เพื่อจะได้พูดคุยกันในเรื่องเก่า ๆ...จูเลียนจึงได้จัดเตรียมให้ฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ไปรับประทานอาหารว่างกันที่คลับส่วนตัวฮาร์วีย์มองดูการจัดแต่งสถานที่ในสไตล์วินเทจ แล้วมองดูสีหน้าที่เป็นมิตรของจูเลียน“เธอคุ้นเคยกับแบล็คเบิร์น ซิตี้ไหมจูเลียน?”“ก็พอประมาณครับ"จูเลียนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“พูดตามตรงนะ ก่อนที่ผมจะขึ้นสู่อำนาจนั้น ผมได้ทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณให้กับครอบครัวของผม“ผมไม่มีอะไรมากมายนักในแบล็คเบิร์น ซิตี้แห่งนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีอะไรเลยนะ นั่นคือเหตุผลที่ควีนนี่ขอให้ผมมาช่วยคุณ“พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมก็อยากจะรู้ว่าคุณมาทำอะไรที่นี่เหรอครับคุณยอร์ก?”จูเลียนเตรียมตัวมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะ ถ้าฮาร์วีย์ออกปากเมื่อไหร่ เขาก็จะทุ่มความพยามจนสุดความสามารถเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จฮาร์วีย์พยักหน้า เขายิ้มจาง ๆ ในขณะที่หยิบไม้เสียบอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก“ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยรักษาดีน คอบบ์ หลังจากที่เขาโดนจูลิโอ...นักบวชปีศาจแห่งอินเดียทำร้าย ฉันมาที่นี่ก็เพื่อช่วยชีวิตเขาให้อยู่รอดปลอดภัย“นอกจากนี้ฉันก็ยั
หญิงสาวที่สวมเดรสสีดำของชาแนลได้วิ่งเข้ามาแล้วสะดุดล้มอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์ดวงตาของจูเลียนและไอรีนดูเย็นชาขึ้นมาทันที จากนั้นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่ดูน่ากลัวพวกเขาคว้าตัวหญิงสาวคนนั้นไว้ แล้วเตรียมจะลากเธอออกไปจากห้องนั้นผมเผ้าอันยุ่งเหยิงได้บดบังใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นเอาไว้จนหมด เหลือแต่รูปร่างเพรียวบางที่ฮาร์วีย์พอจะดูคุ้นตาทั้งเรือนร่างของเธอชุ่มโชกไปด้วยเหล้า เธอหายใจถี่ ๆ พร้อมกับส่งสายตาอย่างทำอะไรไม่ถูก“ยังวิ่งอยู่อีกเหรอ แกอยากจะตายหรือไงนางสารเลว?!“แกอยากจะตายหรือไง?!”ชายผมยาวดึงผมของผู้หญิงคนนั้น แล้วตบเธอไปรอบ ๆ ห้องอย่างดุร้าย“อ๊ากกก!”เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเธอก็ถูกเผยให้เห็นฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาจำเธอได้ทันที'เอลเลนเหรอ?''เธอไม่ใช่เพื่อนของเคทีหรอกเหรอ?'“นายน้อยลีมอบเหล้าให้แกดื่มด้วยความเคารพ!“แกกล้าดียังไงมาอวดเก่งอย่างนี้! แกบอกว่าแกคอไม่แข็งอย่างนั้นเหรอ?!“แกกล้าปฏิเสธเขาถึงแม้เขาจะจ่ายเงินให้แก 1.5 ล้านดอลลาร์หลังเรื่องราวทั้งหมดนี้!“แกควรรู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวแกน
สีหน้าของไอรีนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอกระซิบบอกฮาร์วีย์ว่า "นั่นคือนายน้อยคนที่สามของหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ เขาชื่อเจซ ลี...ผู้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายน้อยคนโตของบ้านหลังที่สามของตระกูลคอบบ์"ฮาร์วีย์หรี่ตามองเอลเลนเมื่อพิจารณาจากบทสนทนาทั้งหมดและตัวตนของเจซแล้ว นี่อาจเป็นแผนการโจมตีเคทีก็ได้ ฮาร์วีย์ดันมายืนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายด้วยความบังเอิญแท้ ๆ“ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนั้นล่ะแฮรี่?”“ผู้หญิงคนนี้ต่อกรอะไรกับแกไม่ได้เลย แต่แกมาทำให้เสียเวลาไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ แบบนี้!“ฉันกินยาเข้าไปแล้ว! ฉันอยากจะนอนกับเธอใจจะขาดแล้ว!“ไอ้เวรเอ๊ย!”เจซเตะชายผมยาวคนนั้นลงไปกองกับพื้น สารรูปของเขาตอนนี้กำลังเมามายได้ที่เลย“ทำไมแกถึงได้ช้านัก? แกอยากจะตายหรือไง?!”“ผมขอโทษครับนายน้อยลี ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมเอง! ผมขอโทษที่ทำคุณต้องหมดสนุกไป!”แฮรี่ตัวสั่นด้วยความกลัว“ไม่ใช่ว่าผมอยากจะขัดขวางความสุขของคุณหรอกนะครับนายน้อยลี!“แต่คนนอกพวกนี้กำลังคิดที่จะต่อสู้กับพวกเรา!”“พวกเขาไม่เพียงแต่สั่งให้เราปล่อยเอลเลนเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เราจ่ายเงิน 1.5 ล้าน นั่งคุกเข
ฝูงชนระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นสาวสวยพวกนั้นต่างทำหน้ามุ่ยที่ดูเย้ายวนใจ ใบหน้าที่งดงามของพวกเธอต่างเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามเพียะ!ฮาร์วีย์ดีดนิ้วโดยไม่ขยับเขยื้อนสักนิดเดียวเมื่อจูเลียนมองเห็นดังนี้ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วกระโจนออกไปข้างหน้าเขาเตะผู้ชายสองสามคนออกไปให้พ้นทาง แล้วพาเอลเลนไปยืนอยู่ข้าง ๆ ไอรีน“แกพาผู้หญิงของฉันหนีไปเหรอ?!”แฮรี่โกรธมาก เขาดึงปืนออกจากเอว แล้วชี้ปืนไปที่ฮาร์วีย์“ฉันจะระเบิดสมองกลวง ๆ ของแกให้กระจุยเลย!”ก่อนที่แฮรี่จะปลดล็อกไกปืน ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นยืนเขาเดินเพียงก้าวเดียวก็เข้าไปอยู่ตรงหน้าแฮรี่แล้ว ไม่มีใครตอบโต้เขาได้เร็วพอฮาร์วีย์เคลื่อนไหวเร็วเกินไป!ผู้คนเหล่านี้เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้มาหลายคนแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ก่อนที่แฮรี่จะเหนี่ยวไกปืนได้นั้น ฮาร์วีย์ก็คว้าปืนมาจากมือเขา แล้วเล็งปืนไปที่ขาของเขา“แกจะยิงเหรอ?“แกจะทำอย่างนั้นได้เหรอ?”ฮาร์วีย์เหนี่ยวไกปืนอย่างใจเย็นปัง!ได้ยินเสียงปืนดังลั่นแฮรี่ล้มลงไปกองกับพื้น แล้วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดผู้ชายที่สูง
เจซล้มกระแทกกลับไปบนเก้าอี้หลังถูกตบหน้ารอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฎให้เห็นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ตอนนี้เจซมีสีหน้าบิดเบี้ยวที่ดูแย่มาก“ฉันขอบอกแกในตอนนี้นะว่า...ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใคร! แกควรฆ่าฉันให้ตายไปเลยดีกว่า!“เพราะถ้าแกไม่ทำ ฉันจะไปฆ่าคนในครอบครัวแกให้หมด!“ฉันเป็นคนรักษาคำพูดนะ!”ฮาร์วีย์เล็งปืนไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา“ไปกับใคร? กับคนไร้ประโยชน์พวกนี้เหรอ?”เจซมองดูโดยสัญชาตญาณ จูเลียนเข้าใจคำใบ้นั้น แล้วจัดการกับผู้ชายที่เหลืออยู่พร้อมกับยิ้มอย่างน่ากลัวปรมาจารย์ผู้อารักขาแห่งยอร์กคนนี้จะต้องมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนแต่ถึงกระนั้นจูเลียนก็ถูกวินซ์หรือควีนนี่บดบังความสามารถมาโดยตลอด ในช่วงที่เขาอยู่กับตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงจึงเป็นธรรมดาที่หลังจากมาอยู่ที่แบล็คเบิร์น ซิตี้แล้ว เขาก็เริ่มโชว์เขี้ยวเล็บออกมา เจซไม่คาดคิดว่าคนของเขาจะล้มลงเร็วขนาดนี้ดวงตาของเขากระตุกอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้“ถ้าแกเก่งในเรื่องการต่อสู้แล้วจะยังไงเหรอไอ้สารเลว?”“แล้วยังไงเหรอ?“ให้ฉันโทรศัพท์หน่อยถ้าแกกล้า! แกจะตายภายใจไม่กี่วินาที!”“แกอยากโทรหา
ฮาร์วีย์กัดกินผลไม้ในขณะรอการมาถึงของเจซอย่างใจเย็น“ผมมีข้อมูลของเจซมาให้ดูครับคุณยอร์ก"จูเลียนนำโทรศัพท์ของเขาออกมาให้ฮาร์วีย์อ่านเอกสารที่อยู่ข้างในนั้น“เขาไม่ใช่นายน้อยอันดับสูงสุดของหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ แต่มีอำนาจเล็กน้อยในตระกูลลี“เขาไม่ใช่คนที่ทุกคนจะให้การตอบโต้ในแบล็คเบิร์น ซิตี้ แต่เขามีเพื่อนมากมายในโลกใต้ติน“เราอาจต้องลำบากนิดหน่อยถ้ามีเพียงแค่เราสองคน เราควรโทรเรียกกำลังเสริมไหมครับ?”เป็นธรรมดาที่จูเลียนจะรู้สึกเป็นกังวลที่ฮาร์วีย์ปล่อยให้เจซเป็นอิสระเขาต่อสู้ได้แน่แต่เชื่อว่าเขากับฮาร์วีย์มีจำนวนน้อยกว่ามากถ้าเจซพาคนมาที่นี่เป็นพันคน พวกเขาก็คงเสียเปรียบสุด ๆฮาร์วีย์โยนเปลือกผลไม้ลงในถังขยะอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียกเช็ดมือพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“ไม่ต้องหรอก ฉันจะเอาชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ยังไง ถ้าต้องใช้คนเพิ่มเพื่อจัดการกับปลาซิวปลาสร้อยอย่างเจซ?“ฉันไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเคทีแบบนั้นได้"จูเลียนตกใจมาก“ช่างน่าประทับใจจริง ๆ ครับคุณยอร์ก! ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้ว่าทำไมวินซ์ถึงไม่สามารถกำจัดคุณได้ก่อนหน้า
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น“แกอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?”เจซส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา“หมอบคลานแล้วยอมรับความผิดของแกซะ จากนั้นก็หักแขนแต่ละข้างของแกให้หมด“พาผู้หญิงสองคนนั้นไปที่เตียงนอนของฉัน! ฉันจะเล่นสนุกกับพวกเธอสักสามวันเต็ม ๆ เลย!“พอฉันสุขสมอารมณ์หมายแล้ว ฉันก็จะปล่อยแกไป!”ฮาร์วีย์หรี่ตามอง“ฉันติดสินใจที่จะหักแขนขาของแกให้หมด แกจะไม่มีวันลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไป!”“แกควรรู้ว่าอะไรดีกับตัวเองนะฮาร์วีย์!”เจซโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมาก เขารู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อถูกฮาวีย์ท้าทายต่อหน้าคนของเขาจำนวนห้าร้อยคน“หยุดอวดเบ่งต่อหน้าฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการการกับแกชนิดที่พระเจ้าก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!“คนของแกอาจต่อสู้ได้ แต่เขาสามารถต่อสู้กับคนจำนวนห้าร้อยคนได้หรือเปล่าล่ะ?!“เขาคงเหนื่อยตายไปซะก่อน!”จูเลียนขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบ ๆก็อย่างที่เจซพูดนั่นแหละ จูเลียนคงจะต้องเหนื่อยมากถึงแม้คนจำนวนห้าร้อยคนพวกนั้นจะมานั่งคุกเข่าให้เขาไล่ตบไปทีละคน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้กับผู้คนที่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้มาเป็นอย่างดี“ถ้าพวกแกมีกันเพียงแคนี้...”ฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ อย่างใจเย็
"คุณมาถูกเวลาจริง ๆ! นักท่องเที่ยวที่โง่เขลากำลังท้าทายอำนาจของฉัน! เขาถึงกับตบตีฉันเมื่อกี๊ด้วยซ้ำไป!“เขาทำตัวสูงส่งและทรงพลังเพียงเพราะเขามีบอดี้การ์ดที่มีความสามารถ!“เขาไม่เพียงแต่บอกให้ฉันเรียกคนมาที่นี่เท่านั้นนะ แต่ยังขู่ว่าจะหักแขนขาของฉันทั้งหมดด้วย!“ฉันบอกผู้ชายคนนั้นว่าแวนซ์ ทอฟต์คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน และบอกว่าคุณมีสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้คอยหนุนหลังอยู่ แต่เขาบอกว่าเขาไม่แคร์!”เจซรีบราดน้ำมันลงบนกองไฟให้มากขึ้น เขาอยากให้ฮาร์วีย์โดนฆ่าตายโดยเร็วที่สุดเจซเรียกแวนซ์มาที่นี่เพราะว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้กำลังให้การปกป้องแวนซ์อยู่ บอดี้การ์ดของแวนซ์ล้วนเป็นนักต่อสู้มืออาชีพ คนธรรมดา ๆ ไม่สามารถขึ้นมาเทียบชั้นกับพวกเขาได้ไม่ว่าฮาร์วีย์และบอดี้การ์ดของเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เขาจะมีโอกาสต่อสู้กับลูกน้องของแวนซ์ได้เจซมั่นใจว่าฮาร์วีย์เสร็จแน่ ๆ!สาวสวยพวกนั้นต่างเต็มไปด้วยความหลงใหลได้ปลื้มเมื่อเห็นแวนซ์มาถึงแล้ว'ฮาร์วีย์จะทำอะไรกับคนทั้งหมดนี่ล่ะ?'พวกเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างภาคภูมิใจ'เขาเสร็จแน่!''คนโง่เขลาค
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข