“เอไลจาห์!”แครอล ปาร์คเกอร์สะเทือนใจหลังจากที่เห็นเอไลจาห์ ยอร์กถูกตบจนล้มคะมำ เธอรีบวิ่งเข้าไปเพื่อพยุงเขาขึ้นทันทีเธอพาเอไลจาห์มาที่นี่เพื่อที่จะแก้แค้น เธอไม่คาดคิดว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้“สารเลว!“กล้าตบฉันได้ยังไง?!” เอไลจาห์ตะโกนขณะที่เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นเขาไม่เคยรู้สึกอับอายเช่นนี้มาตลอดชีวิตฮาร์วีย์ ยอร์กไม่เพียงแต่ตบหน้าเขาเท่านั้นแต่ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของเขาก็ถูกทำให้เสื่อมเสียไปด้วยเอไลจาห์ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดก่อนที่จะหยิบกระบองขึ้นจากพื้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือของเขาไปอย่างใจเย็นอีกครั้งเอไลจาห์ร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างยิ่งขณะที่เขาล้มคะมำกับพื้นอีกครั้ง“นายน้อยยอร์ก!”ตาของแครอลกระตุกอย่างบ้าคลั่งเมื่อเธอเห็นดังนั้น มันเป็นภาพที่น่ากลัวมากเอไลจาห์กัดฟันด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวใบหน้าทั้งสองข้างของเขามีรอยฝ่ามือสีแดงและทำให้เขาดูค่อนข้างน่าสังเวชฮาร์วีย์เช็ดนิ้วของเขาด้วยกระดาษทิชชู่แล้วพูดว่า “เอไลจาห์ ยอร์ก นายน้อยของยอร์กแห่งฮ่องกงใช่ไหม?“ในเมื่อนายเป็นเพียงเด็กที่จองหอง…“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไป“พาคนของนา
ลูกธนูไม่มีแสงใด ๆ แต่มีกลิ่นดินปืนจาง ๆ ฮาร์วีย์ ยอร์กเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเตะลูกธนูไปที่น้ำพุตรงทางเข้าเสียงระเบิดดังขึ้นเบา ๆ พลังทำลายล้างของลูกธนูลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในน้ำหากไม่ใช่เพราะการตอบสนองของฮาร์วีย์ เขาคงถูกระเบิดจนแหลกสลายในทันทีฮาร์วีย์แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามในขณะนั้นเอไลจาห์ ยอร์กไม่เพียงแต่ซ่อนอาวุธอยู่รอบตัวเขาเท่านั้น แต่เขายังไม่สนใจสิ่งรอบตัวเมื่อยิงอาวุธเหล่านั้นใส่ฮาร์วีย์อีกด้วยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อาจได้รับบาดเจ็บ แต่เขาทำราวกับว่ามันไม่สำคัญด้วยซ้ำฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและกระทืบเอไลจาห์ลงพื้นก่อนที่เขาจะมีโอกาสยกมือขึ้นอีกครั้ง“ฉันอาจจะปล่อยนายไปได้เพราะนายโง่พอที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฆ่าฉันของใครบางคนได้…“แต่นายไม่เพียงแต่จะโหดเหี้ยมตั้งแต่ที่อายุยังน้อย นายยังไม่สนใจว่านายจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่อยู่รอบตัวนายหรือไม่ นายกำลังพยายามใช้พวกเขาเพื่อยับยั้งฉัน“ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้คนที่ใช้ศิลปะการต่อสู้กับผู้บริสุทธิ์จะถูกมองว่าเป็นขยะ นายก็เป็นหนึ่งในนั้น“ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ต้องการจะฆ่านาย แต่ฉันเปลี่ยนใจแล
ฮาร์วีย์เหลือบมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้านิ่ง ๆ โดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ“มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันเป็นใคร สิ่งสำคัญคือเอไลจาห์พยายามจะฆ่าฉัน”ผู้หญิงคนนั้นยื่นอกของเธอด้วยความมั่นใจก่อนที่จะเยาะเย้ยฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว! คุณจะถือสาเด็กทำไม?!“คุณไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือไง?!“แม้ว่าเขาจะผิด…“แม้ว่าเขาจะทำอะไรไม่ดี…“เขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง! คุณให้อภัยเขาไม่ได้เหรอ?!“คุณจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไม?!“ไร้ยางอาย!“คุณคงใช้กำลังตั้งแต่ยังเด็กสินะ!“ฉันพนันได้เลยว่าคุณเองก็เคยก่อปัญหามามากมาย!“เอไลจาห์เป็นคนมีการศึกษา!“อีกอย่างก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ! ถูกไหม?“และยังเป็นเขาที่ตกใจมากด้วย!“ถ้าจะโทษใคร คนนั้นก็คือคุณ!” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเย็นชาเอไลจาห์หัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อเห็นใครบางคนยืนหยัดเพื่อเขา“ปล่อยฉันไปก่อนเถอะฮาร์วีย์”“ไม่อย่างนั้นฉันจะให้รุ่นพี่ฉันกระทืบนายจนตาย!”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ให้กับผู้หญิงที่กรีดร้องในชุดแฟนซี“โทษผม?“คุณเรียกเขาว่าเด็กเหรอ?“ผมมั่นใจว่าเขาอายุอย่างน้อยยี่สิบปีแล้ว“แต่คุณจะบอกผมว่าเขาเป็นแค่เด็กเหรอ?“เขาเป็นคนท
เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์โน้มตัวไปตบหน้าเอไลจาห์เสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นหลังจากเสียงตบ เลือดกระเซ็นไปทั่วพื้นพร้อมกับฟันสองซี่ของเอไลจาห์“โรงฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์เหรอ?“ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเหรอ?“นี่คือเหตุผลที่นายถึงทำตัวสูงส่งงั้นเหรอ?“ถ้าเป็นอย่างนั้นผมจะบอกอะไรคุณให้นะ ทั้งหมดนั้นไม่มีความหมายอะไรกับผมเลย“ในเมื่อคุณบอกว่าเขาเป็นแค่เด็ก ผมก็จะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเด็กคนหนึ่ง“และในเมื่อคุณไม่สั่งสอนลูกของตัวเอง ผมจะสั่งสอนเขาแทน!”เมื่อพูดจบฮาร์วีย์ก็ตบหน้าเอไลจาห์อีกครั้ง เอไลจาห์มึนหัวมากจากการตบจนเขาไม่สามารถพูดหรือเพ่งสายตาของเขาได้เลยจูเลียนรีบวิ่งมาที่นี่หลังจากที่ทราบเหตุการณ์นี้ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างหลังจากที่เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะนิ่งเงียบเขารู้ดีว่าฮาร์วีย์เป็นคนอย่างไร ต่อให้เขาจะพยายามหยุดฮาร์วีย์มันก็จะไร้ประโยชน์“สารเลว!”ขณะที่เอไลจาห์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและกลิ้งบนพื้น ผู้หญิงในชุดกระโปรงก็กรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว “ไอ้สารเลว!”“ปล่อยรุ่นน้องฉันนะ!“ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียใจ!”เธอ
หลังจากที่จัดการกับแจ็คไนฟ์ เหยียดหยามคุณย่ายอร์ก เหยียบย่ำเอไลจาห์จากบ้านหลังที่สอง และในที่สุดก็เข้าไปพัวพันกับสภาตำนาน...ฮาร์วีย์ก็สงสัยว่าเขาจะต้องถูกลงโทษในไม่ช้าก็เร็วหรือไม่คุณย่ายอร์กและบ้านหลังที่สองของตระกูลจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าเขาได้หลังจากที่รายงานสถานการณ์กับมาร์เซลแล้ว ฮาร์วีย์ก็เริ่มพาคนสองสามคนไปด้วยทุกครั้งที่เขาออกไปข้างนอกเพื่อความปลอดภัยของเขาเหตุการณ์ผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเมืองเลยดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะมาถึงจุดสูงสุดแล้ว จึงไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขาแต่เมื่อใดก็ตามที่มีบางอย่างผิดปกติ ก็มักจะมีเหตุผลที่ไม่ดีสำหรับสิ่งนั้นสุดท้ายฮาร์วีย์ก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนักเขาจะไปที่โรงพยาบาลมาเรียเพื่อพูดคุยกับอากิโอะเป็นครั้งคราวหลังจากที่ถูกกดดันไปไม่น้อย ในที่สุดอากิโอะก็ยอมเผยหลักฐานที่คุ้มค่าออกมาเขามีหลักฐานว่าชาวเกาะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขึ้นสู่อำนาจอย่างรวดเร็วของวินซ์ด้วยในที่สุดทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนก็ถูกเปิดเผยนอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่ดีสำหรับคุณย่ายอร์กที
“ส่วนคุณแม่ เธอไม่เคยร่วมงานแบบนี้ตั้งแต่เรื่องเมื่อสิบปีก่อน“ในเมื่อความจริงของเหตุการณ์ถูกเปิดเผย ในที่สุดเธอก็หายซึมเศร้า“เธอจะต้องมาแน่นอน”ควินนี่ถอนหายใจ“แต่ถ้าเรามองจากมุมมองของเธอ เธอก็คงจะไม่หยุดขัดขวางให้วินซ์อยู่ห่างจากเราเนื่องจากชาวเกาะคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชายของฉัน“วันนี้จะต้องเกิดสงครามแน่นอน…”ฮาร์วีย์ถอนหายใจเช่นกัน เนื่องจากเซลีน่าสามารถจัดการกับสถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่าในที่สุดเธอก็ปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนแล้วดังที่ควินนี่ได้กล่าวไว้ วันนี้จะต้องเกิดสงครามแน่นอนควินนี่พูดถูกที่พวกเขาควรจะทานอาหารล่วงหน้า ภายหลังพวกเขาจะไม่มีเวลาแน่นอนหลังจากที่ทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็หยิบขวดโซดามาคนละขวดแล้วดื่มอึกใหญ่ควินนี่จ้องที่แล็ปท็อปสักพักก่อนที่จะนึกถึงอะไรบางอย่าง“อ๋อ ใช่! มีบางอย่างแปลก ๆ “คุณย่ายอร์กต้องการไล่คุณออกจากฮ่องกง แต่เพราะคุณ เธอจึงสูญเสียแจ็กไนฟ์ไป“ทุกคนค่อย ๆ รู้ว่าแจ็คไนฟ์เป็นชาวเกาะ ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดพูดถึงเขา“แต่หลังจากที่คุณทำให้คุณย่าต้องอับอาย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณเลยจนถึงตอนนี้“ฉัน
“เพราะฉะนั้นเขาจะต้องหาเรื่องพวกเราแน่นอน“และหลังจากที่เสียการสนับสนุนจากบ้านหลังที่สาม วินซ์จะต้องพยายามรักษาบ้านหลังที่สองไว้“ต่อให้เอไลจาห์จะไม่ทำอะไร วินซ์ก็จะแก้แค้นเอไลจาห์“ท้ายที่สุดเขาก็กำลังพยายามให้เอไลจาห์และบ้านหลังที่สองอยู่เคียงข้างเขา“ในตอนแรกเอไลจาห์ต้องการให้กองกำลังใต้ดินของตระกูลมาทำงานให้เขา“เขาจึงยั่วยุคุณเพื่อแครอล“แต่ไม่ว่าจะในกรณีใด เรื่องต่าง ๆ จะไม่จบลงอย่างนั้น ยังไงก็ระวังตัวเอาไว้ด้วย”แน่นอนว่าควินนี่จะต้องเข้าใจวิธีการของเอไลจาห์ เธอจึงตัดสินใจเตือนฮาร์วีย์ล่วงหน้าบ่อยครั้งที่ศัตรูที่แสดงตัวอย่างโจ่งแจ้งจะง่ายต่อการจัดการ แต่นั่นใช้ไม่ได้กับศัตรูที่ซ่อนอยู่ในความมืด“เอไลจาห์ไม่สนใจที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลเหรอ?“เขาเต็มใจที่จะสนับสนุนวินซ์ด้วย?”ฮาร์วีย์ยิ้มกับคำพูดของควินนี่“เธอเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?“บ้านใหญ่ไม่คิดแบบนั้นแน่นอน“ถ้าฉันเดาไม่ผิด วินาทีที่วินซ์แสดงความอ่อนแอ…“เด็กสารเลวนั่นคงจะจัดการกับวินซ์ได้ในทันที ถูกไหม?”ควินนี่ยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไรถ้าทุกคนเห็นตรงกันก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมฮาร์วีย์เอนตัวลงบนที
เอไลจาห์เดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจ“ทำไม? นายจะหักแขนฉันอีกข้างหลังจากที่ชนรถฉันงั้นเหรอ?!“เอาสิ! ลองเลย!“ฉันพนันได้เลยว่านายไม่กล้าหรอก!”เอไลจาห์พยายามจับมือฮาร์วีย์ขณะที่เขาพูดฮาร์วีย์สะบัดมือโดยสัญชาตญาณก่อนที่จะคว้าแขนอีกข้างของเอไลจาห์“ไปไหนก็ไปซะ อย่ามาสร้างปัญหา”“นั่นแหละที่ฉันต้องการ!”เอไลจาห์หัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นทันทีก่อนที่จะตบหน้าตัวเองสองสามครั้งจนเลือดไหลออกมาจากจมูกของเขา“กล้าดียังไง?!” เขาตะโกนเสียงดังหลังจากนั้น“นายกล้าแตะต้องฉันเหรอ?!“ฉันเป็นสมาชิกตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงนะ!“ช่วยด้วย!“ใครก็ได้! ช่วยผมด้วย!”เอไลจาห์ใช้พลังทั้งหมดเพื่อตะโกน เขาดึงดูดความสนใจจากแขกได้ค่อนข้างมากควินนี่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นดังนั้น เธอรู้ว่าเอไลจาห์จะรับมือได้ยาก แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะจัดการฮาร์วีย์โดยเล่นบทของเหยื่อควินนี่ต้องการที่จะลงจากรถ แต่หลังจากที่เห็นท่าทางอันสงบของฮาร์วีย์เธอก็ลังเล สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่บนรถต่อท้ายที่สุด ตัวตนของเธอนั้นพิเศษเกินไป มันคงเป็นเรื่