แววตาที่ดุร้ายปรากฏในดวงตาของฮาร์วีย์ ยอร์ก“คุณเป็นคนก่อตั้งองค์กรเหรอ?”“ใช่และไม่ใช่”อากิโอะ ยาชิโระรื้อฟื้นความทรงจำของเขาช้า ๆ“องค์กรรุกฆาตถูกก่อตั้งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ของประเทศหมู่เกาะ“เหล่ายอดฝีมือเริ่มทำสงครามและพยายามที่จะฉวยโอกาสในสนามรบของประเทศ H“แต่ยุคสมัยนั้นไม่เหมือนกับสมัยนี้ ประเทศ H เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก ต่อให้ตอนนั้นประเทศ H จะไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเหมือนตอนนี้ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่ประเทศหมู่เกาะจะสามารถฉวยโอกาสได้“เหล่ายอดฝีมือจึงตัดสินใจที่จะจัดการกับบุคคลชั้นนำของประเทศ H หากพวกเขาต้องการใช้กำลังกับประเทศ H“ตั้งแต่ราชสำนัก อุตสาหกรรมธุรกิจ ตระกูลที่ร่ำรวย และวงการวิทยาศาสตร์...“พูดง่าย ๆ ก็คือ บุคคลที่โดดเด่นทุกคนในสาขาเหล่านั้นคือเป้าหมายของเรา“องค์กรรุกฆาตถูกก่อตั้งเพื่อจัดการกับผู้คนเหล่านั้นโดย ‘อุบัติเหตุ’ เพื่อทำลายสถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ H ในเวลาเดียวกัน“สมาชิกขององค์กรประกอบไปด้วยผู้คนจากห้าราชวงศ์และหกโรงเรียนศิลปะการต่อสู้“ฉันถูกขนานนามว่าเป็นเทพสงครามที่อายุน้อยที่สุดในประเทศในช่วงเวลานั้น แน่นอนว่าฉันจะ
“แน่นอนว่าฉันไม่ได้เตรียมการสำหรับทารกแรกเกิดมากนัก ฉันเพียงแค่ต้องการอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดา ๆ “แผนประสบความสำเร็จและเด็กทารกนั้นก็ตาย“มันยังคงหลอกหลอนฉันมาจนถึงทุกวันนี้“ฉันอาจจะไม่ได้มีความซื่อสัตย์มากนัก แต่การฆ่าเด็กทารกมันเกินขีดจำกัดฉัน“ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันก็ยุบองค์กรรุกฆาตและเริ่มกลับไปใช้ชื่อเก่าของฉันอีกครั้ง”“แล้วหัวหน้าของคุณได้บอกคุณไหมว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจที่จะทำแบบนั้น?” ฮาร์วีย์ ยอร์กถาม“บอก”อากิโอะ ยาชิโระกำลังจะเปิดเผยข้อมูลที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง“เขาอยากให้มันเกิดขึ้น“ด้วยวิธีนี้บ้านใหญ่จะเป็นแพะรับบาปของเหตุการณ์นี้และทั้งตระกูลก็จะวุ่นวายกันใหญ่”ฮาร์วีย์ชะงัก เขาเกือบจะมั่นใจแล้วว่าบ้านใหญ่คือคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เพราะผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการตายของลูกชายของมาร์เซล ยอร์กก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากวินซ์ ยอร์ก นายน้อยจากบ้านใหญ่แต่อากิโอะกลับเปิดเผยว่าแจ็กไนฟ์เป็นคนที่สั่งการนี้ด้วยตนเอง...“คุณมีหลักฐานไหม?” ฮาร์วีย์ถามหลังจากที่เงียบไปนาน“มี ฉันจะให้นายดูตราบใดที่นายรับประกันความปลอดภัยของฉันได้”อากิโอะยิ้มจาง
หนึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์ ยอร์กก็เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจูเลียน ยอร์ก ที่เดิมตามหลังเขา มองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนรอบข้างมีแต่พรรกพวกเดียวกันก่อนที่เขาจะเผยสีหน้าสยดสยอง“คุณคิดว่าอากิโอะ ยาชิโระพูดความจริงไหมนายน้อยยอร์ก?“แจ็กไนฟ์คือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดเมื่อสิบปีก่อนจริง ๆ เหรอ?”ฮาร์วีย์ครุ่นคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น“เขาน่าจะพูดความจริง ยังไงตอนนี้เขาก็อยู่ในมือของพวกเรา คนที่จะช่วยเขาได้ก็ตายไปแล้ว“ถ้าเขาอยากมีชีวิตอยู่เขาก็ควรจะร่วมมือกับผม ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้เขาจะน่าจะไม่โกหก“เขาจะไม่ได้อะไรจากมันอยู่ดี”จูเลียนพยักหน้าก่อนที่จะขมวดคิ้ว“แล้ววินซ์ล่ะ?“ชาวเกาะอยู่เบื้องหลังการเติบโตของบ้านใหญ่จริง ๆ เหรอ?“ถ้าเรื่องนี้หลุดไปชาวยอร์กแห่งฮ่องกงคงวุ่นวายแน่!”“นั่นไม่สำคัญหรอก“ถ้ามันคือความจริงเราก็ต้องจัดการกับมันโดยทันที ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะไม่สามารถปล่อยให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนใหม่ได้“ไม่อย่างนั้นฮ่องกงและลาสเวกัสจะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่”ฮาร์วีย์รู้เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าการสู้เพื่ออำนาจของวินซ์เป็นเพียงความขัดแย้งภายในตร
“และถ้าเขาให้รายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดที่เราต้องการ…“มันก็จะถือว่าเป็นการหักหลัง เพราะนั่นเท่ากับว่าเขาได้ขายหัวหน้าของตนเอง“ภายใต้สถานการณ์เหล่านั้น ยากที่เขาจะได้รับความไว้วางใจอีก“หากเราผลักดันพวกเขาอีกหน่อย อากิโอะ ยาชิโระและคนของเขาจากชินดัน เวย์อาจจะถึงขั้นสู้กับโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ที่เหลือ…“เมื่อถึงตอนนั้น เราจะมอบทุกอย่างที่อากิโอะต้องการให้กับเขา“เราไม่เพียงแต่จะปล่อยให้เขาเป็นอิสระเท่านั้น แต่เรายังให้โอกาสอากิโอะกลับไปอย่างแข็งแกร่งด้วย“ในเมื่อชาวเกาะใช้วินซ์เพื่อสร้างปัญหาที่นี่...“เราจะส่งอากิโอะกลับไปเพื่อสิ่งเดียวกัน มาดูสิว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน“ถ้านายท่านยอร์กไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะปล่อยอากิโอะไป”แน่นอนว่ามีบางอย่างที่ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้เปิดเผย ถ้าอากิโอะสร้างปัญหาหลังจากที่เขาถูกปล่อยไป...ฮาร์วีย์ก็จะสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายอยู่ดี“เป็นแผนที่น่าประทับใจมาก!”จูเลียน ยอร์กแสดงความชื่นชมหลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของฮาร์วีย์“อย่างที่เขาว่ากันว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!“ไม่เลวเลย”ฮาร์วีย์ยิ้มก่อนที่จะตบไหล่จูเลียน“
“คนนี้แหละเอไลจาห์! คนที่คอยหาเรื่องฉันอยู่ตลอดเวลา!“เขาไม่เพียงแต่ฆ่าตระกูลทาเคอิ เพื่อนของเราเท่านั้น...“เขายังทำให้พี่ชายของฉันถูกเนรเทศ!“และเขายังตบหน้าฉันอีกด้วย!“นายจะต้องช่วยฉันนะ!”ชายในเสื้อเชิ้ตสีดำหรี่ตาลงและก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะจ้องฮาร์วีย์ ยอร์ก“กล้าพูดกับแครอล ปาร์คเกอร์แบบนั้นได้ยังไง?!“กล้าดีนัก!“ถ้าแน่จริงก็ลองพูดกับฉันแบบนั้นสิ!”ชายคนนั้นเดินไปหาฮาร์วีย์ก่อนที่จะจุดซิการ์เส้นยาว ๆ บาง ๆ ข้างหน้าฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็พ่นควันใส่หน้าฮาร์วีย์“เอาสิ! เอาเลย! ตบฉันเลย!“นายเก่งมากไม่ใช่เหรอ?!”ฮาร์วีย์บอกได้อย่างชัดเจนว่าบุคคลนี้ถูกใช้เพื่อยั่วยุเขา“เลิกหาเรื่องใส่ตัวเถอะ“ฉันไม่ชอบเอาเปรียบเด็ก”“คุณพูดว่าอะไรนะ?!“ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?!”เอไลจาห์ ยอร์กเดือดดาล ศักดิ์ศรีของเขากำลังถูกท้าทายอย่างชัดเจนเขาไม่สนใจว่าฮาร์วีย์มาจากไหน เขาจะเหยียบย่ำผู้ที่กล้าดูถูกเขาแบบนี้แน่นอนท้ายที่สุดเขาก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของวอลเทอร์ ยอร์ก ซึ่งเป็นหัวหน้าบ้านหลังที่สองของตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง!เขามีสถานะค่อนข้างใหญ่โตทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส เขาเพิ่งก
“เอไลจาห์!”แครอล ปาร์คเกอร์สะเทือนใจหลังจากที่เห็นเอไลจาห์ ยอร์กถูกตบจนล้มคะมำ เธอรีบวิ่งเข้าไปเพื่อพยุงเขาขึ้นทันทีเธอพาเอไลจาห์มาที่นี่เพื่อที่จะแก้แค้น เธอไม่คาดคิดว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้“สารเลว!“กล้าตบฉันได้ยังไง?!” เอไลจาห์ตะโกนขณะที่เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นเขาไม่เคยรู้สึกอับอายเช่นนี้มาตลอดชีวิตฮาร์วีย์ ยอร์กไม่เพียงแต่ตบหน้าเขาเท่านั้นแต่ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของเขาก็ถูกทำให้เสื่อมเสียไปด้วยเอไลจาห์ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดก่อนที่จะหยิบกระบองขึ้นจากพื้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือของเขาไปอย่างใจเย็นอีกครั้งเอไลจาห์ร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างยิ่งขณะที่เขาล้มคะมำกับพื้นอีกครั้ง“นายน้อยยอร์ก!”ตาของแครอลกระตุกอย่างบ้าคลั่งเมื่อเธอเห็นดังนั้น มันเป็นภาพที่น่ากลัวมากเอไลจาห์กัดฟันด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวใบหน้าทั้งสองข้างของเขามีรอยฝ่ามือสีแดงและทำให้เขาดูค่อนข้างน่าสังเวชฮาร์วีย์เช็ดนิ้วของเขาด้วยกระดาษทิชชู่แล้วพูดว่า “เอไลจาห์ ยอร์ก นายน้อยของยอร์กแห่งฮ่องกงใช่ไหม?“ในเมื่อนายเป็นเพียงเด็กที่จองหอง…“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไป“พาคนของนา
ลูกธนูไม่มีแสงใด ๆ แต่มีกลิ่นดินปืนจาง ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์กเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเตะลูกธนูไปที่น้ำพุตรงทางเข้าเสียงระเบิดดังขึ้นเบา ๆ พลังทำลายล้างของลูกธนูลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในน้ำหากไม่ใช่เพราะการตอบสนองของฮาร์วีย์ เขาคงถูกระเบิดจนแหลกสลายในทันทีฮาร์วีย์แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะนั้นเอไลจาห์ ยอร์กไม่เพียงแต่ซ่อนอาวุธอยู่รอบตัวเขาเท่านั้น แต่เขายังไม่สนใจสิ่งรอบตัวเมื่อยิงอาวุธเหล่านั้นใส่ฮาร์วีย์อีกด้วยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อาจได้รับบาดเจ็บ แต่เขาทำราวกับว่ามันไม่สำคัญด้วยซ้ำฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและกระทืบเอไลจาห์ลงพื้นก่อนที่เขาจะมีโอกาสยกมือขึ้นอีกครั้ง“ฉันอาจจะปล่อยนายไปได้เพราะนายโง่พอที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฆ่าฉันของใครบางคนได้…“แต่นายไม่เพียงแต่จะโหดเหี้ยมตั้งแต่ที่อายุยังน้อย นายยังไม่สนใจว่านายจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่อยู่รอบตัวนายหรือไม่ นายกำลังพยายามใช้พวกเขาเพื่อยับยั้งฉัน“ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้คนที่ใช้ศิลปะการต่อสู้กับผู้บริสุทธิ์จะถูกมองว่าเป็นขยะ นายก็เป็นหนึ่งในนั้น“ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ต้องการจะฆ่านาย แต่ฉันเปลี่ยนใจแล
ฮาร์วีย์เหลือบมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้านิ่ง ๆ โดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ“มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันเป็นใคร สิ่งสำคัญคือเอไลจาห์พยายามจะฆ่าฉัน”ผู้หญิงคนนั้นยื่นอกของเธอด้วยความมั่นใจก่อนที่จะเยาะเย้ยฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว! คุณจะถือสาเด็กทำไม?!“คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือไง?!“แม้ว่าเขาจะผิด…“แม้ว่าเขาจะทำอะไรไม่ดี…“เขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง! คุณให้อภัยเขาไม่ได้เหรอ?!“คุณจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไม?!“ไร้ยางอาย!“คุณคงใช้กำลังตั้งแต่ยังเด็กสินะ!“ฉันพนันได้เลยว่าคุณเองก็เคยก่อปัญหามามากมาย!“เอไลจาห์เป็นคนมีการศึกษา!“อีกอย่างก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ! ถูกไหม?“และยังเป็นเขาที่ตกใจมากด้วย!“ถ้าจะโทษใคร คนนั้นก็คือคุณ!” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเย็นชาเอไลจาห์หัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อเห็นใครบางคนยืนหยัดเพื่อเขา“ปล่อยฉันไปก่อนเถอะฮาร์วีย์”“ไม่อย่างนั้นฉันจะให้รุ่นพี่ฉันกระทืบนายจนตาย!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ให้กับผู้หญิงที่กรีดร้องในชุดแฟนซี“โทษผม?“คุณเรียกเขาว่าเด็กเหรอ?“ผมมั่นใจว่าเขาอายุอย่างน้อยยี่สิบปีแล้ว“แต่คุณจะบอกผมว่าเขาเป็นแค่เด็กเหรอ?“เขาเป็นคนท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข