ในขณะนี้การจ้องมองของฮาร์วีย์ ยอร์กมีเพียงแววแห่งความเหยียดหยามพอลล่า เบเกอร์โกรธมาก เธอชี้ไปที่ฮาร์วีย์ด้วยนิ้วที่ขาวซีดอ่อนนุ่มของเธอ"ไป! จัดการเขาเดี๋ยวนี้!” เธออุทาน“เล่นงานพวกมันทุกคนที่นี่ให้หมด!“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ผ่านการฝึกอบรมมาจำนวนสามสิบสี่คนล้อมรอบฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ เอาไว้ ขณะหัวเราะอย่างเย็นชา“อ๊า! พวกเขาจะเล่นงานเราแล้ว!”ลิเลียน เยตส์ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงพยาบาลของแมนดี้ ซิมเมอร์ด้วยความกลัวรูดอล์ฟและคนอื่น ๆ มีสีหน้าสยดสยอง ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็จะได้รับเพียงความเคารพนับถือจากผู้คน พวกเขาแทบไม่เคยต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้เลย“ระวังด้วยนะ ฮาร์วีย์!” แมนดี้อุทานด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงใบหน้าของซีนเธียร์ซีดเผือดราวกับกระดาษ ไม่คาดคิดเลยว่าคนในโรงพยาบาลนี้จะหยิ่งผยองได้เช่นนี้“พี่เขย เราจะทำยังไงดี…?” เธออดไม่ได้ที่จะถามเรน่า ลีเยาะเย้ย"เธอจะทำอะไรได้?“มาถึงขั้นนี้แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก?“เธอเสร็จแน่!”"ใช่! เธอเสร็จแน่!” นางพยาบาลคนสวยเอ่ยขึ้นพร้อมกัน“กล้าดียังไงมาหาเรื่องโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้!”“นี
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!เสียงตบดังขึ้นหลายครั้งก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนจะถูกส่งตัวให้ลอยออกไปหลังจากความรู้สึกเจ็บแปลบที่พวงแก้มปรากฏขึ้นในเวลาเพียงสิบวินาที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามสิบสี่คนของโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้ก็นอนหน้านิ่งอยู่บนพื้นหมดแล้ว พวกเขาทั้งหมดกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ในขณะที่มีฟองสีขาวไหลออกจากปากของพวกเขา พวกเขาไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืนในตอนนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กเหลือบมองไปยังพอลล่า เบเกอร์อย่างใจเย็น“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคุณนี่ไร้ประโยชน์จริง ๆ!” เขาอุทาน“แบบนี้คุณก็เอาชนะผมไม่ได้แล้วสิ”"แก…"แกมันบ้าไปแล้ว!พอลล่าก้าวถอยหลังอย่างรีบร้อน เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องหลังจากรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น“บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะ! กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้!“นี่แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วสินะ!“โทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้ เรน่า ลี! บอกให้เขาส่งคนมา!“บอกพวกเขาไปว่ามีคนก่อปัญหาที่นี่!“ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะสู้เก่งขนาดไหน! เพราะไม่ว่ายังไงแกก็ไม่มีทางทำอะไรตำรวจได้แน่!”พอลล่ามีท่าทีหยิ่งผยองเธอชี้ไปที่ฮาร์วีย์อย่างมั
“ฝันหวานของคุณจบลงแล้ว บอกทุกคนที่อยู่เบื้องหลังคุณสิว่าโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้กำลังจะล้มละลาย”คำพูดอันราบเรียบของฮาร์วีย์ ยอร์กนั้นทรงพลังไม่น้อยพอลล่า เบเกอร์ เรน่า ลี และเหล่าพยาบาลหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาพวกเขาทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้มาเป็นเวลานาน ซึ่งมันก็หมายความว่าพวกเขาเคยเห็นผู้คนที่เอาแต่พูดเรื่องไร้สาระแบบนี้เสมอ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ที่นี่เอารัดเอาเปรียบแต่น่าเสียดายที่โรงพยาบาลฟราเทอนิตี้มีภูมิหลังอันมั่นคง ณ จุดนี้ไม่มีใครสามารถทำให้พวกเขาสั่นไหวได้ทุกคนที่พวกเขาเผชิญหน้านั้นก็ล้วนแต่เป็นพวกปลาซิวปลาสร้อยที่หน้าซื่อใจคดหรือไม่ก็เป็นคนไร้ประโยชน์ที่พอจะพึ่งพาอำนาจของคนอื่นในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์ก็คงเป็นเหมือนคนพวกนั้นไม่มากก็น้อยพอลล่าหัวเราะอย่างเย็นชา"โอ้? นี่คุณเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน?“เพิ่งเปิดดูในโทรศัพท์ของตัวเองหรือไง?“คนที่ไม่รู้คงคิดว่านายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรืออะไรทำนองนั้นไปแล้ว!"นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร?“รู้ไหมว่าที่นี่ยิ่งใหญ่แค่ไหน?“ถ้าเราต้องการแม้แต่เราจะจับนายถ่วงน้ำก็ยังได้!“นายคิดว่าจะจัดการกับพวกเราทุกคนได้สำ
"มา! พาตัวพวกนี้ออกไป! ถ้าพวกเขาขัดขืนก็ลงโทษเสียตรงนี้แหละ!” หัวหน้าโฮเซ่ วิลเลียมส์เอ่ยขึ้นฮาร์วีย์ ยอร์กเหลือบมองหัวหน้าวิลเลียมส์อย่างสงสัยแล้วพูดว่า “คุณมาจากสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ใช่ไหม?“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วทำไมไม่สอบสวนตรงนี้เลยล่ะ?“หรือแค่คิดจะมาจับใครตามอำเภอใจเท่านั้น?“คุณเคยคิดถึงผลที่จะตามมาหลังจากทำแบบนี้หรือเปล่า”หัวหน้าวิลเลียมส์หัวเราะอย่างเย็นชา“ฉันเป็นหัวหน้าของที่นี่ ไอ้สารเลว! ไม่ต้องให้แกมาคอยสอน!“แกนั่นแหละที่เป็นฝ่ายฝ่าฝืนกฎหมาย! ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างฉัน แน่นอนว่าฉันปล่อยแกไปไม่ได้!“และถ้าแกยังจ้อไม่หยุด ฉันจะยิงแกมันเสียตรงนี้แหละ!”หัวหน้าวิลเลียมส์ขึ้นเสียงพร้อมแสดงท่าทางโกรธเคืองเขายื่นมือออกไปตบหน้าฮาร์วีย์เพื่อที่เขาจะได้อวดอำนาจของตัวเอง"อะไร? คิดจะทำร้ายผมเหรอ?” ฮาร์วีย์เอ่ยถามอย่างใจเย็นขณะกดหมายเลขบนโทรศัพท์“ลองคุยกับคนในสายนี้แล้วคิดดูอีกทีดีกว่า”"แก…"หัวหน้าวิลเลียมส์กำลังจะลงไม้ลงมือ แต่เขาลังเลเมื่อเห็นท่าทางสงบของฮาร์วีย์ ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์ไปในเวลาเพียงสิบวินาที หัวหน้าวิลเลียมส์ก็แสดงสีหน้าสยดสยองออกมา ขณะพยา
รอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฏบนแก้มของโฮเซ่ วิลเลียมส์ร่างกายของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาอยากจะยิงฮาร์วีย์ ยอร์กให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น“ผมต้องขอโทษด้วย คุณยอร์ก!” เขาเอ่ยปากขึ้นแต่ตอนนี้เขาไม่อาจทำอะไรได้เลยตัวเขาเทียบกับอันเซล ตอร์เรสไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!เขาจะสู้กับฮาร์วีย์ในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง?"มานี่"ฮาร์วีย์กวักนิ้วเรียกโฮเซ่ เขาไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายลอยนวลไปได้"บอกผมมา พอลล่าจ่ายเงินให้คุณเดือนละเท่าไหร่?”โฮเซ่ตัวสั่น“ห… หนึ่งพันสี่ร้อยดอลลาร์…”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ตบหน้าโฮเซ่อีกครั้ง“นี่คุณซื้อได้ด้วยเงินอันน้อยนิดขนาดนี้เองหรือ?!“เธอใช้เศษเงินนั่นซื้อคุณได้เลยเนี่ยนะ!“หนึ่งพันสี่ร้อยเหรียญ!“คุณกำลังทำให้ทั้งกองกำลังตำรวจต้องขายหน้า!”เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ตบโฮเซ่อีกสองสามครั้ง“คุณรับสินบนจากที่นี่ และยังกล้ามาพูดเรื่องกฎหมายกับผมเนี่ยนะ?"ไหนดูซิ! บอกผมหน่อยว่าสำหรับคุณกฎหมายมันคืออะไร!"เร็วเข้า!"โฮเซ่เอียงศีรษะลงขณะที่ดวงตาของเขากระตุกอยู่ตลอดเวลา เขาดูไม่ต่างจากหมูที่รอถูกเชือด ฮาร์วีย์กำลังอบรมอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?เขาถามถึงความหมายของ
เรน่า ลีและคนอื่น ๆ ตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้น“นายน้อยตอร์เรส!” พวกเขากรีดร้องชายคนนั้นเชยคางของเรน่าขึ้น ก่อนที่จะเตะโฮเซ่ วิลเลียมส์ลงไปที่พื้น“ขยะไร้ประโยชน์! นายไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรับใช้ฉัน!”โฮเซ่รู้สึกละอายใจเขาเอาเปรียบผู้คนทุกที่ที่เขาไป เขามีเงินหนึ่งพันสี่ร้อยดอลลาร์เข้ากระเป๋าอยู่ทุกเดือนแต่ในช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุดเขากลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง เขาไม่มีอำนาจที่จะต่อกรกับใครได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกไปจากที่เกิดเหตุ แต่เขาก็หลบไปด้านข้างเพื่อรอดูว่าฝ่ายไหนแข็งแกร่งกว่า ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้รู้ว่าเขาควรจะเข้าพวกกับใคร“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะไอ้สารเลว! นายน้อยตอร์เรสผู้นี้คือหลานชายของผู้อาวุโสตอร์เรส!“เขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของแอนเซล ตอร์เรสและเนลสัน ตอร์เรสด้วย!“เขาคือเบรดี้ ตอร์เรสนั่นเอง!พอลล่ารู้สึกมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อได้ได้พบกับผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอปลายจมูกของเธอชี้ไปยังฮาร์วีย์ก่อนที่เธอจะเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“คุณชายตอร์เรสยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้อีกด้วย!“ถ้านายมีปัญหากับโรงพยาบาลนี้ ก็เท่
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ! พวกเขาก็เป็นแค่กลุ่มตัวตลกอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น!”ซีนเธียร์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าฮาร์วีย์ดูแคลนอีกฝ่ายเกินไปหน่อยแต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพราะเห็นแก่หน้าเขา“นี่นายคิดว่าพวกเราเป็นตัวตลกเหรอ!”“ใครใช้ให้นายกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา!”“รู้ไหมว่าเราเป็นใคร!”“เราไม่ใช่แค่คนในวงสังคมชั้นสูงธรรมดาทั่วไป แต่เราทุกคนเป็นญาติกับคณะรัฐบาลที่นี่!”“แค่ดีดนิ้วทีเดียวเราก็สามารถจัดการกับพวกบ้านนอกอย่างนายได้แล้ว!”“แล้วนายกล้าดียังไงมาเรียกเราว่าตัวตลก!”คนกลุ่มนี้จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามบนใบหน้า“ตายแล้วเจ้าหนู! นายไม่รู้อะไรเลยหรือที่คิดจะมาสู้กับผู้อำนวยการเบเกอร์ที่นี่ และการที่นายล้อเลียนเราก็จะทำให้นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่แต่โดยดีด้วย!”"โอ้! ผู้หญิงพวกนี้ดูใช้ได้ทีเดียว! พอเสร็จเรื่องแล้วฉันคงต้องขอเล่นสนุกกับพวกเธอสักหน่อย! ถ้าไม่ทำคงเสียดายของแย่!”เศรษฐีเพลย์บอยหัวเราะอย่างเย็นชาขณะมองไปที่ฮาร์วีย์ราวกับว่าเขาเป็นลูกแกะที่ถึงคราวถูกเชือดเหล่าสาวสวยที่มากับคนพวกนั้นโบกซิการ์ในมือขณะมองฮาร์วีย์อย่างสนุกสน
“ตลอดชีวิตของฉัน ฉันเคยเห็นคนหยิ่งผยองมามากมาย…”“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ที่ฉันได้พบกับคนที่กล้าท้าทายฉันถึงขนาดนี้!”เบรดี้ ตอร์เรสยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กเขายังยกนิ้วโป้งให้ฮาร์วีย์อีกด้วย“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นนายน้อยจากไหน…“และไม่รู้ด้วยว่านายเป็นคนของตระกูลใด…“แต่ฉันบอกได้เลยว่าฉันมีอำนาจเหนือทั้งฟลัตเวลล์!“นายจะต้องคุกเข่าต่อหน้าฉัน!“ไม่ว่านายจะเป็นใครก็ตาม!“ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอกนะ!“หักแขนขาของตัวเองให้หมด!“แล้วยกสาวๆให้มาอยู่กับฉันสักสามวันสามคืน!“แล้วฉันจะปล่อยนายไป!“ถ้านายไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ฉันก็จะให้เวลานายครึ่งชั่วโมง ให้นายโทรหาใครก็ได้ที่นายต้องการ!“ถ้านายทำให้ฉันกลัวได้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกนายว่า 'พ่อ' เลยทีเดียว!“แต่ถ้านายทำให้ฉันกลัวไม่ได้ นายต้องยอมหักแขนหักขาของตัวเองทิ้ง!"เข้าใจที่ฉันพูดไหม?!"เบรดี้จุดซิการ์อย่างไม่แยแสขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยองราวกับว่าฟลัตเวลล์อยู่ใต้เท้าเขา...และเขาก็เป็นราชาที่แท้จริงของที่นี่พอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความยินดีหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข