“ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…" “อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!” ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที...ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตามในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้ เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…” “คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถ
“ดอน?”ฮาร์วี่ย์ชะงักไปชั่วขณะ แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพลางคิดในใจ ‘ผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เลี้ยงไว้เท่านั้น ก็แค่รอจังหวะที่มันจะถูกเตะออกไปเท่านั้น’“คุณแม่ครับ ผมจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเราจะหย่ากัน แต่นี่ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของเรา” ฮาร์วี่ย์หัวเราะเบาๆอย่างสะใจ พูดจบเขาก็ขี่จักรยานไฟฟ้าคู่ใจจากไป“ไอ้ฮาร์วี่ย์ ไอ้คนไร้ค่า!” ลิเลียนตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอเกือบตัดสินใจขับรถของเธอทับฮาร์วี่ย์แล้วเชียว ถึงอย่างนั้นเธอทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธและขับออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สังเกตุเห็นฝูงชนรายล้อมมองดูอยู่…ในช่วงเวลาหลังเลิกงานแล้ว แมนดี้เดินไปที่แผนกต้อนรับของบริษัทเธอก็เห็นผู้หญิงสองคนหัวเราะคิกคักกันไปมาเหมือนมีพูดคุยเรื่องน่าขันอะไรมากอย่างนั้น แถมยังมีพนักงานหลายคนกำลังดูอยู่พวกหล่อนสองคนอยู่เช่นกัน“สามีของคุณซิมเมอร์เขาเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะ เขาบอกว่าจะมอบดอกกุหลาบจากปรากให้เธอ เขากล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เขาไม่ได้มองตัวเองในกระจกเลยเหรอ? ดูแค่รถจักรยานไฟฟ้าที่เขาขี่สิ
“ นายคือ…ฮาร์วี่ย์งั้นหรอ?”โฮเวิร์ด สโตน จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสงสัย เขายิ้มเยาะออกมา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วเดินตรงเข้าไปในโรงแรมฮาร์วี่ย์มีสีหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโฮเวิร์ดจะทำตัวเมินเฉยต่อเขาทั้งสองเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยงที่เป็นอย่างส่วนตัวทีละคน เวลานี้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนอยู่ที่นั่นแล้ว ทุกคนมายังประตูเมื่อประตูเปิดออก“นี่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเราใช่ไหม? หัวหน้าห้องกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งนี่! เขาหล่อมาก!" เสียงในหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา แน่นอนว่าในวันนี้โฮเวิร์ทนั้นสวมสูทและรองเท้าหนังคู่หนึ่ง โดยมีกุญแจรถ Audi คันหรูห้อยอยู่ที่เอวของเขา เขาดูหล่อมากในตอนนี้ไม่นานก็มีคนเห็นฮาร์วี่ย์ที่เดินตามหลังโฮเวิร์ดเข้ามา ถึงแม้ว่าชุดสูทที่เขาใส่อยู่นั้นจะไม่พอดีตัวเขา แต่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์เพื่อนร่วมชั้นเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ้ม “ฮาร์วี่ย์ดูเหมือนคุณจะทำได้ดีเช่นกันนะ มาเถอะที่นั่งสองที่นั่งนี้จองไว้สำหรับคุณและหัวหน้าห้องของเรา!”โฮเวิร์ดเหลือบมองฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย เขาไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าฮาร์วี่ย์
ในตอนแรกฮาร์วี่ย์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นโฮเวิร์ดแสดงพฤติกรรมออกมาเขาก็ส่ายหัวและไม่พูดอะไร แต่เขากลับเดินไปข้างๆเชอร์ลีย์และพูดว่า “เราไปด้วยกันไหม ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง”“นี่…” เชอร์ลีย์ลังเลเล็กน้อย เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาร์วี่ย์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เห็นได้ชัดว่าโฮเวิร์ดเป็นตัวหลักในคืนนี้ ถ้าเธอออกไปตอนนี้มันจะไม่ขัดใจโฮเวิร์ดหรือ?อีกด้านหนึ่ง เมื่อโฮเวิร์ดเห็นว่าฮาร์วี่ย์ยังอยู่ที่นั่นและยังไปทำความสนิทสนมกับเชอร์ลีย์อีก ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองไปที่อาร์วี่ย์ “ฮาร์วี่ย์ไม่เป็นไรถ้านายจะไสหัวออกไป แต่นี่นายยังจะพาเพื่อนร่วมชั้นคนสวยของเราไปกับนายด้วยงั้นหรอ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? อย่าลืมสิ! นายเป็นลูกเขยที่ขออาศัยเขาอยู่แค่นั้น และเรารู้สึกอับอายมากที่มีเพื่อนร่วมชั้นแบบนาย!”"ใช่เลย! เพื่อนร่วมชั้นทุกคนประสบความสำเร็จทั้งกันนั้น คุณนี่มันน่าขายหน้าจริง ๆ!”“อย่าชักช้าและไสหัวออกไปซะ! เชอร์ลีย์ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คุณอย่าไปหลงกลเขานะ!”โฮเวิร์ดที่เป็นตัวหลักในค่ำคืนนี้ และเพ
“อ๊ะ…” โฮเวิร์ดตกตะลึง นี่…“ปฎิเสธงั้นหรอ?”“ ไม่…ไม่…คุณไทสัน ขอให้สนุกและเพลิดเพลินนะครับ…” โฮเวิร์ดไม่กล้ามองหน้าเวนดี้ในขณะที่เขาพูดจบ เขาคว้ากุญแจบนโต๊ะและกำลังจะวิ่งหนีไป“โฮเวิร์ด!ไอ้สารเลว!” เวนดี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ทุกคนดูเหมือนขวัญเสียไปกับปัญหานี้ฮาร์วี่ย์เป็นคนเดียวที่มีใบหน้าว่างเปล่า ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะเขาเคยเป็นคนที่ฝึกฝนและดูแล ไทสัน วูดส์ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับตระกูลยอร์กเมื่อตอนไทสันยังเด็ก เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาไม่มีเงินและอำนาจ เขาเกือบตายบนท้องถนนอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮาร์วี่ย์พบกับเขาและคิดว่าเขาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอนาคตได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงและฝึกฝนเขาเขาประหลาดใจที่ไทสันเติบโตขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปีถึงอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ไม่ได้คาดหวังว่าไทสันจะจดจำเขาได้ เขาไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลยอร์กมาหลายปีแล้ว ไทสันอาจจะลืมเขาไปแล้วในขณะเดียวกันไทสันผู้ชั่วร้ายก็กวาดสายตามองผ่านคนอื่นๆ ในห้องอย่างจงใจ แต่เมื่อเขามองผ่าน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วี่ย์ที่ยังคงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพร้อมกับผมยุ่งๆ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าของเขาไปยังย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตั้งอยู่ในทำเลทองที่ดีที่สุดโยนาธานโทรหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกว่าเขาได้ดำเนินการโอน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขาเข้ามาเซ็นเอกสารในวันนี้ บริษัทจะเป็นของเขาในทันทีฮาร์วี่ย์ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยเงินหมื่นล้านดอลลาร์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำฮาร์วี่ย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไปถึงบริษัท ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ มีรถหรูอยู่ทุกที่ เขาขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่นี่ ถ้าเขาจอดจักรยานไว้เฉยๆมันอาจจะถูกยกออกไปเขาขี่วนไปรอบๆ บริษัท และในที่สุดก็พบที่จอดรถที่ประตู จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทันทีที่เขาจอดจักรยานจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม รถจักรยานไฟฟ้าของเขาก็ลอยกระเด็นหลังจากถูกรถปอร์เช่ชน"ให้ตายสิ!"ฮาร์วี่ย์พูดไม่ออก รถจักรยานไฟฟ้าของเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน แบตเตอรี่ก็เพิ่
“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ
เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข