"ผมไม่ใช่หมอ ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ด้วย" ฮาร์วีย์เริ่มพูดอย่างสงบ“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะในการฆ่าเล็กน้อย ผมสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ด้วยความรู้นั้น มีปัญหาอะไรเหรอ?”“มีแน่นอน!”กาเอลทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ผมก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน! แน่นอนว่าผมก็รู้ในเรื่องนั้น!“ปัญหาก็คือ...คุณต้องเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้!“พูดง่าย ๆ ก็คือคุณต้องเป็นอัจฉริยะที่มีประสบการณ์โชกโชน ถึงจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนด้วยศิลปะแขนงนั้นได้“ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความสามารถจริง ๆ ล่ะก็ แสดงให้ผมเห็นหน่อยสิว่าคุณมีความรู้อะไรบ้าง!“ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรหยุดโกหกคุณคอบบ์ซะ เพราะคุณกำลังขัดขวางเราในการหาวิธีรักษาผู้อาวุโสคอบบ์อยู่!“เราจะหาวิธีทำให้ผู้อาวุโสคอบบ์มีอาการดีขึ้นในเร็ววันด้วยการใช้ยาและศิลปะการต่อสู้!”กาเอลมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาท้าทายก่อนจะชี้ไปที่แผนการรักษา ที่ทุกคนได้รวบรวมมาวางไว้บนโต๊ะ“ทำไมเราไม่โชว์แผนการรักษาอันยอดเยี่ยมของทะเลใต้ให้ชายโง่เง่าคนนี้ดูหน่อยล่ะ?”เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น กาเบลจึงตัดสินใจเหยีบยย
"ผมขอบอกอีกเรื่องหนึ่ง"ฮาร์วีย์กวาดตามองกาเอลอย่างใจเย็น“จะต้องมีใครคิดแผนการแบบเดียวกันนี้ขึ้นมาแน่ ๆ“แต่ตระกูลคอบบ์จะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรอก"“ถูกต้อง มีคนคิดแผนนี้ขึ้นมาก่อนแล้ว คุณปู่ของฉันคือเทพสงคราม และเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดในทะเลใต้ มีเพียงคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่คิดจะทำลายวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝนมา!” เคทีร้องบอกอย่างเย็นชา“ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเชิญพวกคุณมาที่นี่ทำไมกัน?”กาเอลทำสีหน้าที่ดูแย่มากเขามีความมั่นใจอย่างเหลือเกินว่าเขาสามารถช่วยชีวิตดีนได้ และพร้อมกันนั้นก็สามารถเอาชนะใจเคทีได้ด้วย แต่แผนการของเขาก็ดูไม่จากเรื่องตลกฝืด ๆ สำหรับเธอ“ยาและศิลปะการต่อสู้มีต้นกำเนิดแบบเดียวกัน พวกคุณทุกคนควรรู้ถึงข้อเท็จจริงนี้“ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ ความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้นที่จะทำให้คุณมีความก้าวหน้าได้"ฮาร์วีย์ไม่อยากปล่อยกาเอลไป เขาเริ่มต่อกรกับผู้คนที่คิดจะอวดอ้างตนเองต่อหน้าเขา“ไม่มีใครอ่อนน้อมถ่อมตนในเรื่องนี้เลย พวกคุณล้วนแต่เป็นคนอวดดี ที่ดีแต่การรวมหัวกันสงสัยในความสามารถของผู้อื่น“คุณต้องการให้ผมพิสูจน์ความแข็งแกร่งใช่ไหม? แ
หลังจากทำการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้คนที่นั่นไปอย่างหนักแล้ว ฮาร์วีย์ก็ส่งสัญญาณให้เคทีพาเขาเข้าไปให้ห้องของดีนกาเอลและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้อีกสองสามคนต่างเดือดดาลด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็อยากรู้ว่าฮาร์วีย์จะช่วยชีวิตดีนได้หรือเปล่าด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเดินตามเข้าไปด้วยฮาร์วีย์ไม่ได้ให้ความสนใจคนพวกนั้นเลยเคทีรู้ว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับฮาร์วีย์ ที่จะได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ไล่คนพวกนั้นออกไปพอมาถึงห้องที่มีความกว้างประมาณสองพันตารางฟุต ฮาร์วีย์ก็มองเห็นดีนนอนอยู่บนเตียงที่ทำจากไม้ลูกแพรสีเหลืองมีอุปกรณ์มากมายติดระโยงระยางอยู่บนตัวเขา ซึ่งกำลังแสดงสัญญาณชีพของเขาอยู่เนื่องจากเขาเป็นเทพสงคราม แพทย์จึงไม่สามารถฉีดยาให้เขาได้เนื่องจากเขามีผิวที่หนามากที่ดีนรอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ก็เพราะเคทีพยายามป้อนน้ำเขาทุกวันอย่างไม่ลดละฮาร์วีย์รู้สึกผิดเหลือเกินเมื่อเห็นดีนกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาเคทีก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้ามือขวาของฮาร์วีย์ขึ้นมา“คุณไม่ควรตำหนิตัวเองในเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณปู่นะคะคุณยอร์ก ท่านกับจูลิโอไม่เคยเผชิญหน้าอย่างนี้มาก่อน
เอลเลนถามคำถามที่ไม่มีใครกล้าถามแม้แต่ดวงตาที่สวยงามของเคทีก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความสงสัย “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่จำเป็นต้องโกหกคุณในเรื่องนี้หรอก ผู้อาวุโสคอบบ์จะฟื้นขึ้นมาในวันนี้แน่"เคทีรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนตัวเธอเริ่มสั่นขึ้นมา“ดีจังเลย! นับเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ค่ะ!“ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีค่ะคุณยอร์ก...”กาเอลและคนอื่น ๆ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเคทีมองฮาร์วีย์ด้วยความหลงใหลพวกเขาเคยเชื่อว่าการกระทำของฮาร์วีย์นั้นดูน่าประทับใจมาก่อน แต่ก็เป็นได้เพียงแค่นั้นแหละหลายคนไม่สามารถระบุสภาพและอาการของดีนได้...แต่ฮาร์วีย์อ้างว่าเขาสามารถช่วยชีวิตดีนได้ในวันเดียวกันนั้นเอง'ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!''ไอ้สารเลวนี่อวดดีเกินไปหน่อยแล้ว!'“อย่าหลงตัวเองไปนักเลยฮาร์วีย์!“คุณจะต้องได้รับความอับอายแน่ ๆ ถ้าไม่สามารถทำให้ผู้อาวุโสคอบบ์ฟื้นขึ้นมาได้!”กาเอลรู้สึกจงเกลียดจงชังฮาร์วีย์เป็นอย่างมาก หลังจากถูกเปิดเผยในเรื่องภาวะไตบกพร่องออกมา เขาอดที่จะพูดในขณะที่กำลังกัดฟันอยู่ไม่ได้ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อีกสองสามคนก็ทำตามเขาพร้อมกับแสดงความสงสัยออกมาด้วยแน่นอน
เคทีเก็บอาการไม่อยู่ เธออยากจะวิ่งเข้าไปสวมกอดดีนเหลือเกิน แต่กลับสวมกอดฮาร์วีย์แทนเพราะกลัวจะทำให้คุณปู่ของเธอต้องเจ็บปวด“ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะคุณยอร์ก!“คุณคือผู้ช่วยชีวิตตระกูลของเรา! ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี!”“ไม่เป็นไรหรอกครับ" ฮาร์วีย์บอกพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“แต่ถึงกระนั้นอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสคอบบ์ก็ค่อนข้างแย่ เขาจะต้องอยู่ในสถานที่เงียบ ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือนถึงจะฟื้นตัวได้"“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณยอร์ก ฉันจะจัดการเรื่องนั้นเอง" เคทีตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่นะ! นี่เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลเลย!”ในที่สุดกาเอลก็ได้สติแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกไม่เชื่อตาตัวเองอยู่ดีเขามีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องทักษะการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ เขาประสบความสำเร็จมามากมายตั้งแต่เด็ก ๆ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในทะเลใต้นี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดีนกันแน่ แต่เขาก็สามารถคิดแผนการรักษาร่วมกับคนอื่น ๆ ที่นี่ได้จากการประเมินของเขา...แผนการรักษานั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนกว่าดีนจะฟื้นตัวได้เห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่หมอ แต่เขาสามา
เคทีไม่ได้รับโทรศัพท์ทันที เธอยิ้มให้ฮาร์วีย์เพื่อแสดงความขอโทษก่อนจะหลบไปด้านข้างถนนครู่หนึ่งฮาร์วีย์ดูออกเลยว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจเมื่อเคทีวางสายโทรศัพท์แล้ว เธอก็ยิ้มจาง ๆ ในขณะเดินไปหาฮาร์วีย์“อะไร? มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่ใส่ใจ“คุณเป็นหัวหน้าแก๊งทะเลใต้ ไม่มีใครกล้ามาต่อกรกับคุณที่นี่หรอก"เคทีส่งยิ้มให้ฮาร์วีย์อย่างขมขื่น“คุณล้อฉันเล่นใช่ไหมคุณยอร์ก แก๊งทะเลใต้อาจมีอำนาจนิดหน่อยในฮ่องกงและลาสเวกัส...“แต่ในทะเลใต้นี่กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง“นอกเหนือจากเลขาและลูกน้องที่ฉันไว้ใจอีกสองสามคน ฉันก็ไม่ได้พาใครมากับฉันด้วย“ฉันคิดว่าฉันสามารถกลับออกไปได้หลังจากจัดการเรื่องอาการบาดเจ็บของคุณปู่เรียบร้อยแล้ว...“แต่อะไร ๆ ก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป"“คุณอยากให้ผมช่วยอะไรไหม?” ฮาร์วีย์ถาม“นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวค่ะ เป็นเรื่องที่จัดการได้ไม่ยากเลย แค่มีปัญหานิดหน่อยเท่านั้นเอง"เคทีนวดขมับไปมา“มีเรื่องบางอย่างที่คุณยังไม่รู้ค่ะคุณยอร์ก ตระกูลคอบบ์เป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่สามตระกูลของทะเลใต้ แต่มีหลายฝ่ายที่แยกเราออกจากกัน“บ้านหลักเป็น
"เอาล่ะ คืนนี้เราจะเจอกันที่ไหนล่ะ?” เคทีถาม“สองทุ่มที่มารีน่า เบย์ คลับเฮาส์" คนที่โทรศัพท์อยู่นั้นพูดคุยอย่างเจ้ากี้เจ้าการ“ช่วยไปถึงที่นั่นตรงเวลาด้วยนะคะ!”เคทียิ้มจาง ๆ“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไปถึงที่นั่นตรงเวลาแน่นอน"หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้วเคทีก็เหลือบมองฮาร์วีย์“คนที่โทรมาคือลาร่า จอห์นสัน เธอเป็นสาวสังคมแห่งทะเลใต้และทำหน้าที่เป็นคนกลางให้ฉันค่ะ“เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกใต้ดินทั้งสองด้าน“ฉันก็เลยขอให้เธอพาฉันไปพบกับลูกหนี้คนนั้นค่ะ"“ใครคือลูกหนี้ของคุณ?” ฮาร์วีย์ถาม“บริษัทขนส่งบริเวณท่าเรือ ซีอีโอชื่อแวนซ์ ทอฟท์ค่ะ“ว่ากันว่าเขามีภูมิหลังอยู่ในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนที่ดื้อดึงอย่างมาก"“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้เหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“ทะเลใต้นั้นแตกต่างจากประเทศ H มีกลุ่มนักศิลปะการต่อสู้อยู่ไม่มากนัก ถ้าพวกเขาอยากจะฝึกฝนวิชายุทธ์ พวกเขาก็จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งนั้น"“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ เป็นสาขาหนึ่งของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนเหล่านี้เขาไม่อยากจะสร้างปัญหาเมื่ออยู่ในประเทศอื่น แต่ก็ยังมีคนโง่เง่ามาคอยยั่วยุเขาอยู่เรื่อยไป“ฉันไม่มีเวลาเล่นกับแกที่สนามบิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะปล่อยแกไปนะ!“แกคิดว่าแกมีสิทธิ์มาตบหน้าฉันเพียงเพราะแกนั่งอยู่ในห้องโดยสารชั้นวีไอพีเหรอ?!“จะบอกอะไรให้นะ! แกตายแน่ที่มาเจอกันฉันวันนี้!”ผู้หญิงสาวสวยคนนี้ทำหน้าหยิ่งยะโสราวกับเธอเป็นราชินีแห่งโลกใบนี้ชายที่ดูใจร้ายคนนั้นหรี่ตามองแล้วตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "แกคือคนที่ทำร้ายผู้หญิงของฉันเหรอ?!“รอยฝ่ามือสีแดงสดยังติดอยู่บนหน้าเธอ! ฉันต้องใจสลายอย่างมากเลยนะ!“แกจะรับผิดชอบในเรื่องนี้ยังไง?!”ชายคนนั้นจุดซิการ์แล้วพ่นควันออกมาช่างเป็นภาพที่ดูจองหองเสียเหลือเกิน!ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนต่างลนลานเมื่อเห็นว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นคนพวกนี้มีท่าทีที่กำลังขมขู่คนอื่นอยู่ฮาร์วีย์มองคนพวกนั้นอย่างใจเย็นแล้วพูดว่า "ออกไปจากที่นี่ซะในขณะที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่"“โอ้? แกกำลังไล่ฉันอยู่เหรอ?!”ชายคนนั้นยิ้มให้เขา“แกกล้าดียังไงมาตบผู้หญิงของฉันแล้วไล่ฉันออกไป! ฉันคงต้องอับอายถ้าไม่ได้หักแขนหัก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข