“คุณอยากให้ผมขอโทษไอ้ตัวตลกคนนี้น่ะเหรอ? คุณล้อผมเล่นใช่ไหม?”ฮาร์วีย์จ้องมองฝูงชนอย่างเย้ยหยัน“แกกล้าดียังไง?!”ผู้หญิงที่แต่งหน้างดงามเดินออกมาจ้องฮาร์วีย์ด้วยท่าทีวางอำนาจ“แกไม่เพียงแต่ทำร้ายชายคนนี้เท่านั้น แต่แกยังดูถูกพวกเราซึ่งเป็นคนระดับสูงจากทะเลใต้ด้วย!“ถ้าแกไม่ให้คำชี้แจงอย่างยุติธรรมมาเดี๋ยวนี้ แกต้องเจอปัญหาใหญ่แน่!”“แกจะให้คำชี้แจงไหม?ฮาร์วีย์ทำสีหน้าเฉยเมย“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? คุณคิดว่าคุณสามารถมาขอคำชี้แจงแบบนี้ได้เหรอ?”“แกไม่ได้มอบกระเป๋าสตางค์ของแกให้กับพวกเราซึ่งเป็นผู้สูงศักดิ์! แกทำร้ายคนของเราคนหนึ่ง แล้วยังใส่ร้ายทุกคนที่นี่ด้วย! ตอนนี้แกคือตัวปัญหาชัด ๆ!สาวสวยคนนั้นก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้าโกรธจัด“คุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้!”ฮาร์วีย์หรี่ตามองผู้หญิงคนนั้นก่อนจะร้องบอกอย่างเย็นชา "แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะ?”“ไม่ทำเหรอ?”“ถ้าแกไม่ทำ...ก็จะโดนตำรวจสนามบินจับไปขังเป็นเวลาสามวันเต็ม! แล้วจะไม่มีโอกาสได้เข้าไปในทะเลใต้ด้วย!“นี่คือสิ่งที่แกจะได้รับถ้าคิดจะต่อกรกับเรา!”ผู้หญิงคนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างวางอำนาจ ในขณะที่หรี่ตามองด้วยท่าทีที่ดูภูมิอกภูมิใจในต
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินแบล็คเบิร์น ซิตี้อย่างปลอดภัยฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ที่นั่งในชั้นเฟิร์สคลาสได้ออกจากเครื่องบินเร็วกว่าใคร นอกจากนี้ก็ยังมีรถมาคอยรับผู้คนพวกนั้นด้วยผู้คนที่โดนฮาร์วีย์ตบก็รีบขึ้นรถที่มารอรับนั้นทันที หัวขโมยคนนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปฮาร์วีย์สองสามรูปอย่างไม่กลัวเกรง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ อย่างเย็นชาสิบนาทีต่อมารถรับส่งคันนั้นก็แล่นมาถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองด้านนอกห้องโถงสำหรับยืนรอต่อคิว“แก! หยุดอยู่ตรงนั้น!”มีการตรวจสอบผู้โดยสารหลายร้อยคนก่อนจะปล่อยตัวออกไป...แต่พอถึงคิวของฮาร์วีย์ คนในเครื่องแบบก็หยุดเขาเอาไว้ทันทีเธอมองสำรวจฮาร์วีย์ด้วยสายตาเอาเรื่องก่อนจะแสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมาไม่ไกลจากตรงนั้นนักไอ้หัวขโมยคนนั้นก็ยิ้มเยาะอย่างเย็นชาตามกฎหมายน่านฟ้าระหว่างประเทศ ทะเลใต้ไม่มีสิทธิ์ตามล่าฮาร์วีย์ในเรื่องที่เกิดขึ้นบนเครื่องบิน...แต่พวกเขาก็มีวิธีจัดการกับเขาอยู่ดีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรูปร่างสูงใหญ่สองสามคนเรียกฮาร์วีย์เข้าไปในพื้นที่กักกัน เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งฮาร์วีย์ดูเหมือนไม่ได้แยแสอะไรนัก เมื่อผู้โดยสาร
มีผู้หญิงอีกคนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“คุณอย่าอวดเบ่งมาบอกนะว่าคุณเป็นนายน้อยของบริษัทใหญ่ หรือเป็นลูกชายของผู้บังคับบัญชาระดับสูง“ตำแหน่งอะไรแบบนั้นไม่มีค่าอะไรที่นี่เลย!“ฉันขอเตือนคุณเอาไว้นะ! คุณควรจะให้ความร่วมมือและมอบรหัสผ่านกับเราซะ!“เราจำเป็นต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของคุณเพื่อหาเอกสารต้องห้าม!“ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะกักตัวคุณไว้เป็นเวลาสี่สิบแปดชั่วโมง ก่อนที่จะส่งตัวคุณกลับประเทศไป!“เราจะไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้น"หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น คนงานคนอื่น ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ทำสีหน้าขบขันตามปกติแล้วพวกเขาได้ทำการข่มขู่ผู้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายน้อยและเจ้าชายทั้งหลายด้วยกลอุบายแบบเดียวกันไม่ว่าพวกเขาจะอวดเบ่งกันขนาดไหน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้บางคนถึงกับเสนอเงินสด นาฬิกา และเครื่องประดับต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไม่ลังเลอะไรเลยไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถูกส่งตัวไปให้ตำรวจสนามบิน“ดี ในเมื่อคุณต้องการจะรับผิดชอบในเรื่องนี้ ผมก็จะให้โอกาสคุณ" ฮาร์วีย์บอกอย่างใจเย็น“เอาโทรศัพท์ของคุณมา ผมจะโทรหาใคร
ฮาร์วีย์วางโทรศัพท์สายนั้นลงอย่างใจเย็น ก่อนจะชูสามนิ้วบอกดาฟนี่ว่าเขาขอเวลาสามนาทีเท่านั้น“สามนาทีเหรอ?”ดาฟนี่ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของฮาร์วีย์“คุณคิดว่าจะอวดเบ่งได้เพียงเพราะมีคนมาร่วมแสดงโชว์กับคุณด้วยน่ะเหรอ?! “ไม่มีประโยชน์หรอก!“เราเคยเห็นคนบ้านนอกอย่างคุณมาก่อน! เราจะไม่โดนหลอกด้วยอุบายห่วย ๆ แบบนั้นหรอก!”“ถ้าคุณมีความมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่รอดูไปก่อนสิ" ฮาร์วีย์ตอบด้วยใบหน้านิ่ง“ดี! ฉันจะรอ!“ถ้าถึงเวลานั้นแล้วคุณยังออกจากสถานการณ์นี้ไม่ได้ล่ะก็ ฉันจะจัดการกับคุณเอง!”ดาฟนี่เอามือกอดอกในขณะมองฮาร์วีย์อย่างเหยียด ๆฮาร์วีย์เล่นโทรศัพท์อย่างไม่ใส่ใจเมื่อเขาเห็นข่าวว่าสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H จะได้เป็นผู้บัญชาการที่ยิ่งใหญ่คนใหม่ของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ของโลกเวลาผ่านไปสามนาทีโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดาฟนี่แสดงท่าทีเหยียดหยามออกมาเมื่อเขามองดูนาฬิกาคาร์เทียร์ของเธอ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเธอได้นาฬิกาเรือนนั้นมาจากไหน“หมดเวลาแล้วไอ้บ้านนอก คุณโชคไม่ดีเลยนะ“ฉันจะบอกอะไรให้นะ! ฉันจะส่งคุณไปให้กับตำรวจสนามบินเดี๋ยวนี้แหละ! ฉันจะให้บทเรียนที่คุณ
ใบหน้าของซีอีโอลีดูมืดมนลงทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เมื่อฮาร์วีย์พูดจบแล้ว เขาก็รีบตอบพร้อมกับโค้งคำนับด้วยความเคารพ "ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณยอร์ก"“ผมจะให้คำชี้แจงที่ยุติธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้เอง“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะทำให้แน่ใจว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มาจากประเทศ H จะไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้!” ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดอะไรออกมา ซีอีโอก็รีบเหวี่ยงฝ่ามือไปออกไปทันทีการเคลื่อนไหวของเขาช่างเป็นอะไรที่โหดเหี้ยมทว่าแม่นยำ โดยตบหน้าดาฟนี่และคนอื่น ๆ ไปรอบ ๆ ห้องจนหน้าบวมเป่งไปตาม ๆ กันผัวะ!จากนั้นซีอีโอลีก็เตะดาฟนี่ลงไปกองกับพื้น แล้วกระทืบใบหน้าที่สวยงามของเธอหลังจากนั้นจมูกของดาฟนี่หักครึ่ง มีเลือดเปรอะเปื้อนใบหน้าอันน่าเกลียดของเธอในตอนนี้ ช่างเป็นอะไรที่ดูน่าเวทนานักซีอีโอลีหันกลับมามองฮาร์วีย์อย่างให้ความเคารพยำเกรง“คุณยอร์กครับ! แค่นี้พอไหมครับ?”“ไม่พอ"ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็นเช่นเคย“คุณจะจัดการกับไอ้หัวขโมยที่ใช้กฎหมายของแบล็คเบิร์น ซิตี้ยังไง?”“ผมเข้าใจแล้วครับ"ซีอีโอลีพยักหน้าแล้วโบกมือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรูปร่างสูงใหญ่หลายคนรีบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพร้อมอาวุธครบมือกำลังตรวจตราความปลอดภัยอยู่ตรงบริเวณทางเข้าทุกจุดหลังจากเอลเลนต่อสายโทรศัพท์ไปไม่กี่ครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็ยกไม้กั้นขึ้นเพื่อให้รถแล่นเข้าไปข้างในได้รถแล่นเข้ามาถึงทางเข้าอาคารหลักแล้ว เคทีรออยู่ในบริเวณนั้นมาระยะหนึ่งแล้วเคทีเดินไปข้างหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้หลังจากเอลเอนจอดรถแล้ว“ขอบคุณที่อุตส่าห์มานะคะคุณยอร์ก“ฉันขอโทษที่ต้องโทรเรียกคุณมาแบบนี้"เคทีรู้เรื่องที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ทั้งสี่มาสร้างความกดดันให้กับประเทศ H รวมทั้งความพยายามในการช่วยเหลือของฮาร์วีย์ทุกอย่าง เธอจึงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ฮาร์วีย์เดินทางมาที่นี่อย่างรีบเร่ง ฮาร์วีย์ยิ้ม“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยหัวหน้าคอบบ์ เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอก“ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรให้มากหรอกครับ“อาการของผู้อาวุโสคอบบ์แย่ลงใช่ไหม? ให้ผมเข้าไปดูหน่อย"เคทีขมวดคิ้วเมื่อฮาร์วีย์เอ่ยถึงเรื่องนั้น“บอกตามตรงนะคะฉันได้เชิญคนในตระกูลดัง ๆ เพื่อให้มาช่วยดูอาการคุณปู่“ไม่ว่าจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ แพทย์ชื่อดัง และจอมขมังเวทย์ทั้งหลาย“แต
“คุณคอบบ์!”ชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดสีขาวได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายเคที และพยักหน้าให้เอลเลนดวงตาของเขาดูล่อกแล่กเล็กน้อยเพื่อจ้องมองไปทางฮาร์วีย์“ขอบคุณค่ะนายน้อยแพดโลว์ ขอบคุณทุก ๆ คน"เคทีพยักหน้ากับฝูงชนกลุ่มนั้นก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดสีขาว“นี่คือกาเอล แพดโลว์ ผู้ที่อยู่ในความคุ้มครองของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งทะเลใต้“เขาค่อนข้างทรงอำนาจและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งด้วย"ฮาร์วีย์พยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหันกลับไปมองเอลเลน ใบหน้าของเธอดูแดงก่ำและดูไม่ค่อยสบายใจหลังจากมองไปที่เอลเลนแล้วมองไปที่เคทีและกาเอล ฮาร์วีย์ก็ยิ้มจาง ๆเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้แต่ก่อนที่เขาจะจ่อมจมอยู่กับความคิดนั้น เคทีก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ทุ่มเทกำลังทั้งหมดให้กับอาการป่วยของคุณปู่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้“แต่ถึงกระนั้นอาการของท่านก็ยังไม่ดีขึ้นเลย แต่กลับอยู่ในสภาพที่แย่กว่าเดิม“ฉันไม่ขอตำหนิใครในเรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่าเราควรหยุดความพยายามเอาไว้เพียงแค่นี้“กลับไปพักผ่านที่บ้านกันเถอะค่ะ ตระกูลคอบบ์จะจ่ายค่าชดเชยให้กับความพยายามของพวกคุณ"เคทีเอา
"เขาเป็นชายหนุ่มอายุน้อยเท่านั้นเอง! เขาดูไม่เหมือนหมอรักษาโรคเลย ฉะนั้นเขาจะต้องเป็นนักศิลปะการต่อสู้แน่ ๆ“ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แต่ไม่มีทางที่เขาจะเก่งไปกว่าพวกเราทั้งหมดนี้“ผมสงสัยว่าเขาจะเป็นนักต้มตุ๋น! ใครจะรับผิดชอบถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นหลังจากนี้? เขาเหรอ? หรือพวกเราทุกคน?”เป็นธรรมดาที่ฝูงชนนั้นต่างมีความคิดเห็นในตัวฮาร์วีย์แตกต่างกันไปท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทุกคนต่างอยากให้เคทีมองพวกเขาในมุมมองที่ต่างออกไป แต่ยังไงก็ตามพวกเขาทั้งหมดต่างล้มเหลวในการรักษาอย่างน่าเวทนาแต่ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา ๆ คนหนึ่งกลับได้รับความเคารพยำเกรงจากเคที นี่เป็นเรื่องที่กาเอลยอมรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งเอลเลนบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ เธอไม่ได้ดูถูกฮาร์วีย์อย่างโจ่งแจ้ง แต่เห็นได้ชัดว่าเธออยู่ฝ่ายเดียวกับกาเอลฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็น แล้วหยุดยั้งเคทีไม่ให้พูดอะไรเขามองไปที่กาเอลแล้วพูดว่า "ผมไม่ได้มาจากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนหรอก และมีภูมิหลังที่ไม่น่าประทับใจอะไรเลย“ผมก็แค่เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง"“ถ้าอย่างนั้นอะไรทำให้คุณกล้ามาที่นี่ล
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข