“บอกมาตามตรงเลยดีกว่า คุณจงใจอวดวิลล่าหมายเลข 1 ของคุณให้มิวะ ฟูจิฮาระเห็นล่ะสิท่า เพราะคุณต้องการให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ก็มีชื่อเสียงมากมายยอมพลีกายให้คุณ ใช่ไหม?”“แถมคุณยังบอกว่าจะขึ้นบัญชีดำเธออีก! คุณอยากให้เธอเข้าหาคุณและมาพูดคุยกับคุณใช่หรือเปล่า!”อีวอนน์หรี่ตาและเดินไปรอบ ๆ ห้องราวกับว่าเธอกำลังค้นหาหลักฐานของอาชญากรรมฮาร์วีย์รู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไร้สาระสิ้นดี ถ้าแมนดี้มาและพยายามตรวจสอบหา "หลักฐานทางคดี" ของเขาก็ดูสมเหตุสมผลอยู่ แต่อีวอนน์กำลังทำอะไรอยู่กันแน่?เขาถอนหายใจและพูดทันทีว่า “อีวอนน์ คุณก็รู้จักผมดี ผมเกลียดคนต่างชาติที่สุด แล้วผมจะสนใจมิวะ ฟูจิฮาระได้ยังไง?”"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”“หยุดทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้แล้ว”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าอีวอนน์รู้อยู่เต็มอกในความจริงที่ว่าเขาจะไม่มีวันคบหากับมิวะ ฟูจิฮาระอีวอนน์ค่อนข้างหึงหวงเพราะมิวะ แต่ถึงอย่างนั้นคน ๆ นั้นกลับไม่ได้สังเกตเห็นความหึงหวงของเธอเลยดังนั้นความขุ่นข้องหมองใจระหว่างอีวอนน์และฮาร์วีย์ก็ยิ่งน่าอึดอัดมากขึ้นไปอีกอีวอนน์ย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ “ซีอีโอยอร์ก
เช้าวันต่อมา เวลาสิบโมงตรงโรงประมูลเพอร์ดูเป็นองค์กรประมูลกึ่งทางการ ว่ากันว่านอกจากเจ้าหน้าที่รัฐของมอร์ดูแล้ว ตระกูลชั้นนำทั้งหมดในมอร์ดูก็มีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการนี้ด้วยพูดง่าย ๆ ก็คือ โรงประมูลแห่งนี้เป็นตัวแทนผลกำไรของชนชั้นสูงทั้งหมดของมอร์ดูดังนั้นจึงไม่เคยมีใครกล้าสร้างปัญหาในโรงประมูลแห่งนี้แม้แต่ผู้นำมาเฟียที่มีอำนาจจากโลกใต้ดินเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็ยังต้องทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน หากมีความขัดแย้งใดเกิดขึ้น พวกเขาจะแก้ไขมันอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้เรื่องวุ่นวายไปใหญ่โตหากพวกเขาทำตัวเย่อหยิ่งและโดดเด่นมากเกินไป พวกเขาจะไม่อาจรับรองความปลอดภัยของตัวเองได้อีวอนน์มาถึงโรงประมูลในตอนเช้าตรู่ เธอนั่งที่มุมหนึ่งแล้วรออย่างเงียบ ๆสำหรับการประมูลครั้งนี้ฮาร์วีย์ตั้งใจที่จะได้ที่ดินในลู่เจียจุ่ยไว้ในครอบครองนอกเหนือจากการใช้ที่ดินเพื่อการขยายธุรกิจให้กับสกาย คอร์ปอเรชั่นในมอร์ดูแล้ว เหตุผลพื้นฐานอีกประการหนึ่งก็คือการประมูลครั้งนี้อาจถือเป็นการเผชิญหน้ากับนายน้อยเฮกเตอร์ ทอมป์สันไปในตัวฮาร์วีย์อยากที่จะเห็นเสน่ห์และความสามารถของนายน้อยทอมป์สันอย่างที่สุด เขาเป็นถึงหนึ่งในสี
การเตะประตูเข้ามาในห้องประมูล การขัดจังหวะการประมูล และการนั่งลงที่แถวหน้า การกระทำทั้งหมดของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกยิ่งใหญ่และเย่อหยิ่งอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าต่อว่าเขาเลย หลายคนยังลุกขึ้นยืนและทักทายเขาด้วยความเคารพแม้แต่ผู้จัดงานประมูลสาวสวยที่อยู่บนเวทีก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ รอยยิ้มที่ประจบสอพลอปรากฏบนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธออีวอนน์หรี่ตาลงเมื่อเห็นดังนั้น แต่เธอยังคงเฉยเมยอย่างไรก็ตาม มีสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า “ต้นไม้จะชอบความสงบในขณะที่ลมจะไม่ยอมสงบ” อีวอนน์ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง แต่ดูเหมือนเฮกเตอร์ ทอมป์สันจะเห็นอีวอนน์ก่อนแล้วสายตาของเขาจับจ้องไปที่อีวอนน์ เขายิ้มและโบกมือให้เธอ “คุณค่อนข้างเจ้าเล่ห์เลยนะอีวอนน์ ผมได้ยินมาว่าวันนี้คุณมาที่นี่เพื่อที่ดินในลู่เจียจุ่ย“คุณต้องการจะต่อต้านผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”เฮกเตอร์ได้อ่านเอกสารการประมูลของอีวอนน์แล้วแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่รู้ว่าอีวอนน์ต้องการจะซื้ออะไรประโยคง่าย ๆ นั้นเพียงพอที่จะแสดงถึงความสามารถและอำนาจของเฮกเตอร์หลายคนที่เห็นสีหน้าที่กึ่งยิ้มของเฮกเตอร์ต่างพากันตากระตุกผลของการยั่วยุนายน้อยจากโวซิ
อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดเกี่ยวกับไข่มุกเก้ามังกรคือลายดอกยางที่สลักไว้บนพื้นผิวของมันมันเป็นสิ่งที่หายากมากบนโลกนี้ และการจะหาไข่มุกเม็ดที่สองได้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย“31.4 ล้านดอลลาร์”เฮกเตอร์ยกแผ่นป้ายของเขาอย่างลวก ๆ แล้วเสนอราคาราคา 31.4 ล้านดอลลาร์ถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับเขา ท้ายที่สุดแล้วโลกนี้ก็มีไข่มุกเรืองแสงตามธรรมชาติไม่มากนักและเดิมทีมันก็เป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างไรก็ตาม มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งทุกคนรู้จักตัวตนของเฮกเตอร์หมดแล้ว เมื่อเขาเสนอราคาไปจึงไม่มีใครกล้าประมูลกับเขาการกระทำของเขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะครอบครองไข่มุกเก้ามังกรไม่ว่าใครก็ตามที่สนใจไข่มุกเก้ามังกรก็ไม่กล้าที่จะทำให้นายน้อยเฮกเตอร์ ธอมป์สันขุ่นเคืองเฮกเตอร์เองก็คิดว่าจะไม่มีใครกล้าเสนอราคามากกว่าราคาของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงโยนแผ่นป้ายในมือลงบนโต๊ะหลังจากที่เสนอราคาไป“31.4 ล้านดอลลาร์! มีคนเสนอราคา 31.4 ล้านดอลลาร์!“นับครั้งที่หนึ่ง!“ครั้งที่สอง!“ครั้งที่สาม…”แม้ว่าผู้จัดงานประมูลจะแจ้งราคาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ลึก ๆ แล้วเธอรู้สึกเบื่อเ
ชายที่ดูแลห้องประมูลไม่ใช่คนเดียวที่เข้าใจว่าฮาร์วีย์มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้เฮกเตอร์และเพื่อทำให้เขาขายหน้า ทุกคนในห้องโถงคิดเหมือนกันหมดเนื่องจากฮาร์วีย์มีสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลจึงไม่มีใครสามารถบังคับให้เขาออกไปได้การปรากฏตัวของเขาทำให้หลายคนคาดหวังในตัวเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าท้าทายเฮกเตอร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสนุกกับการเฝ้าดูเหตุการณ์นี้ไม่ได้ฮาร์วีย์เดินไปที่แถวหน้าอย่างเฉยเมยและนั่งลงอย่างสบาย ๆ มีเพียงเก้าอี้ตัวเดียวกั้นระหว่างเขากับเฮกเตอร์เฮกเตอร์ไม่แม้แต่จะเหลียวมองเขา เขาเพียงแต่ยุ่งอยู่กับการเล่นโทรศัพท์แต่สายตาของซากุระ มิยาโมโตะจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ดวงตาที่ยั่วยวนของเธอมีแววของความเย็นชาเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฮาร์วีย์เป็นใคร?ซากุระเคยพยายามต่อต้านเขาหลายครั้งแต่เขาก็ยังมาปรากฏตัวที่โรงประมูลได้โดยปราศจากอาการบาดเจ็บใด ๆ สิ่งนี้เพียงพอที่จะอธิบายปัญหามากมาย“157 ล้านดอลลาร์ นับครั้งที่หนึ่ง!”แม้ว่าผู้จัดงานประมูลจะลังเลเล็กน้อยแต่เธอก็ยังต้องทำตามกฎและประกาศราคาการประมูลต่อไป เมื่อสายตาของเธอตกที่เฮกเตอร์ ความกลัวครอบงำเธอ“173 ล้านดอลลาร์!
ผู้คนตกใจอย่างมากทุกคนเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความเหลือเชื่อและจ้องไปที่เฮกเตอร์ที่ดูสงบนิ่ง471 ล้านดอลลาร์?!เพื่อไข่มุกเก้ามังกรเขายอมจ่ายมากขนาดนั้นเลยเหรอ? มันคุ้มค่าจริง ๆ เหรอ?มันน่าจะมีมูลค่าสูงสุดเพียง 4.7 ล้านดอลลาร์ แต่เฮกเตอร์กลับขึ้นราคาเป็นสิบเท่าทันทีเป็นไปได้ไหมว่าเด็กเหลือขอคนนี้ที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้สามารถกวนประสาทเฮกเตอร์ได้สำเร็จแล้ว?ในขณะนี้แม้แต่ตาของซากุระก็กระตุกเล็กน้อย เธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบผู้จัดงานประมูลรู้สึกตื่นเต้นมากเนื่องจากการเสนอราคาที่ดุเดือด เธอจะสามารถรับค่าคอมมิชชั่นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า สรุปก็คือ เธอจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 4.7 ล้านดอลลาร์เพียงจากการขายครั้งนี้อย่างเดียวหากการขายครั้งนี้เสร็จสิ้น เธอจะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินอีกเลย!เธอควงค้อนขนาดเล็กอย่างตื่นเต้นและพูดเสียงดังว่า “471 ล้านดอลลาร์ นับครั้งที่หนึ่ง 471 ล้านดอลลาร์นับครั้งที่สอง!“นายน้อยทอมป์สันเสนอราคา 471 ล้านดอลลาร์ มีใครอยากเสนอราคาต่อไหม?!“ถ้าไม่มี...”“628 ล้านดอลลาร์!”ฮาร์วีย์ยกป้ายของเขา
หลายคนหรี่ตามองฮาร์วีย์สลับกับเฮกเตอร์ที่ไม่แยแสและนั่งอยู่ไม่ไกลการต่อสู้ในวันนี้ถูกกำหนดให้เป็นประวัติศาสตร์ของโรงประมูลเพอร์ดู อย่างไรก็ตาม มันยังถูกกำหนดไว้แล้วด้วยว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาดูเหมือนว่าฮาร์วีย์จะยืนหยัดที่จะขัดขวางเฮกเตอร์จนถึงที่สุด มันจึงจะเป็นการดีที่สุดสำหรับพวกเขาทั้งหมดที่จะเฝ้าดูจากข้างสนามและหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมเพราะกลัวว่าจะได้รับความโกรธเคืองจากทั้งสองฝ่ายดังนั้นทุกคนจึงได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์อย่างสนุกสนานผู้จัดงานประมูลจ้องเฮกเตอร์อยู่พักหนึ่งและเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไร เธอจึงกัดฟันและยกค้อนขนาดเล็กในมือขึ้นในที่สุด“628 ล้านดอลลาร์ นับครั้งที่สาม…”เมื่อเห็นค้อนเล็ก ๆ ของเธอกำลังจะทุบโต๊ะ เฮกเตอร์ก็ยกแผ่นป้ายในมือขึ้นแล้วประกาศอย่างเย็นชาว่า “785 ล้านดอลลาร์!”เสียงของเขาฟังดูสงบและไม่แยแส แต่ผู้คนสามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธของเขาฮาร์วีย์ยิ้ม เขาไม่ได้ให้เวลาเฮกเตอร์ในการตอบสนองเลยและยกป้ายของเขาขึ้นขณะที่พูดอย่างเฉยเมยว่า “1.57 พันล้านดอลลาร์!”หลายคนแทบจะเป็นลมหลังจากที่ได้ยินราคานั้น1.57 พันล้านดอลลาร์?!เขาเสนอราคาจา
ฮาร์วีย์หรี่ตาลงขณะที่จ้องเฮกเตอร์ ครู่ต่อมาเขาก็หัวเราะ “นี่คุณกำลังขู่ผมเหรอคุณทอมป์สัน?”เฮกเตอร์ตอบอย่างเฉยเมยว่า “ใช่“แม้ว่าผมจะรู้ว่าคุณค่อนข้างจะมีฝีมือนะฮาร์วีย์ แต่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไกลเกินความสามารถคุณมาก“เพราะฉะนั้นผมจะขอเตือนคุณด้วยความหวังดี“ยกไข่มุกเก้ามังกรให้ผมซะโดยดี“ไม่อย่างนั้นก็ยอมรับความเสี่ยงจากการกระทำของคุณเองแล้วกัน”“โอ้ไม่นะ! กลัวจังเลย!” ริมฝีปากของฮาร์วีย์โค้งกึ่งยิ้ม “ผมกลัวมากจนผมคิดว่าผมคงจะลุกขึ้นไม่ได้แล้วล่ะ”เฮกเตอร์ส่งเสียงเยาะเย้ยต่อคำพูดที่เย้ยหยันของฮาร์วีย์ เขาหันไปมองผู้จัดงานประมูลที่กระวนกระวายและสั่งอย่างเย็นชา “ทุบค้อนสักที!“ให้เขาไปในราคา 1.57 พันล้านดอลลาร์เลย!“จากนี้ไปไข่มุกเก้ามังกรเป็นของฮาร์วีย์ ยอร์ก”ผู้จัดงานประมูลไม่กล้าปฏิเสธเฮกเตอร์ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงเคาะค้อนเล็ก ๆ ของเธอในขณะที่ตัวสั่นสิ่งนี้เท่ากับเป็นการประกาศว่าฮาร์วีย์เป็นเจ้าของไข่มุกโดยชอบธรรมผู้คนคาดว่าฮาร์วีย์จะกลัวความโกรธเกรี้ยวของเฮกเตอร์และหนีไป แต่แล้วพวกเขาก็เห็นเขาหยิบบัตรออกมาและปล่อยให้ไทสัน ลูกน้องของเขา จ่ายค่าไข่มุกนั้น
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข