูผู้
ตอนที่ 22อดีตของลู่เจียวจูในความเงียบนั้น สวี่ห่าซวนรู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบศีรษะเขา ทำเอามึนงงจนกล่าวอะไรไม่ได้เขาได้เพียงมองตานาง ซึ่งฉายความมุ่งมั่นอย่างครึ่งๆกลางๆเท่านั้นก็เห็นชัดอยู่ว่าเจ้ารักข้า...แล้วเหตุใด..“เจ้าลองคิดดูอีกที ว่าต้องการอย่างนั้นจริงหรือไม่”เขาถามย้ำโดยพยามยามไม่ให้ตัวเองเสียงสั่น คอยดูปฏิกิริยาจากนางใจจ่อลู่เจียวจูพยักหน้าตอบช้าๆ ไร้ซึ่งถ้อยคำจะกล่าวฮะๆๆ.. น่าขัน ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้“ถ้าเจ้าหย่ากับข้า ก็ถือว่าการแต่งงานเพื่อสานสัมพันธ์ของสองแคว้นสิ้นสุดลง เจ้าลองตรองดูใหม่ว่าต้องการอย่างนั้นจริงๆหรือไม่ อยากให้เกิดสงครามเหมือนร้อยปีที่ผ่านมาหรือไม่ ไม่อยาก..ไม่อยากให้ชาวเมืองจงเหนียนที่เจ้ารักมีชีวิตอันสงบสุขแล้วอย่างนั้นหรือ? หรือไม่แยแสเลยถึงแม้ต่อให้วันหนึ่งคนที่เจ้าให้ความสำคัญมากๆอย่างเจ้าอี้เฉินนั่นจะต้องถูกเกณฑ์มาเป็นไพร่พลกำลังรบ?”เขาร่ายยาวมาขนาดนี้ ก็เพื่อให้นางได้ตัดส