“ถ้าคุณไม่บอกฉัน ฉันก็จะไม่โทรเรียกเขา” แมนดี้ ซิมเมอร์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง“คุณควรจะกลับไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”แมนดี้ไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอมีความแค้นอะไรกับฮาร์วีย์ ยอร์ก...แต่เธอกลัวว่าฮาร์วีย์จะต้องเจ็บตัวหลังจากที่เห็นนักบวชปีศาจทั้งสอง“ฉันตามหาเขามาทั้งวันแล้ว…“แต่ฉันก็ยังหาไอ้สารเลวนั่นไม่เจอ!“คุณเป็นอดีตภรรยาของเขา งั้นเราคงทำได้เพียงให้ขังคุณไว้ที่นี่เพราะเราหาเขาไม่เจอ!”ไดอาน่า ลีจ้องแมนดี้อย่างเยือกเย็น“คุณควรจะโทรเรียกเขามาเดี๋ยวนี้ ถ้าฉันโกรธขึ้นมาก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”เห็นได้ชัดว่าไดอาน่าไม่รู้ว่าฮาร์วีย์อยู่ที่ฐานของแก๊งขวานต่อให้เธอรู้ เธอก็คงจะอยู่ให้ห่างจากเขาเธอเพียงคิดว่าฮาร์วีย์จะแสดงตัวออกมาเองแน่นอนหากแมนดี้ถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ“คุณไม่เข้าใจฉันเหรอ?!”สีหน้าของแมนดี้มืดลงทันที“ที่นี่คือบริษัทฮาร์ทสโตน! ผู้ถือหุ้นของเราล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในเมืองนี้!“บริษัทนี้ไม่ต้อนรับคุณ! ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้น…”เพี๊ยะ!ก่อนที่แมนดี้จะทันได้พูดจบประโยค ไดอาน่าก็ก้าวไปข้างหน้าและตบหน้าเธอแมนดี้ร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ถอย
แมนดี้ ซิมเมอร์กัดฟันขณะที่อดทนกับความเจ็บปวดที่สั่นเทาบนใบหน้าของเธอ“ฉันจะไม่มีวันคุกเข่าให้เธอ…”เพี๊ยะ!ไดอาน่า ลีเหวี่ยงหลังมือของเธอไปที่ใบหน้าของแมนดี้ในขณะเดียวกันไดอาน่าก็คว้าผมของแมนดี้มากำมือหนึ่งอย่างเกรี้ยวกราดและกระแทกหัวของเธอลงบนโต๊ะแมนดี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงก่อนที่หัวของเธอจะหมุน เธอจวนจะหมดสติในขณะนี้เธอเป็นหัวหน้าสาขาที่เก้าของตระกูลฌอง แต่เธอไม่เคยต้องต่อสู้กับใครเลยตลอดชีวิตเธอจึงต้องมาเจ็บตัวเพราะคนที่ใช้ความรุนแรงในฟลัตเวลล์...ปัง ปัง!ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังแมนดี้เตะข้อพับของเธอและบังคับให้เธอต้องคุกเข่าลงใบหน้าของเธอบวมไปหมดและมีเลือดปกคลุม มันเป็นภาพที่น่าสงสารจริง ๆไดอาน่ากอดอกและมองลงไปที่แมนดี้ขณะที่แสยะยิ้ม“พุทโธ่ ซ่านักไม่ใช่เหรอ?“ทำไมถึงคุกเข่าอยู่ดีล่ะ?”พวกผู้หญิงต่างหัวเราะกับความทุกข์ยากของแมนดี้พวกเธออิจฉาความสวยของแมนดี้อยู่แล้ว หลังจากที่เห็นแมนดี้ถูกทำร้ายแบบนี้ พวกเธอจึงสะใจอย่างมากแมนดี้กัดฟันของเธอ“เธอจะต้องได้ชดใช้!”“โอ้? ยังกล้าปากดีอีกเหรอ?” ไดอาน่าถามด้วยความเยาะเย้ย“เอาเลย! ตบนางนี่ซะ! ดูสิว่าหลังจากนั้
ฮาร์วีย์ ยอร์กหันไปมองซีนเธียร์ ซิมเมอร์“เธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?” ฮาร์วีย์ถามเบา ๆ“อีไล เบอร์ตันเหรอ?”ฮาร์วีย์เข้าใจสถานการณ์ไม่มากก็น้อยตอนแรกเขาคิดว่าโจเซฟ บาวเออร์อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่เขาคงไม่ทำอะไรโง่ ๆ ขนาดนี้หลังจากที่ได้ค้นพบแล้วว่าฮาร์วีย์เป็นหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมินฮาร์วีย์จึงสงสัยว่าพวกโง่เขลาที่เขาพบเมื่อวันก่อนคนเหล่านั้นกำลังทำตามอำเภอใจในประเทศคนอื่น พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่รู้ว่าควรหยุดเมื่อไหร่ แต่พวกเขายังทำตัวสูงส่งและยิ่งใหญ่อีกด้วย พวกเขาป่าเถื่อนอย่างแท้จริง“เป็นฝีมือของอีไลและคนของเขา!”ซีนเธียร์รู้สึกผิด“พวกเขาทำลายกล้องวงจรปิดในบริษัททั้งหมด และพวกพนักงานก็ไม่กล้าชี้ตัวพวกเขาด้วย! ไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกเขาได้ในตอนนี้!“แม้ว่าพวกเขาจะถูกจับ พวกเขาก็จะได้รับความคุ้มครองทางการฑูตเนื่องจากพวกเขาไม่ใช่คนที่นี่! ตำรวจก็จะไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เช่นกัน!”ลิเลียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ อย่างขมขื่นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของซีนเธียร์“นายเก่งนักไม่ใช่เหรอฮาร์วีย์?“ใช่ไหมล่ะ?“ทำไม? นายไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อผู้หญิงของตัวเองถูกทำร้ายแ
เรน่า ลีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เย็นชา“ที่นี่โรงพยาบาล ไม่ใช่ซูเปอร์มาร์เก็ต!“คุณคิดว่าคุณจะสามารถบุกเข้ามาในโรงพยาบาลของเราและรักษาคนไข้ของคุณตามอำเภอใจได้งั้นเหรอ?!“ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบ?!“คุณไม่รู้เหรอว่าคนไข้ก็เหมือนลูกค้าของเรา?!“คุณคิดว่าเราจะสามารถรักษาพวกเขาได้โดยไม่ต้องให้การวินิจฉัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อรีดเงินของพวกก่อนเหรอ?!“โรงพยาบาลจะทำเงินได้ยังไงถ้าข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป?!“เราอนุญาตให้คุณใช้ห้องฉุกเฉินในราคาหนึ่งหมื่นสี่พันดอลลาร์พร้อมกับการยืนยันว่าคุณเป็นหมอจริง ๆ…“แต่คุณกล้าทำลายชื่อเสียงของพวกเราได้ยังไง?!“คุณรู้ไหมว่าคุณจะทำพวกเราจะสูญเสียเงินไปเท่าไหร่?!”เรน่ากำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธในขณะนี้พยาบาลสาวสวยและบอดี้การ์ดที่กำยำต่างก็มีสีหน้าที่ดุร้ายเช่นกันในสายตาของพวกเขา รูดอล์ฟและคนอื่น ๆ ได้ทำผิดกฎในการรักษาผู้ป่วยไปแล้วพวกเขาจึงถูกไล่ออกไปในขณะนี้ซีนเธียร์มีสีหน้าน่าสยดสยอง“พี่สาวของฉันตกอยู่ในอันตราย! แค่คุณไม่ได้ช่วยเธอทันทีก็แย่พอแล้ว แต่คุณยังจะโทษคุณรูดอล์ฟและคนอื่น ๆ เพราะพวกเขาไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มงั้นเห
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ที่นี่มีชื่อว่าโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้ใช่ไหม?“ไม่คู่ควรกับชื่อนี้ด้วยซ้ำ!“เตรียมตัวล้มละลายได้เลย!”ฮาร์วีย์ ยอร์กจ้องมองไปที่เรน่า ลีอย่างเย็นชา ก่อนที่จะมองไปที่รูดอล์ฟ แล้วส่งสัญญาณให้เขาเพิกเฉยต่อคนอื่นและทำการรักษาให้แมนดี้ซิมเมอร์ต่อไปรูดอล์ฟดูมุ่งมั่นก่อนที่จะรีบเข้าไปในห้องผ่าตัดฮาร์วีย์พยายามสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะหรี่ตามองไฟสีแดงที่ติดอยู่ด้านหน้าห้องผ่าตัดเขารู้ว่าแมนดี้ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายแสนสาหัส แต่การบาดเจ็บบางจุดอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายถาวรหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเวลาผ่านไปทีละช้า ๆ หลังจากนั้นประมาณสิบนาที ไฟหน้าห้องผ่าตัดก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว รูดอล์ฟก้าวออกมาด้วยสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อยไม่นานหลังจากนั้นผู้ช่วยของเขาก็เข็นเตียงคนไข้ออกจากห้องผ่าตัดมีผ้าพันแผลอยู่ที่ใบหน้าของแมนดี้ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ แต่ในขณะนั้นเธอดูดีขึ้นมาก“แกเป็นอะไรไหม แมนดี้”ลิเลียน เยตส์รีบวิ่งเขาใส่ทันที แมนดี้เป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอ และเธอไม่อาจปล่อยให้แมนดี้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ ได้"พี่สาว!" ซีนเธียร์ ซิมเมอร์อุทานอย่างกังวลแมนดี้มองฮาร์วีย
ความกล้าหาญชาญชัยของเรน่า กลับมาทันทีหลังจากเห็นพอลล่า เบเกอร์ยืนเคียงข้างเธอเธอปิดหน้าขณะเดินไปหาพอลล่าก่อนจะชี้ไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กและคนอื่น ๆ“พวกเขานี่แหละผู้อำนวยการ! พวกเขาไม่เพียงแต่ใช้ห้องผ่าตัดของเราเท่านั้น แต่ยังใช้ห้องผ่าตัดก่อนที่จะวินิจฉัยอะไรด้วยซ้ำ! พวกเขาฝ่าฝืนกฎ!“ดิฉันบอกให้เขาออกไปแล้วแต่พวกเขากลับปฏิเสธ ทั้งยังทำร้ายร่างกายของฉันอีก!“พวกเขาดูหมิ่นพวกเราอย่างที่สุด!”พอลล่าโกรธมากเมื่อได้ยินว่ามีคนกล้าฝ่าฝืนกฎของโรงพยาบาลและไม่จ่ายเงิน“เรียกรปภ.มาเดี๋ยวนี้! บอกพวกเขาไปว่าที่นี่มีตัวปัญหา!“เรื่องนี้มันยังไม่จบ!”พอลล่าเดินไปหาฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อย่างเย่อหยิ่งก่อนจะเย้ยหยันใส่พวกเขาคนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอมาตั้งแต่แรกเธอได้ข่าวว่าแมนดี้ ซิมเมอร์ถูกทำร้ายมาก่อนมาถึงที่นี่ ไม่มีใครแม้แต่จะโทรหาตำรวจด้วยซ้ำพวกเขาจะมีสถานะแบบไหนหากไม่กล้าแม้แต่จะแจ้งตำรวจหลังจากถูกทำร้ายในฟลัตเวลล์?ต่อให้แมนดี้จะเป็นผู้ชาย แต่ผลลัพธ์ก็คงไม่ได้ต่างกันพอลล่าจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาก่อนที่เธอจะเย้ยหยัน“ถ้าคุณจะบ่นเรื่องทักษะทางการแพทย์ ประสิทธิภาพ หรือภาวะ
“แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะ” ฮาร์วีย์ ยอร์กถามอย่างใจเย็น"ไม่ทำงั้นเหรอ?พอลล่า เบเกอร์หัวเราะอย่างเย็นชา“แน่นอน นายจะไม่ทำก็ได้!” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเจ้ากี้เจ้าการ“แต่ถ้ายังดูหมิ่นฉันไม่เลิก…“หากเกิดอะไรขึ้นมาก็อย่าโทษฉันแล้วกัน“แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ! ฉันเป็นผู้หญิงที่มีอารยธรรม! ฉันจะไม่ทำร้ายใครตามอำเภอใจหรอก!“แต่ฉันอาจจะส่งพวกคุณทุกคนเข้าแผนกจิตเวชไปตลอดชีวิต!”เป็นที่แน่ชัดแล้ว นี่คือวิธีจัดการสิ่งต่าง ๆ ของพอลล่าคนที่กล้าต่อต้านเธอล้วนถูกส่งเข้าไปอยู่ในวอร์ดจิตเวชทั้งนั้นชะตากรรมของพวกเขาจะเลวร้ายยิ่งกว่าการถูกส่งเข้าคุกเสียอีกเรน่า ลีและคนอื่น ๆ แสดงรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของพอลล่า ขณะนั้นพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความยินดีราวกับกำลังดูถูกว่าฮาร์วีย์โง่เขลาเกินใคร 'ในที่สุดเขาก็ได้รู้เสียทีว่าพวกชั้นต่ำอย่างเขาไม่มีสิทธิ์มาอวดตัวในโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้!'ซีนเธียร์ร์เดือดดาลด้วยความโกรธ“พวกคุณนี่มันไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลยสักนิด…” เธออุทานเพี๊ยะ!พอลล่าก้าวไปข้างหน้าและตบซีนเธียร์เข้าที่หน้าอย่างแรง“ในโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้ ฉันนี่แหละคือกฎหมาย!“แล้
ในขณะนี้การจ้องมองของฮาร์วีย์ ยอร์กมีเพียงแววแห่งความเหยียดหยามพอลล่า เบเกอร์โกรธมาก เธอชี้ไปที่ฮาร์วีย์ด้วยนิ้วที่ขาวซีดอ่อนนุ่มของเธอ"ไป! จัดการเขาเดี๋ยวนี้!” เธออุทาน“เล่นงานพวกมันทุกคนที่นี่ให้หมด!“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ผ่านการฝึกอบรมมาจำนวนสามสิบสี่คนล้อมรอบฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ เอาไว้ ขณะหัวเราะอย่างเย็นชา“อ๊า! พวกเขาจะเล่นงานเราแล้ว!”ลิเลียน เยตส์ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงพยาบาลของแมนดี้ ซิมเมอร์ด้วยความกลัวรูดอล์ฟและคนอื่น ๆ มีสีหน้าสยดสยอง ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็จะได้รับเพียงความเคารพนับถือจากผู้คน พวกเขาแทบไม่เคยต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้เลย“ระวังด้วยนะ ฮาร์วีย์!” แมนดี้อุทานด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงใบหน้าของซีนเธียร์ซีดเผือดราวกับกระดาษ ไม่คาดคิดเลยว่าคนในโรงพยาบาลนี้จะหยิ่งผยองได้เช่นนี้“พี่เขย เราจะทำยังไงดี…?” เธออดไม่ได้ที่จะถามเรน่า ลีเยาะเย้ย"เธอจะทำอะไรได้?“มาถึงขั้นนี้แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก?“เธอเสร็จแน่!”"ใช่! เธอเสร็จแน่!” นางพยาบาลคนสวยเอ่ยขึ้นพร้อมกัน“กล้าดียังไงมาหาเรื่องโรงพยาบาลฟราเทอนิตี้!”“นี
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข