ราเชล ฮาร์ดี้ดูไม่แยแสเมื่อเธอมองชาวอินเดียที่จ้องเธอบนพื้นอย่างไม่พอใจเธอเหวี่ยงดาบอีกครั้งและฟันชาวอินเดียอีกสองคนที่พยายามจะแอบเข้ามาโจมตีเธอชาวอินเดียห้าคนนอนอยู่บนพื้นโดยไม่มีแรงที่จะสู้ต่อ ในขณะที่ที่เหลือต่างมีสีหน้าฉงนพวกเขากวัดแกว่งดาบก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าราเชลไม่รู้สึกตื่นตระหนกเลยเมื่อเห็นภาพนี้ เธอกระทืบพื้นก่อนที่จะบินขึ้นไปพร้อมกับดาบในมือฉัวะ!ชาวอินเดียที่อยู่ข้างหน้าตัวสั่นและล้มลงกับพื้นด้วยความเหลือเชื่อเมื่อดาบของเขาหักออกเป็นสองท่อน ไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ราเชลชี้ดาบของเธอไปข้างหลังของเธอแล้วแทงทะลุมือของอีกฝ่ายก่อนที่พวกอินเดียจะทันได้โต้ตอบ ราเชลก็หมุนตัวอยู่กลางอากาศก่อนที่จะส่งอีกคนลอยไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวการเคลื่อนไหวของเธอลื่นไหลผิดปกติในขณะนั้นหลังจากที่ทำให้ชาวอินเดียบางส่วนพิการ ราเชลก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วแสงก่อนที่จะฟันอีกสองคนชาวอินเดียจำนวนหนึ่งที่มีหน้าไม้กำลังขึ้นลูกธนูเพื่อยิงราเชลราเชลกระทืบพื้นอีกครั้งทันทีในเวลาเพียงชั่วครู่ ดาบบนพื้นก็แยกออกเป็นสองส่วนและหักเหลูกธนูทุกลูกที่เข้ามาหาเธอเคร้ง
การต่อสู้รุนแรงขึ้นในขณะที่มือปืนของตระกูลจอห์นแสดงสีหน้าน่าสยดสยองแม้ว่าฝีมือของราเชลจะพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ชาวอินเดียก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเช่นกันหลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ชาวอินเดียหลายสิบคนก็ลุกขึ้นยืนและล้อมราเชลไว้อย่างสมบูรณ์โดยวางแผนที่จะทำให้เธอเหนื่อยอย่างช้า ๆเจตนาฆ่าลอยมาจากดาบทุกเล่มของพวกเขาผู้คนนับไม่ถ้วนมุ่งเป้าไปที่ราเชลราวกับว่าพวกเขาต้องการตัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งเพราะเธอไม่เคารพพวกเขาราเชลเหวี่ยงดาบของเธออย่างสงบ เผยให้เห็นแสงจ้าของแสงจันทร์แสงทั้งหมดหายไปทันทีในขณะนี้ สิ่งที่เหลืออยู่คือเสียงสะท้อนจากการโจมตีของราเชลเหล็กหลอมอย่างดีทั้งหมดพังทลายลงในทันทีราเชลโบกมือไปรอบ ๆ และแกว่งดาบของเธอราวกับนางฟ้าแห่งความตายฉัวะ!ชาวอินเดียคนหนึ่งจับแขนของเขาขณะก้าวถอยหลังแล้วก็คนที่สอง แล้วก็คนที่สาม…ในเวลาเพียงห้านาที ชาวอินเดียหลายสิบคนล้มลงกับพื้นเป็นอัมพาต ในขณะนั้นพวกเขาทั้งหมดสูญเสียพลังการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิงราเชลมีรอยแผลปรากฏบนตัวเธอสองสามจุด เธอหายใจถี่ ๆ แต่เธอดูดีมากเมื่อเทียบกับสภาพของชาวอินเดียดาห์เลียตกใจมากกับภาพที่เห็นมือปืนของ
แฟรงกี้คิดว่าถ้าเขาไม่สามารถฆ่าฮาร์วีย์ได้...คนของเขาคงตายเปล่า อารามสวรรค์และความสัมพันธ์ของตระกูลจอห์นกับวิหารจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงเช่นกันท้ายที่สุด บางสิ่งก็ไม่ควรถูกพูดถึงและแน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ชื่อเสียงของแฟรงกี้จะเสื่อมเสีย!สำหรับแฟรงกี้ ชื่อเสียงของเขาสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด!“คุณนี่นะ…เฮอะ…”ขณะที่แฟรงกี้เหวี่ยงดาบ ฮาร์วีย์ก็ถอนหายใจและก้าวไปข้างหน้าการเคลื่อนไหวของเขาช้ามากจนทุกคนสามารถมองเห็นมันได้แต่เมื่อฮาร์วีย์เหวี่ยงมือ มันเร็วมากจนไม่มีใครสามารถโต้ตอบได้ทันเวลาดาบของแฟรงกี้หักไปครึ่งหนึ่งทันทีที่สัมผัสกับการฝ่ามือของฮาร์วีย์แฟรงกี้ก้าวถอยหลัง สีหน้าของเขาดูหวาดกลัวเขาตระหนักว่าฮาร์วีย์ที่เขาดูถูกมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ!แฟรงกี้มั่นใจว่าเขาจะถูกส่งกระเด็นไปด้วยการตบแบบเดียวกันถ้าเขาไม่หลบเลี่ยงมันแต่ทันทีที่แฟรงกี้ก้าวถอยหลัง ฮาร์วีย์ก็เดินไปข้างหน้าอย่างสงบและเหวี่ยงมืออีกครั้งเพี๊ยะ!แฟรงกี้มีสีหน้าตกตะลึงขณะที่เขาก้าวไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมการตบที่ดูธรรมดาถึงน่ากลัวสำหรับเขาขนาดนี้ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็
ครู่ต่อมา ยอดฝีมือที่ถือดาบก็เดินเข้ามาด้วยออร่าอันน่าสะพรึงกลัวพวกเขาต้องเป็นยอดฝีมือที่หาได้ยากที่สุดของอินเดียและตรงกลางของพวกเขาก็มีนักบวชที่ห่มผ้าทองอยู่แววตาของเขาเย็นชาขณะที่เดินเข้ามาอย่างดุเดือดทุกย่างก้าวของเขาทำเต็มไปด้วยพลังและการครอบงำที่ไม่อาจจินตนาการได้แววตาของราเชลเปลี่ยนเป็นเย็นชาหลังจากที่เห็นเขา สีหน้าของเธอเคร่งขรึมเธอสามารถบอกได้ว่านักบวชนั้นมีพลังมหาศาล“ยอดฝีมือ!”“อาจารย์การ์เซีย!”อย่างไรก็ตาม แฟรงกี้และดาห์เลียต่างเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อได้เห็นนักบวชองค์นั้นราวกับว่านักบวชสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้นักบวชองค์นี้คือ โคดี้ การ์เซีย หนึ่งในสามนักบวชผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดียที่ประกาศตัวเองว่าเป็นยอดฝีมือจากอารามสวรรค์และยังเป็นคนรับใช้ของโกลด์เด้น พาเลซอีกด้วย!ว่ากันว่าเขาอยู่ในระกับขั้นต้นของการเป็นเทพสงครามแล้ว พลังของเขานั้นพิเศษมากดาห์เลียหวังว่าเขาจะสามารถจัดการฮาร์วีย์ได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว มันคงจะสมบูรณ์แบบถ้าเป็นเช่นนั้นโคดี้เมินทุกคนและเล่นกับลูกปัดในมือ เขามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาแปลก ๆนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับฮาร์วีย์ แต่เ
“อ๊ากกก!”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นขณะที่แฟรงกี้ล้มลงพื้นแฟรงกี้ ซึ่งก่อนหน้านี้แสดงตนสูงส่งและทรงพลัง มีเลือดไหลออกจากปาก แขนขาของเขาหมดเรี่ยวแรงเขาต้องการที่จะคลานกลับขึ้นมา แต่เขาไม่สามารถรวบรวมกำลังที่จะทำเช่นนั้นได้เขารู้เกือบทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนจะต้องจบลงแบบนี้เขาเป็นวรรณะกษัตริย์ผู้สูงศักดิ์จากอินเดีย!เขาคือผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าสำหรับคนรุ่นใหม่!ลูกศิษย์ผู้เก่งกาจของนักบวชผู้ยิ่งใหญ่!รองประธานสภาธรุกิจภารตะ!บุคคลสำคัญในแวดวงสังคมขนขั้นสูงของฟลัตเวลล์ และพี่ชายร่วมสาบานของโจเซฟ!ในสายตาของแฟรงกี้ จะต้องไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาเพราะทั้งหมดนี้...ต่อให้ตำรวจจะจับกุมเขา เขาก็จะถูกขังได้มากสุดเพียงสองวันเท่านั้นท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มีภูมิคุ้มกันทางการฑูต!แต่สำหรับชาวอินเดียที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตนเป็นอันดับแรก แฟรงกี้กลับสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างทันทีที่เขาพิการฆ่าเขาเลยยังจะดีกว่า!ตอนนี้ชีวิตของแฟรงกี้เหมือนตกนรกทั้งเป็น!“คุณการ์เซีย!”“นายน้อยการ์เซีย!”ชาวอินเดียร้องเมื่อเห็นแฟรงกี้ไอเป็นเลือดผู้คนต่างรีบรุดไป
“ฉันจะทำให้แกต้องเสียใจกับการตัดสินใจของแกในนรก!“แกจะได้รู้ว่าแกไม่ควรยุ่งกับพวกอินเดียผู้สูงศักดิ์!”โคดี้ชักมีดออกจากฝัก สีหน้าของเขาชั่วร้ายฮาร์วีย์ส่ายหัว“น่าเสียดายที่คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม“คุณไม่คู่ควรกับผม เช่นเดียวกับลูกชายของคุณ เช่นเดียวกับลูกศิษย์ของคุณ!“คุณอาจจะเกือบจะเทียบเท่าเทพสงคราม แต่นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมเลย”"ได้!"แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!“ในเมื่อแกมั่นใจขนาดนั้น ฉันก็จะทำให้แกได้เห็นว่าศาสตร์ลึกลับแห่งอินเดียนั้นน่ากลัวแค่ไหน!”โคดี้เปิดเผยเครื่องรางและเริ่มสวดมนต์ จากนั้นเขาก็จุดไฟเครื่องรางด้วยนิ้วของเขาก่อนที่จะกระแทกมันลงบนหัวของเขาปัง!ฮาร์วีย์รู้สึกได้ชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของโคดี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณดวงตาของโคดี้เป็นสีแดงเลือด และเขาดูราวกับว่าเขาเป็นปีศาจที่คลานออกมาจากนรกออร่าที่น่าสะพรึงกลัวปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้านี่คือความแข็งแกร่งของเทพสงคราม!“การสะกดจิตเหรอ”ตาของฮาร์วีย์กระตุกเล็กน้อย“ผมไม่คิดว่าคุณจะทำแบบนั้นกับตัวเองเพียงเพื่อให้ได้พลังมากขึ้น“คุณเคยคิดถึงผลที่จะตามมาของการทำเช่นนั้นบ้างไหม?”"ผลที่จะตามมา?“มัน
ฮาร์วีย์พยายามรวบรวมกำลังของเขากลับมาเพื่อดูว่าโคดี้มีพลังมากแค่ไหนด้วยเทคนิคการสะกดจิต เขาไม่ต้องการฆ่าโคดี้โดยบังเอิญด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวโคดี้ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ เขาเหวี่ยงมีดด้วยความเร็วดุจสายฟ้าและสามารถตอบโต้ความแข็งแกร่งที่ฮาร์วีย์กดไว้ได้เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเคร้ง!หลังจากที่ฟันไปเก้าครั้ง โคดี้ก็ดูราวกับว่าเขาพบโอกาส เขาหมุนมีดในมือแล้วฟันมันลงอากาศเริ่มสั่นสะเทือนจากการโจมตี แม้แต่กำแพงเสียงที่พังก็ยังได้ยินฮาร์วีย์ยกดาบขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่เนื่องจากเขาระงับความแข็งแกร่งของตัวเอง เขาจึงถูกบังคับให้ต้องถอยหลังไปสองสามก้าวดาห์เลียก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าเย็นชาเธอเชื่อว่าฮาร์วีย์ต้องตายแน่ แต่เธอก็ยังไม่อยากถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ดี“เทพสงครามสินะ”ฮาร์วีย์ยืนตัวตรงด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ“คุณแทบจะเป็นเทพสงครามแล้ว แต่คุณกลับต้องรักษาพลังนี้ด้วยการการสะกดจิต…”“ดูเหมือนว่าคุณจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อคุณต่อสู้นานขึ้นเช่นกัน”"น่าสนใจ น่าสนใจจริง …”“แต่คุณไม่เข้าใจผลที่ตามมาจากการทำสิ่งนั้นเหรอ?”จากการวิเคราะห์ข
ดาห์เลียหัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่เธอดูการต่อสู้“แกตายแน่ฮาร์วีย์!” เธอตะโกนด้วยความเหยียดหยาม“นั่นคือ ดาบปีศาจ กระบวนท่าในตำนานของอารามสวรรค์! แกไม่มีวันรับมือมันได้!“แกจะต้องตายอย่างเดียว!“ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะร้องขอความเมตตา!“ท้ายที่สุดการคุกเข่าต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย!“สุภาพบุรุษที่แท้จริงย่อมรู้ว่าเมื่อใดที่ควรจะยอมแพ้!“แต่คุณการ์เซียจะฆ่าแกหรือไม่หลังจากที่แกคุกเข่าแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!”ทุกคนหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดอันเย่อหยิ่งของดาห์เลียพวกเขาต้องการทำลายฮาร์วีย์ แต่ยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาอยากเห็นฮาร์วีย์ร้องขอความเมตตาแม้แต่โคดี้ก็ยังหัวเราะในขณะที่เขาแสดงกระบวนท่าเขาอยากจะบดขยี้วิญญาณของฮาร์วีย์ เขาอยากเห็นฮาร์วีย์หลั่งน้ำตา!ขณะที่ทุกคนดูถูกฮาร์วีย์อย่างไม่ลดละ ฮาร์วีย์ก็เพียงยิ้มจาง ๆ“อวดดีจริง ๆ“ตระกูลจอห์นเชี่ยวชาญเรื่องศิลปะการต่อสู้มากนะดาห์เลีย ความสัมพันธ์ของคุณกับโกลด์เด้น พาเลซ ซึ่งเป็นสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ของฟลัตเวลล์ ก็สนิทชิดเชื้อ“แต่คุณยังไม่เข้าใจหลักการพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้ด้วยซ้ำเหรอ?”“
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข