เลย์น ไนส์เวลล์ขมวดคิ้ว เธอรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญหน้าเธอหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ลงก่อนจะมองไปรอบตัว“สถานการณ์ของนายน้อยจอห์นค่อนข้างแปลกนะทุกคน ฉันอาจใช้พลังงานทั้งหมดในการรักษาเขา วันนี้เราคงทำอะไรไม่ได้มากแล้ว!“ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะเข้าใจ!”มีคนกำลังจะก่อความโกลาหลก่อนที่อัลโด จอห์นจะโบกมือ บอดี้การ์ดของเขาเผยให้เห็นกระเป๋าเอกสารที่เต็มไปด้วยเงินสด“ได้โปรดเถิดทุกท่าน!”ระหว่างบอดี้การ์ดร่างกายสูงตระหง่านและเงินที่กองอยู่ตรงหน้า ทุกคนรู้ดีว่าจะเลือกอย่างไหนเลย์นมีท่าทางแปลก ๆ ก่อนที่จะผายมือเชิญอัลโดเข้าไปข้างในอัลโดนั่งลงตรงหน้าเลย์นก่อนที่เธอจะวางปลายนิ้วเรียวบนข้อมือของเขา คิ้วของเธอขมวดมุ่นอย่างชัดเจนในขณะนั้นหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถอนหายใจพรืดยาว“ร่างกายของคุณอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่คุณกลับบังคับตัวเองให้เรียนรู้วิชาหมัดอัคคีที่ทำให้ร่างกายของคุณสูญเสียพลังงานและเลือดเป็นเวลานาน…“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงปวดหัว ขณะที่ร่างกายร้อนรุ่มอยู่ทุกคืน“แม้ว่าสถานการณ์ของคุณจะไม่ใช่เรื่องที่รับมือได้ยาก แค่คุณต้องมาเข้ารับการรักษาที่นี่
“นั่งลงตรงนี้! ฉันจะใช้กำลังของฉันช่วยให้คุณฝ่าขีดจำกัดของตัวเองไป!”เลย์น ไนส์เวลล์ให้คนขนฟูกนั่งออกมาและชี้นิ้วให้อัลโด จอห์นนั่งบนนั้นจากนั้นเธอก็หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตบหน้าผากของเขาจากนั้นเธอก็ตบขมับของเขาก่อนจะตบตรงกลางอกและจุดอื่น ๆ…ในที่สุดเธอก็ตบบริเวณอุ้งเชิงกรานของอัลโดก่อนที่ใบหน้าของเธอจะสูญเสียสีไปจนหมด เธอกลายเป็นคนอ่อนแอทันทีในทางกลับกัน อัลโดกลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ใบหน้าของเขาแดงราวกับมะเขือเทศเลย์นล้มลงบนเก้าอี้ของเธอก่อนที่เธอจะหายใจไม่ออกอัลโดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากรู้สึกถึงพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขา“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นอัลโดเป็นเช่นนั้นพวกเขาประหลาดใจอย่างยิ่งกับภาพที่เห็น ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนในฟลัตเวลล์ต่างก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง“เป็นไปได้ยังไง?! เมื่อก่อนอัลโดดูอ่อนแอมาก แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนเป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง!”“นี่มันบ้าไปแล้ว!”“ผู้สอนไนส์เวลล์ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง!”“บางทีเราอาจจะได้เป็นยอดฝีมือก็ได้ ถ้าเธอสอนอะไรแบบนี้กับพวกเรา!”ทุกคนเต็มไปด้วยความชื่นชมเมื่อ
เลย์น ไนส์เวลล์บังคับตัวเองให้ยืนขึ้นเพื่อที่เธอจะได้ตรวจชีพจรของอัลโดจอห์นอีกครั้ง การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันในวินาทีถัดไป“เขาควบคุมพลังงานของตัวเองไม่ได้ เขากำลังจะพิการ…"เร็วเข้า! พาชายคนนี้ไปที่โกลด์เด้น พาเลซ!“ขอให้นายท่านช่วย!“ไม่มีใครช่วยเขาได้อีกต่อไปแล้ว!”จากนั้นเธอก็เหลือบมองวิลเบอร์ ลี“ถ้าคนจากตระกูลจอห์นตายขึ้นมาแล้วก็ พวกเราเดือดร้อนแน่!”โดยธรรมชาติแล้วเลย์นรู้ว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะแบกรับผลที่ตามมา แม้ว่าเธอจะเป็นศิษย์ของโกลด์เด้น พาเลซก็ตามแต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เหลือแรงที่จะช่วยอะไรได้ ในเมื่อเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีไปแล้วผู้สอนคนอื่น ๆ รีบเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยได้เมื่อพลังของอัลโดพุ่งสูงขึ้นไม่หยุด“เขาจะตายงั้นเหรอ?”วิลเบอร์ตัวสั่น เขารู้ว่าเขาจะต้องชดใช้อย่างหนักหากอัลโดตายอยู่ที่นี่ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตของเขาก็ด้อยกว่าอัลโดเป็นร้อยเป็นพันเท่า!วิลเบอร์ตะโกนใส่ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขา “เร็วเข้า!“ขึ้นรถ!“ไปส่งเขาที่โกลด์เด้น พาเลซทันที!“ถ้าเขาตาย พวกแกทุกคนจะต้องตายตามเขาไปด้วย!”หัวหน้าบอดี้การ์ดของอ
“นี่เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว”“แต่ฉันไม่ได้ช่วยนายฟรี ๆ หรอกนะ ฉันต้องการเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์จากนาย”อัลโด จอห์นตัวแข็งก่อนที่เขาจะตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้น จากนั้น เขาก็หยิบสมุดเช็คออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นเช็คที่เขาเพิ่งเขียนเสร็จให้ฮาร์วีย์ ยอร์กขณะเดียวกันก็ได้แนบนามบัตรไปกับเช็คเพื่อแสดงความขอบคุณด้วยฮาร์วีย์หยิบการ์ดและเช็คก่อนเดินออกไป“เขาเป็นยอดฝีมือ!”“เขาเป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง!”ทุกคนเริ่มตั้งสติได้ก่อนที่จะเริ่มส่งเสียงเชียร์ฮาร์วีย์ไม่มีทีท่าเหมือนปรมาจารย์ยอดฝีมือที่แท้จริงตั้งแต่เขารับเงินไป แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ช่วยใครสักคนไว้จริง ๆดิลลอน ลีและเคย์เดน บัลเมอร์เองก็ตกใจมากเช่นกัน'คุณยอร์กบ้าไปแล้ว!'พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่าการกระทำของฮาร์วีย์จะเล่นงานเลย์นและพรรคพวกของเธอได้อย่างเด็ดขาด!ในขณะนี้ ทุกคนสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าใครคือปรมาจารย์ยอดฝีมือที่แท้จริง"เกิดอะไรขึ้น?!“ทำไมนายน้อยจอห์นถึงคลุ้มคลั่งแบบนั้น!เลย์นอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น หลังจากเห็นฮาร์วีย์เดินจากไป“ฉันช่วยเขาฝ่าขีดจำกัดของตัวเองไปได้แล้ว!“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น! ฉันไม
ฝูงชนตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงหลังจากได้ยินเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมทุกคนเงียบไปหลังจากที่พวกเขาตะโกนใส่วิลเบอร์ลีก่อนหน้านี้หลาย ๆ คนคงไม่มีปัญญาสะสมเงินได้มากขนาดนี้ แม้จะทำงานมาทั้งปีแล้วก็ตาม!บางคนกำลังครุ่นคิดว่าตัวเลขเหล่านั้นมีเลขศูนย์กี่ตัว!แม้ว่าการแสดงของฮาร์วีย์ ยอร์กจะออกมาโดดเด่น แต่พวกเขาก็คงไม่อยากเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อลงทะเบียนอยู่ดีวิลเบอร์คิดว่าเขาคงจนปัญญาแล้ว ก่อนจะได้ยินว่าค่าลงทะเบียนสูงมากเพียงใด“ท้ายที่สุดแล้วหอฝึกยุทธของนายก็ไม่ได้ดีไปกว่าบูโดกันเพื่อประชาชน! ไม่ว่าอย่างไรเสียที่นี่ก็เรียกได้ว่าฟรี!” วิลเบอร์อุทานก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชา“มาถึงจุดนี้ สิ่งที่นายทำก็ไม่ต่างจากการปล้นกันกลางวันแสก ๆ หรอก!“นายคิดว่านายขึ้นราคาค่าเรียนได้ เพียงเพราะนายช่วยนายน้อยจอห์นงั้นเหรอ?!“ค่าธรรมเนียมของหอฝึกยุทธอาจจะเคยมีราคาสูงมาก่อน แต่ก็ไม่เคยสูงขนาดนี้!“นี่นายคิดจะโก่งราคากันหรือไง!“นายมันไร้ยางอาย!”คนที่ไม่มีเงินพอจะลงทะเบียนก็เริ่มมีความคิดเช่นนี้กับฮาร์วีย์แน่นอนว่าพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์ไม่ได้ให้โอกาสที่ยุติธรรมแก่พวกเขาเลย“ทุกคนคิดว่าฉันขึ้นราคาเพรา
ในขณะที่ฝูงชนกรีดร้องด้วยความโกรธ วิลเบอร์ ลีและคนอื่น ๆ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งหนีหลังจากผ่านเงินไปนับหมื่นดอลลาร์บูโดกันเพื่อประชาชนถูกปิดตัวลงทันทีหลังจากเพิ่งเปิดทำการ พวกเขาโผล่มาแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์ ยอร์กมองเคย์เดน บัลเมอร์ก่อนที่เขาจะเดินจากไป เขาไม่คิดจะสนใจปลาซิวปลาสร้อยอย่างวิลเบอร์อีกต่อไปแล้วนั่นก็เพราะสำหรับเหตุการณ์แบบนี้มันเหมาะจะให้คนอย่างเคย์เดนรับมือมากกว่าหลังจากช่วยอัลโด จอห์น และเพิ่มค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนสำหรับหอฝึกยุทธ ผู้คนก็เริ่มมองฮาร์วีย์ในมุมมองใหม่เลย์น ไนส์เวลล์และผู้สอนคนอื่น ๆ ปรากฏตัวขึ้นเมื่อฝูงชนจากไปหลังจากนั้นไม่นานพวกเขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อไปในขณะนั้นก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร เลย์นซึ่งซึ่งใบหน้าเริ่มซีดเผือดก็ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับผู้ฝึกสอนคนอื่น ๆ ทันทีก่อนที่จะโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียงกัน“คุณยอร์ก เรามาที่นี่เพื่อสมัครเข้าหอฝึกยุทธ“เพื่อแสดงความจริงใจ เราจะรับเงินเดือนเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น“ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสเรา!”ฮาร์วีย์พยักหน้า เลย์นและคนอื่น ๆ คงลังเลอยู่พักหนึ
"โอ้!ฮาร์วีย์ ยอร์กพยักหน้า“ช่างน่าประทับใจจริง ๆ“แปลว่าพวกนายกำลังอยู่ผิดที่ผิดทางใช่ไหม”“เลิกล้อเล่นได้แล้ว!”ชายวัยกลางคนแสดงท่าทีเคร่งครัดขณะวางมือบนดาบยาวของเขา“ตามกฎของสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ ทุกบูโดกันจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา!“นี่เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้คนใช้ศิลปะการต่อสู้ในการหลอกลวงผู้อื่น และสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้คน!“เมื่อคืนนี้เราได้รับรายงานว่าหอฝึกยุทธมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง โดยใช้เล่ห์เหลี่ยมในการหลอกลวงผู้อื่น!“สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะสอบสวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด!“เรามีสิทธิ์ดำเนินการก่อนที่จะรายงานไปยังเบื้องบน ดังนั้นคุณไม่ควรพยายามขวางเรา!“เพราะหากจำเป็นเราจะใช้กำลัง!”คำพูดของชายวัยกลางคนนั้นฟังดูสงบและมั่นคง แต่ก็ให้ความรู้สึกเย่อหยิ่งและทนงตนในขณะที่เขาพูดเรื่องเกี่ยวกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้ราวกับว่าเขากำลังประกาศอำนาจของเขาให้ทุกคนรอบตัวได้ยินเขาไม่คิดจะแยแสต่อปฏิกิริยาของฮาร์วีย์ในขณะนั้น เขาส่งสัญญาณมือและอุทานอย่างเย็นชา “ค้นให้ทั่ว!“ถ้าที่นี่มีอะไรไม่ชอบมาพากลละก็ เราจะปิดมันทันที!“หากใครขัดขืน เราจะหักแขนขาของ
"ใช่! ถ้าเขาแค่อยากรวย ทำไมเขาถึงมาพูดกับเราเรื่องปรัชญาของศิลปะการต่อสู้ด้วยล่ะ?!”“เขาทำแบบนี้แล้วเขาจะกลายเป็นนักต้มตุ๋นได้ยังไง!”หลังจากไตร่ตรองสถานการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว คนเหล่านั้นก็มีความไว้วางใจและการยอมรับในตัวฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นอย่างสูง“พวกนายมันโง่จริงๆ! ถ้าไม่ใช้คนที่คำพูดมีน้ำหนักพอจะโน้มนะพวกนายได้ แล้วเขาจะหลอกนายให้เชื่ออย่างสนิทใจได้ยังไง!“เลย์น ไนส์เวลล์และคนอื่น ๆ ทำงานให้เขาก่อนจะทำทีเป็นไม่ถูกกัน!“กล้าพูดไหมล่ะว่านั่นไม่ใช่แค่การแสดง?!”นักเรียนที่พูดขึ้นก็เงียบลงทันที พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไรในตอนนี้หลังจากที่เห็นว่าความเชื่อของเหล่านักเรียนกำลังสั่นคลอน โบเดน ออสบอร์นก็หัวเราะอย่างเหยียดหยาม“ฉันรู้พวกนายเองก็ไม่เชื่อว่าฮาร์วีย์จะเก่งแค่สร้างสถานการณ์ไปวันๆเท่านั้น!“นี่แหละเหตุผล เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นแค่นักต้มตุ๋น ฉันจึงเชิญเจ้าหน้าที่จากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้สองสามคนมาที่นี่!“คนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือ! และทุกคนจะได้รู้ว่าฮาร์วีย์เป็นเพียงนักต้มตุ๋นในไม่ช้า!”โบเดนถอยหลังไปสองสามก้าว“หวังว่าพวกคุณจะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาได้”ฮ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข