มีผู้หญิงอีกคนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“คุณอย่าอวดเบ่งมาบอกนะว่าคุณเป็นนายน้อยของบริษัทใหญ่ หรือเป็นลูกชายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง“ตำแหน่งอะไรแบบนั้นไม่มีค่าอะไรที่นี่เลย!“ฉันขอเตือนคุณเอาไว้นะ! คุณควรจะให้ความร่วมมือและมอบรหัสผ่านกับเราซะ!“เราจำเป็นต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของคุณเพื่อหาเอกสารต้องห้าม!“ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะกักตัวคุณไว้เป็นเวลาสี่สิบแปดชั่วโมง ก่อนที่จะส่งตัวคุณกลับประเทศไป!“เราจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้น"หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น คนงานคนอื่น ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ทำสีหน้าขบขันตามปกติแล้วพวกเขาได้ทำการข่มขู่ผู้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายน้อยและเจ้าชายทั้งหลายด้วยกลอุบายแบบเดียวกันไม่ว่าพวกเขาจะอวดเบ่งกันขนาดไหน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้บางคนถึงกับเสนอเงินสด นาฬิกา และเครื่องประดับต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไม่ลังเลอะไรเลยไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถูกส่งตัวไปให้ตำรวจสนามบิน“ดี ในเมื่อคุณต้องการจะรับผิดชอบในเรื่องนี้ ผมก็จะให้โอกาสคุณ" ฮาร์วีย์บอกอย่างใจเย็น“เอาโทรศัพท์ของคุณมา ผมจะโทรหาใคร
ฮาร์วีย์วางโทรศัพท์สายนั้นลงอย่างใจเย็น ก่อนจะชูสามนิ้วบอกดาฟนี่ว่าเขาขอเวลาสามนาทีเท่านั้น“สามนาทีเหรอ?”ดาฟนี่ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของฮาร์วีย์“คุณคิดว่าจะอวดเบ่งได้เพียงเพราะมีคนมาร่วมแสดงโชว์กับคุณด้วยน่ะเหรอ?! “ไม่มีประโยชน์หรอก!“เราเคยเห็นคนบ้านนอกอย่างคุณมาก่อน! เราจะไม่โดนหลอกด้วยอุบายห่วย ๆ แบบนั้นหรอก!”“ถ้าคุณมีความมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่รอดูไปก่อนสิ" ฮาร์วีย์ตอบด้วยใบหน้านิ่ง“ดี! ฉันจะรอ!“ถ้าถึงเวลานั้นแล้วคุณยังออกจากสถานการณ์นี้ไม่ได้ล่ะก็ ฉันจะจัดการกับคุณเอง!”ดาฟนี่เอามือกอดอกในขณะมองฮาร์วีย์อย่างเหยียด ๆฮาร์วีย์เล่นโทรศัพท์อย่างไม่ใส่ใจเมื่อเขาเห็นข่าวว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H จะได้เป็นผู้บัญชาการที่ยิ่งใหญ่คนใหม่ของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของโลกเวลาผ่านไปสามนาทีโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดาฟนี่แสดงท่าทีเหยียดหยามออกมาเมื่อเขามองดูนาฬิกาคาร์เทียร์ของเธอ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเธอได้นาฬิกาเรือนนั้นมาจากไหน“หมดเวลาแล้วไอ้บ้านนอก คุณโชคไม่ดีเลยนะ“ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ฉันจะส่งคุณไปให้กับตำรวจสนามบินเดี๋ยวนี้แหละ! ฉันจะให้บทเรียนที่คุณ
ใบหน้าของซีอีโอลีดูมืดมนลงทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เมื่อฮาร์วีย์พูดจบแล้ว เขาก็รีบตอบพร้อมกับโค้งคำนับด้วยความเคารพ "ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณยอร์ก"“ผมจะให้คำชี้แจงที่ยุติธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้เอง“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะทำให้แน่ใจว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มาจากประเทศ H จะไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้!” ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดอะไรออกมา ซีอีโอก็รีบเหวี่ยงฝ่ามือไปออกไปทันทีการเคลื่อนไหวของเขาช่างเป็นอะไรที่โหดเหี้ยมทว่าแม่นยำ โดยตบหน้าดาฟนี่และคนอื่น ๆ ไปรอบ ๆ ห้องจนหน้าบวมเป่งไปตาม ๆ กันผัวะ!จากนั้นซีอีโอลีก็เตะดาฟนี่ลงไปกองกับพื้น แล้วกระทืบใบหน้าที่สวยงามของเธอหลังจากนั้นจมูกของดาฟนี่หักครึ่ง มีเลือดเปรอะเปื้อนใบหน้าอันน่าเกลียดของเธอในตอนนี้ ช่างเป็นอะไรที่ดูน่าเวทนานักซีอีโอลีหันกลับมามองฮาร์วีย์อย่างให้ความเคารพยำเกรง“คุณยอร์กครับ! แค่นี้พอไหมครับ?”“ไม่พอ"ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็นเช่นเคย“คุณจะจัดการกับไอ้หัวขโมยที่ใช้กฎหมายของแบล็คเบิร์น ซิตี้ยังไง?”“ผมเข้าใจแล้วครับ"ซีอีโอลีพยักหน้าแล้วโบกมือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรูปร่างสูงใหญ่หลายคนรีบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมอาวุธครบมือกำลังตรวจตราความปลอดภัยอยู่ตรงบริเวณทางเข้าทุกจุดหลังจากเอลเลนต่อสายโทรศัพท์ไปไม่กี่ครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็ยกไม้กั้นขึ้นเพื่อให้รถแล่นเข้าไปข้างในได้รถแล่นเข้ามาถึงทางเข้าอาคารหลักแล้ว เคทีรออยู่ในบริเวณนั้นมาระยะหนึ่งแล้วเคทีเดินไปข้างหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้หลังจากเอลเอนจอดรถแล้ว“ขอบคุณที่อุตส่าห์มานะคะคุณยอร์ก“ฉันขอโทษที่ต้องโทรเรียกคุณมาแบบนี้"เคทีรู้เรื่องที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ทั้งสี่มาสร้างความกดดันให้กับประเทศ H รวมทั้งความพยายามในการช่วยเหลือของฮาร์วีย์ทุกอย่าง เธอจึงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ฮาร์วีย์เดินทางมาที่นี่อย่างรีบเร่ง ฮาร์วีย์ยิ้ม“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยหัวหน้าคอบบ์ เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอก“ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรให้มากหรอกครับ“อาการของผู้อาวุโสคอบบ์แย่ลงใช่ไหม? ให้ผมเข้าไปดูหน่อย"เคทีขมวดคิ้วเมื่อฮาร์วีย์เอ่ยถึงเรื่องนั้น“บอกตามตรงนะคะฉันได้เชิญคนในตระกูลดัง ๆ เพื่อให้มาช่วยดูอาการคุณปู่“ไม่ว่าจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ แพทย์ชื่อดัง และจอมขมังเวทย์ทั้งหลาย“แต
“คุณคอบบ์!”ชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดสีขาวได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายเคที และพยักหน้าให้เอลเลนดวงตาของเขาดูล่อกแล่กเล็กน้อยเพื่อจ้องมองไปทางฮาร์วีย์“ขอบคุณค่ะนายน้อยแพดโลว์ ขอบคุณทุก ๆ คน"เคทีพยักหน้ากับฝูงชนกลุ่มนั้นก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดสีขาว“นี่คือกาเอล แพดโลว์ ผู้ที่อยู่ในความคุ้มครองของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้“เขาค่อนข้างทรงอำนาจและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งด้วย"ฮาร์วีย์พยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหันกลับไปมองเอลเลน ใบหน้าของเธอดูแดงก่ำและดูไม่ค่อยสบายใจหลังจากมองไปที่เอลเลนแล้วมองไปที่เคทีและกาเอล ฮาร์วีย์ก็ยิ้มจาง ๆเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้แต่ก่อนที่เขาจะจ่อมจมอยู่กับความคิดนั้น เคทีก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ทุ่มเทกำลังทั้งหมดให้กับอาการป่วยของคุณปู่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้“แต่ถึงกระนั้นอาการของท่านก็ยังไม่ดีขึ้นเลย แต่กลับอยู่ในสภาพที่แย่กว่าเดิม“ฉันไม่ขอตำหนิใครในเรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่าเราควรหยุดความพยายามเอาไว้เพียงแค่นี้“กลับไปพักผ่านที่บ้านกันเถอะค่ะ ตระกูลคอบบ์จะจ่ายค่าชดเชยให้กับความพยายามของพวกคุณ"เคทีเอา
"เขาเป็นชายหนุ่มอายุน้อยเท่านั้นเอง! เขาดูไม่เหมือนหมอรักษาโรคเลย ฉะนั้นเขาจะต้องเป็นนักศิลปะการต่อสู้แน่ ๆ“ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แต่ไม่มีทางที่เขาจะเก่งไปกว่าพวกเราทั้งหมดนี้“ผมสงสัยว่าเขาจะเป็นนักต้มตุ๋น! ใครจะรับผิดชอบถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหลังจากนี้? เขาเหรอ? หรือพวกเราทุกคน?”เป็นธรรมดาที่ฝูงชนนั้นต่างมีความคิดเห็นในตัวฮาร์วีย์แตกต่างกันไปท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทุกคนต่างอยากให้เคทีมองพวกเขาในมุมมองที่ต่างออกไป แต่ยังไงก็ตามพวกเขาทั้งหมดต่างล้มเหลวในการรักษาอย่างน่าเวทนาแต่ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา ๆ คนหนึ่งกลับได้รับความเคารพยำเกรงจากเคที นี่เป็นเรื่องที่กาเอลยอมรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งเอลเลนบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ เธอไม่ได้ดูถูกฮาร์วีย์อย่างโจ่งแจ้ง แต่เห็นได้ชัดว่าเธออยู่ฝ่ายเดียวกับกาเอลฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น แล้วหยุดยั้งเคทีไม่ให้พูดอะไรเขามองไปที่กาเอลแล้วพูดว่า "ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนหรอก และมีภูมิหลังที่ไม่น่าประทับใจอะไรเลย“ผมก็แค่เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง"“ถ้าอย่างนั้นอะไรทำให้คุณกล้ามาที่นี่ล
"ผมไม่ใช่หมอ ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ด้วย" ฮาร์วีย์เริ่มพูดอย่างสงบ“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะในการฆ่าเล็กน้อย ผมสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ด้วยความรู้นั้น มีปัญหาอะไรเหรอ?”“มีแน่นอน!”กาเอลทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ผมก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน! แน่นอนว่าผมก็รู้ในเรื่องนั้น!“ปัญหาก็คือ...คุณต้องเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้!“พูดง่าย ๆ ก็คือคุณต้องเป็นอัจฉริยะที่มีประสบการณ์โชกโชน ถึงจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนด้วยศิลปะแขนงนั้นได้“ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความสามารถจริง ๆ ล่ะก็ แสดงให้ผมเห็นหน่อยสิว่าคุณมีความรู้อะไรบ้าง!“ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรหยุดโกหกคุณคอบบ์ซะ เพราะคุณกำลังขัดขวางเราในการหาวิธีรักษาผู้อาวุโสคอบบ์อยู่!“เราจะหาวิธีทำให้ผู้อาวุโสคอบบ์มีอาการดีขึ้นในเร็ววันด้วยการใช้ยาและศิลปะการต่อสู้!”กาเอลมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาท้าทายก่อนจะชี้ไปที่แผนการรักษา ที่ทุกคนได้รวบรวมมาวางไว้บนโต๊ะ“ทำไมเราไม่โชว์แผนการรักษาอันยอดเยี่ยมของทะเลใต้ให้ชายโง่เง่าคนนี้ดูหน่อยล่ะ?”เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น กาเบลจึงตัดสินใจเหยีบยย
"ผมขอบอกอีกเรื่องหนึ่ง"ฮาร์วีย์กวาดตามองกาเอลอย่างใจเย็น“จะต้องมีใครคิดแผนการแบบเดียวกันนี้ขึ้นมาแน่ ๆ“แต่ตระกูลคอบบ์จะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรอก"“ถูกต้อง มีคนคิดแผนนี้ขึ้นมาก่อนแล้ว คุณปู่ของฉันคือเทพสงคราม และเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดในทะเลใต้ มีเพียงคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่คิดจะทำลายวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝนมา!” เคทีร้องบอกอย่างเย็นชา“ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเชิญพวกคุณมาที่นี่ทำไมกัน?”กาเอลทำสีหน้าที่ดูแย่มากเขามีความมั่นใจอย่างเหลือเกินว่าเขาสามารถช่วยชีวิตดีนได้ และพร้อมกันนั้นก็สามารถเอาชนะใจเคทีได้ด้วย แต่แผนการของเขาก็ดูไม่จากเรื่องตลกฝืด ๆ สำหรับเธอ“ยาและศิลปะการต่อสู้มีต้นกำเนิดแบบเดียวกัน พวกคุณทุกคนควรรู้ถึงข้อเท็จจริงนี้“ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ ความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้นที่จะทำให้คุณมีความก้าวหน้าได้"ฮาร์วีย์ไม่อยากปล่อยกาเอลไป เขาเริ่มต่อกรกับผู้คนที่คิดจะอวดอ้างตนเองต่อหน้าเขา“ไม่มีใครอ่อนน้อมถ่อมตนในเรื่องนี้เลย พวกคุณล้วนแต่เป็นคนอวดดี ที่ดีแต่การรวมหัวกันสงสัยในความสามารถของผู้อื่น“คุณต้องการให้ผมพิสูจน์ความแข็งแกร่งใช่ไหม? แ