“ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…" “อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!” ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที...ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตามในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้ เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…” “คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถ
“ดอน?”ฮาร์วี่ย์ชะงักไปชั่วขณะ แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพลางคิดในใจ ‘ผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เลี้ยงไว้เท่านั้น ก็แค่รอจังหวะที่มันจะถูกเตะออกไปเท่านั้น’“คุณแม่ครับ ผมจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเราจะหย่ากัน แต่นี่ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของเรา” ฮาร์วี่ย์หัวเราะเบาๆอย่างสะใจ พูดจบเขาก็ขี่จักรยานไฟฟ้าคู่ใจจากไป“ไอ้ฮาร์วี่ย์ ไอ้คนไร้ค่า!” ลิเลียนตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอเกือบตัดสินใจขับรถของเธอทับฮาร์วี่ย์แล้วเชียว ถึงอย่างนั้นเธอทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธและขับออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สังเกตุเห็นฝูงชนรายล้อมมองดูอยู่…ในช่วงเวลาหลังเลิกงานแล้ว แมนดี้เดินไปที่แผนกต้อนรับของบริษัทเธอก็เห็นผู้หญิงสองคนหัวเราะคิกคักกันไปมาเหมือนมีพูดคุยเรื่องน่าขันอะไรมากอย่างนั้น แถมยังมีพนักงานหลายคนกำลังดูอยู่พวกหล่อนสองคนอยู่เช่นกัน“สามีของคุณซิมเมอร์เขาเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะ เขาบอกว่าจะมอบดอกกุหลาบจากปรากให้เธอ เขากล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เขาไม่ได้มองตัวเองในกระจกเลยเหรอ? ดูแค่รถจักรยานไฟฟ้าที่เขาขี่สิ
“ นายคือ…ฮาร์วี่ย์งั้นหรอ?”โฮเวิร์ด สโตน จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสงสัย เขายิ้มเยาะออกมา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วเดินตรงเข้าไปในโรงแรมฮาร์วี่ย์มีสีหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโฮเวิร์ดจะทำตัวเมินเฉยต่อเขาทั้งสองเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยงที่เป็นอย่างส่วนตัวทีละคน เวลานี้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนอยู่ที่นั่นแล้ว ทุกคนมายังประตูเมื่อประตูเปิดออก“นี่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเราใช่ไหม? หัวหน้าห้องกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งนี่! เขาหล่อมาก!" เสียงในหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา แน่นอนว่าในวันนี้โฮเวิร์ทนั้นสวมสูทและรองเท้าหนังคู่หนึ่ง โดยมีกุญแจรถ Audi คันหรูห้อยอยู่ที่เอวของเขา เขาดูหล่อมากในตอนนี้ไม่นานก็มีคนเห็นฮาร์วี่ย์ที่เดินตามหลังโฮเวิร์ดเข้ามา ถึงแม้ว่าชุดสูทที่เขาใส่อยู่นั้นจะไม่พอดีตัวเขา แต่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์เพื่อนร่วมชั้นเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ้ม “ฮาร์วี่ย์ดูเหมือนคุณจะทำได้ดีเช่นกันนะ มาเถอะที่นั่งสองที่นั่งนี้จองไว้สำหรับคุณและหัวหน้าห้องของเรา!”โฮเวิร์ดเหลือบมองฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย เขาไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าฮาร์วี่ย์
ในตอนแรกฮาร์วี่ย์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นโฮเวิร์ดแสดงพฤติกรรมออกมาเขาก็ส่ายหัวและไม่พูดอะไร แต่เขากลับเดินไปข้างๆเชอร์ลีย์และพูดว่า “เราไปด้วยกันไหม ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง”“นี่…” เชอร์ลีย์ลังเลเล็กน้อย เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาร์วี่ย์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เห็นได้ชัดว่าโฮเวิร์ดเป็นตัวหลักในคืนนี้ ถ้าเธอออกไปตอนนี้มันจะไม่ขัดใจโฮเวิร์ดหรือ?อีกด้านหนึ่ง เมื่อโฮเวิร์ดเห็นว่าฮาร์วี่ย์ยังอยู่ที่นั่นและยังไปทำความสนิทสนมกับเชอร์ลีย์อีก ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองไปที่อาร์วี่ย์ “ฮาร์วี่ย์ไม่เป็นไรถ้านายจะไสหัวออกไป แต่นี่นายยังจะพาเพื่อนร่วมชั้นคนสวยของเราไปกับนายด้วยงั้นหรอ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? อย่าลืมสิ! นายเป็นลูกเขยที่ขออาศัยเขาอยู่แค่นั้น และเรารู้สึกอับอายมากที่มีเพื่อนร่วมชั้นแบบนาย!”"ใช่เลย! เพื่อนร่วมชั้นทุกคนประสบความสำเร็จทั้งกันนั้น คุณนี่มันน่าขายหน้าจริง ๆ!”“อย่าชักช้าและไสหัวออกไปซะ! เชอร์ลีย์ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คุณอย่าไปหลงกลเขานะ!”โฮเวิร์ดที่เป็นตัวหลักในค่ำคืนนี้ และเพ
“อ๊ะ…” โฮเวิร์ดตกตะลึง นี่…“ปฎิเสธงั้นหรอ?”“ ไม่…ไม่…คุณไทสัน ขอให้สนุกและเพลิดเพลินนะครับ…” โฮเวิร์ดไม่กล้ามองหน้าเวนดี้ในขณะที่เขาพูดจบ เขาคว้ากุญแจบนโต๊ะและกำลังจะวิ่งหนีไป“โฮเวิร์ด!ไอ้สารเลว!” เวนดี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ทุกคนดูเหมือนขวัญเสียไปกับปัญหานี้ฮาร์วี่ย์เป็นคนเดียวที่มีใบหน้าว่างเปล่า ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะเขาเคยเป็นคนที่ฝึกฝนและดูแล ไทสัน วูดส์ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับตระกูลยอร์กเมื่อตอนไทสันยังเด็ก เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาไม่มีเงินและอำนาจ เขาเกือบตายบนท้องถนนอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮาร์วี่ย์พบกับเขาและคิดว่าเขาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอนาคตได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงและฝึกฝนเขาเขาประหลาดใจที่ไทสันเติบโตขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปีถึงอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ไม่ได้คาดหวังว่าไทสันจะจดจำเขาได้ เขาไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลยอร์กมาหลายปีแล้ว ไทสันอาจจะลืมเขาไปแล้วในขณะเดียวกันไทสันผู้ชั่วร้ายก็กวาดสายตามองผ่านคนอื่นๆ ในห้องอย่างจงใจ แต่เมื่อเขามองผ่าน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วี่ย์ที่ยังคงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพร้อมกับผมยุ่งๆ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าของเขาไปยังย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตั้งอยู่ในทำเลทองที่ดีที่สุดโยนาธานโทรหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกว่าเขาได้ดำเนินการโอน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขาเข้ามาเซ็นเอกสารในวันนี้ บริษัทจะเป็นของเขาในทันทีฮาร์วี่ย์ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยเงินหมื่นล้านดอลลาร์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำฮาร์วี่ย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไปถึงบริษัท ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ มีรถหรูอยู่ทุกที่ เขาขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่นี่ ถ้าเขาจอดจักรยานไว้เฉยๆมันอาจจะถูกยกออกไปเขาขี่วนไปรอบๆ บริษัท และในที่สุดก็พบที่จอดรถที่ประตู จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทันทีที่เขาจอดจักรยานจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม รถจักรยานไฟฟ้าของเขาก็ลอยกระเด็นหลังจากถูกรถปอร์เช่ชน"ให้ตายสิ!"ฮาร์วี่ย์พูดไม่ออก รถจักรยานไฟฟ้าของเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน แบตเตอรี่ก็เพิ่
“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ
เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก