เซียนน่าขมวดคิ้ว เธอถึงจะพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าโคลตันอยากให้ฮาร์วีย์รักษาเขาขนาดนี้มีเพียงแอนเซลเท่านั้นที่ตื่นเต้น ราวกับว่าพ่อของเขากำลังจะหายขาดได้อย่างไรอย่างนั้น“พร้อมแล้วหรือยัง ผู้อาวุโสตอร์เรส?”ฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อการสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาและยกนิ้วชี้ขวาและนิ้วกลางขึ้นราวกับเป็นมีด“เอาเลย”โคลตันยิ้ม แต่แม้แต่ผู้ชายที่สงบเช่นเขาก็ยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย กล้ามเนื้อของเขาตึงขึ้นเล็กน้อยชวุ่บ!ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าแล้วเหวี่ยงฝ่ามือซ้ายไปบนใบหน้าของโคลตันเพี๊ยะ!โคลตันโกรธขึ้นทันทีหลังจากถูกตบ“คุณยอร์ก!”การแสดงออกของแอนเซลเปลี่ยนไปทันที"กล้าดียังไง?!"ใบหน้าของเซียนน่าเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่!”รูดอล์ฟเองก็โกรธเช่นกัน!หากฮาร์วีย์สามารถช่วยคนได้ด้วยวิธีการแบบนี้ ประสบการณ์ของรูดอล์ฟในโรงเรียนแพทย์คงนับว่าสูญเปล่าในขณะที่ทุกคนโกรธเคือง…ฮาร์วีย์ดันนิ้วของเขาไปทางหัวใจของโคลตันเขาดีดนิ้วไปที่จุดนั้นประมาณเจ็ดครั้งก่อนที่เขาจะถอยกลับไป เขาก็ตบหน้าโคลตันอีกครั้งอึก!โคลตันโกรธมาก แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างพุ่งออกมา
รูดอล์ฟไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโลกใบนี้จะมีใครที่มีทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้ นั่นเพราะฮาร์วีย์เพียงแค่ตบหน้าโคลตันแล้วจิ้มที่หน้าอกเขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นแต่เพียงแค่นั้นก็สามารถช่วยโคลตันจากความตายที่กำลังคืบคลานหาเขาได้...นี่มันเหลือเชื่อมาก!ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!"เกิดอะไรขึ้น?!“ทำไมนายถึงต้องมัดร่างของผู้อาวุโสตอร์เรสไว้ด้วยล่ะ“แล้วตบหน้าเขาทำไม!“นายต้องบอกฉันนะ!”ในตอนนี้รูดอล์ฟกำลังขอร้องให้ฮาร์วีย์อธิบายถึงสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำเขาไม่อยากตายไปพร้อมกับความไม่รู้นี้เซียนน่า ผู้ช่วย และพยาบาลตัวแข็งคือเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูบ้าคลั่งของรูดอล์ฟแน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นชายหนุ่มมีอากัปกริยาเช่นนี้ ที่ผ่านมาเขาเป็นคนสูงส่งและทรงพลังอยู่เสมอ“ก็ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย”ฮาร์วีย์ตั้งใจจะอธิบายว่ามันทำงานอย่างไรให้กับแอนเซล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะเก็บงำอะไรไว้“ผู้อาวุโสตอร์เรสรู้สึกประทับใจเมื่อเขาต่อสู้กับใครสักคน“อาการเจ็บป่วยทางกายภาพจากการถูกโจมตีในตอนนั้น แค่มีไอเย็นพัดผ่านเข้าสู่หัวใจของเขา“ถึงจะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้การไหล
ใบหน้าที่สวยงามของเซียนน่าเต็มไปด้วยความตกใจ“คุณยอร์ก ด้วยความสามารถที่คุณมี คุณจะสามารถช่วยเหลือประเทศได้มากมาย ฉันขอเชิญให้คุณ…”“คุณใจดีเกินไปแล้ว คุณรูดอล์ฟ“ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ใช่หมอ ผมรู้แค่ศิลปะแห่งการสังหารเท่านั้น“โลกใบนี้มีคนที่รอบรู้ในด้านใดด้านหนึ่งอยู่เสมอ“ผมก็แค่โชคดี ที่สามารถช่วยผู้อาวุโสตอร์เรสด้วยทักษะที่ผมมีได้”ก่อนที่เซียนน่าจะพูดจบประโยค ฮาร์วีย์ก็พยุงรูดอล์ฟขึ้น“ผู้อาวุโสตอร์เรสทนทุกข์ทรมานมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เขาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องการเวลาพักผ่อน“จากนี้ผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณนะ มือพิฆาตความตาย”ฮาร์วีย์หันหลังกลับและจากไปฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะทำความรู้จักกับลูกสาวของตระกูลระดับสูงแบบเธอท้ายที่สุดแล้ว มีเจ้าชายและนายน้อยเข้าแถวรอเธอมากเกินไปฮาร์วีย์ไม่อยากจะต้องสู้รบปรบมือกับคนเหล่านั้นเมื่อเขาออกจากคฤหาสน์หมายเลขหนึ่งมาได้ ความสัมพันธ์ของฮาร์วีย์ในฟลัตเวลล์ก็ยกระดับขึ้นไปอีกระดับหนึ่งก่อนหน้านี้ ภายในตระกูลตอร์เรส มีเพียงแอนเซลเท่านั้นที่พร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ ณ จุดนี้ แม้แต่เนลสันก็ยังต้องฟังความปรารถนาของฮาร์วีย์นั่นแ
“มีหนุ่มมาชวนเธอหรือเปล่า” ฮาร์วีย์ถามโดยสัญชาตญาณ"เปล่าสักหน่อย! เป็นผู้หญิงต่างหาก!”ซีนเธียร์หัวเราะคิกคัก“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ! ฉันรู้หรอกน่าว่าอะไรเป็นอะไร!“ถ้าเป็นผู้ชายมาชวน ฉันต้องปฏิเสธคำเชิญไปแล้ว!“แต่ว่าฉันได้ยินมาว่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่โดดเด่นที่สุดบางคนในแวดวงธุรกิจของฟลัตเวลล์จะมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ด้วย“พันธมิตรที่มาคุยธุรกิจกับทางบริษัทเราเป็นคนจัดงานนี้ขึ้นมา เธอถึงได้เชิญฉัน“และฉันปฏิเสธคำเชิญนี้ไม่ได้ ฉันอยากช่วยพี่สาวจัดการธุรกิจของเธอ!“เพราะฉะนั้นฉันถึงได้ตอบรับคำเชิญ“แต่ฉันไม่คุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไหร่…“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงทำได้เพียงขอให้คุณไปกับฉันด้วย!”ซีนเธียร์ทำหน้าตาน่าสงสาร“ฉันไม่ค่อยได้รู้จักใครที่นี่มากนัก“อีกอย่าง ฉันจะใช้กำลังในการไต่อันดับของสังคมไม่ได้หรอกจริงหรือเปล่า?“มีคนบอกว่าธุรกิจเกิดขึ้นจากสายสัมพันธ์ และฉันก็คิดว่าพวกเขาพูดถูก!“มาต่อสู้เพื่ออนาคตของพี่สาวด้วยกันเถอะ ตกลงไหม?"ซีนเธียร์เริ่มแกว่งมือของฮาร์วีย์ไปรอบ ๆฮาร์วีย์บังเอิญเห็นกระต่ายขาวสองตัวกระโดดไปมาในระหว่างนั้นด้วยเขาก้มศีรษะลงโดยสัญ
ไดอาน่าค่อย ๆ ถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาที่น่าหลงใหลของเธอแต่แววตาของเธอกลับเย็นชาเมื่อเธอมองฮาร์วีย์การที่เธอมาถึงที่นี่ดูเหมือนเธอจะกลัวว่าซีนเธียร์จะไม่มางานเลี้ยงเมื่อตระหนักได้เช่นนั้น ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย“ฉันเชิญเธอมาที่งานเลี้ยงเพื่อประโยชน์ของเรานะซีนเธียร์“ทำไมเธอถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้?”สีหน้าของไดอาน่าแย่ลงเมื่อเธอเห็นซีนเธียร์เกาะแขนของฮาร์วีย์ด้วยความคลั่งรัก“ถ้านายน้อยเบอร์ตันรู้ว่าเธอพาคนนอกมาด้วย…“เขาจะต้องอารมณ์เสีย!“เราอาจจะมีปัญหาได้นะ รู้ไหม?!”‘นายน้อยเบอร์ตัน?’ฮาร์วีย์มองไดอาน่าด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินชื่อนั้นเขารู้ว่าซีนเธียร์ต้องการให้เขามาด้วยเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้คุ้มกันให้เธอแต่เขาไม่ถือโกรธเรื่องนี้แอนเซลบอกเขาว่าคนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายเขามากที่สุดคือพวกอินเดียแม้จะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามรังควานซีนเธียร์เท่านั้น ทว่า เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาอาจจะเป็นฮาร์วีย์ก็ได้หากเป็นเช่นนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ฮาร์วีย์จะมาคุ้มกันเธอซีนเธียร์ยิ้มก้วยความอบอุ่นราวกับว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ไดอาน่ากำลังพูดถึง“ก
อีไลไม่เพียงแต่จะเป็นชายที่สูงและหล่อเหลาเท่านั้น แต่ไดอาน่ายังสัมผัสได้ถึงความวิเศษจากตัวเขาอีกด้วย เธอรู้ทันทีว่าอีไลเป็นคนชนชั้นสูงตั้งแต่แรกเห็นตระกูลของอีไลก็ถือว่าค่อนข้างร่ำรวยในอินเดียเช่นกัน ตระกูลเขาเชี่ยวชาญด้านการผลิตยาสามัญ การเดินตามรอยตระกูลตนเองทำให้อีไลได้กลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสูงสุดว่ากันว่าด้วยความแข็งแกร่งและทักษะของอีไล เขาคงจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้มากถ้าไม่ใช่เพราะระบบวรรณะจำกัดเขาเอาไว้แม้แต่แฟรงกี้ก็เคารพนับถืออีไลแฟรงกี้เป็นรองประธานสภาภารตะการที่อีไลมีผู้ชายแบบนั้นเคารพนับถือก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้หลายอย่างไม่ว่าจะอย่างไรฮาร์วีย์ก็ไม่อาจเทียบอีไลได้ อีไลเหนือกว่าเขามาก!ไดอาน่ามองว่าฮาร์วีย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เข้าใกล้อีไล ไม่ว่าฮาร์วีย์จะน่าประทับใจแค่ไหนก็ตามแต่หลังจากที่เห็นซีนเธียร์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะติดตามฮาร์วีย์ไปทุกที่ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพาพวกเขาไปด้วยทั้งสอง“เข้าไปกันเถอะพี่เขย”ซีนเธียร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาของไดอาน่าแต่เธอก็ยังคงอยากทำความรู้จักกับผู้คนในสังคมชนชั้นสูงของฟลัตเวลล์จริง ๆ
“ฉันพาซีนเธียร์มาที่นี่เพื่อมาพบนายน้อยจากอินเดีย!“คุณป้าเยตส์ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้!“การที่คุณมาด้วยจะทำให้นายน้อยไม่พอใจอย่างยิ่ง!”ไดอาน่าโกรธเกรี้ยว“คุณไม่ควรอยู่ที่นี่!“นี่สิบห้าดอลลาร์! เรียกแท็กซี่กลับแล้วไปหาอะไรกินเอาเองซะ!“คิดซะว่าฉันเลี้ยง!”ไดอาน่าดึงเงินสดออกจากกระเป๋าสตางค์ของเธอแล้วพัดมันไปมาอย่างเย่อหยิ่งแววตาของฮาร์วีย์เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขากำลังจะยัดเงินเข้าปากของผู้หญิงที่น่ารำคาญคนนี้เมื่อเขาถูกขัดจังหวะซีนเธียร์เดินออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอย่างนั้น“คุณยังไม่เข้าไปอีกเหรอพี่ฮาร์วีย์?”เธอจับแขนของฮาร์วีย์ไว้ด้วยความกลัวว่าเขาจะหนีไปทันทีที่มีโอกาส“ฮาร์วีย์บอกว่าเขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาเลยจะกลับก่อน”ไดอาน่าคิดว่าฮาร์วีย์กลัวเมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบสนองต่อคำขู่ของเธอจากนั้นเธอก็ดึงเงินสดออกมาเพิ่มแล้วโยนมันไปที่ฮาร์วีย์“สิบห้าดอลลาร์ไม่พอสำหรับคุณเหรอ?“นี่หนึ่งร้อยสี่สิบดอลลาร์! เอาไปซะแล้วไม่ต้องคืน!”ไดอาน่าคิดว่าเธอควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้ มันไม่สำคัญว่าเธอจะต้องจ่ายให้ฮาร์วีย์มากน้อยแค่ไหนตราบใดที่เขาจะออกไปจากที่นั้นซีนเธียร์รู
ไดอาน่ายิ้มอย่างอ่อนหวานราวกับว่าเธอพร้อมที่จะนอนกับอีไล“ฉันขอโทษที่ขัดความสุขของคุณด้วยการมาช้าขนาดนี้ นายน้อยเบอร์ตัน”“ฮ่า ๆ! คุณพูดเรื่องอะไรไดอาน่า?“เป็นเกียรติของผมที่คุณมาที่นี่!“ไม่เป็นปัญหาเลยถ้าคุณจะมาช้าหน่อย”อีไลจิบแชมเปญของเขาก่อนที่สายตาอันเร่าร้อนของเขาจะมองมาที่ซีนเธียร์“และนี่คงเป็นซีนเธียร์ใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ” ไดอาน่าตอบ“ซีนเธียร์ ซิมเมอร์แห่งสาขาที่เก้าของตระกูลฌอง“นอกจากจะเป็นที่รู้จักอย่างมากในโลกโซเชียลแล้ว เธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วย! เธอทั้งบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเหมือนเด็ก!“คืนนี้คุณจะต้องมีความสุขแน่นอนค่ะนายน้อยเบอร์ตัน”“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณซิมเมอร์”อีไลยื่นมือออกมาอย่างมีความสุข สีหน้าของเขาดูมุ่งมั่น“ผม อีไล เบอร์ตัน จากไวษยะ“คุณอาจจะไม่เข้าใจระบบวรรณะของประเทศผม คือว่า…“พวกเราชาวไวษยะเกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจและมีทรัพย์สมบัติมากมาย ตอนนี้คุณคงจะเข้าใจแล้วใช่ไหม?“เรามาเป็นมิตรกันเถอะ!”อีไลยิ้มอย่างสดใส แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหลอันเร่าร้อน แม้แต่การหายใจของเขาก็ยังเร็วเกินไปเล็กน้อยผู้หญิงที่บริสุทธิ์และสวยอย่า
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข