บางทีการกระทำของซีนเธียร์อาจทำให้เหล่าบอดี้การ์ดกล้าหาญขึ้นก่อนหน้านี้พวกเขาตัวสั่นด้วยความกลัวภายในรถ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังกัดฟันอย่างเด็ดเดี่ยวและก้าวไปข้างหน้าซีนเธียร์เมื่อถึงจุดนี้บอส ดาร์ทและลูกน้องของเขาก็หัวเราะอย่างเยาะเย้ย พวกเขามองเหล่าบอดี้การ์ดด้วยสายตาอาฆาตแค้นในสายตาของพวกเขาซีนเธียร์ที่มีหน้าตาสวยงามและบอดี้การ์ดที่ดูดุร้ายล้วนเป็นเพียงลูกแกะที่ต้องถูกฆ่าหากแก๊งขวานต้องการ คนเหล่านี้คงกลายเป็นฝุ่นไปแล้วเมื่อเห็นแก๊งขวานมองซีนเธียร์ในลักษณะนั้น และบอส ดาร์ทที่พ่นควันด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง...คนขับก็ไม่สามารถระงับความรู้สึกของเขาได้อีกต่อไป เขารวบรวมความกล้าที่จะก้าวออกไปข้างนอกโดยจับปืนที่เอว“เคารพพวกเราหน่อยบอส ดาร์ท! ซีนเธียร์เป็นคนดัง! เธอเป็นดาราอันดับต้น ๆ! เธอ…”เพี๊ยะ!ก่อนที่คนขับจะทันได้พูดจบเขาก็ถูกคนของแก๊งขวานคนหนึ่งตบลงกับพื้นจากนั้นก็มีขวานถูกวางไว้บนหัวของเขาก่อนที่เขาจะทันได้สู้กลับได้ณ จุดนั้นคนขับทำได้เพียงนิ่งอยู่กับที่เท่านั้นแก๊งขวานหัวเราะ พวกเขาล้อมคนขับผู้น่าสงสารและต่อยและเตะเขาเพียงไม่กี่นาทีผ่านไปร่างของคนขับก็ถูกปกคลุมไปด้วย
ซีนเธียร์ไม่ได้ตำหนิพวกเขาเพราะพวกเขาเพียงแค่ถูกจ้างมาให้ทำงานของตน เธอก้าวไปข้างหน้าและจ้องบอส ดาร์ทและลูกน้องของเขาด้วยความเย็นชา“แก๊งขวานใช่ไหม?“พวกคุณคิดว่าพวกคุณแข็งแกร่งเหรอ?“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ควรจะฆ่าฉันเลย!“ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีโอกาสได้เสียใจทีหลังเมื่อพี่เขยของฉันมา!”ไรลีย์และคนอื่น ๆ ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของซีนเธียร์พวกเขาไม่คิดว่าซีนเธียร์จะทำแบบนี้แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้ก็ตามบอส ดาร์ทและคนอื่น ๆ ต่างชะงักพวกเขารู้ว่าซีนเธียร์ค่อนข้างจะรับมือได้ยาก...แต่พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะยังกล้าพูดโอ้อวดขนาดนี้“ฆ่าเธอ?”สีหน้าที่ชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของบอส ดาร์ท“เราทำแน่!“แต่บนเตียงฉันนะ!“ฉันรับรองว่าเธอจะต้องขอร้องให้ฉันฆ่าเธอเมื่อถึงตอนนั้น!“เธออยากตายมากใช่ไหม?!“ความปรารถนาของเธอคือคำสั่งของฉัน!”บอส ดาร์ทปรบมือและสั่งว่า “เปลื้องผ้าเธอแล้วหาโรงแรมที่ใกล้ที่สุด! ฉันจะไปจัดการกับเธอ!“อยากจะรู้เหมือนกันว่าถึงตอนนั้นเธอจะยังปากดีขนาดนี้ไหม!”“แต่บอส ดาร์ท นายน้อยโบวี่บอกว่า…” ลูกน้องคนหนึ่งของเขาพึมพำหลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเพี๊
ผู้ที่ยืนดูตกใจมากจนต้องถอยหลังไปพวกเขาหวาดกลัวมาก พวกเขารู้ว่ามีเรื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในวันนั้น“ขับรถบนพื้นที่สูงนี่ยากจริง ๆ ผมไม่คิดว่าผมจะพลาดใครเลยด้วยซ้ำ”ทันใดนั้นประตูของรถแลนด์ครุยเซอร์ก็ถูกเปิดออกไอเดนกระโดดลงจากรถด้วยสีหน้าบูดบึ้งจากความหงุดหงิดเนื่องจากผู้กระทำผิดหลักยังมีชีวิตอยู่จึงยังไม่นับว่าเขาประสบความสำเร็จเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งและน้ำเสียงที่โดดเด่นของไอเดน ความกลัวที่ไม่อาจบรรยายได้ก็เข้าปกคลุมบอส ดาร์ทเขาสะดุดล้มกับพื้นและเช็ดเลือดออกจากใบหน้าขณะที่จ้องไอเดน“แกเป็นใครไอ้สารเลว?!“กล้าดียังไงมาชนพวกเรา?! พวกเรามาจากแก๊งขวานนะ!“ไม่เคารพรุ่นพี่เลยหรือไง?“แกมันไร้กฏเกณฑ์!“แกกล้าท้าทายแก๊งขวานเหรอ?!“ชะตากรรมของแกขาดแล้ว!”บอส ดาร์ทกัดฟันอำนาจมีบทบาทสำคัญในสังคมยุคใหม่คนอย่างบอส ดาร์ทเพียงแต่กล้าโอ้อวดเพราะภูมิหลังที่แข็งแกร่งของเขาและการสนับสนุนอันมากมายที่เขาได้รับจากฟลัตเวลล์คนที่ขับรถแลนด์ครุยเซอร์เป็นคนนอกแน่นอนคนนอกกล้าชนบอส ดาร์ทได้อย่างไร?!ต่อให้เขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง…บอส ดาร์ทก็จะสามารถจัดการเขาได้แน่นอนหากได้ค้นพบตั
ขณะที่ซีนเธียร์ยังคงจมอยู่ในความคิดของเธอ ฮาร์วีย์ก็เหลือบมองบอส ดาร์ทอย่างใจเย็นและลากนิ้วโป้งไปที่คอของเขาไรลีย์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ข้างถนนเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ ตาของเธอกระตุก เธอรู้สึกราวกับว่ามีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นแกร๊ก!ริมฝีปากของไอเดนโค้งงอเป็นรอยยิ้มดุร้ายเมื่อเขาเห็นท่าทางของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็หยิบปืนไรเฟิลล่าสัตว์ออกมา เขาตั้งใจเล็งมันไปที่ขาของบอส ดาร์ทปัง!เขาไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกเลยในวินาทีต่อมาบอส ดาร์ทก็สะดุดไปข้างหลังขณะที่จับขาของเขาผู้คนกรีดร้องด้วยความกลัวก่อนที่จะวิ่งหนีไปเพราะกลัวว่าพวกเขาจะซวยไปด้วย“อ๊าาา!”เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังก้องไปในอากาศ ไม่นานนักก็เหลือเพียงบอส ดาร์ทเท่านั้นที่ยังอยู่ที่นั่น“แก…“พวกแก…“พวกแกมันป่าเถื่อน!“พวกแกไม่สนกฎหมายเลยหรือไง?!“ฉันคือบอส ดาร์ท! ฉันเป็นหนึ่งในสี่โกลิอัทแห่งแก๊งขวาน!”บอส ดาร์ทตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ความมั่นใจที่เขารวบรวมมาแทบพังทลายลงในทันทีเขาอยากจะวิ่ง แต่ความกลัวอันยิ่งใหญ่ในใจทำให้เขาต้องอยู่นิ่ง ๆ“นายน้อยยอร์กบอกให้ผมหักแขนขาของคุณ”ไอเดนเดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและแตะหน้าข
ราเชลนำกล่องยาชาออกมาและฉีดมันให้บอส ดาร์ทเธอหยุดเลือดจากร่างกายของเขาเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากความตายสีหน้าของบอส ดาร์ทมืดลงเมื่อเห็นราเชลทำอย่างนั้นเขารู้ว่าชะตากรรมอันเลวร้ายกำลังรอเขาอยู่บอส ดาร์ท ซึ่งหยิ่งผยองอย่างยิ่งและเอารัดเอาเปรียบประชาชนมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความสิ้นหวังอย่างมากเขาเป็นคนโหดเหี้ยมจากโลกใต้ดิน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนเหล่านี้ เขาก็รู้สึกไร้ตัวตนไปเลยเขาคือผู้ที่มักจะทำให้ชีวิตของคนอื่นเหมือนตกนรกทั้งเป็น...ตอนนี้เขาได้ลิ้มรสยาของตนเองแล้ว“คุณยังไม่ตายใช่ไหม?”ไอเดนใช้ปืนไรเฟิลล่าสัตว์จิ้มหัวของบอส ดาร์ท“นำทางไป“เราจะไปจัดการกับแก๊งขวานเดี๋ยวนี้!”สาวกหลงเหมินสองคนวิ่งมาและยกบอส ดาร์ทขึ้นรถเข็นไปความโกรธของบอส ดาร์ทรุนแรงขึ้นเมื่อเขาเห็นว่ามีรถเข็นเตรียมไว้สำหรับเขาแล้ว“ไอ้สารเลว! พวกแกทำเกินไปแล้ว!”ปัง!ไอเดนไม่เสียเวลาเหนี่ยวไกที่ต้นขาด้านในของบอส ดาร์ท“หุบปาก ถ้าพูดอีกครั้งผมอาจจะยิงพลาด…”บอส ดาร์ทตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเขาสังเกตเห็นไอเดนมองเป้าของเขา เขาเงียบโดยไม่กล้าพูดอะไรอีกสิบนาทีต่อมารถโตโยต้า อ
ฮาร์วีย์หยิบขวดโซดาขึ้นมาจิบหนึ่งขวดพร้อมยิ้ม“มีคนเสียชีวิตไปมากแล้ว แถมเรายังทำให้หนึ่งในสี่โกลิอัทพิการไปอีกด้วย“ถ้าเราไม่ทำลายแก๊งขวานให้ทันท่วงที อนาคตเราจะคงอยู่ในฟลัตเวลล์ได้ยาก"ไม่ต้องกังวล จบเรื่องนี้แล้วผมจะเลี้ยงบาร์บีคิวคุณเอง”ความรู้สึกมั่นใจอันแรงกล้าแผ่ออกมาจากร่างกายของฮาร์วีย์“พี่เขยของคุณน่าประทับใจขนาดนั้นจริง ๆ เหรอซีนเธียร์?”ไรลีย์ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พยายามค้นหาตัวตนของเขา'ถ้าชายคนนี้อยู่ในตระกูลเศรษฐี ฉันจะต้องเกาะเขาไว้อย่างสุดกำลัง…'“พี่เขยเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน! อย่างที่แม่บอกนั่นแหละ เขามาได้ไกลขนาดนี้เพราะเขาอยู่ในความดูแลของพี่สาวฉัน” ซีนเธียร์พูดอย่างแผ่วเบาฮาร์วีย์มีตัวตนมากมาย แต่ในสายตาของซีนเธียร์การที่เขาเป็นพี่เขยของเธอคือตัวตนที่สำคัญที่สุดไรลีย์ตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้ยิน“เขาเป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านจริง ๆ เหรอ?”"ก็ใช่น่ะสิ! ชนิดที่ไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิดด้วย”ฮาร์วีย์หันกลับมามองด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าโดยไม่พูดอะไร“ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน…”“ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน…”ไรลีย์พูดซ้ำสองสามครั้งก่อนที่จะ
“ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร!“ฉันไม่สนด้วยว่านายมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ขนาดไหน!“แต่ถ้านายทำร้ายบอสดาร์ท ก็เท่ากับนายต่อต้านพวกเรา!“เราจะฉีกนายเป็นชิ้น ๆ!“เพราะฉะนั้นปล่อยเขาไปเดี๋ยวนี้!”ภายใต้การนำของพวกอันธพาล เพื่อนร่วมแก๊งก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูน่าสมเพชแก๊งขวานคือกลุ่มที่ข่มเหงผู้อื่นมานานหลายปี เลวไม่มีที่ติขณะนี้บอสดาร์ทถูกมัดติดกับฝากระโปรงรถหลังจากพิการโดยสิ้นเชิงบอสดาร์ทที่ใกล้จะตาย หัวเราะอย่างเย็นชาหลังจากเห็นสมาชิกแก๊งยืนหยัดขึ้นเพื่อเขา เขารู้สึกมั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาจะมีโอกาสรอดชีวิต“แกตายแน่ ไอ้สารเลว!“กล้าดียังไงมาทำให้ฉันพิการ!“แกอยากจะทำลายแก๊งขวานใช่ไหม!“ฮ่า! ช่างน่าขันอะไรแบบนี้!“ดูพวกเราสิ! แกจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้ยังไง!“คิดจะตบหัวเราเหรอ!”“นายตายแน่!“หมดสิทธิ์หันหลังกลับแล้ว!“ฉันเคยเห็นพวกชอบรนหาที่ตายมามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนที่อยากจะตายขนาดนี้!”ไรลีย์เริ่มตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเธอเห็นว่าบอสดาร์ทนั้นเจ้าเล่ห์ถึงขนาดไหน“ฉันต้องมาตายเพราะนาย ไอ้สารเลว!“นายมันรนหาที่!“นายโง่ขนาดนี้ได้ยังไง!”ฮาร์วีย์เมินเฉยต่อไรล
ถึงกระนั้น ไอเดนก็จะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ตอบโต้อย่างแน่นอน!เขาระเบิดเสียงหัวเราะและเหยียบคันเร่งอีกครั้งด้วยสีหน้าบ้าคลั่ง รถโตโยต้า พราโด้พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าพวกระดับสูงบางคนจะถูกชนจนลอยขึ้นไปในอากาศทุกครั้งที่ไอเดนพุ่งรถออกไปไอเดนไม่คิดที่จะยั้งมือ ไม่ว่าพวกอันธพาลจะใช้ขวานหรืออาวุธปืนก็ตามเศรษฐีเพลย์บอยผู้นี้ค่อนข้างโหดเหี้ยม คนอื่น ๆ คงไม่มีทางเตรียมตัวได้ดีเท่าเขาคนชั่วมักจะเข้าถึงความชั่วร้ายได้มากกว่าคนอื่นเสมอ เหตุการณ์นี้เป็นตัวแทนของคำพูดนั้นในพริบตา ผู้คนเกือบร้อยคนของที่นั่นก็ล้มลงกับพื้นและกรีดร้องโดยไร้เรี่ยวแรงจะโต้กลับเหลือเพียงชายที่เสยผมไปด้านหลังเท่านั้นที่ยืนไหว เขาตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเห็นว่าไอเดนกำลังจะชนเขาด้วยรถอีกครั้ง เขาก็ไม่อาจระงับความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไป“แก ไอ้สารเลว!”“แน่จริงแกก็ลงจากรถบ้า ๆ นั่นแล้วมาสู้กับฉันตัวต่อตัวสิ!”ปัง!ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ไอเดนก็กระโดดออกไปและยกปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขึ้น จากนั้นก็เหนี่ยวไกปืนเหงื่อเย็นทำให้หลังของชายคนนั้นเปียกโชก ขณะที่เขาถูกส่งให้กระเด็นไปด้วยการถู
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข