เรน่า ลีและคนอื่น ๆ ตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้น“นายน้อยตอร์เรส!” พวกเขากรีดร้องชายคนนั้นเชยคางของเรน่าขึ้น ก่อนที่จะเตะโฮเซ่ วิลเลียมส์ลงไปที่พื้น“ขยะไร้ประโยชน์! นายไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรับใช้ฉัน!”โฮเซ่รู้สึกละอายใจเขาเอาเปรียบผู้คนทุกที่ที่เขาไป เขามีเงินหนึ่งพันสี่ร้อยดอลลาร์เข้ากระเป๋าอยู่ทุกเดือนแต่ในช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุดเขากลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง เขาไม่มีอำนาจที่จะต่อกรกับใครได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกไปจากที่เกิดเหตุ แต่เขาก็หลบไปด้านข้างเพื่อรอดูว่าฝ่ายไหนแข็งแกร่งกว่า ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้รู้ว่าเขาควรจะเข้าพวกกับใคร“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะไอ้สารเลว! นายน้อยตอร์เรสผู้นี้คือหลานชายของผู้อาวุโสตอร์เรส!“เขายังเป็นลูกพี่ลูกน้องของแอนเซล ตอร์เรสและเนลสัน ตอร์เรสด้วย!“เขาคือเบรดี้ ตอร์เรสนั่นเอง!พอลล่ารู้สึกมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อได้ได้พบกับผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอปลายจมูกของเธอชี้ไปยังฮาร์วีย์ก่อนที่เธอจะเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“คุณชายตอร์เรสยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้อีกด้วย!“ถ้านายมีปัญหากับโรงพยาบาลนี้ ก็เท่
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้ม"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ! พวกเขาก็เป็นแค่กลุ่มตัวตลกอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น!”ซีนเธียร์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าฮาร์วีย์ดูแคลนอีกฝ่ายเกินไปหน่อยแต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพราะเห็นแก่หน้าเขา“นี่นายคิดว่าพวกเราเป็นตัวตลกเหรอ!”“ใครใช้ให้นายกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา!”“รู้ไหมว่าเราเป็นใคร!”“เราไม่ใช่แค่คนในวงสังคมชั้นสูงธรรมดาทั่วไป แต่เราทุกคนเป็นญาติกับคณะรัฐบาลที่นี่!”“แค่ดีดนิ้วทีเดียวเราก็สามารถจัดการกับพวกบ้านนอกอย่างนายได้แล้ว!”“แล้วนายกล้าดียังไงมาเรียกเราว่าตัวตลก!”คนกลุ่มนี้จ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามบนใบหน้า“ตายแล้วเจ้าหนู! นายไม่รู้อะไรเลยหรือที่คิดจะมาสู้กับผู้อำนวยการเบเกอร์ที่นี่ และการที่นายล้อเลียนเราก็จะทำให้นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่แต่โดยดีด้วย!”"โอ้! ผู้หญิงพวกนี้ดูใช้ได้ทีเดียว! พอเสร็จเรื่องแล้วฉันคงต้องขอเล่นสนุกกับพวกเธอสักหน่อย! ถ้าไม่ทำคงเสียดายของแย่!”เศรษฐีเพลย์บอยหัวเราะอย่างเย็นชาขณะมองไปที่ฮาร์วีย์ราวกับว่าเขาเป็นลูกแกะที่ถึงคราวถูกเชือดเหล่าสาวสวยที่มากับคนพวกนั้นโบกซิการ์ในมือขณะมองฮาร์วีย์อย่างสนุกสน
“ตลอดชีวิตของฉัน ฉันเคยเห็นคนหยิ่งผยองมามากมาย…”“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ที่ฉันได้พบกับคนที่กล้าท้าทายฉันถึงขนาดนี้!”เบรดี้ ตอร์เรสยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กเขายังยกนิ้วโป้งให้ฮาร์วีย์อีกด้วย“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นนายน้อยจากไหน…“และไม่รู้ด้วยว่านายเป็นคนของตระกูลใด…“แต่ฉันบอกได้เลยว่าฉันมีอำนาจเหนือทั้งฟลัตเวลล์!“นายจะต้องคุกเข่าต่อหน้าฉัน!“ไม่ว่านายจะเป็นใครก็ตาม!“ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอกนะ!“หักแขนขาของตัวเองให้หมด!“แล้วยกสาวๆให้มาอยู่กับฉันสักสามวันสามคืน!“แล้วฉันจะปล่อยนายไป!“ถ้านายไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ฉันก็จะให้เวลานายครึ่งชั่วโมง ให้นายโทรหาใครก็ได้ที่นายต้องการ!“ถ้านายทำให้ฉันกลัวได้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกนายว่า 'พ่อ' เลยทีเดียว!“แต่ถ้านายทำให้ฉันกลัวไม่ได้ นายต้องยอมหักแขนหักขาของตัวเองทิ้ง!"เข้าใจที่ฉันพูดไหม?!"เบรดี้จุดซิการ์อย่างไม่แยแสขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยองราวกับว่าฟลัตเวลล์อยู่ใต้เท้าเขา...และเขาก็เป็นราชาที่แท้จริงของที่นี่พอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความยินดีหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวก
“อ๊ากกก!”เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดอันน่าสยดสยองดังขึ้นเบรดี้ ตอร์เรสจับขาของเขาในขณะที่นอนกระตุกบนพื้นไม่หยุดพอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ ที่เคยเยาะเย้ยฮาร์วีย์ ยอร์กเสมอมาต่างตกตะลึงจนสิ้นสติไม่นึกว่าฮาร์วีย์จะเผด็จการถึงขนาดกล้าเหยียบขาของเบรดี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขามีอำนาจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดพวกเขาได้ยินเสียงสนทนาจากโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าแอนเซล ตอร์เรสซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์อยู่อีกด้านหนึ่งของสายมิตรสหายของเบรดี้ต่างโกรธแค้นเป็นอย่างมากในขณะนี้ในฟลัตเวลล์พวกเขาถือเป็นคนที่สูงเกินเอื้อม และพวกเขามักจะเป็นฝ่ายที่เอาเปรียบคนอื่นอยู่เสมอไม่มีใครกล้าต่อกรกับพวกเขา!แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!บอดี้การ์ดหลายสิบคนก้าวไปข้างหน้า เตรียมเข้าห้ำหั่นฮาร์วีย์และทุกคนที่เขารักฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อพวกเขาโดยสิ้นเชิงและมองไปที่เบรดี้อย่างใจเย็น“นายจะให้คนของนายออกไปไหม?“หรือจะรอให้ฉันหักขาของนายอีกข้างก่อน?”คำพูดของฮาร์วีย์ฟังดูสงบและสำรวมแต่ในระหว่างคำพูดนั้นกลับมีกลิ่นอายของความเผด็จการอยู่ด้วย“อย่า!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ!”เบ
เบรดี้ ตอร์เรสโบกมือห้ามเพื่อน ๆ เขาส่งสัญญาณให้พวกเขาหยุดทำอะไรบุ่มบ่ามจากนั้นเขาก็นั่งตัวตรงและมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยท่าทางอันน่าสมเพช“คุณยอร์ก..."ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว…“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ก็เลย…”'เขาขอโทษงั้นเหรอ?''นายน้อยตอร์เรสเนี่ยนะ?'พอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ แทบจะล้มลงไปกองกับพื้นหลังจากเห็นเบรดี้ขอโทษอีกฝ่ายจากใจจริง ในขณะที่ใบหน้าของเขาถอดสีจนซีดพวกเขาตกใจมาก ไม่คาดคิดเลยว่าคนแบบนั้นจะยอมก้มหัวลงต่อหน้าฮาร์วีย์จริง ๆไอ้ขี้แพ้ตรงหน้าพวกเขาทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ?โทรศัพท์เพียงสายเดียวสามารถจัดการผู้มีอำนาจอย่างเบรดี้ได้?พอลล่าที่คิดว่าผู้หนุนหลังของเธอนั้นแข็งแกร่งราวกับตะปู ในตอนนี้ร่างกายของเธอกลับเฉื่อยชา จู่ ๆ เธอก็รู้สึกแย่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"ที่นี้นายก็เข้าใจแล้วสินะ?”ฮาร์วีย์แสดงสีหน้าสงบเมื่อจ้องมองไปที่เบรดี้“แต่นั่นมันไม่พอหรอก”เบรดี้แสดงรอยยิ้มอันน่าสยดสยองบนใบหน้าหลังจากสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของฮาร์วีย์“ถ้าคุณยกโทษให้ผม ผมจะแสดงความจริงใจให้คุณเห็นเอง!“ผมรับประกันได้เลยว่าผมจะไม่เอาเปรียบใครอีกต่อไปแล้ว!”เบรดี้กัดฟันก่อนที่
ฮาร์วีย์ ยอร์กโทรหาเคย์เดน บัลเมอร์และคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่โดยเร็วที่สุดด้วยคำสั่งของเคย์เดน กลุ่มคนจากแก๊งขวานทำการเรียกรถพยาบาลมา ก่อนที่จะพาตัวแมนดี้ ซิมเมอร์ เข้าไปอย่างระมัดระวังฮาร์วีย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อแมนดี้และคนอื่น ๆ ถูกพาตัวไปแล้วจากนั้นเคย์เดนก็เดินเคียงข้างฮาร์วีย์ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลง“ผมได้ข้อมูลมาครับ คุณยอร์ก“คนที่ทำเรื่องแบบนี้กับแมนดี้คือหนึ่งในแก๊งทั้งหก อย่างแก๊งภารตะ“เห็นได้ชัดว่าสภาธุรกิจภารตะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้“การแกะรอยพวกเขาดูจะยากอยู่สักหน่อย”"ยากงั้นเหรอ?" ฮาร์วีย์ถาม“ในเมื่อตอนนี้นายเป็นคนของฉัน นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคำว่ายากในพจนานุกรมของฉัน “การจัดการกับคนแค่ไม่กี่คนไม่ใช่ว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้...“ในเมื่อพวกนั้นเข้ามารนหาที่ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะลบแก๊งของพวกเขาออกจากหน้าประวัติศาสตร์ฮาร์วีย์ตบไหล่ของเคย์เดน“เตรียมตัวเข้ายึดครองแก๊งของพวกเขาไว้ได้เลย”“รับทราบครับ!”เคย์เดนรู้สึกเบิกบานใจหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งทั้งหก แต่แก๊งขวานมักจะอยู่ในตำแหน่งล่างสุดของตารางเสมอเขาตื่นเ
“ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม แอรอน การ์เซียไม่ได้เป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ คุณต้องระวังตัวด้วยคุณยอร์ก”“รัฐบาลไม่ตามจับแก๊งภารตะที่เปิดธุรกิจการพนันแบบนี้เหรอ?” ฮาร์วีย์ ยอร์ก ถาม“พวกเขาเคยทำแบบนั้นสองสามครั้งแต่ก็ไม่อาจจัดการกับสถานการณ์เหล่านั้นได้”เคย์เดน บัลเมอร์ลังเล“อีกอย่าง สภาธุรกิจภารตะมักจะปรากฏตัวและใช้สิทธิ์คุ้มกันทางการทูตอยู่เสมอ“เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงไม่อาจทำอะไรได้“ผู้คนจากสภาธุรกิจภารตะทำธุรกิจกับคนในแวดวงสังคมระดับสูงของฟลัตเวลล์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่น้อยเลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแก๊งภารตะจึงมีความโดดเด่นมากในช่วงนี้…”ฮาร์วีย์หัวเราะออกมา“แค่เส้นสายที่พวกเขามีเพียงอย่างเดียวสามารถทำให้รัฐบาลหวาดกลัวได้แล้วเหรอ?“ตระกูลบาวเออร์งั้นเหรอ?“ฉันได้ยินมาว่ารองประธานสภาธุรกิจภารตะและโจเซฟ บาวเออร์เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน…”ฮาร์วีย์แสดงสายตาเย็นชาออกมาหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ความพยายามของอีไล เบอร์ตันที่คิดจะสู้กับซีนเธียร์และแมนดี้ ซิมเมอร์ ก็จะไม่ใช่แค่ความขัดแย้งธรรมดา ๆ เท่านั้น...ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถยนต์ก็จอดอยู่หน้าอาคารสไตล์ยุโรปเหนื
สาวสวยที่ดูแปลกตายิ้มให้ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า “กรุณาเอามือของคุณออกจากโต๊ะด้วย”"หนึ่งสองสาม! หก! ต่ำ!”เงินของฮาร์วีย์มลายหายไปในทันที“ไม่ไหวคืนนี้ผมโชคไม่ดีเลย…”ฮาร์วีย์ยิ้ม จากนั้นเขาก็โยนชิปซึ่งมีมูลค่าหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ออกไป “ไม่มีทางที่มันจะออกต่ำอีกแน่ นี่สามแสน!”หญิงชาวอินเดียและเจ้ามือสบตากัน ทั้งคู่ยิ้มอย่างสนุกสนานเจ้ามือจึงเขย่าถ้วยลูกเต๋า รอยยิ้มอันอบอุ่นบนริมฝีปากของเธอ“เอาล่ะ กรุณาเอามือของคุณออกจากโต๊ะ!”ฝูงชนที่อยู่รอบโต๊ะก็อ้าปากค้าง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองฮาร์วีย์อย่างตกตะลึง'ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเป้าหมายที่ถูกจัดการได้ง่าย ๆ แต่เขารวยแน่นอน!''เขาพนันเพิ่มอีกตั้งสามแสนดอลลาร์ หลังจากเพิ่งเสียไปหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์!'หลังจากนั้นไม่นาน คนที่ได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ก็เข้ามาดูฮาร์วีย์ถูกรายล้อมไปด้วยผู้ชมที่อยากรู้อยากเห็นในไม่ช้าลูกเต๋าก็ถูกเปิดออกมารอยยิ้มของเจ้ามือสดใสกว่าที่เคย“สอง สอง สี่ แปด! ต่ำ!”ฮาร์วีย์เสียเงินไปถึงสามแสนดอลลาร์ในพริบตาคนที่ติดตามการเดิมพันของฮาร์วีย์ต่างมองดูเขาอย่างเหยียดหยาม“นายรู้วิธีเล่นเกมนี้หรือเปล่า?