บัตเลอร์จอห์นหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน “นายคิดว่าเราจะให้โอกาสนายจริง ๆ เหรอ!"ไป! ทำให้เขาพิการซะ!”ผู้คนในชุดคลุมสีทองก้าวไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ดวงตาของพวกเขาเย็นชา การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของพวกเขาประสานกันเป็นจังหวะได้พอดิบพอดี จนถึงจุดที่แม้แต่จังหวะการหายใจของพวกเขาก็ยังพร้อมเพียงกัน มันเป็นภาพที่ค่อนข้างน่าขนลุกฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“พวกนายจะทำให้ฉันพิการงั้นเหรอ?“เชื่อฝีมือของสามคนนี้เนี่ยนะ?“เลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า“อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย“ทำไมไม่ดาหน้าเข้ามาเลยล่ะ”“ให้เราทุกคนดาหน้าเข้าไปเนี่ยนะ? นายไม่มีสิทธิ์มาทำให้บัตเลอร์จอห์นต้องทำงานสกปรก!”บัตเลอร์จอห์นหัวเราะอย่างสมเพช“พวกนายสามคน! เข้าไปพร้อมกันเลย!“ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว!”คนในชุดคลุมสีทองพยักหน้าก่อนจะโบกมือ หลังจากนั้น ลูกธนูที่ซ่อนอยู่ก็บินไปทางฮาร์วีย์ด้วยความเร็วแสงฮาร์วีย์รู้ว่าลูกธนูดังกล่าวอันตรายเพียงใดเมื่อเขาเห็นท่าทางมั่นใจของศัตรูเขาถอยหลังไปสองสามก้าว แทนที่จะพุ่งไปข้างหน้าตูม ตูม ตูม!เศษไฟกระจายไปทั่วสถานที่
พวกพยัคฆ์ทะเลเหนือยิ้มอย่างสมเพช“ฉันไม่สนหรอกว่านายเป็นใคร แต่นายไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลจอห์น!”แอนเซลก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็นก่อนที่จะเหวี่ยงดาบออกไปการกวัดแกว่งนั้นไม่ได้เร็วนัก แต่ก็มากพอจะทำให้เกิดแสงจ้าคล้ายแสงจันทร์ขึ้นได้ใบหน้าของชายที่พูดเปลี่ยนไปทันทีเขารู้สึกได้เลยว่าเขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของแอนเซลการฟาดฟันของอีกฝ่ายดูคล้ายจะช้ามากในสายตาของเขาช้าจนเขาเผลอคิดไปว่าเขาสามารถรับมือกับมันได้แต่ว่า เขากลับรู้สึกว่าเขาช้ายิ่งกว่าการฟันของศัตรูซะอีก...นี่มันหมายความว่าอย่างไร?การโจมตีในครั้งนี้นั้นเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจ!ซึ่งก็แปลได้ว่า เขาไม่มีทางป้องกันตัวเองจากคมดาบนั้นได้เลย!ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจอยู่เฉยรอให้อีกฝ่ายมาเล่นงานเขาได้เขากัดฟัน โบกมือออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะยิงธนูที่ซ่อนเอาไว้ในที่สุดทุกคนก็สามารถเห็นการโจมตีของแอนเซลพวกเขายังเผลอคิดไปว่าสถานที่โดยรอบจะพังลงอย่างไม่เป็นท่าเสียแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าชายคนนั้นต่างหากที่เป็นฝ่ายล้มลงกับพื้น ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้โดยสิ้นเชิง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านรอยแผลขนาดให
“ชื่อของฉันงั้นเหรอ?“ทำราวกับว่าถ้ารู้ว่าฉันเป็นใครแล้วเธอจะมีปัญญามาแก้แค้นอย่างนั้นแหละ“ถ้าไม่ใช่เพราะตัวตนที่ฉันมี ฉันคงฆ่าเธอไปเป็นร้อยครั้งแล้ว”แอนเซลมองเธอด้วยท่าทางเย็นชาคนที่เหลือได้แต่ยืนตากระตุกอยู่อย่างนั้นพวกเขาปลดเซฟตี้ของปืนออกทันที แต่ในขณะนั้นอาวุธของพวกเขาเย็นวาบและหนักผิดปกติฮาร์วีย์มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น ในตอนที่เขาเลือกเกษียณตัวเองออกมาเมื่อนานมาแล้ว แอนเซลเองก็ทำแบบเดียวกัน ในตอนนั้นแอนเซลยังไม่ใช่เทพสงครามแต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแอนเซลก็ฝึกตัวเองอย่างหนัก เขาจะสามารถทะลวงขีดจำกัดของตัวเองและสามารถขึ้นเป็นเทพสงครามคนใหม่ได้ หากมีโอกาสได้แสดงฝีมือ!ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจกับทักษะของแอนเซลเขาแทบไม่ต้องเสียแรงเลยด้วยซ้ำ“ฉันก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็ผู้บัญชาการตอร์เรสนี่เอง!”ในที่สุดบัตเลอร์จอห์นก็จำแอนเซลได้ ในขณะที่ทุกคนตัวแข็งอยู่กับที่“ผู้บัญชาการตอร์เรสผู้เลื่องชื่อมีทักษะที่น่าสะพรึงกลัวหลังกลับจากกองทัพ และใช้โอกาสนี้ก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์”“ฉันน่ะสงสัยจริง ๆ ว่าเด็กเหลือขอไร้สมองอย่างนายจะมีทัก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องโถงด้านข้างคฤหาสน์ตระกูลจอห์น ชายรูปงามในชุดสูทเตะบัตเลอร์จอห์นลงกับพื้นอย่างโหดเหี้ยม“แอนเซลพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?“อะไรทำให้เขาโอหังได้ขนาดนั้น!“เขาคิดว่าเขาจะทำอะไรตามอำเภอใจได้เพียงเพราะเขามีความสามารถในการต่อสู้งั้นเหรอ“เขาลืมไปหรือเปล่าว่าลุงของฉันทำให้พ่อของเขาพิการด้วยการเคลื่อนไหวเพียงกระบวนท่าเดียว!“เขาคิดว่าเขาจะสามารถจัดการตระกูลจอห์นได้เพียงเพราะเขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์เหรอ!“เจ้าโง่นั่น!”ชายหนุ่มรูปงามเผยสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่งเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยของตระกูล อย่างเอลเลียต จอห์นนั่นเอง!ดาห์เลียเป็นน้องสาวของเขาหลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เอลเลียตวางแผนที่จะจัดการกับสถานการณ์แทนน้องสาว และทวงคืนศักดิ์ศรีให้กับตระกูลด้วยปฏิบัติการในครั้งนี้ เขาไม่สนว่าเรื่องนี้ใครจะถูกหรือผิดเขาออกคำสั่งให้กลุ่มพยัคฆ์ทะเลเหนือลงมือโดยมีบัตเลอร์จอห์นผู้เป็นแขนขาของเขาได้อย่างไรที่ติมาโดยตลอดเคียงข้างพวกเขาไปด้วย เอลเลียตคิดว่าเขาจะสามารถโค่นฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดายอีกนัยหนึ่ง ตระกูลของเขาจะ
ชายสูงอายุในวัยห้าสิบเดินกอดอกก้าวมาข้างหน้าชายผู้นี้เป็นหัวหน้าตระกูลจอห์น กาวิน จอห์นเขาเป็นพ่อของเอลเลียต และยังเป็นน้องชายของผู้นำระดับสูงของโกลด์เด้น พาเลซอีกด้วย“แอนเซลไม่มีความหมายอะไรเลย“แม้ว่าเขาจะเป็นเทพสงคราม แต่เขาก็เทียบกับโกลด์เด้น พาเลซไม่ได้“ถึงอย่างนั้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนก็ไม่ใช่คนที่เราจะล้อเล่นด้วยได้!“เราจะไม่พูดถึงสงครามระหว่างยูโร-อเมริกา แต่เป็นเรื่องหลังจากนั้น สงครามโลกครั้งที่หนึ่งในตะวันออกกลาง“เป็นเพราะหัวหน้าผู้ฝึกสอน เทพสงครามจากประเทศอื่น ๆ จึงไม่กล้าก้าวเข้ามาในเขตแดนของประเทศ H แค่เหตุผลข้อนี้เพียงอย่างเดียวก็พอที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน“จนกว่าจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลตอร์เรสกับผู้ชายคนนั้น…“การตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาในตอนนี้ไม่เข้าท่าเลยสักนิด“ปล่อยให้แอนเซลปกป้องฮาร์วีย์ตามที่เขาต้องการได้เลย“ทำไมนายต้องสู้กับคนที่มีกำลังสนับสนุนมากมายขนาดนั้นเพื่อคนที่นายไม่รู้จักด้วย?”กาวินมองเอลเลียตด้วยแววตาขมขื่น“คราวหน้า หัดใช้สมองแทนอารมณ์ และเลิกพูดอะไรโง่ ๆ เพียงเพราะถูกอารมณ์พาไปได้แล้ว”“ผมมันสะ
เมื่อคิดถึงไอ้บ้านนอกที่ไม่เห็นหัวตระกูลจอห์นเลยแม้แต่น้อย เอลเลียต จอห์นก็ยิ่งโกรธจัดนั่นก็เพราะเขาทัดเทียมกับนายน้อยจากตระกูลบาวเออร์ทั้งสามคนเลยด้วยซ้ำเขายอมตายดีกว่าถูกเหยียดหยามแบบนี้!นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขาถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เกวิน บาวเออร์หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะตบไหล่ของเอลเลียต"ใจเย็น ๆ น่า“ในเมื่ออันเซล ตอร์เรสยืนกรานว่าเขาจะปกป้องฮาร์วีย์ ยอร์กให้ได้ เราก็จำต้องให้ความเคารพแก่คนที่หนุนหลังเขาสักหน่อย“เราจะไม่แตะต้องฮาร์วีย์“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่ทำ!“ฮาร์วีย์เปลี่ยนเฟร็ดดี้ การ์เซียให้กลายเป็นผัก เขาเป็นอัจฉริยะชั้นยอดของอารามสวรรค์!“บอกฉันซิ ถ้าเกิดเขาตายขึ้นมาล่ะ…“พวกอินเดียที่ต้องพบกับความทุกข์ระทมเช่นนั้นคงไม่อาจวางเฉยได้ และคงจะลุกขึ้นมาต่อต้านฮาร์วีย์แน่ ถูกไหม?”กาวินมีท่าทางขี้เล่นในขณะที่เขาอธิบายสถานการณ์ให้เอลเลียตฟังชนชั้นสูงที่แท้จริงไม่ควรเอาแต่ไล่ตามเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้าเพียงอย่างเดียวพวกเขาจำเป็นต้องมองทุกอย่างจากมุมมองที่กว้างขึ้น ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงจะสามารถวางแผนที่จะทำให้พวกเ
เวลาเก้าโมงเช้า ที่โรงพยาบาลเพื่อประชาชนแห่งฟลัตเวลล์ฮาร์วีย์ ยอร์กนำผลไม้ที่เขาเก็บก่อนหน้านี้มาเยี่ยมแมนดี้ ซิมเมอร์นั่นเพราะภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะทุ่มเทถึงขนาดนี้ลิเลียน เยตส์ทนฮาร์วีย์ไม่ได้ แต่เขาเข้าใจดีว่าเธอจะมีพฤติกรรมแบบไหนดังนั้นทุกครั้งที่เขามาเยี่ยมแมนดี้เขาจึงมักจะนำเช็คก้อนโตมาเพื่อปิดปากลิเลียนเสมอลิเลียนเป็นผู้หญิงหน้าเลือด แต่ก็ดีที่เมื่อได้เงิน เธอก็สามารถปิดปากของตัวเองลงได้สนิท ฮาร์วีย์จึงสามารถรักษาสุขภาพจิตของตัวเองได้เป็นอย่างดีตลอดเวลาที่ต้องอยู่ร่วมกับเธอหลังจากคุยกับแมนดี้เพียงเล็กน้อย ฮาร์วีย์ก็ทิ้งผลไม้ไว้และเดินจากไป เพราะเขาไม่ต้องการรบกวนการพักผ่อนของแมนดี้เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ฮาร์วีย์จึงสวมหน้ากากอนามัยอย่างระมัดระวัง และเตือนแมนดี้และลิเลียนไม่ให้ออกจากห้องผู้ป่วยเพื่อที่พวกเธอจะได้ไม่ไปรับเชื้ออะไรมาขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะลงไปชั้นล่าง ลิฟต์ก็ถูกเปิดออก แพทย์ผู้ซึ่งสวมเสื้อกาวสีขาวและสวมหน้ากากอนามัยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรถเข็น ส่วนสูงและน้ำหนักของเขาเกือบจะเท่ากับของฮาร์วีย์แพทย์คนนั้นหรี่ตาเล็
แพทย์หนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าชาวอินเดียเหล่านี้เริ่มสงสัยในตัวเขา“ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อน เขามีบัตรประจำตัวมาด้วย“ได้โปรดดูนี่”แพทย์นำแล็ปท็อปออกมายื่นให้แกชาวอินเดียเหล่านั้นชาวอินเดียถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเห็นสิ่งที่นายแพทย์คนนั้นทำ พวกเขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่านายแพทย์ผู้นี้เป็นแพทย์อย่างแท้จริงแต่ทันทีที่คนอินเดียลดความระแวดระวังลง แพทย์ก็โบกมือ ทิ้งกระป๋องและขวดทุกขวดลงจากรถเข็นกลิ่นฉุนค่อย ๆ โชยออกมาหลังจากสิ้นเสียงระเบิดเบา ๆชาวอินเดียสองสามคนที่อยู่ข้างหน้าไม่อาจตอบสนองต่อสถานการณ์ได้เท่าทัน ทันทีที่สูดแก๊สเข้าปอด พวกเขาก็ล้มลงกับพื้นขณะที่ฟองสีขาวปรากฏขึ้นเต็มปากชาวอินเดียที่เหลือมีสีหน้าเปลี่ยนไปก่อนจะชักปืนออกมา“อย่าขยับ!”“นายเป็นใครกัน!”นายแพทย์คนนั้นทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินคำขู่ เขาขยับมือก่อนที่มีดผ่าตัดจะบินออกจากแขนเสื้อ“อ๊าก!”เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดดังไปทั่ว ชาวอินเดียล้มลงกับพื้นพวกเขากอบกุมแขนของตัวเองด้วยสีหน้าน่าสยดสยองขณะที่ชาวอินเดียได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์หนุ่มผู้นั้นก็เตะประตูให้เปิดออกแล้วเดินตรงไปหาเฟร็ดดี้ปึก!ศีรษะของเฟร็ดดี้