“มีหนุ่มมาชวนเธอหรือเปล่า” ฮาร์วีย์ถามโดยสัญชาตญาณ"เปล่าสักหน่อย! เป็นผู้หญิงต่างหาก!”ซีนเธียร์หัวเราะคิกคัก“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ! ฉันรู้หรอกน่าว่าอะไรเป็นอะไร!“ถ้าเป็นผู้ชายมาชวน ฉันต้องปฏิเสธคำเชิญไปแล้ว!“แต่ว่าฉันได้ยินมาว่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่โดดเด่นที่สุดบางคนในแวดวงธุรกิจของฟลัตเวลล์จะมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ด้วย“พันธมิตรที่มาคุยธุรกิจกับทางบริษัทเราเป็นคนจัดงานนี้ขึ้นมา เธอถึงได้เชิญฉัน“และฉันปฏิเสธคำเชิญนี้ไม่ได้ ฉันอยากช่วยพี่สาวจัดการธุรกิจของเธอ!“เพราะฉะนั้นฉันถึงได้ตอบรับคำเชิญ“แต่ฉันไม่คุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไหร่…“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงทำได้เพียงขอให้คุณไปกับฉันด้วย!”ซีนเธียร์ทำหน้าตาน่าสงสาร“ฉันไม่ค่อยได้รู้จักใครที่นี่มากนัก“อีกอย่าง ฉันจะใช้กำลังในการไต่อันดับของสังคมไม่ได้หรอกจริงหรือเปล่า?“มีคนบอกว่าธุรกิจเกิดขึ้นจากสายสัมพันธ์ และฉันก็คิดว่าพวกเขาพูดถูก!“มาต่อสู้เพื่ออนาคตของพี่สาวด้วยกันเถอะ ตกลงไหม?"ซีนเธียร์เริ่มแกว่งมือของฮาร์วีย์ไปรอบ ๆฮาร์วีย์บังเอิญเห็นกระต่ายขาวสองตัวกระโดดไปมาในระหว่างนั้นด้วยเขาก้มศีรษะลงโดยสัญ
ไดอาน่าค่อย ๆ ถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาที่น่าหลงใหลของเธอแต่แววตาของเธอกลับเย็นชาเมื่อเธอมองฮาร์วีย์การที่เธอมาถึงที่นี่ดูเหมือนเธอจะกลัวว่าซีนเธียร์จะไม่มางานเลี้ยงเมื่อตระหนักได้เช่นนั้น ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย“ฉันเชิญเธอมาที่งานเลี้ยงเพื่อประโยชน์ของเรานะซีนเธียร์“ทำไมเธอถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้?”สีหน้าของไดอาน่าแย่ลงเมื่อเธอเห็นซีนเธียร์เกาะแขนของฮาร์วีย์ด้วยความคลั่งรัก“ถ้านายน้อยเบอร์ตันรู้ว่าเธอพาคนนอกมาด้วย…“เขาจะต้องอารมณ์เสีย!“เราอาจจะมีปัญหาได้นะ รู้ไหม?!”‘นายน้อยเบอร์ตัน?’ฮาร์วีย์มองไดอาน่าด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินชื่อนั้นเขารู้ว่าซีนเธียร์ต้องการให้เขามาด้วยเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้คุ้มกันให้เธอแต่เขาไม่ถือโกรธเรื่องนี้แอนเซลบอกเขาว่าคนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายเขามากที่สุดคือพวกอินเดียแม้จะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตามรังควานซีนเธียร์เท่านั้น ทว่า เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาอาจจะเป็นฮาร์วีย์ก็ได้หากเป็นเช่นนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ฮาร์วีย์จะมาคุ้มกันเธอซีนเธียร์ยิ้มก้วยความอบอุ่นราวกับว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ไดอาน่ากำลังพูดถึง“ก
อีไลไม่เพียงแต่จะเป็นชายที่สูงและหล่อเหลาเท่านั้น แต่ไดอาน่ายังสัมผัสได้ถึงความวิเศษจากตัวเขาอีกด้วย เธอรู้ทันทีว่าอีไลเป็นคนชนชั้นสูงตั้งแต่แรกเห็นตระกูลของอีไลก็ถือว่าค่อนข้างร่ำรวยในอินเดียเช่นกัน ตระกูลเขาเชี่ยวชาญด้านการผลิตยาสามัญ การเดินตามรอยตระกูลตนเองทำให้อีไลได้กลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับสูงสุดว่ากันว่าด้วยความแข็งแกร่งและทักษะของอีไล เขาคงจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้มากถ้าไม่ใช่เพราะระบบวรรณะจำกัดเขาเอาไว้แม้แต่แฟรงกี้ก็เคารพนับถืออีไลแฟรงกี้เป็นรองประธานสภาภารตะการที่อีไลมีผู้ชายแบบนั้นเคารพนับถือก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้หลายอย่างไม่ว่าจะอย่างไรฮาร์วีย์ก็ไม่อาจเทียบอีไลได้ อีไลเหนือกว่าเขามาก!ไดอาน่ามองว่าฮาร์วีย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เข้าใกล้อีไล ไม่ว่าฮาร์วีย์จะน่าประทับใจแค่ไหนก็ตามแต่หลังจากที่เห็นซีนเธียร์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะติดตามฮาร์วีย์ไปทุกที่ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพาพวกเขาไปด้วยทั้งสอง“เข้าไปกันเถอะพี่เขย”ซีนเธียร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาของไดอาน่าแต่เธอก็ยังคงอยากทำความรู้จักกับผู้คนในสังคมชนชั้นสูงของฟลัตเวลล์จริง ๆ
“ฉันพาซีนเธียร์มาที่นี่เพื่อมาพบนายน้อยจากอินเดีย!“คุณป้าเยตส์ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้!“การที่คุณมาด้วยจะทำให้นายน้อยไม่พอใจอย่างยิ่ง!”ไดอาน่าโกรธเกรี้ยว“คุณไม่ควรอยู่ที่นี่!“นี่สิบห้าดอลลาร์! เรียกแท็กซี่กลับแล้วไปหาอะไรกินเอาเองซะ!“คิดซะว่าฉันเลี้ยง!”ไดอาน่าดึงเงินสดออกจากกระเป๋าสตางค์ของเธอแล้วพัดมันไปมาอย่างเย่อหยิ่งแววตาของฮาร์วีย์เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขากำลังจะยัดเงินเข้าปากของผู้หญิงที่น่ารำคาญคนนี้เมื่อเขาถูกขัดจังหวะซีนเธียร์เดินออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำอย่างนั้น“คุณยังไม่เข้าไปอีกเหรอพี่ฮาร์วีย์?”เธอจับแขนของฮาร์วีย์ไว้ด้วยความกลัวว่าเขาจะหนีไปทันทีที่มีโอกาส“ฮาร์วีย์บอกว่าเขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาเลยจะกลับก่อน”ไดอาน่าคิดว่าฮาร์วีย์กลัวเมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบสนองต่อคำขู่ของเธอจากนั้นเธอก็ดึงเงินสดออกมาเพิ่มแล้วโยนมันไปที่ฮาร์วีย์“สิบห้าดอลลาร์ไม่พอสำหรับคุณเหรอ?“นี่หนึ่งร้อยสี่สิบดอลลาร์! เอาไปซะแล้วไม่ต้องคืน!”ไดอาน่าคิดว่าเธอควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้ มันไม่สำคัญว่าเธอจะต้องจ่ายให้ฮาร์วีย์มากน้อยแค่ไหนตราบใดที่เขาจะออกไปจากที่นั้นซีนเธียร์รู
ไดอาน่ายิ้มอย่างอ่อนหวานราวกับว่าเธอพร้อมที่จะนอนกับอีไล“ฉันขอโทษที่ขัดความสุขของคุณด้วยการมาช้าขนาดนี้ นายน้อยเบอร์ตัน”“ฮ่า ๆ! คุณพูดเรื่องอะไรไดอาน่า?“เป็นเกียรติของผมที่คุณมาที่นี่!“ไม่เป็นปัญหาเลยถ้าคุณจะมาช้าหน่อย”อีไลจิบแชมเปญของเขาก่อนที่สายตาอันเร่าร้อนของเขาจะมองมาที่ซีนเธียร์“และนี่คงเป็นซีนเธียร์ใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ” ไดอาน่าตอบ“ซีนเธียร์ ซิมเมอร์แห่งสาขาที่เก้าของตระกูลฌอง“นอกจากจะเป็นที่รู้จักอย่างมากในโลกโซเชียลแล้ว เธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วย! เธอทั้งบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเหมือนเด็ก!“คืนนี้คุณจะต้องมีความสุขแน่นอนค่ะนายน้อยเบอร์ตัน”“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณซิมเมอร์”อีไลยื่นมือออกมาอย่างมีความสุข สีหน้าของเขาดูมุ่งมั่น“ผม อีไล เบอร์ตัน จากไวษยะ“คุณอาจจะไม่เข้าใจระบบวรรณะของประเทศผม คือว่า…“พวกเราชาวไวษยะเกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจและมีทรัพย์สมบัติมากมาย ตอนนี้คุณคงจะเข้าใจแล้วใช่ไหม?“เรามาเป็นมิตรกันเถอะ!”อีไลยิ้มอย่างสดใส แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหลอันเร่าร้อน แม้แต่การหายใจของเขาก็ยังเร็วเกินไปเล็กน้อยผู้หญิงที่บริสุทธิ์และสวยอย่า
“หืม?“อดีตสามี?“โล่?“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว!”อีไลดูราวกับว่าเขาตระหนักถึงบางอย่าง เขาหรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“คุณควรจะใช้สมองบ้างนะ“สุภาพบุรุษย่อมรู้ว่าเมื่อไรที่ควรหยุด“ผมขอเตือนคุณนะ อย่าพยายามเป็นฮีโร่เลย“ไม่อย่างนั้นคนชั้นต่ำอย่างคุณจะไม่ตายดีแน่”คำพูดด้วยน้ำเสียงอันสงบของอีไลเต็มไปด้วยการข่มขู่ที่รุนแรงซีนเธียร์เกาะแขนของฮาร์วีย์แน่นจนอีไลอิจฉาอย่างยิ่ง“ฮาร์วีย์เป็นแฟนของฉัน!” ซีนเธียร์กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว“เลิกดูถูกเขาได้แล้ว!”ผู้คนต่างหัวเราะผู้หญิงจากตระกูลใหญ่และแมงดา...พวกเขามาจากโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ซีนเธียร์กลับบอกว่าพวกเขาคบกันใครจะเชื่อเธอ?“เลิกเล่นตลกได้แล้วซีนเธียร์”อีไล่หัวเราะด้วยความเหยียดหยาม“คุณจะลดค่าตัวเองทำไม?“เขาไม่คู่ควรที่จะได้อยู่เคียงข้างเทพธิดาอย่างคุณ ใช่ไหมทุกคน?”ผู้คนหัวเราะอีกครั้งกับคำพูดของอีไล‘ผู้ชายที่ไร้ค่าแบบนั้นกำลังพยายามจะคบกับคนที่ไกลเกินเอื้อมงั้นเหรอ?’‘ตลกจริง ๆ!’จุ้บ!ก่อนที่เสียงหัวเราะจะสิ้นสุด ฮาร์วีย์ก็ได้คว้าเอวที่เรียวของซีนเธียร์และจูบเธอเบา ๆ เสียงจุ้บสะท้อนไปทั่วท
ผู้คนต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์กพวกเขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่โดดเด่นอย่างซีนเธียร์ ซิมเมอร์จะคบกับผู้ชายที่ไร้ค่าเช่นนี้ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ ราวกับว่าเขากำลังคิดที่จะพิสูจน์ตัวเองอีก“ผมรู้ว่าพวกคุณไม่เชื่อผม ถ้าอย่างนั้นผมทำได้มากกว่านี้อีกนะ!”ฮาร์วีย์กอดเอวของซีนเธียร์และจูบเธออีกครั้งครั้งนี้เขาไม่ได้สัมผัสริมฝีปากของซีนเธียร์จริง ๆ เขาเพียงแต่เล่นมุมเหมือนกับในหนังสำหรับคนอื่น ๆ ทั้งคู่ดูเหมือนจะมีช่วงเวลาที่เร้าร้อน แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาแค่แตะแก้มกันเท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นฉากนี้ก็ยังคงน่าตกใจมากซีนเธียร์แทบจะเป็นลมถ้าแม่และพี่สาวของเธอรู้เรื่องนี้ เธอคงจะไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ได้เธอรู้ดีว่าลิเลียน เยตส์จะตอบสนองอย่างไรเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกสาวของเธอคบกับคนที่ไร้ค่า…ยิ่งเป็นฮาร์วีย์ยิ่งแล้วใหญ่“แกมันบ้าไปแล้วไอ้สารเลว!“คนประเทศ H อย่างแกก็ไม่ต่างอะไรกับพวกศูทรในประเทศฉัน!“แกกล้าแย่งผู้หญิงของชาวไวษยะได้ยังไง?!“แกบ้าไปแล้วเหรอ?!“ผู้ชายที่มีสถานะสูงเท่านั้นที่คู่ควรกับผู้หญิงที่สวยขนาดนี้!“แกคู่ควรด้วยเหรอ? แกมีค่าพอเหรอ? แกมีปัญ
“ได้ยินไหมไอ้หนุ่ม?! คุณซิมเมอร์ไม่ต้องการให้นายดูแลเธอ!“ฟังฉันนะ! ในฐานะชาวไวษยะของอินเดีย แม้ว่าสถานะของฉันจะไม่ได้สูงขนาดนั้น แต่ตระกูลของฉันก็มีเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์!“ฉันเองยังคิดเลยว่าฉันคงไม่สามารถดูแลคุณซิมเมอร์ได้”ชายหนุ่มทรงผมบัซคัตมีสีหน้าขบขันหลังจากที่ได้เห็นท่าทางมั่นใจของฮาร์วีย์ ยอร์ก“ในเมื่อนายพูดมาขนาดนี้ อย่างน้อยนายคงมีเงินจำนวนนั้นใช่ไหม?“ฉันสงสัยจังเลยว่านายมาจากตระกูลชั้นนำตระกูลไหน?! จากหนึ่งในห้าตระกูลลึกลับงั้นเหรอ?“บอกมาสิ! ทำให้พวกเรากลัวหน่อย! แล้วหลังจากนั้นพวกเราจะไม่ขัดขวางอิสรภาพของนาย!”สายตาของผู้คนต่างเต็มไปด้วยความเหยียดหยามแน่นอนว่าทุกคนจะว่าชายหนุ่มแค่ล้อฮาร์วีย์แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ ผู้ชายธรรมดา ๆ จะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?ถ้าเขามีเงินมากขนาดนั้นจริง ๆ เขาจะเกาะคนอื่นทำไม?เขาจะถูกไล่ออกจากตระกูลทำไม?“หลายร้อยล้านดอลลาร์เหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“จริง ๆ ผมไม่รู้เลยว่าผมมีเงินเท่าไหร่“ผมไม่เคยสนใจมัน“สำหรับผม มันก็เป็นเพียงตัวเลข“ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของผมคือเมื่อผมได้ทำงานแลกค่าจ้างไม่กี่ดอลลาร์ต่อชั่วโมง”“