“จรรยาบรรณ?“มีเมตตาต่อพวกคลั่งแค้นเนี่ยนะ?!“มีกฎแบบนี้ด้วยเหรอ?”ฮาร์วีย์มองพวกเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม“เธอคิดว่าตัวเองมีศีลธรรมสูงส่งแค่พอพูดจาไร้สาระอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นเหรอ!“แล้วอีกอย่าง ความสัมพันธ์ฉันท์ศิษย์อาจารย์ของพวกเขาไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน“ไม่มีใครรอดไปจากเงื้อมมือของฉันได้!“ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่มาตามล่าฉัน แต่จะไม่ยุ่งกับครอบครัวของพวกเขา ถ้าพวกเขาอยากจะกลับตัวกลับใจเสียใหม่ก็ทำได้”ฮาร์วีย์ชำเลืองมองไดโตะก่อนจะปล่อยออร่าอันทรงพลังออกมาอย่างเต็มที่การแสดงออกของไดโตะเปลี่ยนไปอย่างลนลานก่อนที่เขาจะกวัดแกว่งดาบยาวของเขาอย่างรวดเร็วอย่างต้องการป้องกันตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเขาหวาดกลัวพลังของฮาร์วีย์ในขณะนั้นฮาร์วีย์กระทืบขาขวาของเขา ใบมีดที่หักไปแล้วบินออกไปอีกครั้งชวิ้ง ชวิ้ง ชวิ้ง ชวิ้ง!ใบมีดแทงทะลุหน้าผาก ลำคอ หัวใจ และจุดอื่น ๆ ของทหารชั้นสูง ความเกลียดชังที่เหลืออยู่บนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำในทันทีไม่คิดเลยว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ฮาร์วีย์จะยังมีโอกาสได้ลงมือเขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความเกลียดชังเล็กน้อยในดวงตา ก่อนพึมพำคำพูดสุดท้ายของเขา...“
มิทเชลมั่นใจว่า ไม่ว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งแค่ไหน หลังจากต่อสู้กับมิยาตะพลังของเขาก็คงจะถูกใช้ไปจนหมดแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับฮาร์วีย์ลงได้เสียทีหากพวกเขาพลาดโอกาสนี้ไป ก็คงไม่มีโอกาสอื่นอีกแล้วไดโตะที่กำลังหวาดกลัวอย่างมากก็สงบสติอารมณ์ลงสายตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร ขณะที่เขาจ้องไปยังฮาร์วีย์“เพื่อประโยชน์ของหัวหน้ากองบังคับคดีแห่งหลงเหมิน ฉันจะไม่ฆ่านาย ถ้านายยอมแพ้เสียตั้งแต่ตอนนี้!“ฉันจะพานายกลับไปยังประเทศหมู่เกาะเพื่อรับการพิจารณาคดี!“หลังจากนายตาย ศพของนายอาจจะพอดูได้!“แต่หากนายยังขัดขืน ฉันกล้าพูดได้เลยว่านายไม่มีทางจะหนีออกไปจากที่นี่ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ได้!”ไดโตะรู้สึกว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้นหากฮาร์วีย์ยอมแพ้หากฮาร์วีย์ถูกพาตัวกลับไปยังประเทศหมู่เกาะ เขาจะถูกบังคับให้สารภาพโดยยอมรับว่าเขาใช้กลยุทธ์ลึกลับอะไรกับมิยาตะด้วยวิธีนี้ ความพ่ายแพ้ของมิยาตะจะกลายเป็นความอัปยศของประเทศ H ไม่ใช่ประเทศหมู่เกาะ!หลังจากได้ยินคำพูดของไดโตะ มิทเชลก็หัวเราะอย่างเย็นชา“ได้ยินไหม? คุกเข่าได้แล้วฮาร์วีย์!"ตอนนี้คุณยาชิโระใจกว้างมากทีเดียวนะ ไขว่คว
ชายผู้นั้นสวมเสื้อคลุมจากหนานยางและเปล่งออร่าแห่งความสง่างามที่ไม่อาจบรรยายได้เขากอดอกและมองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา“หักแขนตัวเองข้างหนึ่งแล้วออกไปจากที่นี่ซะถ้าพวกคุณรักชีวีตตัวเอง” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเทพสงครามของหนานหยาง ดีน คอบบ์!“ดีน คอบบ์?!”แขกจากฮ่องกงหลายคนตัวสั่นทันทีที่เห็นชายชราคนนั้น‘เทพสงครามของหนานหยางในตำนานน่ะเหรอ?’‘เขามาทำอะไรที่นี่?’‘ดูจากรูปร่างหน้าตาของเขา เขาคงจะหายดีแล้ว!’‘เทพสงครามผู้อยู่ยงคงกระพันแห่งน่านน้ำตะวันออกเฉียงใต้มาที่นี่จริง ๆ ด้วย... ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย...!’บรรดาผู้ที่รู้จักเขาต่างก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง “ดีน คอบบ์? เทพสงครามของหนานหยางเหรอ?”มิทเชลหัวเราะอย่างเย็นชาและไม่สะทกสะท้าน“ฉันจำได้แล้ว! คุณคือคนที่อัมพาตคนนั้นใช่ไหม?”“คนอัมพาตอย่างคุณจะยืนหยัดเพื่อฮาร์วีย์ได้ยังไง? คุณอยากตายหรือไง?”“ใช่! คนนอกอย่างคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในธุระของกองบังคับคดีของหลงเหมิน!”“ไปไหนก็ไปซะ! ไม่อย่างนั้นหัวหน้าบาวเออร์ไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”เหล่าชนชั้นสูงของกองบังคับคดีของหลงเหมินเริ่มตะโกนพร้อม
ไดโตะดูถูกผู้คนจากหนานหยางสุดหัวใจในขณะที่ดีนได้รับสมญานามว่าเทพสงคราม ไดโตะกลับปฏิเสธที่จะเชื่อว่าชายชราและหมดสภาพผู้นี้จะไม่มีอะไรพิเศษอย่างไรก็ตาม ดีนยิ้มอย่างอ่อนโยน“ดูเหมือนว่าระหว่างที่ฉันเก็บตัวมาสิบปี ทุกคนก็ลืมไปแล้วว่าเทพสงครามแห่งหนานหยางหมายถึงอะไร” เขากล่าวอย่างเยือกเย็นตูม!ดีนก้าวไปข้างหน้า หลังจากที่ได้พักผ่อนมาตลอดทั้งคืน เขาก็ได้ฟื้นฟูพละกำลังสูงสุดของเขากลับคืนมาในช่วงเวลาเพียงครู่เดียวออร่าอันทรงพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าของนักดาบก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขารอยแตกคล้ายใยแมงมุมก่อตัวขึ้นบนพื้นทันทีกล่าวได้ว่าภาพที่เห็นนั้นน่ากลัวมากหลายคนสีหน้าเปลี่ยนทันทีที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสียงกระเซ็นดังขึ้นแล้วองเมียวจิที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ไอเป็นเลือดทันทีที่เขารู้สึกถึงแรงกดดันของออร่า วินาทีต่อมาเขาก็หมดสติและดิ่งลงพื้นโดยไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้ตอบโต้กลับ ไม่มีใครแน่ใจได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้เหล่านินจาต้องเปิดเผยตนเอง ในชั่วพริบตาพวกเขาทั้งหมดก็ปลิวออกไปในทันที เลือดกระฉูดออกจากปากของพวกเขาเมื่อพวกเขาตกลงพื้นและไม่มีแรงที่จะลุก
“ผมขอโทษครับเทพสงคราม!” ไดโตะตอบอย่างร้อนรน“ผมขอโทษที่ทำให้คุณขุ่นเคือง! โปรดยกโทษให้ผมด้วย คิดซะว่าเห็นแก่ชินดัน เวย์!”“พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้! เดี๋ยวนี้เลย!”ไดโตะพยายามที่จะเอาใจดีนอย่างยิ่งตอนแรกเขาคิดว่าเทพสงครามที่พิการนั้นจะดูดุร้ายเพียงจากภายนอกเท่านั้น…แต่เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าดีน เขาก็ได้ตระหนักว่าดีนอยู่ในอีกระดับหนึ่งแม้กระทั่งในหมู่เทพสงครามคนอื่น ๆมีเพียงพ่อของไดโตะเท่านั้นที่จะสู้กับดีนได้...ไดโตะจะต้องเจอกับปัญหาอย่างท่วมท้นหากเขาสู้กับดีน มันจะไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตายไดโตะเหย่อหยิ่ง แต่เขาไม่ได้โง่ เขาจะไม่ทำอะไรที่บุ่มบ่ามขนาดนั้น“มันไม่สายไปหน่อยเหรอที่จะขอโทษ?”ดีนเย้ยหยันอย่างเย็นชาก่อนจะก้าวไปข้างหน้าครืด!ก้อนหินบนพื้นลอยไปข้างหน้าในทันที มันเป็นภาพที่น่าหวาดเสียว!ตุบ ตุบ ตุบ!เหล่ามืออาชีพของชินดัน เวย์ต่างล้มลงในกองเลือด ไม่มีใครได้มีโอกาสที่จะตอบสนองต่อการโจมตีของดีนสการ์เลตต์และคนอื่น ๆ ตัวสั่นโดยสัญชาตญาณขณะที่เห็นความสยดสยองทั้งหมดเทพสงครามในตำนานแห่งหนานหยางน่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิดไว้ในตอนแรก…!การที่เขาสามารถฆ่าคนจำนวนมากได้ในชั่ว
เปรี้ยง!ดีนเดินไปข้างหน้าและเตะไดโตะลงกับพื้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย“บอกอากิโอะด้วยว่าต่อจากนี้ไปฉันจะสนับสนุนนายน้อยยอร์ก!“ถ้าเขาแตะต้องนายน้อยยอร์กก็เท่ากับว่าเขาหาเรื่องฉัน!“เข้าใจไหม?!”หยดเหงื่อหยดลงศีรษะของไดโตะที่จนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาเดินสะดุดออกไปด้วยความกลัวเขารู้ดีว่าเขายังมีชีวิตอยู่เพียงเพราะดีนต้องการคนส่งสารหากเขาไม่ออกไปจากที่นี่โดยทันที ดีนอาจเปลี่ยนใจและจบชีวิตของไดโตะในตอนนั้นและที่นั่นสำหรับวิธีการจัดการกับฮาร์วีย์ เขาจะต้องอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้พ่อของเขาฟังก่อนเขาเชื่อว่าอากิโอะ ยาชิโระ พ่อของเขา จะแข็งแกร่งพอที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของพวกเขากลับคืนมาได้อย่างแน่นอนในขณะเดียวกันเขาก็ฉวยโอกาสที่จะจ้องเขม็งฮาร์วีย์อย่างเย็นชาความแค้นที่เขามีต่อฮาร์วีย์ทำให้ใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อชาวเกาะจากไป คนกลุ่มใหญ่ก็ปรากฏตัวที่ทางเข้าสมาชิกของสาขาวังมังกร แก๊งหนานหยาง และสมาชิกหลงเหมินสาขาฮ่องกงและลาสเวกัสอยู่ที่นั่นกันหมดโยอาน่า เคธี่ เลสลี่ และไอรีนก็มาเช่นกันพวกเธอต่างรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์ปลอดภัยดีแต่ทันทีที่พวกเธอมองหน้ากันพ
“เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะเธอมาจากวิหารคุณธรรมทั้งห้างั้นเหรอ?!“พระเจ้าเฝ้าดูเธออยู่เสมอนะ!”สีหน้าของสการ์เลตต์สยดสยองยิ่งขึ้น เธอเริ่มกรีดร้อง“แต่ยังไงนี่มันก็ไม่ใช่ธุระของคุณ!“คุณอาจจะเป็นเทพสงคราม แต่คุณมาจากหนานหยาง!“คนนอกอย่างคุณจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของประเทศ H ทำไม?!”“ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะทำให้ใครหน้าไหนอับอาย!” ดีนตะโกนกลับ“ฉันไม่สนด้วยว่าเธอจะจัดการใคร!“แต่ถ้าเธอพยายามใส่ร้ายและทำให้ฮาร์วีย์ต้องอับอาย ฉันจะเข้าไปยุ่งด้วยแน่นอน!”“คุณจะมายุ่งกับเรื่องของฉันเพื่อจัดการกับปัญหาของประเทศ H เหรอ?!” สการ์เลตต์ถามขณะที่กัดฟันของเธอ“คุณจะต่อต้านวิหารคุณธรรมทั้งห้าและคนทั้งประเทศจริง ๆ เหรอ?!”“เธอประเมินตัวเองสูงเกินไป สการ์เลตต์“คนที่สมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังจากภายนอกเพื่อทำให้ใครบางคนในประเทศอับอายไม่มีสิทธิ์เป็นตัวแทนของวิหารคุณธรรมทั้งห้า นับประสาอะไรกับทั้งประเทศ!“เธอไม่ละอายใจที่พล่ามไร้สาระแบบนั้นเลยเหรอ?!“ในฐานะศิษย์จากสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์ เธอได้ละเลยคนของตัวเองอย่างต่อเนื่องในขณะที่เอาแต่เลียแข้งเลียขาของศัตรู!“หลังจากที
“กล้าดียังไงฮาร์วีย์?!“คุณกล้าดูถูกวิหารคุณธรรมทั้งห้าแบบนั้นได้อย่างไร?!”สการ์เลตต์เต็มไปด้วยความโกรธ“คุณเตร่ไปมาและใช้อุบายสกปรกเพื่อเอาชนะการต่อสู้ของคุณ! คุณคิดว่าเพราะแบบนั้นคุณก็เลยแข็งแกร่งงั้นเหรอ?!“คุณคิดว่าคุณอยู่ยงคงกระพันเหรอ?!“ไปเอาชนะเทพสงครามแห่งประเทศหมู่เกาะมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด!”ฮาร์วีย์ชำเลืองมองสการ์เลตต์และยิ้มอ่อน ๆ“นี่เธอไม่มีสมองหรือยังไง สการ์เลตต์?“ใครตั้งกฎเหรอว่าฉันสามารถสู้ได้แบบตัวต่อตัวเท่านั้น?“ใครกันที่บอกว่าการหลบไม่ใช่ทักษะ?“ถ้าเราทำตามที่เธอบอกแล้วฉันเอาปืนนี้จ่อหัวพวกเขา พวกเขาก็ห้ามหลบ! ถูกไหม?“เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนั้นก็จะถือว่าโกงใช่ไหม? และด้วยเหตุผลบางอย่าง นี่เป็นกลยุทธ์ที่ชั่วร้ายสำหรับเธองั้นเหรอ?!“นี่เธอกำลังดูถูกสติปัญญาของตัวเองหรือชาวประเทศหมู่เกาะเหรอถึงได้พูดอะไรไร้สาระแบบนั้น?!“ในฐานะตัวแทนของวิหารคุณธรรมทั้งห้า เธอไม่เข้าใจว่าความเร็วมักจะชนะศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบได้อย่างไร?“ความเร็วเป็นพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้! นั่นคือความสามารถของฉัน!“แล้วทำไมเธอถึงได้มองว่ามันเป็นการโกง?“เธอฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลา
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข