'กอร์ดอน โมเรโน่?'ตัวแทนโมเรโน่เหรอ?'ในที่สุดเทรย์ก็รู้แล้วว่าคน ๆ นั้นคือใครกอร์ดอนเป็นตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ แม้แต่ผู้นำของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ก็ยังต้องโค้งคำนับเขานี่คือบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก...แต่เขาก็ยังแสดงความยินดีกับฮาร์วีย์ที่ได้เป็นผู้ว่าการสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้'ต้องดูแลคนนับพันเลยเหรอ?!'คำพูดของกอร์ดอนช่วยทำให้ตัวตนของฮาร์วีย์ในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ดูเป็นจริงได้อย่างชัดเจนตัวแทนของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H และผู้ว่าการสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้ เป็นบุคคลที่มีสิทธิ์ออกเสียงในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของโลก...ในวินาทีนั้นเองที่เทรย์รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังมีอาการหายใจเร็วเกินไปขาของเขาเริ่มสั่นคลอน สีหน้าที่ดูหยิ่งผยองบนใบหน้ากลับกลายเป็นความหวาดกลัวขึ้นมาทันทีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ข้างหลังเขาเริ่มรู้ตัวชาขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาไม่กล้าที่จะยืนเชิดหน้าได้อีกต่อไปคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร แต่พวกเขารู้จักคนในองค์กรแห่งนั้นเป็นอย่างดีคนพวกนั้นเป็นตัวแทนแห่งอำนาจเด็ดขาดของ
ปากของเทรย์ยังกระตุกไม่ยอมหยุด“แกทำเกินไปแล้วนะฮาร์วีย์...“แกคิดว่าฉันกลัวแกเหรอ?“ถึงแม้ว่าแกจะได้เป็นผู้ว่าการจริง ๆ ฉันก็...”เทรย์ไม่มีพละกำลังที่จะสร้างภาพอีกต่อไป เขากระแทกเข่าลงกับพื้นทันทีเขารู้ตัวว่ากำลังเจอปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะต้องทนทุกข์ทรมาณเท่านั้น แต่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ก็จะถูกลากลงไปด้วยตำแหน่งของฮาร์วีย์ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็มีอำนาจพอจะหยุดยั้งทุกคนที่นี่ได้โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นมาสักนิ้วเดียวทุกคนต่างรู้สึกตัวชาเป็นอย่างมากเมื่อเห็นภาพนี้ ก่อนที่จะตบหน้าตัวเองโดยสัญชาตญาณผู้มีความสามารถชั้นยอดที่ทั้งสูงส่งและทรงพลังขององค์กรแห่งนี้เดินทางมาที่นี่เพื่อปกป้องเจซ...แต่แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เขาคุกเข่าอยู่ต่อหน้านักท่องเที่ยวที่ไหนก็ไม่รู้ไปเรียบร้อยแล้ว...เทรย์เป็นคนไร้ค่าอย่างนั้นเหรอ? หรือฮาร์วีย์นั้นน่าประทับใจเกินกว่าจะทำอะไรได้?ฮาร์วีย์เดินเข้าไปหาเทรย์ก่อนจะเอามือแตะหน้าของเขาเบา ๆ“ทำไมคุณถึงต้องคุกเข่าด้วยล่ะนายน้อยเบียร์สตัดท์?”“ผมอายนะถ้ายังต้องดูหมิ่นคุณแบบนี้ไปเรื่อย ๆ...ดวงตาของเทรย์กระตุกอย่างต่อ
"แกอยากได้แขนทั้งสองข้างของฉันเหรอ?!หลังจากเห็นเทรย์คุกเข่าลงบนพื้น และได้ยินข้อเรียกร้องของฮาร์วีย์ ความหวาดกลัวที่อยู่ภายในใจของเจซก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะมีตัวตนยังไง แต่แกก็ควรรู้เอาไว้ด้วยนะว่าฉันไม่ใช่แค่ปลาซิวปลาสร้อยเหมือนกัน!“ฉันเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลลี! เราเป็นพันธมิตรกับตระกูลโมเรโน่ด้วย!“ถ้าแกทำร้ายฉัน แกก็จะมีศัตรูที่แข็งแกร่งจำนวนมากรอที่จะขย้ำแกอยู่!“ฉันจะจดจำแกไปตลอดกาล!“ตอนนี้ฉันทำอะไรแกไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในภายหลัง!“ถ้าฉันแตะต้องตัวแกไม่ได้ในปีนี้ ฉันก็ยังมีเวลาอีกหลายปีหลังจากนั้น!“แกต้องเดือดร้อนแน่ ๆ ถ้าหักแขนฉันในตอนนี้!”เจซพยามเตือนฮาร์วีย์อย่างสิ้นหวังพร้อมกับกัดฟันแน่น เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งของฮาร์วีย์ในฐานะผู้ว่าการสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้นั้น มีผลกับผู้คนที่อยู่ในองค์กรเดียวกันเท่านั้น...ไม่ใช่คนในครอบครัวหลังจากเปิดเผยข้อเท็จจริงนั้นออกไป คนนอกจะไม่สามารถทานทนต่อการโจมตีอันดุเดือดในทะเลใต้ได้ตระกูลลีเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้!“เจซ" เทรย์ร้องเ
เพียะ!ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไรออกมา เทรย์ก็กระโดดขึ้นจากพื้นแล้วตบเจซลอยกระเด็นไปด้วยการเหวี่ยงมือเพียงครั้งเดียว“ไอ้สารเลว!”เจซเอามือกุมหน้าในขณะที่เขาโซซัดโซเซลงไปกองกับพื้น“แกตบฉันเหรอเทรย์?!“แกอยากตายหรือไง?!”เปรี๊ยะ!เทรย์ทำเมินเฉยก่อนจะหักแขนของเจซอย่างเกรี้ยวกราดถึงแม้ว่าเจซจะอยากตายแต่เทรย์ก็ไม่ปล่อยให้เขาตายหรอกในฐานะผู้มีความสามารถชั้นยอดของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ เขารู้ดีว่าตำแหน่งของฮาร์วีย์นั้นยิ่งใหญ่เพียงใดนั่นคือเหตุผลที่เขาทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว“อ๊ากกก!”เจซกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และก่อนที่เขาจะหยุดดิ้นกระเสือกกระสนนั้นเทรย์ก็ลงมืออีกครั้งเสียงกระดูกหักดังก้องไปทั่วก่อนที่เจซจะกลายเป็นคนพิการอย่างสิ้นเชิง ในเวลานี้เขาไม่สามารถหยุดตัวสั่นในขณะนอนกองกับพื้นได้เลยเขาอยากจะตะโกนด่าออกมา เขาอยากจะถามทุกคนที่นี่ เขาอยากจะเป็นบ้า แต่ความเจ็บปวดนั้นกลับหยุดยั้งให้เขาทำอะไรไม่ได้เลยเขาทำได้แต่เพียงกรีดร้องเสียงแหลมเหมือนหมูที่กำลังจะตายอยู่บนพื้นเหล่าเพลย์บอยที่ร่ำรวยและสาวสวยผู้มั่งคั่งต่างก็รู้สึก
หลังจากจัดการกับเจซและคนอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ฮาร์วีย์ก็โทรหาไอรีนก่อนจะมาโรงพยาบาลแบล็คเบิร์น ซิตี้โรงพยาบาลแบล็คเบิร์น ซิตี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ตกแต่งอย่างหรูหราจนผู้คนต่างรู้จักโรงพยาบาลนี้กันทุกคนแต่ยังไงก็ตามทักษะทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนี้อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนชื่อเสียงของโรงพยาบาลในเมืองนี้จะค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานโรงพยาบาลแห่งนี้มักจะอาศัยการหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะฟันกำไรได้อย่างมหาศาลนักท่องเที่ยวต่างก็ไม่สามารถพึ่งพาใครได้ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำทนให้ผ่านไปฮาร์วีย์เพิ่งเข้าใจในเรื่องนี้ก็เมื่อเขาต้องเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งนี้นี่แหละเนื่องจากไอรีนไม่ใช่คนที่นี่ เขาจึงไม่สามารถตำหนิไอรีนในเรื่องนี้ได้หลังจากนั้นไม่นานฮาร์วีย์และจูเลียนก็เดินทางมาถึงห้องโถงใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้“คุณยอร์ก"ไอรีนทักทายฮาร์วีย์ด้วยความเคารพ“เป็นยังไงบ้าง?”ฮาร์วีย์พยักหน้า“เธออยู่ในห้องฉุกเฉินค่ะ แต่...”ไอรีนรู้สึกลังเลฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว หลังจากมองลอดช่องว่างระหว่างประตู เขาก็มองเห็นคนประมาณหกคนนอนอยู่บนเตียง
เรย์นหัวเราะอย่างเย็นชา“ฉันขอเตือนคุณนะว่าเราจะไม่คืนเงินให้เมื่อทำธุรกรรมกันเสร็จแล้ว“คุณสามารถพาคนไข้กลับไปได้แต่เราจะไม่คืนเงินมัดจำให้!“ออกไปเดี๋ยวนี้!“หยุดทำตัวน่ารำคาญได้แล้ว!”สีหน้าของไอรีนดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น“คุณทำเกินไปแล้วนะ!“คุณไม่ได้ช่วยอะไรคนไข้เลย แล้วยังไม่คืนเงินอีกเหรอ?!“ฉันจะฟ้องคุณ!”“จะฟ้องฉันเหรอ?!”เรย์นเขียนคิ้วของเธอก่อนจะชี้ไปยังตัวเลขที่อยู่บนผนังห้อง“หมายเลขโทรศัพท์ของฝ่ายบริหารและสถานีตำรวจทุกแห่งอยู่ตรงนี้แล้ว!“เชิญโทรหาคนที่คุณต้องการได้เลย!“ถ้าคุณทำให้ฉันกลัวได้ ฉันจะหมอบกราบคุณเลย!“คุณคิดว่าคนนอกแค่สองสามคนจะมาทำอวดเบ่งได้ที่นี่เหรอ?!“มาดูกันซิว่าจะมีใครรับสายของคุณหรือเปล่า!”เรย์นทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยามเธอคุ้ยเคยกับการหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวโทรไปขอความช่วยเหลือ แต่โรงพยาบาลแห่งนี้ก็มักจะได้รับการปกป้องอยู่เสมอ “คุณช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”ไอรีนรู้สึกตื่นตระหนก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนลำบากขนาดนี้ฮาร์วีย์เดินเข้าไปแตะไหล่ไอรีนก่อนที่จะพูดอย่างใจเย็
เอลเลนยังคงเมามายไม่ได้สติอยู่ในห้องฉุกเฉินใบหน้าของเธอดูซีดขาวราวกับหิมะ เธอน่าจะได้รับการล้างท้องและเยียวยาอาการบาดเจ็บของเธอแล้ว แต่บุคลากรทางการแพทย์กลับทิ้งเธอไว้ในห้องโดยไม่ได้ทำอะไรเลยฮาร์วีย์ขมวดคิ้วก่อนจะกดท้องของเอลเลน จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นแล้วบอกจูเลียนให้หยิบถังขยะเข้ามา เอลเลนดูสบายตัวขึ้นมากหลังจากได้อาเจียนออกมาเป็นเหล้าที่กินเข้าไปเกือบหมดหลังจากที่ไอรีนได้ใช้ยาในห้องฉุกเฉินจัดการกับอาการบาดเจ็บของเอลเลนแล้ว เอลเลนก็ถูกจับให้นั่งอยู่บนรถเข็นหลังจากนั้นไม่นานฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ก็เตรียมตัวออกจากที่นั่นจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเสียงฝีเท้าของผู้คนมากมายพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามจะบุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินฮาร์วีย์มองอย่างใจเย็นก่อนที่จูเลียนจะก้าวออกไปข้างหน้าประตูถูกเตะให้เปิดออกทันทีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรูปร่างสูงใหญ่แปดคนลอยกระเด็นออกไป ก่อนจะหล่นกระแทกลงบนตัวเรย์น ช่างเป็นภาพที่ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งเกือบจะในเวลาเดียวกันคนกลุ่มหนึ่งที่มีท่าทีดุร้ายก็กำลังเดินอาจ ๆ อยู่กลางทางเดินมีผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุเดินนำกลุ่ม
เมื่อเห็นว่าเนลลีเป็นคนไร้เหตุผล ไอรีนก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้“คุณหมายถึงอะไรที่พูดว่าใส่ร้าย?!“เรากำลังพูดเรื่องข้อเท็จจริงกันอยู่นะ!“คุณรับเงินค่ารักษาคนป่วยไปแล้ว แต่ยังวิ่งไปดูแม่เทพธิดาที่ไหนก็ไม่รู้แทนที่จะทำงานของตัวเอง!“คุณปล่อยให้คนป่วยต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในห้องฉุกเฉินเป็นเวลาครึ่งค่อนชั่วโมง แล้วยังปฏิเสธที่จะคืนเงินมัดจำให้เราอีก!“โรงพยาบาลแห่งนี้มีศีลธรรมแบบไหนกันเหรอ?!“นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลด้วยซ้ำไป นี่เป็นแค่รังโจรเท่านั้นเอง!”ไอรีนหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาก่อนจะร้องบอกอย่างเย็นชาว่า "ฉันจะรายงานเรื่องนี้กับองค์การอาหารและยาฯ เดี๋ยวนี้!”ฮาร์วีย์เหลือบมองเนลลีอย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะทำไม้ทำมือส่งสัญญาณให้จูเลียนทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับเอลเลนคำพูดอันรุนแรงของไอรีนทำให้เนลลีรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เนลลีจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะโบกมือ เพื่อเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มาห้อมล้อมฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ เอาไว้จากนั้นเธอก็ตบมือด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม และเผยให้เห็นเรียวขาอันเพรียวบางของเธอ“คุณจะต้องชดใช้สำหรับการทำอะไรผิด ๆ ที่โรงพยาบาลแบ