ฝูงชนต่างนิ่งเงียบหลังจากเห็นภาพนั้นพวกเขาตัวสั่นกันเป็นพัก ๆ ในขณะที่ตะลึงงันกันไปหมดพวกเขาไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าได้เจซรู้สึกตัวชาเป็นอย่างมากเช่นกัน นี่เป็นความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้นหลังจากตบหน้าแวนซ์ไปแล้ว ฮาร์วีย์ก็ส่งยิ้มจาง ๆ ให้เจซ“ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของแกจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อแกได้เลยนะ“แม้แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้ฉันรู้สึกกลัวได้เลย...“บอกให้เขาลุกขึ้นยืน แล้วดูซิว่าเขาจะกล้าทำอย่างนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉันหรือเปล่าเจซและคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกคอแห้งผาก พวกเขาต่างไม่รู้ว่าจะโต้ตอบฮาร์วีย์ยังไงดีเขารู้ว่าเขาจะกลายเป็นตัวตลกให้ชาวเมืองแบล็คเบิร์น ซิตี้หัวเราะกันยกใหญ่แน่ ๆ ถ้าไม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของเขาได้ในวินาทีนั้นฮาร์วีย์ใช้กระดาษทิชชูเช็ดนิ้วก่อนจะเหลือบมองเจซ“ลูกพี่ลูกน้องของแกก็เหมือนกัน แกต้องการจะหาประโยชน์จากคุณคอบบ์และคุณโมเรโน่“ฉันได้จัดการกับแกแล้ว แต่แกอยากให้ฉันจัดการกับญาติผู้น้องของแกด้วยไหม?”'คุณโมเรโน่เหรอ?!''เอลเลน โมเรโน่เหรอ?!'แวนซ์ได้สติอย่างรวดเร็วเขารู้ว่าเ
เจซรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาเอามือกุมหน้าที่บวมเป่งพร้อมกับตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว "คุณตบหน้าผมทำไมเหรอเจซ?!“ฮาร์วีย์ ยอร์กคือใครกัน?!“เขาเป็นแค่นักท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอ?!“เขามาจากประเทศ H แล้วยังไงเหรอ? เรากระทืบคนแบบนี้ทุก ๆ ปีอยู่แล้วนี่!“คุณควรช่วยผมสิ! ทำไมถึงไปเข้าข้างเขาล่ะ?!”เจซโกรธมาก เขารู้สึกหมดหนทางและรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากด้วยเขาไม่เข้าใจว่าทำไมไพ่ใบสำคัญของเขาถึงกลัวฮาร์วีย์ได้ถึงขนาดนี้ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะเป็นคนที่มีความสามารถในประเทศ H แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ทรงอิทธิพลของแบล็คเบิร์น ซิตี้อย่างเจซและแวนซ์จะต้องกลัวเกรงอะไรนี่นา! ผู้คนจากประเทศ H ไม่มีสิทธิ์มาอวดเบ่งในสถานที่แบบนี้!นอกจากนี้ในความคิดของเจซนั้น เขาไม่จำเป็นต้องกลัวผู้คนแบบที่แวนซ์กำลังกลัวอยู่เลยไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขาก็ยังคงเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลลีแห่งทะเลใต้!ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้สืบทอดมรดกของตระกูล แต่เขาก็ยังเป็นคนที่มีอำนาจมหาศาล! ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมเขาถึงต้องกลัวนักท่องเที่ยวด้วยล่ะ?ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของเขาในแบล็คเบิร์น ซิตี้ หรือแม้แต่ในทะเล
'ไอ้ปัญญาอ่อน!''ไอ้โง่เง่าเอ๊ย!'เมื่อเห็นเจซทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนั้น แวนซ์ก็แทบจะหลั่งน้ำตาออกมาเขาตบเจซอย่างไม่ปรานีก็เพื่อให้เขารู้ว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่คนธรรมดาสถานการณ์นี้จะคลี่คลายลงได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ทำการขอโทษผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้คาดหวังให้เจซปฏิเสธความเมตตาของเขา แล้วหาเรื่องตายให้ตัวเอง“แก…”แวนซ์ชี้หน้าเจซพร้อมกับกัดฟันแน่น“ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวแกเอง! ถ้ายังทำตัวแบบนี้อยู่อีกก็เชิญทำไปคนเดียวเถอะ!”“แกเป็นใครกันแน่?!“ฉันพาแกมาที่นี่ก็เพื่อให้แกมาจัดการกับฮาร์วีย์นะ! แกไม่เพียงแต่ไม่ทำอย่างนั้นแล้ว แกยังตบหน้าและดูถูกฉันอีกด้วย!“แกลืมไปแล้วเหรอว่าใครคอยช่วยหนุนหลังให้แกขึ้นสู่อำนาจ?!“ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ฉันจะจัดการกับแกเมื่อฉันเล่นงานฮาร์วีย์เสร็จแล้ว!“เรามาดูกันว่าหลังจากนั้นแกยังกล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันไหม!“แกคิดว่าแกดูน่าประทับใจหลังจากอวดเบ่งได้นานขนาดนี้เหรอ?!“ไม่ว่าแกจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน แกก็เป็นแค่คนรับใช้ของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู่แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้เท่านั้นหละ!“อาจารย์ของฉันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรองผู้นำขององค์กรแห่งนี้!“รุ่นพี่ขอ
"แกคิดว่าจะต่อกรกับผู้นำองค์การนี้ได้เหรอ?“ถ้ารุ่นพี่ของฉันได้ยินเรื่องนี้ แกก็จะตายภายในไม่กี่วินาที!“ถึงแม้พวกแกจะมีเป็นร้อยคนก็ยังต่อสู้กับเขาไม่ไหวเลย!“ถ้าเขาอยากจะตบหน้าแกเขาก็ตบหน้าแกไปทั่วทุกมุมโลกเลย!“แกควรชื่นชมช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแกเอาไว้นะ!“ถ้ารุ่นพี่ของฉันมาถึงเมื่อไหร่ แกก็จะไม่มีโอกาสได้อ้อนวอนขอร้องเขาหรอก!”เจซไม่อยากคุยกับฮาร์วีย์อีกต่อไป ในตลอดชีวิตของเขานี้เขาไม่เคยเห็นชายที่หยิ่งยโสเช่นนี้มาก่อนเหล่าสาวสวยพวกนั้นกลับมาได้สติกันอีกครั้งก่อนจะจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามท้ายที่สุดแล้วเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะยั่วยุผู้ชายที่ทรงอำนาจอย่างเจซได้“คุณไม่ต้องการให้ผมหาคนมาช่วยจริง ๆ เหรอครับคุณยอร์ก?จูเลียนทำสีหน้าที่ดูจริงจัง เขาพยายามเตือนฮาร์วีย์อีกครั้งหลังจากตรวจดูข้อมูลเพิ่มเติมทางโทรศัพท์“เทรย์เป็นราชาแห่งอาวุธในระดับสูงสุดที่เอาชนะผู้เชี่ยวชาญในแบล็คเบิร์น ซิตี้มานับไม่ถ้วน! ชื่อเสียงของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อการแสดงหรอกนะ!“มีคนถึงกับคิดว่าเขาเป็นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้เป็นเทพสงครามแห่งทะเลใต้คนที่สอง!“ตระกูลโมเรโน่ ตระกูลคอบบ์ แ
"แกก็พอจะมีความสามารถอยู่บ้างนะฮาร์วีย์...“แต่...แล้วยังไงล่ะ?“แกมันก็แค่เศษสวะที่ตั้งกองอยู่ตรงหน้านายน้อยเบียร์สตัดท์เท่านั้นแหละ!“เอาล่ะ! เขาแข็งแกร่งพอจะทำให้ซีอีโอทอฟต์คุกเข่าได้ แต่มันมีความหมายอะไรล่ะ?“เขาโชคดีนะที่ได้อวดเบ่งสักครั้งสองครั้ง!“แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบุคคลสำคัญอย่างแท้จริง เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย!“นี่เป็นเพียงความโกรธแค้นอันไร้ความสามารถของคนที่ไม่มีวันประสบความสำเร็จ!“เขาจะได้รู้ว่าเขาต่างจากนายน้อยเบียร์สตัดท์มากแค่ไหนในไม่ช้านี้!”ทุกคนต่างทำสีหน้าสงสารในขณะจ้องมองฮาร์วีย์ไม่ว่าฮาร์วีย์จะทรงพลังสักเพียงไหน ภูมิหลังของเขาก็ยังด้อยกว่าเจซและคนอื่น ๆ“ผู้อาวุโส!”“นายน้อยเบียร์สตัดท์!”“คุณเบียร์สตัดท์!”มีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปรุมล้อมเทรย์ เบียร์สตัดท์ทันที เจซทำสีหน้าเวทนาเป็นอย่างยิ่งเมื่อเขาอยู่ต่อหน้าฝูงชน“เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอเจซ? ทำไมคุณถึงโทรไปเรียกผมมาช่วยคุณที่นี่?”เทรย์พับแขนเสื้ออย่างใจเย็นราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเขาเลยเจซครวญครางอย่างเย็นชา“คนนอกคนนี้เอาแต่อวดเบ่งอยู่ที่นี่ แล้วยังตบหน้าผมด้วย!”“อย่างนั้น
"ค้นหาความจริงเหรอ?“ทำไมฉันต้องค้นหาด้วยล่ะ?“คนอ่อนแอพวกนี้สนใจแต่เรื่องจิ๊บจ๊อยซะจริง ๆ เทรย์เอามือกอดอกในขณะที่ก้าวเท้าไปข้างหน้า ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน“ผู้แข็งแกร่งอย่างฉันไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องอะไรแบบนี้หรอก“ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ยืนเคียงข้างกับคนที่ฉันต้องการเท่านั้น“ถึงแม้ว่ารุ่นน้องของฉันจะไปฆ่าใครหรือเผาบ้านใครมา เขาก็ยังคงอยู่ในสายตาของฉันอยู่ดี“ถึงแม้ว่าแกจะทำอะไรที่ถูกกฎหมาย แกก็ยังต้องชดใช้สำหรับการใช้กำลังกับรุ่นน้องของฉันนะ"เจซรู้สึกเบิกบานใจหลังจากได้รับการหนุนหลังจากเทรย์อย่างไม่เปลี่ยนแปลง“ไอ้สารเลวคนนี้บอกว่าแม้แต่ผู้นำของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ ก็ไม่มีสิทธิ์มาต่อกรกับเขา แล้วนับประสาอะไรกับคุณ!”“ใช่แล้วครับนายน้อยเบียร์สตัดท์! ไอ้สารเลวนั่นพูดแบบนั้นจริง ๆ!” ลูกน้องคนอื่น ๆ ก็ร้องบอกออกมาพร้อมกัน“แกกำลังดูถูกผู้นำองค์กรอยู่เหรอ?! แกกำลังล้อเลียนองค์กรแห่งนี้อยู่ใช่ไหม?!”เทรย์ส่งเสียงเยาะเย้ยออกมาอย่างเย็นชา“ทำไมช่วงนี้ถึงมีคนที่เรียกว่าผู้มีอำนาจมากมายนัก?“ลองมองดูตัวเองในกระจกสิ!“คนนอกอย่างแกกล้ามาอวดเบ่
ผู้คนจำนวนมากทำเป็นยิ้มกริ่มหลังจากเห็นการกระทำของเทรย์ทุกคนคิดว่าฮาร์วีย์จะต้องกลัวลนลานแล้วคลานลอดหว่างขาของเทรย์ออกไปท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งขนาดไหนเขาก็ไม่กล้าต่อกรกับเทรย์แน่เขาคงอยากจะตายล่ะสิท่า ถึงได้ทำแบบนั้น!ในขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะตบหน้าเทรย์อยู่นั้น โทรศัพท์ของจูเลียนก็สั่นเตือนขึ้นมาหลังจากรับสายแล้วจูเลียนก็ตกใจมากจากนั้นเขาก็เดินไปหาฮาร์วีย์อย่างให้ความเคารพ“เป็นสายที่โทรมาจากฟลัตเวลล์ครับคุณยอร์ก“เป็นสายของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H“ผู้นำตอร์เรสได้เสนอชื่อคุณในที่ประชุม หลังจากโต้เถียงกันยกใหญ่องค์กรก็ได้เลือกคุณเป็นตัวแทนคนใหม่!“คุณสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ในนามของประเทศ H ได้“พูดง่าย ๆ ก็คือตัวตนของคุณจะอยู่ในระดับเดียวกับผู้นำตอร์เรสในอนาคต“ถ้าผู้นำตอร์เรสเกษียณการทำงาน คุณก็จะกลายเป็นผู้นำคนใหม่"จูเลียนอดที่จะตัวสั่นเทาไม่ได้เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกประหลาดใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมากในเวลาเดียวกันเขาก็เปิดโทรศัพท์ แล้วเห็นข้อความปรากฏอยู่บนหน้าจอ'สหพันธ์ศิลปะการต่อสู่ของประเทศ H เหรอ?'ตัวแทนองค์กรเหร
'กอร์ดอน โมเรโน่?'ตัวแทนโมเรโน่เหรอ?'ในที่สุดเทรย์ก็รู้แล้วว่าคน ๆ นั้นคือใครกอร์ดอนเป็นตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ แม้แต่ผู้นำของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ก็ยังต้องโค้งคำนับเขานี่คือบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก...แต่เขาก็ยังแสดงความยินดีกับฮาร์วีย์ที่ได้เป็นผู้ว่าการสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้'ต้องดูแลคนนับพันเลยเหรอ?!'คำพูดของกอร์ดอนช่วยทำให้ตัวตนของฮาร์วีย์ในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ดูเป็นจริงได้อย่างชัดเจนตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H และผู้ว่าการสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ เป็นบุคคลที่มีสิทธิ์ออกเสียงในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของโลก...ในวินาทีนั้นเองที่เทรย์รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังมีอาการหายใจเร็วเกินไปขาของเขาเริ่มสั่นคลอน สีหน้าที่ดูหยิ่งผยองบนใบหน้ากลับกลายเป็นความหวาดกลัวขึ้นมาทันทีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ข้างหลังเขาเริ่มรู้ตัวชาขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาไม่กล้าที่จะยืนเชิดหน้าได้อีกต่อไปคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร แต่พวกเขารู้จักคนในองค์กรแห่งนั้นเป็นอย่างดีคนพวกนั้นเป็นตัวแทนแห่งอำนาจเด็ดขาดของ