ฝูงชนระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นสาวสวยพวกนั้นต่างทำหน้ามุ่ยที่ดูเย้ายวนใจ ใบหน้าที่งดงามของพวกเธอต่างเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามเพียะ!ฮาร์วีย์ดีดนิ้วโดยไม่ขยับเขยื้อนสักนิดเดียวเมื่อจูเลียนมองเห็นดังนี้ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วกระโจนออกไปข้างหน้าเขาเตะผู้ชายสองสามคนออกไปให้พ้นทาง แล้วพาเอลเลนไปยืนอยู่ข้าง ๆ ไอรีน“แกพาผู้หญิงของฉันหนีไปเหรอ?!”แฮรี่โกรธมาก เขาดึงปืนออกจากเอว แล้วชี้ปืนไปที่ฮาร์วีย์“ฉันจะระเบิดสมองกลวง ๆ ของแกให้กระจุยเลย!”ก่อนที่แฮรี่จะปลดล็อกไกปืน ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นยืนเขาเดินเพียงก้าวเดียวก็เข้าไปอยู่ตรงหน้าแฮรี่แล้ว ไม่มีใครตอบโต้เขาได้เร็วพอฮาร์วีย์เคลื่อนไหวเร็วเกินไป!ผู้คนเหล่านี้เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้มาหลายคนแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ก่อนที่แฮรี่จะเหนี่ยวไกปืนได้นั้น ฮาร์วีย์ก็คว้าปืนมาจากมือเขา แล้วเล็งปืนไปที่ขาของเขา“แกจะยิงเหรอ?“แกจะทำอย่างนั้นได้เหรอ?”ฮาร์วีย์เหนี่ยวไกปืนอย่างใจเย็นปัง!ได้ยินเสียงปืนดังลั่นแฮรี่ล้มลงไปกองกับพื้น แล้วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดผู้ชายที่สูง
เจซล้มกระแทกกลับไปบนเก้าอี้หลังถูกตบหน้ารอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฎให้เห็นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ตอนนี้เจซมีสีหน้าบิดเบี้ยวที่ดูแย่มาก“ฉันขอบอกแกในตอนนี้นะว่า...ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใคร! แกควรฆ่าฉันให้ตายไปเลยดีกว่า!“เพราะถ้าแกไม่ทำ ฉันจะไปฆ่าคนในครอบครัวแกให้หมด!“ฉันเป็นคนรักษาคำพูดนะ!”ฮาร์วีย์เล็งปืนไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา“ไปกับใคร? กับคนไร้ประโยชน์พวกนี้เหรอ?”เจซมองดูโดยสัญชาตญาณ จูเลียนเข้าใจคำใบ้นั้น แล้วจัดการกับผู้ชายที่เหลืออยู่พร้อมกับยิ้มอย่างน่ากลัวปรมาจารย์ผู้อารักขาแห่งยอร์กคนนี้จะต้องมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนแต่ถึงกระนั้นจูเลียนก็ถูกวินซ์หรือควีนนี่บดบังความสามารถมาโดยตลอด ในช่วงที่เขาอยู่กับตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงจึงเป็นธรรมดาที่หลังจากมาอยู่ที่แบล็คเบิร์น ซิตี้แล้ว เขาก็เริ่มโชว์เขี้ยวเล็บออกมา เจซไม่คาดคิดว่าคนของเขาจะล้มลงเร็วขนาดนี้ดวงตาของเขากระตุกอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้“ถ้าแกเก่งในเรื่องการต่อสู้แล้วจะยังไงเหรอไอ้สารเลว?”“แล้วยังไงเหรอ?“ให้ฉันโทรศัพท์หน่อยถ้าแกกล้า! แกจะตายภายใจไม่กี่วินาที!”“แกอยากโทรหา
ฮาร์วีย์กัดกินผลไม้ในขณะรอการมาถึงของเจซอย่างใจเย็น“ผมมีข้อมูลของเจซมาให้ดูครับคุณยอร์ก"จูเลียนนำโทรศัพท์ของเขาออกมาให้ฮาร์วีย์อ่านเอกสารที่อยู่ข้างในนั้น“เขาไม่ใช่นายน้อยอันดับสูงสุดของหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ แต่มีอำนาจเล็กน้อยในตระกูลลี“เขาไม่ใช่คนที่ทุกคนจะให้การตอบโต้ในแบล็คเบิร์น ซิตี้ แต่เขามีเพื่อนมากมายในโลกใต้ติน“เราอาจต้องลำบากนิดหน่อยถ้ามีเพียงแค่เราสองคน เราควรโทรเรียกกำลังเสริมไหมครับ?”เป็นธรรมดาที่จูเลียนจะรู้สึกเป็นกังวลที่ฮาร์วีย์ปล่อยให้เจซเป็นอิสระเขาต่อสู้ได้แน่แต่เชื่อว่าเขากับฮาร์วีย์มีจำนวนน้อยกว่ามากถ้าเจซพาคนมาที่นี่เป็นพันคน พวกเขาก็คงเสียเปรียบสุด ๆฮาร์วีย์โยนเปลือกผลไม้ลงในถังขยะอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียกเช็ดมือพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“ไม่ต้องหรอก ฉันจะเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ยังไง ถ้าต้องใช้คนเพิ่มเพื่อจัดการกับปลาซิวปลาสร้อยอย่างเจซ?“ฉันไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเคทีแบบนั้นได้"จูเลียนตกใจมาก“ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ครับคุณยอร์ก! ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้ว่าทำไมวินซ์ถึงไม่สามารถกำจัดคุณได้ก่อนหน้า
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น“แกอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?”เจซส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา“หมอบคลานแล้วยอมรับความผิดของแกซะ จากนั้นก็หักแขนแต่ละข้างของแกให้หมด“พาผู้หญิงสองคนนั้นไปที่เตียงนอนของฉัน! ฉันจะเล่นสนุกกับพวกเธอสักสามวันเต็ม ๆ เลย!“พอฉันสุขสมอารมณ์หมายแล้ว ฉันก็จะปล่อยแกไป!”ฮาร์วีย์หรี่ตามอง“ฉันติดสินใจที่จะหักแขนขาของแกให้หมด แกจะไม่มีวันลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไป!”“แกควรรู้ว่าอะไรดีกับตัวเองนะฮาร์วีย์!”เจซโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมาก เขารู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อถูกฮาวีย์ท้าทายต่อหน้าคนของเขาจำนวนห้าร้อยคน“หยุดอวดเบ่งต่อหน้าฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการการกับแกชนิดที่พระเจ้าก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!“คนของแกอาจต่อสู้ได้ แต่เขาสามารถต่อสู้กับคนจำนวนห้าร้อยคนได้หรือเปล่าล่ะ?!“เขาคงเหนื่อยตายไปซะก่อน!”จูเลียนขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบ ๆก็อย่างที่เจซพูดนั่นแหละ จูเลียนคงจะต้องเหนื่อยมากถึงแม้คนจำนวนห้าร้อยคนพวกนั้นจะมานั่งคุกเข่าให้เขาไล่ตบไปทีละคน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้กับผู้คนที่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้มาเป็นอย่างดี“ถ้าพวกแกมีกันเพียงแคนี้...”ฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ อย่างใจเย็
"คุณมาถูกเวลาจริง ๆ! นักท่องเที่ยวที่โง่เขลากำลังท้าทายอำนาจของฉัน! เขาถึงกับตบตีฉันเมื่อกี๊ด้วยซ้ำไป!“เขาทำตัวสูงส่งและทรงพลังเพียงเพราะเขามีบอดี้การ์ดที่มีความสามารถ!“เขาไม่เพียงแต่บอกให้ฉันเรียกคนมาที่นี่เท่านั้นนะ แต่ยังขู่ว่าจะหักแขนขาของฉันทั้งหมดด้วย!“ฉันบอกผู้ชายคนนั้นว่าแวนซ์ ทอฟต์คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน และบอกว่าคุณมีสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้คอยหนุนหลังอยู่ แต่เขาบอกว่าเขาไม่แคร์!”เจซรีบราดน้ำมันลงบนกองไฟให้มากขึ้น เขาอยากให้ฮาร์วีย์โดนฆ่าตายโดยเร็วที่สุดเจซเรียกแวนซ์มาที่นี่เพราะว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้กำลังให้การปกป้องแวนซ์อยู่ บอดี้การ์ดของแวนซ์ล้วนเป็นนักต่อสู้มืออาชีพ คนธรรมดา ๆ ไม่สามารถขึ้นมาเทียบชั้นกับพวกเขาได้ไม่ว่าฮาร์วีย์และบอดี้การ์ดของเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะมีโอกาสต่อสู้กับลูกน้องของแวนซ์ได้เจซมั่นใจว่าฮาร์วีย์เสร็จแน่ ๆ!สาวสวยพวกนั้นต่างเต็มไปด้วยความหลงใหลได้ปลื้มเมื่อเห็นแวนซ์มาถึงแล้ว'ฮาร์วีย์จะทำอะไรกับคนทั้งหมดนี่ล่ะ?'พวกเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจ'เขาเสร็จแน่!''คนโง่เขลาค
แวนซ์ถูกบดขยี้อย่างไม่มีชิ้นดีที่มารีน่า เบย์ คลับเฮ้าส์ ในขณะที่บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาก็ต้องกลายเป็นคนพิการจากการโดนตบเพียงครั้งเดียวเขารู้ว่าจริง ๆ แล้วฮาร์วีย์เป็นคนน่ากลัวขนาดไหนเขากำลังวางแผนที่จะหาใครสักคนมาช่วยปกป้องเขาในอีกสองสามวันหลังจากนี้ เขาอยากได้นักต่อสู้ผู้มีความเชี่ยวชาญสักสองสามคนมาอยู่ข้าง ๆ เขา ก่อนที่เขาจะไปเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์อีกครั้ง...แต่เขาไม่คิดว่าจะมาเจอฮาร์วีย์เข้าที่นี่เมื่อเทียบกับฮาร์วีย์แล้ว ลูกน้องของเขา...ทันใดนั้นคอของแวนซ์ก็รู้สึกแห้งผากขึ้นมาทันที“คุณยอร์ก...”ร่างกายของเขาใกล้จะยอมแพ้แล้ว เขากำลังจะคุกเข่าลงไปในอีกไม่กี่วินาทีนี้แล้วความเจ็บปวดอย่างรุนแรงยังติดตรึงอยู่ในหัวของเขา โซร่า...บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาก็ตัวแข็งทื่อทันทีที่เธอเห็นฮาร์วีย์ แต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะต่อกรกับเขาเลย“คนนั้นไงแวนซ์! ไอ้คนนั้นแหละคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!“ฉันสืบข้อมูลเขามาแล้ว! เขาเป็นแค่นักท่องเที่ยวจากประเทศ H!”เจซชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย“ไอ้สารเลวนั่นตบหน้าฉัน แล้วยังทำลายธุรกิจของฉันด้วย!”เจซกัดฟันกรอด ใบหน้าของเขาดูแดงก่ำ เขาได้
แวนซ์ยังคงรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อย เขาตัวสั่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ...”เขามีความคิดเห็นในเรื่องนี้...แต่ไม่ใช่ในเวลานี้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าเขาจะต้องการแก้แค้น แต่ก็ยังไม่ใช่ในครั้งนี้เขาจะต้องเป็นคนปัญญาอ่อนแน่ ๆ ถ้ายังจะทำการต่อกรกับฮาร์วีย์ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยก็ตามนั่นคือสาเหตุที่แวนซ์ยอมแพ้อย่างเร็วที่สุด“ไม่มีเลยเหรอ?”ทุกคนต่างตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำพูดของแวนซ์ พวกเขาทุกคนรู้สึกตัวชาขึ้นมาทันทีนี่เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าผู้ทรงอิทธิพลของประเทศที่สามารถจะเหยียบย่ำใครก็ได้นั้นจะยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!เหล่าสาวสวยพวกนั้นต่างกระทืบเท้าด้วยความโกรธเกรี้ยว บางคนถึงกับตบหน้าตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไปครู่ต่อมาฮาร์วีย์ก็เดินเข้าไปหาแวนซ์“คุกเข่า"เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดที่จะปล่อยแวนซ์ให้ลอยนวลออกไปได้เลยแวนซ์ไม่เพียงแต่พยายามจะบีบบังคับเคทีให้ตกอยู่ในภาวะจำยอมเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังมองหาใครสักคน เพื่อมาช่วยระบายความโกรธแค้นทันทีที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลโชคดีที่ฮาร์ว
ฝูงชนต่างนิ่งเงียบหลังจากเห็นภาพนั้นพวกเขาตัวสั่นกันเป็นพัก ๆ ในขณะที่ตะลึงงันกันไปหมดพวกเขาไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าได้เจซรู้สึกตัวชาเป็นอย่างมากเช่นกัน นี่เป็นความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้นหลังจากตบหน้าแวนซ์ไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ส่งยิ้มจาง ๆ ให้เจซ“ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของแกจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อแกได้เลยนะ“แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้ฉันรู้สึกกลัวได้เลย...“บอกให้เขาลุกขึ้นยืน แล้วดูซิว่าเขาจะกล้าทำอย่างนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉันหรือเปล่าเจซและคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกคอแห้งผาก พวกเขาต่างไม่รู้ว่าจะโต้ตอบฮาร์วีย์ยังไงดีเขารู้ว่าเขาจะกลายเป็นตัวตลกให้ชาวเมืองแบล็คเบิร์น ซิตี้หัวเราะกันยกใหญ่แน่ ๆ ถ้าไม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของเขาได้ในวินาทีนั้นฮาร์วีย์ใช้กระดาษทิชชูเช็ดนิ้วก่อนจะเหลือบมองเจซ“ลูกพี่ลูกน้องของแกก็เหมือนกัน แกต้องการจะหาประโยชน์จากคุณคอบบ์และคุณโมเรโน่“ฉันได้จัดการกับแกแล้ว แต่แกอยากให้ฉันจัดการกับญาติผู้น้องของแกด้วยไหม?”'คุณโมเรโน่เหรอ?!''เอลเลน โมเรโน่เหรอ?!'แวนซ์ได้สติอย่างรวดเร็วเขารู้ว่าเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข