“ตลอดชีวิตของฉัน ฉันเคยเห็นคนหยิ่งผยองมามากมาย…”“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ที่ฉันได้พบกับคนที่กล้าท้าทายฉันถึงขนาดนี้!”เบรดี้ ตอร์เรสยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กเขายังยกนิ้วโป้งให้ฮาร์วีย์อีกด้วย“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นนายน้อยจากไหน…“และไม่รู้ด้วยว่านายเป็นคนของตระกูลใด…“แต่ฉันบอกได้เลยว่าฉันมีอำนาจเหนือทั้งฟลัตเวลล์!“นายจะต้องคุกเข่าต่อหน้าฉัน!“ไม่ว่านายจะเป็นใครก็ตาม!“ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอกนะ!“หักแขนขาของตัวเองให้หมด!“แล้วยกสาวๆให้มาอยู่กับฉันสักสามวันสามคืน!“แล้วฉันจะปล่อยนายไป!“ถ้านายไม่พอใจกับข้อตกลงนี้ฉันก็จะให้เวลานายครึ่งชั่วโมง ให้นายโทรหาใครก็ได้ที่นายต้องการ!“ถ้านายทำให้ฉันกลัวได้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกนายว่า 'พ่อ' เลยทีเดียว!“แต่ถ้านายทำให้ฉันกลัวไม่ได้ นายต้องยอมหักแขนหักขาของตัวเองทิ้ง!"เข้าใจที่ฉันพูดไหม?!"เบรดี้จุดซิการ์อย่างไม่แยแสขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยองราวกับว่าฟลัตเวลล์อยู่ใต้เท้าเขา...และเขาก็เป็นราชาที่แท้จริงของที่นี่พอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความยินดีหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวก
“อ๊ากกก!”เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดอันน่าสยดสยองดังขึ้นเบรดี้ ตอร์เรสจับขาของเขาในขณะที่นอนกระตุกบนพื้นไม่หยุดพอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ ที่เคยเยาะเย้ยฮาร์วีย์ ยอร์กเสมอมาต่างตกตะลึงจนสิ้นสติไม่นึกว่าฮาร์วีย์จะเผด็จการถึงขนาดกล้าเหยียบขาของเบรดี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขามีอำนาจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดพวกเขาได้ยินเสียงสนทนาจากโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าแอนเซล ตอร์เรสซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์อยู่อีกด้านหนึ่งของสายมิตรสหายของเบรดี้ต่างโกรธแค้นเป็นอย่างมากในขณะนี้ในฟลัตเวลล์พวกเขาถือเป็นคนที่สูงเกินเอื้อม และพวกเขามักจะเป็นฝ่ายที่เอาเปรียบคนอื่นอยู่เสมอไม่มีใครกล้าต่อกรกับพวกเขา!แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!บอดี้การ์ดหลายสิบคนก้าวไปข้างหน้า เตรียมเข้าห้ำหั่นฮาร์วีย์และทุกคนที่เขารักฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อพวกเขาโดยสิ้นเชิงและมองไปที่เบรดี้อย่างใจเย็น“นายจะให้คนของนายออกไปไหม?“หรือจะรอให้ฉันหักขาของนายอีกข้างก่อน?”คำพูดของฮาร์วีย์ฟังดูสงบและสำรวมแต่ในระหว่างคำพูดนั้นกลับมีกลิ่นอายของความเผด็จการอยู่ด้วย“อย่า!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ!”เบ
เบรดี้ ตอร์เรสโบกมือห้ามเพื่อน ๆ เขาส่งสัญญาณให้พวกเขาหยุดทำอะไรบุ่มบ่ามจากนั้นเขาก็นั่งตัวตรงและมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยท่าทางอันน่าสมเพช“คุณยอร์ก..."ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว…“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ก็เลย…”'เขาขอโทษงั้นเหรอ?''นายน้อยตอร์เรสเนี่ยนะ?'พอลล่า เบเกอร์และคนอื่น ๆ แทบจะล้มลงไปกองกับพื้นหลังจากเห็นเบรดี้ขอโทษอีกฝ่ายจากใจจริง ในขณะที่ใบหน้าของเขาถอดสีจนซีดพวกเขาตกใจมาก ไม่คาดคิดเลยว่าคนแบบนั้นจะยอมก้มหัวลงต่อหน้าฮาร์วีย์จริง ๆไอ้ขี้แพ้ตรงหน้าพวกเขาทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ?โทรศัพท์เพียงสายเดียวสามารถจัดการผู้มีอำนาจอย่างเบรดี้ได้?พอลล่าที่คิดว่าผู้หนุนหลังของเธอนั้นแข็งแกร่งราวกับตะปู ในตอนนี้ร่างกายของเธอกลับเฉื่อยชา จู่ ๆ เธอก็รู้สึกแย่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"ที่นี้นายก็เข้าใจแล้วสินะ?”ฮาร์วีย์แสดงสีหน้าสงบเมื่อจ้องมองไปที่เบรดี้“แต่นั่นมันไม่พอหรอก”เบรดี้แสดงรอยยิ้มอันน่าสยดสยองบนใบหน้าหลังจากสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของฮาร์วีย์“ถ้าคุณยกโทษให้ผม ผมจะแสดงความจริงใจให้คุณเห็นเอง!“ผมรับประกันได้เลยว่าผมจะไม่เอาเปรียบใครอีกต่อไปแล้ว!”เบรดี้กัดฟันก่อนที่
ฮาร์วีย์ ยอร์กโทรหาเคย์เดน บัลเมอร์และคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่โดยเร็วที่สุดด้วยคำสั่งของเคย์เดน กลุ่มคนจากแก๊งขวานทำการเรียกรถพยาบาลมา ก่อนที่จะพาตัวแมนดี้ ซิมเมอร์ เข้าไปอย่างระมัดระวังฮาร์วีย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อแมนดี้และคนอื่น ๆ ถูกพาตัวไปแล้วจากนั้นเคย์เดนก็เดินเคียงข้างฮาร์วีย์ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลง“ผมได้ข้อมูลมาครับ คุณยอร์ก“คนที่ทำเรื่องแบบนี้กับแมนดี้คือหนึ่งในแก๊งทั้งหก อย่างแก๊งภารตะ“เห็นได้ชัดว่าสภาธุรกิจภารตะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้“การแกะรอยพวกเขาดูจะยากอยู่สักหน่อย”"ยากงั้นเหรอ?" ฮาร์วีย์ถาม“ในเมื่อตอนนี้นายเป็นคนของฉัน นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคำว่ายากในพจนานุกรมของฉัน “การจัดการกับคนแค่ไม่กี่คนไม่ใช่ว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้...“ในเมื่อพวกนั้นเข้ามารนหาที่ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะลบแก๊งของพวกเขาออกจากหน้าประวัติศาสตร์ฮาร์วีย์ตบไหล่ของเคย์เดน“เตรียมตัวเข้ายึดครองแก๊งของพวกเขาไว้ได้เลย”“รับทราบครับ!”เคย์เดนรู้สึกเบิกบานใจหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งทั้งหก แต่แก๊งขวานมักจะอยู่ในตำแหน่งล่างสุดของตารางเสมอเขาตื่นเ
“ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม แอรอน การ์เซียไม่ได้เป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ๆ คุณต้องระวังตัวด้วยคุณยอร์ก”“รัฐบาลไม่ตามจับแก๊งภารตะที่เปิดธุรกิจการพนันแบบนี้เหรอ?” ฮาร์วีย์ ยอร์ก ถาม“พวกเขาเคยทำแบบนั้นสองสามครั้งแต่ก็ไม่อาจจัดการกับสถานการณ์เหล่านั้นได้”เคย์เดน บัลเมอร์ลังเล“อีกอย่าง สภาธุรกิจภารตะมักจะปรากฏตัวและใช้สิทธิ์คุ้มกันทางการทูตอยู่เสมอ“เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงไม่อาจทำอะไรได้“ผู้คนจากสภาธุรกิจภารตะทำธุรกิจกับคนในแวดวงสังคมระดับสูงของฟลัตเวลล์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่น้อยเลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแก๊งภารตะจึงมีความโดดเด่นมากในช่วงนี้…”ฮาร์วีย์หัวเราะออกมา“แค่เส้นสายที่พวกเขามีเพียงอย่างเดียวสามารถทำให้รัฐบาลหวาดกลัวได้แล้วเหรอ?“ตระกูลบาวเออร์งั้นเหรอ?“ฉันได้ยินมาว่ารองประธานสภาธุรกิจภารตะและโจเซฟ บาวเออร์เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน…”ฮาร์วีย์แสดงสายตาเย็นชาออกมาหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ความพยายามของอีไล เบอร์ตันที่คิดจะสู้กับซีนเธียร์และแมนดี้ ซิมเมอร์ ก็จะไม่ใช่แค่ความขัดแย้งธรรมดา ๆ เท่านั้น...ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถยนต์ก็จอดอยู่หน้าอาคารสไตล์ยุโรปเหนื
สาวสวยที่ดูแปลกตายิ้มให้ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า “กรุณาเอามือของคุณออกจากโต๊ะด้วย”"หนึ่งสองสาม! หก! ต่ำ!”เงินของฮาร์วีย์มลายหายไปในทันที“ไม่ไหวคืนนี้ผมโชคไม่ดีเลย…”ฮาร์วีย์ยิ้ม จากนั้นเขาก็โยนชิปซึ่งมีมูลค่าหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ออกไป “ไม่มีทางที่มันจะออกต่ำอีกแน่ นี่สามแสน!”หญิงชาวอินเดียและเจ้ามือสบตากัน ทั้งคู่ยิ้มอย่างสนุกสนานเจ้ามือจึงเขย่าถ้วยลูกเต๋า รอยยิ้มอันอบอุ่นบนริมฝีปากของเธอ“เอาล่ะ กรุณาเอามือของคุณออกจากโต๊ะ!”ฝูงชนที่อยู่รอบโต๊ะก็อ้าปากค้าง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองฮาร์วีย์อย่างตกตะลึง'ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเป้าหมายที่ถูกจัดการได้ง่าย ๆ แต่เขารวยแน่นอน!''เขาพนันเพิ่มอีกตั้งสามแสนดอลลาร์ หลังจากเพิ่งเสียไปหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์!'หลังจากนั้นไม่นาน คนที่ได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ก็เข้ามาดูฮาร์วีย์ถูกรายล้อมไปด้วยผู้ชมที่อยากรู้อยากเห็นในไม่ช้าลูกเต๋าก็ถูกเปิดออกมารอยยิ้มของเจ้ามือสดใสกว่าที่เคย“สอง สอง สี่ แปด! ต่ำ!”ฮาร์วีย์เสียเงินไปถึงสามแสนดอลลาร์ในพริบตาคนที่ติดตามการเดิมพันของฮาร์วีย์ต่างมองดูเขาอย่างเหยียดหยาม“นายรู้วิธีเล่นเกมนี้หรือเปล่า?
เจ้ามือหรี่ตาลงเมื่อเห็นท่าทางสิ้นหวังของฮาร์วีย์ มองเช็คบนโต๊ะในเวลาเพียงสิบนาที ฮาร์วีย์แพ้พนันถึงสามรอบติด ผลลัพธ์ทั้งหมดทำให้เขาสูญเงินไปถึงสิบห้าล้านดอลลาร์!ฝูงชนตกใจเป็นอย่างมากฮาร์วีย์มีดวงตาแดงก่ำ และผมของเขาเริ่มไม่เป็นทรงร่างกายของเขาสั่นเทิ้มขณะที่เขาถือสมุดเช็คในมือฝูงชนมองไปที่โต๊ะของฮาร์วีย์ หลังจากได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มรูปหล่อผมหยิกก็ปรากฏตัวขึ้นบนชั้นสอง ชายคนนั้นจ้องมองฮาร์วีย์อย่างสงสัยชายคนนั้นคือแอรอน การ์เซียในขณะนั้นเขาไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใคร แต่เขาก็ยังอยากเห็นคาสิโนของเขาทำกำไรได้“คุณเลิกเล่นเถอะ คุณยอร์ก! ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียเงินทั้งหมดที่ลงทุนอยู่ในฟลัตเวลล์แน่…”ราเชลก้าวไปข้างหน้าและจับมือของฮาร์วีย์ที่ถือสมุดเช็คไว้ สีหน้าของเธอดูอ้อนวอน“คุณมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารหลายร้อยล้านดอลลาร์ก็จริง แต่ถ้าคุณต้องเสียมันไปจนหมดบัญชีคุณต้องเดือดร้อนแน่!”“บางสิ่งเสียไปแล้วไม่อาจกลับคืนมาได้!”“ฉันขอแนะนำให้คุณเก็บเงินของตัวเองเอาไว้ดีกว่า! เรากลับกันเลย ตกลงไหม?”ราเชลแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยในขณะนั้น ทุกคนคิด
แอรอนไม่ได้โกรธ เขายังคว้าเช็คขึ้นจากใบหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“เหนือชั้นจริง ๆ!“ผมชื่นชมคนแบบคุณที่สุดเลย!“ถ้าคุณต้องการแบบนั้นเราก็มาเดิมพันกันเถอะ“วางเดิมพันที่สามร้อยล้านดอลลาร์!”แอรอนส่งสัญญาณมือและมีคนวางเช็คลงบนโต๊ะ“ถ้าคุณชนะ คุณจะได้รับดอกเบี้ยในทุกๆดอลลาร์ด้วย“แต่ถ้าคุณแพ้และจ่ายเงินมากขนาดนี้ไม่ไหว ผมจะหักแขนขาของคุณทุกข้างและริบทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณมี“คุณตกลงหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์มีสีหน้าดุร้ายราวกับว่าเขากระวนกระวายใจอย่างที่สุด“คุณคิดว่าผมมีเงินไม่ถึงหรือไง? น่าตลกจริง ๆ!“เอาล่ะ! คราวนี้คุณก็เป็นลูกมือแล้วกัน!“เขย่าลูกเต๋า!”ฮาร์วีย์กระแทกมือของเขาลงบนโต๊ะ“ผมจะแทงสูง!”แอรอนส่งยิ้มเล็ก ๆ ให้ฮาร์วีย์ขณะที่เขาเขย่าถ้วยลูกเต๋าและวางมันลงบนโต๊ะ“คุณแน่ใจหรือว่าคุณจะแทงสูง คุณยอร์ก? เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”“ทำไมผมต้องเปลี่ยนใจด้วย?”ฮาร์วีย์หัวเราะอย่างเย็นชาก่อนจะกระแทกมือลงบนโต๊ะอีกครั้ง“แต่เผื่อว่าคุณจะโกง ผมอยากให้เธอคนนั้นเป็นคนเปิดมัน!”ฮาร์วีย์ชี้ไปที่หญิงสาวชาวอินเดียที่อยู่ข้างๆ เขาแอรอนยักไหล่แต่ยังคงยิ้มอยู่"แน่นอน! ให้เธอเปิด"หญิงส
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข