ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสุสานที่ไม่อาจอยู่อาศัยได้ อย่างไรเสียตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงก็เคยตกอยู่ในสภาพล่มสลายมาก่อน หลังจากตั้งมาเกือบร้อยปี สถานที่แห่งนี้จึงแวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและเงียบสงบ มองเห็นน้ำตกและศาลารอบสถานที่ได้เช่นกัน สถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบจากประเทศ H มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ บางคนมองว่าคล้ายกับอุทยานหลวงและค่อนข้างมีชื่อเสียง ทิวทัศน์ยามค่ำคืน ทั่วทั้งฮ่องกงก็ไม่มีเสมอเหมือน น่าเสียดายที่วินซ์ ยอร์กกับเล็กซี่ ยอร์กต่างมัวแต่สาละวนจึงไม่ได้ตั้งใจชื่นชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งดังกล่าว พวกเขาเดินผ่านจุดตรวจหลายแห่งอย่างว่องไวโดยไม่แม้แต่จะชะลอความเร็วลงเลย เมื่อพวกเขามาถึงภายในพระราชวังของตระกูลยอร์ก แม้แต่ทั้งสองคนก็ต้องยืนยันตัวตน นับประสาอะไรกับคนอื่นด้วยเล่า บอกได้เลยว่านี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัส หลังจากเดินผ่านลานสนามที่แตกต่างกันเก้าแห่ง สวนโบราณขนาดเล็กก็ปรากฎต่อหน้าวินซ์และเล็กซี่ สถานที่แห่งนี้ไม่เข้ากับส่วนที่เหลือของพระราชวังเลยสักนิด จนสามารถสัมผัสได้ถึงรูปแบบอันเรียบง่ายแต่แสนจะคุ้นเคยในสถานที่แห่งนี้ ทุกคนที่
หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น วินซ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนุกสนาน “คุณย่าครับ ทีแรกผมก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือหรอกครับ… “แต่ควินนี่หลอกใช้ลุงสี่ให้ร่วมมือกับเจ้าหญิงลำดับที่สี่แห่งดินแดนพระอาทิตย์ฯ “ไม่เพียงแต่พวกนั้นจะเป็นตัวการของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคฤหาสน์ร้าง ทว่าพวกเขายังให้เจ้าหญิงลำดับที่สี่ใส่ร้ายว่าผมทอดทิ้งหล่อนไป… “พวกเขาจ้างนักเขียนเงามาป้ายสีชื่อของผมในโลกออนไลน์อีกด้วย “แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกำลังรอคอบสกู๊ปเด็ดจากผมอยู่เลย! “ควินนี่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายเลย เธอทำลายชื่อเสียงเกียรติภูมินับร้อยปีของตระกูลเราลงในวันเดียว! “ผมมีทางแก้แล้ว แต่มันออกจะช้าเกินไป “ผมไม่อาจจัดการเรื่องนั้นก่อนหน้าวันเกิดของคุณย่าได้ ผมไม่สามารถรับรองได้เลยว่าคุณย่าจะมีงานเลี้ยงที่สงบสันติ… “นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมาที่นี่เพือขอให้คุณย่าช่วยยังไงล่ะครับ “ได้โปรดเถอะครับ คุณย่า! ช่วยผมให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนยากลำบากพวกนี้ไปที! “ผมให้สัญญา หลังงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่า… “ไม่ว่าคุณย่าจะสั่งให้ผมแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้น! ผมจะไม่ก่อเรื่องอีกต่อไปแล้ว! “เมื่อเป็นเช่นนั้น
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของคุณย่ายอร์ก สีหน้าของเล็กซี่และวินซ์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยพวกเขาเชื่อมาเสมอว่าคนที่สร้างความวุ่นวายทั้งหมดนั้นคือฮาร์วีย์และควินนี่แต่เมื่อทบทวนดูดี ๆ แล้วพวกเขาก็ตระหนักว่าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่มาร์เซลกลับมาทันทีเมื่อดูเผิน ๆ มันอาจจะดูเหมือนว่ามาร์เซลไม่ได้ทำอะไรอีกหลังจากที่ปล่อยควินนี่ออกจากคุกในขณะเดียวกันควินนี่ก็ได้ฉวยโอกาสจากวินซ์อย่างต่อเนื่องและบางอย่างที่ฮาร์วีย์และควินนี่ทำไปก็เป็นคำสั่งของมาร์เซลด้วยเล็กซี่อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน“ฉันว่าแล้ว! ฮาร์วีย์ไม่มีวันจัดการกับเจสันและเจ้าหญิงองค์ที่สี่เพียงลำพังได้!“มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!“แต่ถ้าเขาได้รับความช่วยเหลือจากพี่สี่ ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผล!”แน่นอนว่าเล็กซี่จะรู้ดีว่าเมร์เซลมีอิทธิพลมากแค่ไหนวินซ์หายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปหาคุณย่ายอร์ก“คุณย่าครับ คุณย่ากำลังจะบอกว่า…?”คุณย่ายอร์กต้องการให้วินซ์เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเธอไม่เคยชอบมาร์เซลเลย และเธอก็มักจะลำเอียงต่อหัวหน้าตระกูลอยู่เสมอ ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีแต่มีบางอย่างที่แม้แต่วินซ์ก็
“นายท่านยอร์ก”“คุณพ่อคะ”เมื่อเล็กซี่และวินซ์ออกจากคฤหาสน์ยอร์ก ฮาร์วีย์และควินนี่ก็ไปถึงที่วิลล่าริมทะเลเซลีน่ากำลังหลับสนิทขณะที่มาร์เซลกำลังทำบาร์บีคิวอยู่ที่ชายหาดฮาร์วีย์และควินนี่ได้ยินเสียงฟู่ดังจากหอยนางรมบนตะแกรง กลิ่นหอมอันน่ารื่นรมย์ลอยอยู่ในอากาศฮาร์วีย์คว้าหอยนางรมมาตัวหนึ่งมาชิม“หอยนางรมน้ำจืดจากประเทศหมู่เกาะ ของดีเลยนะเนี่ย!” ฮาร์วีย์กล่าวด้วยความประทับใจ“ชาวเกาะอาจจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ แต่อาหารของพวกเขานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”มาร์เซลหัวเราะเบา ๆ กับการกระทำของฮาร์วีย์“คนชนชั้นสูงจะไม่ดูถูกดูแคลนผู้อ่อนแอ และจะมีความคิดเห็นที่เป็นกลางอยู่เสมอ”“เพียงเพราะคุณเกลียดประเทศ ๆ หนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะอคติต่อพวกเขา และแม้ว่าคุณจะชื่นชมประเทศใดประเทศหนึ่ง คุณก็ไม่ควรจะชื่นชมมันจนไม่ลืมหูลืมตาเช่นกัน“คุณจะบรรลุทุกสิ่งได้ด้วยมุมมองที่เปิดกว้างเท่านั้น”ฮาร์วีย์ยิ้มกับคำพูดของมาร์เซลก่อนที่จะหันไปมองควินนี่“ได้ยินไหม? นายท่านยอร์กกำลังสอนวิธีการเป็นชนชั้นสูงที่แท้จริงให้เธอ”ควินนี่ยิ้มโดยไม่ตอบอะไรหลังจากที่เห็นฮาร์วีย์พยายามเปลี่ยนเรื่อง มาร์เซ
“ถ้าจะให้เจาะจงมากขึ้นก็คือ ชินดัน เวย์”มาร์เซลยื่นปีกไก่ให้ฮาร์วีย์“ถ้าเป็นที่อื่น ผมจะขอให้คนอื่นช่วย“แต่ผมรู้ว่าคุณมีความหลังกับชินดัน เวย์ ดังนั้นผมควรจะฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณจะดีที่สุด“ผมจะให้กองทหารของตระกูลยอร์กติดตามคุณไปด้วย จูเลียนจะเป็นผู้นำกลุ่ม“คุณแค่ต้องร่วมมือกับเขา“ถ้าคุณพารินกลับมาได้ ผมจะยกโทษให้จูเลียนสำหรับความผิดพลาดในอดีตของเขา“และแน่นอนว่าผมจะไม่ลืมน้ำใจของคุณเช่นกัน”ฮาร์วีย์หรี่ตาลงก่อนจะยิ้มอย่างอบอุ่น“ถ้าเป็นที่อื่นผมอาจจะปฏิเสธ…“แต่เนื่องจากมันคือชินดัน เวย์ ผมจะที่นั่นให้“ผมบอกอากิโอะก่อนที่เขาจะหนีไปแล้วว่าผมจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง“ตอนนี้ผมมีเหตุผลที่จะไปที่นั่นแล้ว ผมจะไม่พลาดโอกาสนี้แน่นอน“คุณอยากให้ผมไปเมื่อไหร่?”มาร์เซลยิ้มก่อนที่จะปรบมือ เรือยอทช์สีดำที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบปรากฏตัวขึ้นจากทะเล“โดยเร็วที่สุด“ถ้าคุณไปเดี๋ยวนี้ คุณก็จะสามารถกลับมาทันพระอาทิตย์ขึ้น ผมขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะ”ฮาร์วีย์ยิ้มก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มเดินไปที่เรือยอชท์ควินนี่ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นฮาร์วีย์เดินจากไป“ก็แค่ชินดัน เวย์ไม่
มาร์เซลชะงักกับคำพูดของควินนี่“เธอกำลังจะบอกว่าฮาร์วีย์อาจแข็งแกร่งกว่าแจ็กไนฟ์งั้นเหรอ?” เขาถามเบา ๆ“คุณพ่อลืมไปแล้วเหรอคะว่าเขาฆ่านักดาบจากชินคาเงะเวย์ด้วยตัวเอง และอากิโอะก็กลัวเขาเหมือนกัน?“ถ้าเขาไม่แข็งแกร่งจริง ๆ เขาจะทำทั้งหมดนั้นด้วยตัวเองได้ยังไง?”มาร์เซลครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนที่จะหัวเราะ“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีเลย!“ถ้าเขาแข็งแกร่งอย่างที่เธอว่าและพารินกลับมาหลังจากที่จัดการกับชินดัน เวย์…“มันก็จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราทุกคน“คุณย่าของเธอเป็นคนที่มีอิทธิพล แต่หล่อนมักมั่นใจเกินไปหน่อย“แม้จะผ่านมานานหลายปี เธอก็ยังคิดว่าเธอสามารถข่มได้ทั้งตระกูลด้วยแจ็คไนฟ์เพียงลำพัง…“เราจะทำให้หล่อนได้รู้ว่าเรื่องราวมันเปลี่ยนไปแล้ว…”…สามชั่วโมงต่อมา ณ เวลาตีสี่บนเกาะที่โดดเดี่ยวนอกประเทศหมู่เกาะ...ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวมาตั้งแต่สมัยโบราณอาคารที่ตั้งเหนือระดับน้ำทะเลตระหง่านในกลุ่มเมฆราวกับว่ามันลอยอยู่ในอากาศ มันเป็นภาพที่น่าทึ่งมากนอกเหนือจากอาคารโบราณเหล่านั้นแล้วบนเกาะยังมีสถานที่ที่ทันสมัยมากมายอีกด้วย เช่น สนามกอล์ฟ ท่าเรือ
จูเลียนมีสีหน้าเย็นชาขณะที่เขายืนข้างหน้าคนของเขาตรงหน้าเขามีชายคนหนึ่งยืนนิ่งขณะกอดอกด้วยสีหน้าไม่แยแสชายคนนั้นก็คือฮาร์วีย์แววตาของจูเลียนแอบเผยความหวาดกลัวเมื่อเขาเห็นสีหน้าของฮาร์วีย์ท้ายที่สุดแล้วชายคนนี้ก็คือคนที่เคยเนรเทศเขาไปลงนรกหากมาร์เซลไม่ได้ให้โอกาสกองทหารของตระกูลยอร์กอีกครั้ง จูเลียนก็คงจะไม่มีโอกาสได้นำกองทหารของเขาอีกนี่เป็นโอกาสของจูเลียนที่จะกู้ชื่อเสียงอีกครั้งหากเขาทำภารกิจสำเร็จ เขาเชื่อว่าเขาจะมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูล...แม้ว่าเหตุการณ์ปัจจุบันจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมันก็ตามเมื่อละสายตาจากฮาร์วีย์ จูเลียนก็มองไปที่อาคารที่อยู่ไม่ไกลจากเขาอาคารเหล่านั้นอยู่ใกล้ฮาร์วีย์และทหารคนอื่น ๆ มาก พวกเขาอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งไมล์เนื่องจากฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ปีนขึ้นมาจากด้านหลังของภูเขา กำแพงด้านนอกจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อพวกเขาแต่อย่างใดแม้แต่ชินดัน เวย์ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีใครเสี่ยงปีนขึ้นมาที่เกาะจากหน้าผาสำนักงานใหญ่ของพวกเขาไม่เคยถูกโจมตีนับตั้งแต่ที่ชินดัน เวย์ถูกก่อตั้งเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วยความมั่นใจจนเผลอตัวของพวกเขาทำให้พวกเขาคิด
ไม่อย่างนั้นจูเลียนจะยอมรับภารกิจภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ทำไม?ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าฮาร์วีย์จะมาที่นี่ด้วยทำไมเขาหรี่ตามองฮาร์วีย์ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดเบา ๆ ว่า “พูดตามตรงนะนายน้อยยอร์ก…“คุณมีความสัมพันธ์กับตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงมาก และคุณก็เป็นญาติพวกเราด้วย“แต่ความขัดแย้งภายในตระกูลเกี่ยวข้องกับคุณยังไง?“ทำไมคุณถึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย?“คุณกำลังพยายามที่จะไต่อันดับภายในตระกูลอย่างที่ทุกคนเขาพูดกันเหรอ?”“ไต่อันดับ?”ฮาร์วีย์หัวเราะ“บัลลังก์ที่พวกคุณปรารถนากันนักไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมเลย“ผมไม่สนใจด้วยว่าคุณจะเชื่อผมหรือไม่“แต่ที่ผมเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเพียงเพราะเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนของประเทศ H “ตราบใดที่คนที่นั่งบนนั้นสามารถรับประกันความปลอดภัยของประเทศได้…“ผมไม่สนด้วยว่าจะเป็นวินซ์ ควินนี่ หรือคุณ“คุณอาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดในตอนนี้…“แต่ถ้าคุณได้ขึ้นไปคุณจะเข้าใจมันเอง”ฮาร์วีย์ตบไหล่ของจูเลียนเบา ๆ “เอาล่ะ พวกเราคุยกันมาเยอะแล้ว“ไปกันเถอะ เราไม่ได้มีเวลามาก“มันจะสายเกินไปถ้าพระอาทิตย์ขึ้นก่อน”หลังจากที่เขาพู
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข