ซีนเธียร์ ซิมเมอร์รู้สึกเศร้าโศกเมื่อเห็นแม่ของเธอพยายามใส่ร้ายฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างสิ้นหวังเธอรู้ดีว่าคำให้การของลิเลียน เยตส์สำคัญที่สุดจากพวกเธอทั้งสามข้อกล่าวหาของฮาร์วีย์จะเป็นโมฆะก็ต่อเมื่อลิเลียนคืนคำสิ่งที่เธอพูดเมื่อเช้าวันนั้นเท่านั้นแมนดี้ ซิมเมอร์ขมวดคิ้ว เธอเองก็เชื่อว่าฮาร์วีย์จะไม่ทำอะไรแบบนี้แต่เธอก็รู้จักนิสัยของแม่เธอดี มันจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพยายามโน้มน้าวเธอในตอนนี้เมื่อพิจารณาจากนิสัยของลิเลียน ฮาร์วีย์คงไม่มีโอกาสที่จะล้างชื่อตนเองได้ถ้าเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็น “พยานร้าย” ของเขาเธอจะจดจำที่ฮาร์วีย์แทงเธอที่ฮ่องกงไปตลอดชีวิต...ความปรารถนาของเธอที่จะเป็นแม่ยายของตระกูลอันดับต้น ๆ ก็เป็นเหตุผลักดันให้เธอทำเช่นนี้ขณะที่แมนดี้พยายามหาวิธีโน้มน้าวแม่ของเธอ จู่ ๆ รถโรลส์รอยซ์แฟนธอมสองสามคันก็แล่นเข้ามาก่อนที่จะจอดหน้าสถานีตำรวจชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีขาวลงมาจากรถผู้หญิงที่สวมแว่นตากรอบทองและชุดกระโปรงสวยงามถือร่มให้เขาขณะที่เดินเข้าไปในสถานีตำรวจชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจเซฟ บาวเออร์เองผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรูบี้ เมอร์เรย์
“คุณพูดอะไรนายน้อย?!“มันไม่เกี่ยวกับคุณเลย”ลิเลียน เยตส์ตัดบทไม่ให้แมนดี้ ซิมเมอร์พูดทันที“ไอ้สารเลวฮาร์วีย์นั่นแค่เกิดมาพร้อมกับความรุนแรง! มีเพียงมันเท่านั้นที่จะสามารถทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้ได้!“มันสมควรได้รับโทษ!“มันคือคนที่ฆ่าคนพวกนั้น!“มันคือคนที่ต้องชดใช้!”“พอได้แล้วแม่! เลิกพูดสักที!”แมนดี้อดไม่ได้ที่จะดุแม่ของเธอก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองโจเซฟ บาวเออร์“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนายน้อย“ฉันไม่อยากเถียงว่าใครถูกใครผิดด้วย“แค่หยุดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ซะ!”โจเซฟดึงซิการ์เส้นยาวบาง ๆ ออกมาแล้วหนีบไว้ที่ปากด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรแมนดี้?“ไม่ว่าจะยังไงจอร์แดน โบวี่ก็เป็นลูกน้องของผม! ผมควรจะมีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น“ผมไตร่ตรองเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างทางมาที่นี่ ผมต้องการจัดการกับเรื่องนี้อย่างเหมาะสม“ตอนนี้ตระกูลโบวี่เป็นประวัติศาสตร์แล้ว!“แต่คนที่ยังอยู่ต้องดำเนินชีวิตต่อไป!“ผมรู้ว่าคุณมีความรู้สึกต่อสามีเก่าของคุณและรู้สึกผิดกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ คุณไม่อยากให้เขาต้องติดคุกไปตลอดชีวิต!“เพราะฉะนั้
“ไม่แปลกใจเลยที่คุณเป็นหนึ่งในผู้ชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดของฟลัตเวลล์ทั้งที่อายุยังน้อย!“ฉันจะสบายใจมากถ้าแมนดี้ได้ลงเอยกับคุณ!”ลิเลียน เยตส์ไม่ได้รับรู้ถึงความจอมปลอมของโจเซฟ บาวเออร์เลย เธอเพียงแต่เปี่ยมด้วยสุขถ้าโจเซฟเป็นผู้ชายที่ชอบแต่งตัว ลิเลียนคงจะสามารถใช้ชีวิตอย่างหรูหราหากแมนดี้ได้แต่งงานกับเขา!ลิเลียนมองแมนดี้ด้วยสีหน้าที่ขมขื่นทันที“โอ้ แมนดี้!“เธอจะต้องทะนุถนอมชายตรงหน้าเธอนะ!“ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีโอกาสได้เจอผู้ชายแบบนี้แล้วนะ!”แมนดี้ขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจสิ่งที่โจเซฟพยายามจะทำคำพูดของโจเซฟไม่สมเหตุสมผลเลย ราวกับว่าเธอแค่ฝันไปโจเซฟยิ้มจาง ๆ หลังจากที่ได้ยินคำชมของลิเลียน“คุณก็พูดเกินไปครับคุณน้าลิเลียน!“นี่ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย“ตราบใดที่แมนดี้มีความสุขและลืมอดีตของเธอได้ ทั้งหมดนี้ก็จะคุ้มค่าสำหรับผม…”หลังจากนั้นโจเซฟก็มองแมนดี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา“เพียงแค่คุณตอบตกลง อดีตสามีของคุณก็จะถูกปล่อยตัวทันที!“ผมเต็มใจทำเพื่อคุณเท่านั้น!”ซีนเธียร์ ซิมเมอร์มีสีหน้าสับสนราเชล ฮาร์ดีกำลังตื่นตัวอย่างยิ่ง“ตอบรับไปเถอะแมนดี้!” ราเชลกล่าวด
ขณะที่ข้างนอกกำลังวุ่นวาย ฮาร์วีย์ ยอร์กกลับงีบหลับอยู่ในห้องสอบสวนไม่มีใครถามเขาแม้แต่คำเดียวนับตั้งแต่ที่เขาถูกนำเข้ามาดูเหมือนว่าสถานีตำรวจฟลัตเวลล์จะมุ่งความสนใจไปที่หลักฐานที่เกิดเหตุและพยานหลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากยอดฝีมือบางคน ด้วยเหตุนี้ฮาร์วีย์จึงถูกพวกเขาเมินโดยสิ้นเชิงไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นกลวิธีทางจิตวิทยาหรือว่าพวกเขาแค่พยายามรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อที่ฮาร์วีย์จะไม่มีโอกาสลบล้างอาชญากรรมของเขาไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ฮาร์วีย์ก็ถูกทิ้งอยู่ตามลำพังมาระยะหนึ่งแล้วฮาร์วีย์ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว เขางีบหลับไปก่อนที่จะเริ่มไตร่ตรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของเอซร่า บาวเออร์ ดีแลน โบวี่ และจอร์แดน โบวี่คนที่จะสามารถควบคุมเหตุการณ์เช่นนี้ในฟลัตเวลล์ได้มีไม่มากนักสิ่งเดียวที่น่าสับสนก็คือ การที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อฆ่าฮาร์วีย์คงเป็นเรื่องที่ยากแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุการณ์นี้ก็ตามเมื่อพิจารณาตามกฎหมายแล้วฮาร์วีย์อาจจะได้รับการปล่อยตัวหลังจากสี่สิบแปดชั่วโมงหากไม่มีเบาะแสอื่นใดที่บ่งชี้ว่าเขามีความผิดในอาชญากรรมไม่ต้องสงสั
วิเวียน ฮอลล์มีท่าทางที่เย่อหยิ่งเมื่อเธอกล่าวอย่างดุเดือดว่า “สารภาพมาเดี๋ยวนี้!“คุณฆ่าพวกเขาทำไม?!“คุณฆ่าพวกเขายังไง?!“คุณฆ่าคนประเภทไหน?!“ตอบมา! ฉันต้องการรายละเอียดทั้งหมด!“กฎหมายจะนำความยุติธรรมมาให้คุณ!”ฮาร์วีย์ ยอร์กเหลือบมองวิเวียนด้วยความอยากรู้อยากเห็น“คุณไม่มีหลักฐานว่าผมฆ่าใครเลยใช่ไหมล่ะ?“คุณจะเชื่อผมไหมถ้าผมบอกคุณว่าผมไม่ได้ฆ่าใครทั้งนั้น?”ผู้ตรวจการชายชะงักก่อนที่เขาจะหัวเราะอย่างเย็นชา“ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคุณอยู่ในที่เกิดเหตุ! คุณก็มีแรงจูงใจที่จะทำสิ่งนั้นด้วย!“จะปฏิเสธไปเพื่ออะไร?!”ฮาร์วีย์ยักไหล่“สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความคิดอุปทาน“เอาเป็นว่าผมจะไม่พูดว่าบุคคลในภาพไม่ใช่ผม“แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นผม การที่ผมอยู่ที่นั่นก็ไม่ได้พิสูจน์อะไรได้เลย“บางทีผมอาจจะแค่เดินชมทิวทัศน์เล่นก็ได้“นอกจากนี้จอร์แดน โบวี่ยังมีศัตรูในฟลัตเวลล์มากมาย เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนต้องการฆ่าเขา”“พอได้แล้ว!“เลิกพยายามปฏิเสธได้แล้ว!”ผู้ตรวจการชายกระแทกโต๊ะอย่างแรงจนที่เขี่ยบุหรี่กระเด็นออกไป“พวกเรารู้ทุกอย่างแล้ว! คุณคือคนที่ฆ่าคนพวกนั้นทั้งหมด
ฮาร์วีย์ ยอร์กเหลือบมองวิเวียน ฮอลล์อย่างใจเย็น“คุณไม่มีสิทธิ์มาเป็นเกราะป้องกันให้ผมอยู่แล้ว“คุณไม่มีอิทธิพลอะไร และคุณก็ไม่มีสถานะพอที่จะทำเช่นนั้นด้วย”“ฮึ ฮึ ฮึ… ฉันดีไม่พอที่จะเป็นเกราะป้องกันให้คุณงั้นเหรอ?“คุณพูดเหมือนกับว่าคนนอกอย่างคุณจะมีอิทธิพลอะไรในฟลัตเวลล์!”วิเวียนหัวเราะด้วยความโกรธก่อนที่เธอจะกัดฟัน“โทรเลยสิ! ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะมีอะไรดี!”‘ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลคนอื่นพยายามจะอวดดีต่อหน้าฉันราวกับว่าเขามีฐานะใหญ่โต! ตลกสิ้นดี!’ฮาร์วีย์เพียงแต่ยิ้มและคิดว่าควรจะโทรหาใครดีก่อนที่จะกดโทรออกบี๊บ บี๊บ บี๊บ…สายถูกเชื่อมต่อแต่ไม่มีเสียงอะไรตอบรับที่ปลายสาย ฮาร์วีย์ไม่สนใจและแตะหน้าจอเบา ๆ สามครั้งก่อนที่จะรออย่างอดทนน้ำเสียงที่ร่าเริงแต่วิตกกังวลดังขึ้นที่ปลายสาย“ซีอีโอยอร์กเหรอครับ?”“ไม่ได้คุยกันนานเลยแอนเซล ไม่อยากจะเชื่อว่านายจะยังจำสัญญาณของฉันได้จนถึงตอนนี้”“ล้อผมเล่นเหรอครับซีอีโอยอร์ก?!” อีกฝ่ายตอบด้วยความเคารพ“ผมจะไม่ลืมมันแม้ว่าผมจะลืมชื่อของตัวเองก็ตาม!”วิเวียนมีสีหน้ารำคาญในขณะนั้น“เร็ว ๆ!“คิดว่าตัวเองอยู่ในร้านกาแฟหรือ
“การพูดความจริงเป็นสิ่งที่สำคัญนะไอ้หนุ่ม” ผู้ตรวจการชายกล่าว“อย่างน้อยก็ทำการบ้านมาก่อนที่จะพยายามหลอกคนอย่างพวกเรา“คุณไม่รู้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้อำนวยการตอร์เรสด้วยซ้ำ แต่คุณกลับแกล้งทำเป็นโทรหาเขา?“คุณรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?“เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ของกองกำลังทหารของประเทศ เขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของหัวหน้าผู้ฝึกสอนตอนที่เขายังอยู่ที่ค่ายศัสตราวุธ!“หัวหน้าผู้ฝึกสอนฝึกเขาเอง!“ผู้อำนวยการตอร์เรสสังหารเทพสงครามจากประเทศหมู่เกาะด้วยตัวเขาเองในสนามรบยูโร-อเมริกา!“เพราะความสำเร็จของเขา เขาจึงได้เป็นผู้อำนวยการสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ตั้งแต่อายุยังน้อย!“เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่แท้จริงในแวดวงสังคมชนชั้นสูงของฟลัตเวลล์!“คุณคิดว่าคุณจะมีหมายเลขโทรศัพท์ของคนแบบนั้นจริง ๆ งั้นเหรอ?!“คุณคิดว่าคุณจะสั่งเขาได้งั้นเหรอ?!“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? หัวหน้าผู้ฝึกสอนหรือไง?!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากที่ได้ยินคำดูถูกเหยียดหยามเหล่านั้น“แล้วถ้าผมบอกคุณว่าผมคือหัวหน้าผู้ฝึกสอนล่ะ?”“พอได้แล้ว! อย่าพยายามทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียได้ไหม?!”วิเวียนมีสีหน้าดุร้าย“หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือเสาห
สีหน้าของแอนเซล เตอร์เรสแย่ลงเมื่อเขาเดินไปข้างหน้าหัวใจของวิเวียน ฮอลล์และคู่หูของเธอเต้นรัวก่อนที่พวกเขาจะเข้าหาแอนเซล“ผู้อำนวยการตอร์เรส!“มีธุระอะไรเหรอคะ?”หัวใจของวิเวียนเต้นแรง‘ไม่จริงใช่ไหม?’“คุณได้จับกุมชายที่ชื่อฮาร์วีย์ ยอร์กหรือเปล่า?” แอนเซลถามด้วยความเยือกเย็นโดยไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว“เขาอยู่ที่ไหน?“ผมต้องการพบเขาเดี๋ยวนี้!”เหงื่อเริ่มหยดลงมาที่ใบหน้าของวิเวียนและคู่หูของเธอในขณะที่ตาของพวกเขากระตุก‘มันเป็นเรื่องจริง!‘มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด!‘เมื่อกี้ฮาร์วีย์โทรหาผู้อำนวยการตอร์เรสจริง ๆ ด้วย!‘เขามาที่นี่ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที!‘แต่…’***“ทำไมคุณไม่โทรหาผมทันทีที่คุณมาที่นี่ล่ะครับซีอีโอยอร์ก?“ถ้าพี่น้องจากค่ายศัสตราวุธรู้ว่าคุณถูกขังอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องพังบ้านทั้งหลังของผมแน่เลย”แอนเซลไปที่ห้องสอบสวนห้านาทีหลังจากที่อ่านเอกสารของคดีเขายืนข้างฮาร์วีย์ด้วยความเคารพพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่กล้าแม้แต่จะนั่งลงหลังจากที่จิบชาของแอนเซลแล้วฮาร์วีย์ก็ยิ้ม“ฉันเกษียณมาสามปีเต็มแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงที่นั่นหรอก“ฉันต้องมาที่นี่เพราะ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข