"เขาเป็นชายหนุ่มอายุน้อยเท่านั้นเอง! เขาดูไม่เหมือนหมอรักษาโรคเลย ฉะนั้นเขาจะต้องเป็นนักศิลปะการต่อสู้แน่ ๆ“ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แต่ไม่มีทางที่เขาจะเก่งไปกว่าพวกเราทั้งหมดนี้“ผมสงสัยว่าเขาจะเป็นนักต้มตุ๋น! ใครจะรับผิดชอบถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหลังจากนี้? เขาเหรอ? หรือพวกเราทุกคน?”เป็นธรรมดาที่ฝูงชนนั้นต่างมีความคิดเห็นในตัวฮาร์วีย์แตกต่างกันไปท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทุกคนต่างอยากให้เคทีมองพวกเขาในมุมมองที่ต่างออกไป แต่ยังไงก็ตามพวกเขาทั้งหมดต่างล้มเหลวในการรักษาอย่างน่าเวทนาแต่ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา ๆ คนหนึ่งกลับได้รับความเคารพยำเกรงจากเคที นี่เป็นเรื่องที่กาเอลยอมรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งเอลเลนบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ เธอไม่ได้ดูถูกฮาร์วีย์อย่างโจ่งแจ้ง แต่เห็นได้ชัดว่าเธออยู่ฝ่ายเดียวกับกาเอลฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น แล้วหยุดยั้งเคทีไม่ให้พูดอะไรเขามองไปที่กาเอลแล้วพูดว่า "ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนหรอก และมีภูมิหลังที่ไม่น่าประทับใจอะไรเลย“ผมก็แค่เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง"“ถ้าอย่างนั้นอะไรทำให้คุณกล้ามาที่นี่ล
"ผมไม่ใช่หมอ ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ด้วย" ฮาร์วีย์เริ่มพูดอย่างสงบ“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะในการฆ่าเล็กน้อย ผมสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ด้วยความรู้นั้น มีปัญหาอะไรเหรอ?”“มีแน่นอน!”กาเอลทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ผมก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน! แน่นอนว่าผมก็รู้ในเรื่องนั้น!“ปัญหาก็คือ...คุณต้องเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้!“พูดง่าย ๆ ก็คือคุณต้องเป็นอัจฉริยะที่มีประสบการณ์โชกโชน ถึงจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนด้วยศิลปะแขนงนั้นได้“ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความสามารถจริง ๆ ล่ะก็ แสดงให้ผมเห็นหน่อยสิว่าคุณมีความรู้อะไรบ้าง!“ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ควรหยุดโกหกคุณคอบบ์ซะ เพราะคุณกำลังขัดขวางเราในการหาวิธีรักษาผู้อาวุโสคอบบ์อยู่!“เราจะหาวิธีทำให้ผู้อาวุโสคอบบ์มีอาการดีขึ้นในเร็ววันด้วยการใช้ยาและศิลปะการต่อสู้!”กาเอลมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาท้าทายก่อนจะชี้ไปที่แผนการรักษา ที่ทุกคนได้รวบรวมมาวางไว้บนโต๊ะ“ทำไมเราไม่โชว์แผนการรักษาอันยอดเยี่ยมของทะเลใต้ให้ชายโง่เง่าคนนี้ดูหน่อยล่ะ?”เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น กาเบลจึงตัดสินใจเหยีบยย
"ผมขอบอกอีกเรื่องหนึ่ง"ฮาร์วีย์กวาดตามองกาเอลอย่างใจเย็น“จะต้องมีใครคิดแผนการแบบเดียวกันนี้ขึ้นมาแน่ ๆ“แต่ตระกูลคอบบ์จะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรอก"“ถูกต้อง มีคนคิดแผนนี้ขึ้นมาก่อนแล้ว คุณปู่ของฉันคือเทพสงคราม และเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดในทะเลใต้ มีเพียงคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่คิดจะทำลายวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝนมา!” เคทีร้องบอกอย่างเย็นชา“ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเชิญพวกคุณมาที่นี่ทำไมกัน?”กาเอลทำสีหน้าที่ดูแย่มากเขามีความมั่นใจอย่างเหลือเกินว่าเขาสามารถช่วยชีวิตดีนได้ และพร้อมกันนั้นก็สามารถเอาชนะใจเคทีได้ด้วย แต่แผนการของเขาก็ดูไม่จากเรื่องตลกฝืด ๆ สำหรับเธอ“ยาและศิลปะการต่อสู้มีต้นกำเนิดแบบเดียวกัน พวกคุณทุกคนควรรู้ถึงข้อเท็จจริงนี้“ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้ ความอ่อนน้อมถ่อมตนเท่านั้นที่จะทำให้คุณมีความก้าวหน้าได้"ฮาร์วีย์ไม่อยากปล่อยกาเอลไป เขาเริ่มต่อกรกับผู้คนที่คิดจะอวดอ้างตนเองต่อหน้าเขา“ไม่มีใครอ่อนน้อมถ่อมตนในเรื่องนี้เลย พวกคุณล้วนแต่เป็นคนอวดดี ที่ดีแต่การรวมหัวกันสงสัยในความสามารถของผู้อื่น“คุณต้องการให้ผมพิสูจน์ความแข็งแกร่งใช่ไหม? แ
หลังจากทำการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้คนที่นั่นไปอย่างหนักแล้ว ฮาร์วีย์ก็ส่งสัญญาณให้เคทีพาเขาเข้าไปให้ห้องของดีนกาเอลและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้อีกสองสามคนต่างเดือดดาลด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็อยากรู้ว่าฮาร์วีย์จะช่วยชีวิตดีนได้หรือเปล่าด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเดินตามเข้าไปด้วยฮาร์วีย์ไม่ได้ให้ความสนใจคนพวกนั้นเลยเคทีรู้ว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับฮาร์วีย์ ที่จะได้แสดงความแข็งแกร่งออกมา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ไล่คนพวกนั้นออกไปพอมาถึงห้องที่มีความกว้างประมาณสองพันตารางฟุต ฮาร์วีย์ก็มองเห็นดีนนอนอยู่บนเตียงที่ทำจากไม้ลูกแพรสีเหลืองมีอุปกรณ์มากมายติดระโยงระยางอยู่บนตัวเขา ซึ่งกำลังแสดงสัญญาณชีพของเขาอยู่เนื่องจากเขาเป็นเทพสงคราม แพทย์จึงไม่สามารถฉีดยาให้เขาได้เนื่องจากเขามีผิวที่หนามากที่ดีนรอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ก็เพราะเคทีพยายามป้อนน้ำเขาทุกวันอย่างไม่ลดละฮาร์วีย์รู้สึกผิดเหลือเกินเมื่อเห็นดีนกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาเคทีก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้ามือขวาของฮาร์วีย์ขึ้นมา“คุณไม่ควรตำหนิตัวเองในเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณปู่นะคะคุณยอร์ก ท่านกับจูลิโอไม่เคยเผชิญหน้าอย่างนี้มาก่อน
เอลเลนถามคำถามที่ไม่มีใครกล้าถามแม้แต่ดวงตาที่สวยงามของเคทีก็จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความสงสัย “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่จำเป็นต้องโกหกคุณในเรื่องนี้หรอก ผู้อาวุโสคอบบ์จะฟื้นขึ้นมาในวันนี้แน่"เคทีรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนตัวเธอเริ่มสั่นขึ้นมา“ดีจังเลย! นับเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ค่ะ!“ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีค่ะคุณยอร์ก...”กาเอลและคนอื่น ๆ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเคทีมองฮาร์วีย์ด้วยความหลงใหลพวกเขาเคยเชื่อว่าการกระทำของฮาร์วีย์นั้นดูน่าประทับใจมาก่อน แต่ก็เป็นได้เพียงแค่นั้นแหละหลายคนไม่สามารถระบุสภาพและอาการของดีนได้...แต่ฮาร์วีย์อ้างว่าเขาสามารถช่วยชีวิตดีนได้ในวันเดียวกันนั้นเอง'ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!''ไอ้สารเลวนี่อวดดีเกินไปหน่อยแล้ว!'“อย่าหลงตัวเองไปนักเลยฮาร์วีย์!“คุณจะต้องได้รับความอับอายแน่ ๆ ถ้าไม่สามารถทำให้ผู้อาวุโสคอบบ์ฟื้นขึ้นมาได้!”กาเอลรู้สึกจงเกลียดจงชังฮาร์วีย์เป็นอย่างมาก หลังจากถูกเปิดเผยในเรื่องภาวะไตบกพร่องออกมา เขาอดที่จะพูดในขณะที่กำลังกัดฟันอยู่ไม่ได้ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อีกสองสามคนก็ทำตามเขาพร้อมกับแสดงความสงสัยออกมาด้วยแน่นอน
เคทีเก็บอาการไม่อยู่ เธออยากจะวิ่งเข้าไปสวมกอดดีนเหลือเกิน แต่กลับสวมกอดฮาร์วีย์แทนเพราะกลัวจะทำให้คุณปู่ของเธอต้องเจ็บปวด“ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะคุณยอร์ก!“คุณคือผู้ช่วยชีวิตตระกูลของเรา! ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี!”“ไม่เป็นไรหรอกครับ" ฮาร์วีย์บอกพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“แต่ถึงกระนั้นอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสคอบบ์ก็ค่อนข้างแย่ เขาจะต้องอยู่ในสถานที่เงียบ ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือนถึงจะฟื้นตัวได้"“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะคุณยอร์ก ฉันจะจัดการเรื่องนั้นเอง" เคทีตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่นะ! นี่เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลเลย!”ในที่สุดกาเอลก็ได้สติแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกไม่เชื่อตาตัวเองอยู่ดีเขามีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องทักษะการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ เขาประสบความสำเร็จมามากมายตั้งแต่เด็ก ๆ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในทะเลใต้นี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดีนกันแน่ แต่เขาก็สามารถคิดแผนการรักษาร่วมกับคนอื่น ๆ ที่นี่ได้จากการประเมินของเขา...แผนการรักษานั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนกว่าดีนจะฟื้นตัวได้เห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่หมอ แต่เขาสามา
เคทีไม่ได้รับโทรศัพท์ทันที เธอยิ้มให้ฮาร์วีย์เพื่อแสดงความขอโทษก่อนจะหลบไปด้านข้างถนนครู่หนึ่งฮาร์วีย์ดูออกเลยว่าเธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจเมื่อเคทีวางสายโทรศัพท์แล้ว เธอก็ยิ้มจาง ๆ ในขณะเดินไปหาฮาร์วีย์“อะไร? มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างไม่ใส่ใจ“คุณเป็นหัวหน้าแก๊งทะเลใต้ ไม่มีใครกล้ามาต่อกรกับคุณที่นี่หรอก"เคทีส่งยิ้มให้ฮาร์วีย์อย่างขมขื่น“คุณล้อฉันเล่นใช่ไหมคุณยอร์ก แก๊งทะเลใต้อาจมีอำนาจนิดหน่อยในฮ่องกงและลาสเวกัส...“แต่ในทะเลใต้นี่กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง“นอกเหนือจากเลขาและลูกน้องที่ฉันไว้ใจอีกสองสามคน ฉันก็ไม่ได้พาใครมากับฉันด้วย“ฉันคิดว่าฉันสามารถกลับออกไปได้หลังจากจัดการเรื่องอาการบาดเจ็บของคุณปู่เรียบร้อยแล้ว...“แต่อะไร ๆ ก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป"“คุณอยากให้ผมช่วยอะไรไหม?” ฮาร์วีย์ถาม“นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวค่ะ เป็นเรื่องที่จัดการได้ไม่ยากเลย แค่มีปัญหานิดหน่อยเท่านั้นเอง"เคทีนวดขมับไปมา“มีเรื่องบางอย่างที่คุณยังไม่รู้ค่ะคุณยอร์ก ตระกูลคอบบ์เป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่สามตระกูลของทะเลใต้ แต่มีหลายฝ่ายที่แยกเราออกจากกัน“บ้านหลักเป็น
"เอาล่ะ คืนนี้เราจะเจอกันที่ไหนล่ะ?” เคทีถาม“สองทุ่มที่มารีน่า เบย์ คลับเฮาส์" คนที่โทรศัพท์อยู่นั้นพูดคุยอย่างเจ้ากี้เจ้าการ“ช่วยไปถึงที่นั่นตรงเวลาด้วยนะคะ!”เคทียิ้มจาง ๆ“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไปถึงที่นั่นตรงเวลาแน่นอน"หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้วเคทีก็เหลือบมองฮาร์วีย์“คนที่โทรมาคือลาร่า จอห์นสัน เธอเป็นสาวสังคมแห่งทะเลใต้และทำหน้าที่เป็นคนกลางให้ฉันค่ะ“เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกใต้ดินทั้งสองด้าน“ฉันก็เลยขอให้เธอพาฉันไปพบกับลูกหนี้คนนั้นค่ะ"“ใครคือลูกหนี้ของคุณ?” ฮาร์วีย์ถาม“บริษัทขนส่งบริเวณท่าเรือ ซีอีโอชื่อแวนซ์ ทอฟท์ค่ะ“ว่ากันว่าเขามีภูมิหลังอยู่ในสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นคนที่ดื้อดึงอย่างมาก"“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้เหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“ทะเลใต้นั้นแตกต่างจากประเทศ H มีกลุ่มนักศิลปะการต่อสู้อยู่ไม่มากนัก ถ้าพวกเขาอยากจะฝึกฝนวิชายุทธ์ พวกเขาก็จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งนั้น"“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ เป็นสาขาหนึ่งของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้