รูดอล์ฟเชื่อว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาไม่มีใครเทียบได้ เขาทำการรักษาผู้คนจากทั้งราชวงศ์หรือขุนนางในยุโรปเหนือมาหลายปีแล้วเมื่อรวมกับตำแหน่งของเขาในฐานะผู้อำนวยการสหพันธ์การแพทย์นานาชาติ พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเขาค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการแพทย์ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตคนไข้ที่ตัวเขาเองช่วยไม่ได้แน่นอน!เขาค่อนข้างไม่พอใจที่ฮาร์วีย์เปิดเผยความลับของเขา...ไม่แปลกเลยที่เขาจะดูโกรธมากหลังจากที่ฮาร์วีย์ไม่เคารพในสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญเช่นนี้ผู้ช่วยและพยาบาลที่อยู่ข้าง ๆ รูดอล์ฟจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยามพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์ยิ่งยโสเกินไป'เพียงเพราะเขารู้ความลับของคุณรูดอล์ฟ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอวดอ้างแบบนั้นได้!'‘เขาอาจจะรักษาผู้อาวุโสไม่ได้ แต่ทักษะทางการแพทย์ของเขาไม่มีใครเทียบ!’“คุณอยากจะลองไหมผู้อาวุโสตอร์เรส?”ฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อคำดูถูกของรูดอล์ฟโดยสิ้นเชิง และหันไปมองโคลตันอย่างใจเย็นแทน“ก็อย่างที่ผมบอก ผมไม่ใช่หมอ ถึงอย่างนั้นผมก็รู้เรื่องศิลปะแห่งการสังหาร“ไม่ว่าสัมผัสกลืนวิญญาณจะน่ากลัวแค่ไหน มันก็เป็นศิลปะแห่งการสังหารเท่านั้น“ถ้าผมรู้วิธีฆ่า ผมก็รู้วิธีช่วยเห
เซียนน่าขมวดคิ้ว เธอถึงจะพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าโคลตันอยากให้ฮาร์วีย์รักษาเขาขนาดนี้มีเพียงแอนเซลเท่านั้นที่ตื่นเต้น ราวกับว่าพ่อของเขากำลังจะหายขาดได้อย่างไรอย่างนั้น“พร้อมแล้วหรือยัง ผู้อาวุโสตอร์เรส?”ฮาร์วีย์เพิกเฉยต่อการสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาและยกนิ้วชี้ขวาและนิ้วกลางขึ้นราวกับเป็นมีด“เอาเลย”โคลตันยิ้ม แต่แม้แต่ผู้ชายที่สงบเช่นเขาก็ยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย กล้ามเนื้อของเขาตึงขึ้นเล็กน้อยชวุ่บ!ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าแล้วเหวี่ยงฝ่ามือซ้ายไปบนใบหน้าของโคลตันเพี๊ยะ!โคลตันโกรธขึ้นทันทีหลังจากถูกตบ“คุณยอร์ก!”การแสดงออกของแอนเซลเปลี่ยนไปทันที"กล้าดียังไง?!"ใบหน้าของเซียนน่าเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่!”รูดอล์ฟเองก็โกรธเช่นกัน!หากฮาร์วีย์สามารถช่วยคนได้ด้วยวิธีการแบบนี้ ประสบการณ์ของรูดอล์ฟในโรงเรียนแพทย์คงนับว่าสูญเปล่าในขณะที่ทุกคนโกรธเคือง…ฮาร์วีย์ดันนิ้วของเขาไปทางหัวใจของโคลตันเขาดีดนิ้วไปที่จุดนั้นประมาณเจ็ดครั้งก่อนที่เขาจะถอยกลับไป เขาก็ตบหน้าโคลตันอีกครั้งอึก!โคลตันโกรธมาก แต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างพุ่งออกมา
รูดอล์ฟไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโลกใบนี้จะมีใครที่มีทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้ นั่นเพราะฮาร์วีย์เพียงแค่ตบหน้าโคลตันแล้วจิ้มที่หน้าอกเขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นแต่เพียงแค่นั้นก็สามารถช่วยโคลตันจากความตายที่กำลังคืบคลานหาเขาได้...นี่มันเหลือเชื่อมาก!ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!"เกิดอะไรขึ้น?!“ทำไมนายถึงต้องมัดร่างของผู้อาวุโสตอร์เรสไว้ด้วยล่ะ“แล้วตบหน้าเขาทำไม!“นายต้องบอกฉันนะ!”ในตอนนี้รูดอล์ฟกำลังขอร้องให้ฮาร์วีย์อธิบายถึงสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำเขาไม่อยากตายไปพร้อมกับความไม่รู้นี้เซียนน่า ผู้ช่วย และพยาบาลตัวแข็งคือเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูบ้าคลั่งของรูดอล์ฟแน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นชายหนุ่มมีอากัปกริยาเช่นนี้ ที่ผ่านมาเขาเป็นคนสูงส่งและทรงพลังอยู่เสมอ“ก็ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย”ฮาร์วีย์ตั้งใจจะอธิบายว่ามันทำงานอย่างไรให้กับแอนเซล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะเก็บงำอะไรไว้“ผู้อาวุโสตอร์เรสรู้สึกประทับใจเมื่อเขาต่อสู้กับใครสักคน“อาการเจ็บป่วยทางกายภาพจากการถูกโจมตีในตอนนั้น แค่มีไอเย็นพัดผ่านเข้าสู่หัวใจของเขา“ถึงจะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้การไหล
ใบหน้าที่สวยงามของเซียนน่าเต็มไปด้วยความตกใจ“คุณยอร์ก ด้วยความสามารถที่คุณมี คุณจะสามารถช่วยเหลือประเทศได้มากมาย ฉันขอเชิญให้คุณ…”“คุณใจดีเกินไปแล้ว คุณรูดอล์ฟ“ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ใช่หมอ ผมรู้แค่ศิลปะแห่งการสังหารเท่านั้น“โลกใบนี้มีคนที่รอบรู้ในด้านใดด้านหนึ่งอยู่เสมอ“ผมก็แค่โชคดี ที่สามารถช่วยผู้อาวุโสตอร์เรสด้วยทักษะที่ผมมีได้”ก่อนที่เซียนน่าจะพูดจบประโยค ฮาร์วีย์ก็พยุงรูดอล์ฟขึ้น“ผู้อาวุโสตอร์เรสทนทุกข์ทรมานมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เขาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องการเวลาพักผ่อน“จากนี้ผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณนะ มือพิฆาตความตาย”ฮาร์วีย์หันหลังกลับและจากไปฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะทำความรู้จักกับลูกสาวของตระกูลระดับสูงแบบเธอท้ายที่สุดแล้ว มีเจ้าชายและนายน้อยเข้าแถวรอเธอมากเกินไปฮาร์วีย์ไม่อยากจะต้องสู้รบปรบมือกับคนเหล่านั้นเมื่อเขาออกจากคฤหาสน์หมายเลขหนึ่งมาได้ ความสัมพันธ์ของฮาร์วีย์ในฟลัตเวลล์ก็ยกระดับขึ้นไปอีกระดับหนึ่งก่อนหน้านี้ ภายในตระกูลตอร์เรส มีเพียงแอนเซลเท่านั้นที่พร้อมจะอยู่ข้างเขาแต่ ณ จุดนี้ แม้แต่เนลสันก็ยังต้องฟังความปรารถนาของฮาร์วีย์นั่นแ
“มีหนุ่มมาชวนเธอหรือเปล่า” ฮาร์วีย์ถามโดยสัญชาตญาณ"เปล่าสักหน่อย! เป็นผู้หญิงต่างหาก!”ซีนเธียร์หัวเราะคิกคัก“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ! ฉันรู้หรอกน่าว่าอะไรเป็นอะไร!“ถ้าเป็นผู้ชายมาชวน ฉันต้องปฏิเสธคำเชิญไปแล้ว!“แต่ว่าฉันได้ยินมาว่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่โดดเด่นที่สุดบางคนในแวดวงธุรกิจของฟลัตเวลล์จะมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ด้วย“พันธมิตรที่มาคุยธุรกิจกับทางบริษัทเราเป็นคนจัดงานนี้ขึ้นมา เธอถึงได้เชิญฉัน“และฉันปฏิเสธคำเชิญนี้ไม่ได้ ฉันอยากช่วยพี่สาวจัดการธุรกิจของเธอ!“เพราะฉะนั้นฉันถึงได้ตอบรับคำเชิญ“แต่ฉันไม่คุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไหร่…“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงทำได้เพียงขอให้คุณไปกับฉันด้วย!”ซีนเธียร์ทำหน้าตาน่าสงสาร“ฉันไม่ค่อยได้รู้จักใครที่นี่มากนัก“อีกอย่าง ฉันจะใช้กำลังในการไต่อันดับของสังคมไม่ได้หรอกจริงหรือเปล่า?“มีคนบอกว่าธุรกิจเกิดขึ้นจากสายสัมพันธ์ และฉันก็คิดว่าพวกเขาพูดถูก!“มาต่อสู้เพื่ออนาคตของพี่สาวด้วยกันเถอะ ตกลงไหม?"ซีนเธียร์เริ่มแกว่งมือของฮาร์วีย์ไปรอบ ๆฮาร์วีย์บังเอิญเห็นกระต่ายขาวสองตัวกระโดดไปมาในระหว่างนั้นด้วยเขาก้มศีรษะลงโดยสัญ
ไดอาน่าค่อย ๆ ถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาที่น่าหลงใหลของเธอแต่แววตาของเธอกลับเย็นชาเมื่อเธอมองฮาร์วีย์การที่เธอมาถึงที่นี่ดูเหมือนเธอจะกลัวว่าซีนเธียร์จะไม่มางานเลี้ยงเมื่อตระหนักได้เช่นนั้น ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย“ฉันเชิญเธอมาที่งานเลี้ยงเพื่อประโยชน์ของเรานะซีนเธียร์“ทำไมเธอถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้?”สีหน้าของไดอาน่าแย่ลงเมื่อเธอเห็นซีนเธียร์เกาะแขนของฮาร์วีย์ด้วยความคลั่งรัก“ถ้านายน้อยเบอร์ตันรู้ว่าเธอพาคนนอกมาด้วย…“เขาจะต้องอารมณ์เสีย!“เราอาจจะมีปัญหาได้นะ รู้ไหม?!”‘นายน้อยเบอร์ตัน?’ฮาร์วีย์มองไดอาน่าด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินชื่อนั้นเขารู้ว่าซีนเธียร์ต้องการให้เขามาด้วยเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้คุ้มกันให้เธอแต่เขาไม่ถือโกรธเรื่องนี้แอนเซลบอกเขาว่าคนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายเขามากที่สุดคือพวกอินเดียแม้จะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามรังควานซีนเธียร์เท่านั้น ทว่า เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาอาจจะเป็นฮาร์วีย์ก็ได้หากเป็นเช่นนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ฮาร์วีย์จะมาคุ้มกันเธอซีนเธียร์ยิ้มก้วยความอบอุ่นราวกับว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ไดอาน่ากำลังพูดถึง“ก
อีไลไม่เพียงแต่จะเป็นชายที่สูงและหล่อเหลาเท่านั้น แต่ไดอาน่ายังสัมผัสได้ถึงความวิเศษจากตัวเขาอีกด้วย เธอรู้ทันทีว่าอีไลเป็นคนชนชั้นสูงตั้งแต่แรกเห็นตระกูลของอีไลก็ถือว่าค่อนข้างร่ำรวยในอินเดียเช่นกัน ตระกูลเขาเชี่ยวชาญด้านการผลิตยาสามัญ การเดินตามรอยตระกูลตนเองทำให้อีไลได้กลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสูงสุดว่ากันว่าด้วยความแข็งแกร่งและทักษะของอีไล เขาคงจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้มากถ้าไม่ใช่เพราะระบบวรรณะจำกัดเขาเอาไว้แม้แต่แฟรงกี้ก็เคารพนับถืออีไลแฟรงกี้เป็นรองประธานสภาภารตะการที่อีไลมีผู้ชายแบบนั้นเคารพนับถือก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้หลายอย่างไม่ว่าจะอย่างไรฮาร์วีย์ก็ไม่อาจเทียบอีไลได้ อีไลเหนือกว่าเขามาก!ไดอาน่ามองว่าฮาร์วีย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เข้าใกล้อีไล ไม่ว่าฮาร์วีย์จะน่าประทับใจแค่ไหนก็ตามแต่หลังจากที่เห็นซีนเธียร์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะติดตามฮาร์วีย์ไปทุกที่ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพาพวกเขาไปด้วยทั้งสอง“เข้าไปกันเถอะพี่เขย”ซีนเธียร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาของไดอาน่าแต่เธอก็ยังคงอยากทำความรู้จักกับผู้คนในสังคมชนชั้นสูงของฟลัตเวลล์จริง ๆ
“ฉันพาซีนเธียร์มาที่นี่เพื่อมาพบนายน้อยจากอินเดีย!“คุณป้าเยตส์ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้!“การที่คุณมาด้วยจะทำให้นายน้อยไม่พอใจอย่างยิ่ง!”ไดอาน่าโกรธเกรี้ยว“คุณไม่ควรอยู่ที่นี่!“นี่สิบห้าดอลลาร์! เรียกแท็กซี่กลับแล้วไปหาอะไรกินเอาเองซะ!“คิดซะว่าฉันเลี้ยง!”ไดอาน่าดึงเงินสดออกจากกระเป๋าสตางค์ของเธอแล้วพัดมันไปมาอย่างเย่อหยิ่งแววตาของฮาร์วีย์เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขากำลังจะยัดเงินเข้าปากของผู้หญิงที่น่ารำคาญคนนี้เมื่อเขาถูกขัดจังหวะซีนเธียร์เดินออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอย่างนั้น“คุณยังไม่เข้าไปอีกเหรอพี่ฮาร์วีย์?”เธอจับแขนของฮาร์วีย์ไว้ด้วยความกลัวว่าเขาจะหนีไปทันทีที่มีโอกาส“ฮาร์วีย์บอกว่าเขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาเลยจะกลับก่อน”ไดอาน่าคิดว่าฮาร์วีย์กลัวเมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบสนองต่อคำขู่ของเธอจากนั้นเธอก็ดึงเงินสดออกมาเพิ่มแล้วโยนมันไปที่ฮาร์วีย์“สิบห้าดอลลาร์ไม่พอสำหรับคุณเหรอ?“นี่หนึ่งร้อยสี่สิบดอลลาร์! เอาไปซะแล้วไม่ต้องคืน!”ไดอาน่าคิดว่าเธอควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้ มันไม่สำคัญว่าเธอจะต้องจ่ายให้ฮาร์วีย์มากน้อยแค่ไหนตราบใดที่เขาจะออกไปจากที่นั้นซีนเธียร์รู